ทำไมหลายๆคนถึงมองว่าการซื้อประกันชีวิตเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็น บางคนก็ว่าเสียเงินทิ้งเปล่า ทั้งๆที่มันเป็นสิ่งสำคัญ การที่เราเสียเงินเพียงน้อยนิด แต่สามารถ Support ค่ารักษาเราได้เป็นหลักแสน แปลกนะ ที่หลายๆคนมีรถยนต์ และก็กล้าซื้อประกันให้รถ ทั้งๆที่รถเป็นเหล็ก หากอะไหล่ส่วนใดส่วนนึงของรถพัง สามารถรอเวลาหาเงินซื้อเปลี่ยนได้ แต่ถ้าเป็นร่างกายมนุษย์ ไม่สามารถรอและหาอะไหล่เปลี่ยนได้ เช่น หากเกิดอุบัติเหตุถึงขั้นแขนขาหัก สามารถรอเวลาหาเงินแล้วค่อยรักษาได้มั๊ย หรือหากเกิดเจ็บป่วย เช่นเป็นไส้ติ่ง และไส้ติ่งกำลังจะแตก เราสามารถขอเวลาหาเงินอีกซัก 2 เดือนก่อน แล้วค่อยผ่าได้มั๊ย หรือถ้ารอได้ อีก 2 เดือน เราจะสามารถหาเงินพอที่จะจ่ายมั๊ย จะดีกว่ามั๊ย ถ้าเราป้องกันและวางแผนให้ชีวิตตัวเอง เจ้าของกระทู้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการซื้อหรือขายประกัน แต่อยากให้ทุกคนใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆตรงนี้ เพื่อชีวิตของทุกๆคนเอง บางคนแค่คนขายประกันโทรหาก็ด่าเขาแล้ว ลองเปิดใจฟังเขาบ้างเถอะค่ะ ถ้าฟังแล้วเราได้ผลประโยชน์ที่โดนใจเราค่อยรับ ถ้ายังไม่โดนก็ค่อยปฏิเสธ อย่างน้อยถ้าเปิดใจฟัง เราก็จะรู้มากขึ้น การที่พวกเขาโทรหา พวกเราควรขอบคุณเขาด้วยซ้ำ ที่เขามาแนะนำสิ่งดีๆให้ วันนี้เรายังแข็งแรง แต่ใช่ว่าวันข้างหน้าเราจะไม่เจ็บไม่ป่วย ลองถามคนที่เขาเป็นโรคประจำตัวดูสิคะ ว่าเขาต้องจ่ายเงินทีละเท่าไหร่กับการรักษาตัว ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นต่างเสียดายที่ไม่มีประกันไว้เลย และพวกเขาเหล่านั้นต่างหวังอยากซื้อประกันในขณะที่เขาเจ็บป่วย แต่จะมีบริษัทไหนล่ะคะที่จะรับภาระดูแลในขณะที่ลูกค้าเจ็บป่วยก่อนซื้อความคุ้มครอง พวกเขาอยากซื้อแต่ซื้อไม่ได้ แต่พวกเราซื้อได้แต่ไม่มีใครอยากซื้อ จะต้องรอให้เราหมดสิทธิ์ซื้อก่อน หรือจะซื้อไว้ก่อนที่จะหมดสิทธิ์ ฝากไว้เป็นข้อคิดนะคะ และขอปิดท้ายอีกนิดค่ะ ทำไมคนรวยเขาถึงชอบซื้อประกัน ทั้งๆที่พวกเขามีเงินเก็บก้อนโตไว้รักษาตัว ไม่ใช่เพราะพวกเขามีเงินซื้อ แต่เป็นเพราะพวกเขาฉลาด พวกเขาคิดว่าเงินเก็บเงินก้อนที่เขาหามาทั้งชีวิต จะต้องมาหมดไปกับค่ารักษาตัว สู้เขาโยนภาระตรงนี้ไปให้บริษัทประกันไม่ดีกว่าหรือ คิดง่ายๆนะคะ สมมุติเราจ่ายประกันเดือนละ 800 ถ้าเงิน 800 นี้เราไม่จ่ายประกัน แต่เราเก็บเป็นเงินสะสมสัก 12 เดือน เท่ากับ 9600 แต่ถ้าภายใน 10 เดือนนี้เกิดไม่สบายเป็นไส้ติ่ง จำเป็นต้องผ่า เงิน 9600 จ่ายค่าผ่าไส้ติ่งพอมั๊ย ? หรือถ้าไม่เป็นอะไรเลย เราก็เสียเงินเปล่าใช่มั๊ย? และการซื้อความเสี่ยงให้กับชีวิตตัวเองด้วยเงินไม่ถึง 10000 ต่อปี เราเสียดายมั๊ย ? แล้วซื้อประกันภัยให้รถปีละ 20000 กว่า แต่ไม่เคยได้เคลมเลย ทำไมเราถึงกล้าซื้อและต้องซื้อทุกๆปีด้วยหากเรายังมีรถ สรุปว่า "รถ" กับ "ชีวิต" อย่างไหนสำคัญกว่ากัน
คนส่วนใหญ่คิดยังไงกับการซื้อประกันชีวิต