[SR] [SR] ลองใช้ โน้ตบุ๊ก ASUS Transformer 3 Pro บางๆ พกง่าย จอชัด สำหรับคนชอบเบาๆ

สวัสดีครับทุกท่าน ช่วงปลายปีแบบนี้ หลายคนคงอยากหาช็อปปิ้งสิ่งของเพื่อเอาไปเป็นส่วนลดภาษีกัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ประเภทคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ที่พักหลังออกรุ่นใหม่มา ยิ่งดูเล็กและบางลง น่าใช้กว่าเมื่อก่อนที่เป็นเครื่องดำๆ ถึกๆ เยอะเลย ล่าสุดก็เพิ่งได้รับโน้ตบุ๊กรุ่นที่ถูกใจ เอวบางร่างน้อยมาสัมผัส เลยอยากจะรีวิวและบอกความรู้สึกในการใช้งาน โน้ตบุ๊กรุ่นดังกล่าวนี้ เผื่อจะมีใครอยากเปลี่ยนโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่แบบบาง เบา ในช่วงปีใหม่นี้ ซึ่งโน้ตบุ๊กที่กำลังพูดถึงนี้ก็คือ ASUS Transformer 3 Pro นี้นี่เอง


หน้าตาของ Transformer 3 Pro จะว่าไปก็คล้ายคลึงกับ Surface Pro 4 ของ Microsoft อยู่เหมือนกัน คือตัวเครื่องจะเป็นแท็บเล็ต มีจอเป็นแบบทัชสกรีน ทำงานได้จบในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่มีคีย์บอร์ดเสริมเข้ามา เพื่อให้ใช้งานแบบโน้ตบุ๊กได้ ก็เรียกว่าได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็ปเล็ตมาในเครื่องเดียว!!! จุดนี้แหละที่แจ่มมาก เพราะบางอารมณ์ ก็อยากนอนดูหนังสบายบนเตียง ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กอาจจะทุลักทุเลเล็กน้อย เพราะมีคีย์บอร์ดไปด้วย แต่สำหรับ Transformer 3 Pro ถอดจอไปอย่างเดียวก็พอแล้ว ระวังอย่างเดียวอย่าเผลอหลับ เพราะจะหล่นฟาดหน้าผากเอาได้ (ใครที่ชอบใช้มือถือตอนนอน น่าจะพอเข้าใจนะครับ)


ส่วนคีย์บอร์ด อันนี้ก็เก๋ไม่เบา เพราะมันแถมมาให้ในแพ็คเกจด้วยเลย พร้อมปากกาสไตลัสด้วย ไม่ต้องซื้อแยกทีหลัง ตัวคีย์บอร์ดก็มีสกรีนภาษาไทยให้เรียบร้อย ปุ่มขนาดกำลังดี กดหนักๆ ได้ แถมมีไฟเรืองขึ้นที่ปุ่มด้วย ผิวสัมผัสตรงที่วางมือเป็นแบบสากๆ นิดนึง แต่นุ่มมือไปอีกแบบ อ้อ. ยังมีทัชแพดให้ด้วยนะ แต่ส่วนใหญ่ผมจะเลือกจิ้มที่จอสัมผัสไปเลยมากกว่า ทันใจ ถนัดมือ


พูดถึงจอ ผมว่าสีสวยดีใช้ได้ มุมมองกว้าง มองข้างๆ ยังชัดอยู่ แถมความละเอียดก็ตั้ง 3K แน่ะ แต่จะมีเรื่องแสงสะท้อนจากจอภาพที่ค่อนข้างจะสังเกตง่ายนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่ได้มีผลมากนัก แค่หันไปในมุมที่คุณสะดวกก็พอ ถือว่าเป็นธรรมดาของจอภาพในลักษณะแบบนี้


ส่วนการจัดวางให้ได้มุมมอง จะใช้การปรับที่ขาตั้งด้านหลังนะครับ โดยขาตั้งก็จะเป็นแบบบานพับคล้ายๆ Surface เลย ซึ่งดีตรงจะปรับเอนองศาเท่าใดก็ได้ กว้างสุดก็เกือบๆ 180 องศา ตัวบานพับดูแข็งแรงอยู่ เวลาจิ้มหน้าจอแล้วก็ไม่โยกคลอนให้เสียอารมณ์ ด้านบนจอมีกล้องเว็บแคมให้ 2 ตัว เท่าที่ลองหาข้อมูลดู บอกเอาไว้ว่าใช้กับฟีเจอร์ Windows Hello ที่ใช้สแกนใบหน้าเพื่อล็อกอิน จากที่ได้ลองใช้ ก็เร็วดีนะ ซึ่งถ้าเราดูหน้าจออยู่ตอนเปิดเครื่อง ก็เรียกแทบจะเข้าใช้งานได้ทันที ไม่ต้องมานั่งพิมพ์รหัสผ่านละ สบายๆ


ตัวเครื่อง ASUS ในเว็บไซต์บอกเป็นอลูมิเนียม-แมกนีเซียมอัลลอย ทำให้แข็งแรง และน้ำหนักเบาด้วย จากที่ได้ลองใช้มาระยะหนึ่ง หิ้วไปหิ้วมา ระหว่างที่บ้าน ที่ทำงาน และร้านกาแฟข้างนอก รวมถึงนอนดู Youtube ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะหนักมากมายอะไร แต่ถ้าต้องถือหรือหิ้วเดินไว้นานๆ ก็อาจจะมีเมื่อยเหมือนกัน ก็เรื่องปกตินะ ใครจะหิ้วเป็นชั่วโมงๆ กัน ซึ่งถ้าให้ประมาณการก็คงหนักราวๆ แท็ปเล็ตทั่วไปนี่แหละครับ รวมคีย์บอร์ดก็หนักเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย ยังไงก็เบากว่าโน้ตบุ๊กหลายๆ รุ่นที่เคยใช้มา ส่วนเรื่องการใช้พลังงานแบตฯ ที่มีอยู่ ถ้าใช้งานทั่วไป ทำงาน และต่ออินเทอร์เน็ตด้วย อยู่ได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง


ส่วนข้อดีที่เห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตัวเครื่องให้พอร์ตเชื่อมต่อมาเยอะดี ไม่ต้องกังวลแม้จะเป็นเครื่องเล็ก ทั้งในส่วนของ USB แบบปกติ Type-A ที่ต่อแฟลชไดรฟ์หรือ Ext. drive ต่างๆ ได้ทันที แถมยังมีช่อง HDMI พื้นฐาน สามารถเสียบสาย HDMI ต่อผ่านทีวีดูหนังได้แบบเต็มๆ หรือจะต่อเครื่องฉายโปรเจกเตอร์รุ่นใหม่ เวลาไปนำเสนองานที่ต่างๆ ก็ง่ายมาก ที่สำคัญให้พอร์ต USB Type-C มาอีกด้วย ใช้สำหรับการชาร์จแบต หรือต่ออุปกรณ์อื่น ที่เป็นแบบ Type-C ได้เช่นเดียวกัน จากที่ได้ลองเอาแฟลชไดรฟ์ปกติ ไปต่อกับสายแปลง ที่เป็นหัวแบบ Type-C มาต่อเข้าด้วยกัน ก็มองเห็นข้อมูลและใช้งานได้ทันที ส่วนอีกด้านก็จะมีช่องเสียบการ์ด microSD ให้ด้วย เผื่อใช้สำหรับโอนรูปภาพจากเมมโมรีการ์ดบนมือถือ


สำหรับการใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้คือ Windows 10 เหมือนกับที่เราใช้บนโน้ตบุ๊กทั่วไปเลยครับ แต่มีข้อดีเพิ่มเติมตรงที่หน้าจอเป็นแบบสัมผัสได้ และมีปากกาสไตลัสให้ใช้อีกด้วย แต่ตัวผมเองไม่ค่อยสันทัดเรื่องการวาดรูปเท่าไหร่ เลยใช้เพียงขีดๆ เขียนๆ สำหรับจดบันทึกมากกว่า แต่ในตัวเครื่องก็มีแอพฯ สำหรับวาดรูปและจดบันทึกมาให้ในตัวอยู่แล้ว และยังดาวน์โหลดเพิ่มจาก Store ของ Windows เองก็ได้เช่นกัน ที่ผมใช้บ่อยๆ ก็เป็น OneNote ของ Microsoft โดยตัวปากกาค่อนข้างพอดีกับมือทั้งรูปแบบการจับและน้ำหนัก ใช้ถ่าน AAAA ก้อนเดียว อยู่ได้ยาวเป็นเดือนๆ เลยครับ จากที่ระบุนั้น รองรับแรงกดได้ 1024 ระดับ ใครที่ชอบวาดรูปหรือแต่งภาพเท่าที่ลองลากๆ ดู สามารถให้ความต่างของเส้น ที่สัมพันธ์กับแรงกดปากกาอยู่เหมือนกัน ถ้าอยากได้ลองใช้งานเต็มรูปแบบ อาจจะไปลองตามหน้าร้านดูก่อนนะครับ


ในด้านของสเปคและความแรงของ Asus Transformer 3 Pro รุ่นที่ได้รับมานี้ถือเป็นรุ่นกลางๆ ครับ ราคาประมาณ 49,900 บาท ซีพียูที่ใช้คือ Intel Core i5 Skylake ความเร็ว 2.3GHz, มีแรม DDR4 8GB และให้ SSD 512GB มาในตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแบบฝังมาบนบอร์ด ที่เป็นธรรมดาของโน้ตบุ๊กขนาดบางๆ ส่วนใหญ่ โดยมีจอแสดงผลประมาณ 12 นิ้ว แต่ความละเอียดระดับ Full-HD นอกจากนี้ก็จะมีรุ่นที่ราคาลดลงมาอีกหน่อย คือประมาณสี่หมื่นต้นๆ สเปคก็ลดลงมาเล็กน้อย คือได้แรม 4GB ส่วนตัวท็อปไปเลยก็ราคาเกือบหกหมื่นบาท แต่จัดเต็มทั้งซีพียู Core i7 และแรม 16GB พนักงานขายบอกว่าหลักๆ แล้วแต่ละรุ่นก็จะต่างกันที่ซีพียู แรม และ SSD ครับ ส่วนแต่หน้าตา จอภาพ ของแถมไม่ได้ต่างกันมากนัก ใครที่สนใจก็ลองไปเล่นไปจับกันหน้าร้านดูก่อนนะ ถูกใจก็สอยมาเลย คนที่ชอบบางๆ พกง่าย แต่แรงด้วย น่าจะถูกใจกัน
ชื่อสินค้า:   asus
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่