ตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ
เจ้าของกระทู้มีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำ หรือความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ชาวพันทิป เพื่อหาทางออกให้กับปัญหานี้หรือเพื่อเป็นแนวทางในการปรับความคิดของตัวเจ้าของกระทู้เองนะคะ อาจจะยาวไปหน่อย รบกวนเพื่อน ๆ ช่วยวิเคราะห์เหตุการณ์ทีนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวของเรา ซึ่งเป็นครอบครัวไม่ใหญ่ ได้ไปซื้อบ้านหลังหนึ่งของโครงการพฤกษา ที่ซอยพัฒนาการ 38 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชื่อโครงการวิลเลตไลท์ ซึ่งในเฟสที่เราอยู่นั้นบ้านของเราจะเป็นบ้านหลังที่สองถัดจากหลังมุม ซึ่งปัญหามีอยู่ว่าเพื่อนบ้านเราที่เป็นบ้านหลังมุมเนี่ย เค้าเลี้ยงไก่ชน ในปีแรกที่เราย้ายเค้าไปอยู่ เค้าเลี้ยงประมาณ 10 ตัวน่าจะได้ รวมตัวผู้และตัวเมียแล้วนะคะ และเค้าก็ได้ทำเล้าไก่ไว้ที่หลังบ้านด้านที่ติดกับฝั่งหลังบ้านของเรา โดยเค้าเอาเข่งไม้ไผ่ ตะกร้า มายึดติดกับเสาระแนงของหลังบ้านเรา เพื่อเป็นที่ให้แม่ไก่ได้ออกไข่ ฟักไข่ ซึ่งตามธรรมชาติของไก่ตัวเมียเนี่ย กลางคืนเค้าก็จะขึ้นนอนตามขอนไม้ ใช่มั้ยคะ ฉะนั้นตกกลางคืน บรรดาแม่ไก่ทั้งหลาย ก็จะมายืนเกาะขอบกำแพง ที่ติดกับบ้านเราเพื่อหลับนอน เมื่อเค้าอึ เค้าก็อึลงขอบกำแพง และย้อยมาฝั่งบ้านเรา โชคยังดีว่าทางเราเองก็ยังไม่ได้ต่อเติมทำหลังบ้านสวยหรูดิบดีอะไร เพราะเราเองก็ไม่ใช่คนมีเงินพร้อมแบบที่ว่าสามารถต่อเติมบ้านได้ชุดใหญ่ในคราวเดียว ค่อยทำ ค่อยเติม เท่าที่เก็บเงินได้ เราจึงทำเพียงโครงหลังคาโพลีฯ และตีระแนงสีขาวไว้พอกันแดดฝน และตากผ้าได้ ซึ่งหลัง ๆ มา เราก็ย้ายไปตากหน้าบ้านแล้วเพราะช่วงที่ตากผ้าหลังบ้าน คนที่บ้านจะคันตามตัว ตามผิวหนังกัน หน้าฝนก็ได้กลิ่นขี้ไก่แบบอึน ๆ ลอยมาตามลม หน้าร้อนก็จะเป็นกลิ่นขี้ไก่แห้ง ๆ ลอยมา (5555 แยกกลิ่นออกด้วย) เราก็เลยแจ้งทางผู้จัดการโครงการไป ให้เข้ามาดูปัญหา ให้ขอร้องให้เพื่อนบ้านช่วยแก้ไขให้ที ซึ่งสิ่งที่เราขอไป ก็คิดว่าไม่มากมายอะไรนะ คือ 1. เราขอให้เขาย้ายเล้าไก่ไปไว้อีกฝั่ง ที่ไม่ติดกับกำแพงบ้านใครทั้งสิ้น เพราะบ้านเค้าเป็นบ้านหลังริม หลังมุมพอดี 2. ถ้าเขาไม่ย้ายเล้าไก่ ก็ขอให้ทำใหม่ ให้ห่างจากฝั่งที่ติดจากบ้านเราหน่อย และช่วยดูแลในเรื่องความสะอาด การกำจัดขี้ไก่ ซึ่งเราขอเพียงเท่านี้ เพราะเพื่อนบ้านเรา จริง ๆ แล้วก็เป็นคนอัธยาศัยดี เค้าเป็นมิตรกับทุก ๆ คนในระแวกบ้าน เราจึงไม่อยากมีปัญหาอะไรกับเค้า ซึ่งหลังจากแจ้งโครงการไป โครงการก็เข้าไปบ้านเค้าและเจรจาให้ ซึ่งเค้าก็ยอมรื้อเล้าไก่ออก และทำโครงหลังคาหลังบ้าน ... แต่ !! ปัญหามันก็ยังไม่จบ เพราะไก่ยังอยู่หลังบ้านเหมือนเดิม กลางคืนไก่ก็มาเกาะนอนบนกำแพงเหมือนเดิม ขี้ไก่เยอะเหมือนเดิม เพราะเค้าไม่หาอะไรมาปิดกำแพงฝั่งบ้านเค้า และหาที่ให้แม่ไก่เกาะตอนกลางคืน และจำนวนไก่เยอะขึ้นกว่าเดิม เราไม่แน่ใจเลยว่าจะเรียกว่าฟาร์มขนาดย่อมเลยได้มั้ย และตัวเพื่อนบ้านเองก็มาบอกกับเราว่า ตอนนี้ทำได้แค่นี้เพราะไม่มีเงิน เราก็ไม่อยากจะว่าเค้าเพราะเรารู้ว่าการจะต่อเติมมันต้องใช้เงินอีกมาก เลยกลายเป็นปัญหาน้ำท่วมปาก และอึดอัดใจ ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามานี้นะคะ อยากจะขอความคิดเห็นจากทุกคนดังนี้นะคะ
1. เราควรจะทำอย่างไรต่อดีกับเหตุการณ์ แบบที่ถนอมน้ำใจกัน บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ยอมรับว่าอึดอัดใจกับเรื่องนี้มาก เพราะเห็นกันทุกวัน แล้วเค้าเด็กกว่าเรา เวลาเจอกันเค้าก็จะสวัสดีเรา ทักทายเราก่อนทุกครั้ง ไม่อยากผิดใจกัน แต่อยากให้ปัญหามันจบแบบดี ๆ คือถ้าเค้าไม่ทำเล้าไก่ให้ดี ๆ ก็อยากให้เค้าเอาอะไรมากั้นกำแพงฝั่งเค้าด้วย เพราะเราได้กำแพงกันคนละด้านอยู่แล้ว เพื่อที่แม่ไก่จะได้มาเกาะกำแพงไม่ได้ และทำที่ให้เค้าเกาะใหม่
2. หรือว่าเราเองที่ใจแคบ คิดเล็กคิดน้อยเกินไป ไก่เป็นสัตว์ เค้าก็ต้องกิน ต้องขี้ ตามธรรมชาติของเขา เราเองที่ต้องเป็นคนปรับความคิดตัวเองใหม่ คิดให้ปลง หยวน ๆ กันไปซะว่าเพื่อนบ้านเค้าก็นิสัยดีอยู่ ตัวเราเองที่คิดให้มีปัญหา
ฝากเพื่อน ๆ ช่วยแนะนำทีนะคะ เพราะเรื่องนี้เราแจ้งโครงการไปสามครั้งแล้ว แต่มีความเปลี่ยนแปลงเพียงเท่านี้เอง อีกอย่างนะคะ ไก่เค้าจะผลัดกันขัน แทบจะทั้งคืน ยันเช้า ยิ่งเวลาเค้าตกใจอะไรนะ เค้าจะประสานเสียงกันแบบสนั่นเลย แล้วมันก็เคยมีงูเลื้อยข้ามมาจากเล้าไก่ฝั่งบ้านเค้า มาเข้าบ้านเราสองครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นงูมีพิษอะไร เป็นงูสิงห์ และงูเขียวเท่านั้นเอง
ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาอ่านนะคะ รบกวนขอความคิดเห็นทีนะคะ เรายินดีเปิดใจรับฟังความคิดเห็น และคำตำหนิจากทุกคนนะคะถ้าทุกคนเห็นว่าเราหยุมหยิม เป็นเพื่อนบ้านที่ใจแคบ จุกจิก ก็บอกมาได้เลยนะคะ บอกมาตรง ๆ เลย เพราะตอนนี้เราทำใจไม่ถูกจริง ๆ
รูปนี้เราถ่ายจากกำแพงฝั่งหลังบ้านเราค่ะ
รูปขี้ไก่ที่ย้อยมาตามกำแพงฝั่งบ้านเรา
พื้นที่ส่วนกลางที่เค้าจะนำไก่ไปผึ่งแดด กองหินกองทรายที่เห็น คือที่เหลือจากการทำหลังคาของเค้าค่ะ
หลังบ้านของเค้าค่ะ ที่เห็นระแนงสีขาวนั่นคือของบ้านเรา ซึ่งเราทำก่อนที่เค้าจะย้ายมา เลยไม่รู้ว่าเค้าจะเลี้ยงไก่ ถ้ารู้แต่แรกคงตีทึบไปเลย
จำนวนไก่ที่เค้าเลี้ยงไว้ในส่วนของด้านข้าง ๆ บ้านเค้าค่ะ
มีใครพอทราบบ้างไหมคะ ว่าระเบียบการเลี้ยงสัตว์ในหมู่บ้านจัดสรร เช่น ไก่ชน มีข้อจำกัดหรือไม่ว่าให้เลี้ยงได้กี่ตัว
เจ้าของกระทู้มีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำ หรือความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ชาวพันทิป เพื่อหาทางออกให้กับปัญหานี้หรือเพื่อเป็นแนวทางในการปรับความคิดของตัวเจ้าของกระทู้เองนะคะ อาจจะยาวไปหน่อย รบกวนเพื่อน ๆ ช่วยวิเคราะห์เหตุการณ์ทีนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าครอบครัวของเรา ซึ่งเป็นครอบครัวไม่ใหญ่ ได้ไปซื้อบ้านหลังหนึ่งของโครงการพฤกษา ที่ซอยพัฒนาการ 38 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ชื่อโครงการวิลเลตไลท์ ซึ่งในเฟสที่เราอยู่นั้นบ้านของเราจะเป็นบ้านหลังที่สองถัดจากหลังมุม ซึ่งปัญหามีอยู่ว่าเพื่อนบ้านเราที่เป็นบ้านหลังมุมเนี่ย เค้าเลี้ยงไก่ชน ในปีแรกที่เราย้ายเค้าไปอยู่ เค้าเลี้ยงประมาณ 10 ตัวน่าจะได้ รวมตัวผู้และตัวเมียแล้วนะคะ และเค้าก็ได้ทำเล้าไก่ไว้ที่หลังบ้านด้านที่ติดกับฝั่งหลังบ้านของเรา โดยเค้าเอาเข่งไม้ไผ่ ตะกร้า มายึดติดกับเสาระแนงของหลังบ้านเรา เพื่อเป็นที่ให้แม่ไก่ได้ออกไข่ ฟักไข่ ซึ่งตามธรรมชาติของไก่ตัวเมียเนี่ย กลางคืนเค้าก็จะขึ้นนอนตามขอนไม้ ใช่มั้ยคะ ฉะนั้นตกกลางคืน บรรดาแม่ไก่ทั้งหลาย ก็จะมายืนเกาะขอบกำแพง ที่ติดกับบ้านเราเพื่อหลับนอน เมื่อเค้าอึ เค้าก็อึลงขอบกำแพง และย้อยมาฝั่งบ้านเรา โชคยังดีว่าทางเราเองก็ยังไม่ได้ต่อเติมทำหลังบ้านสวยหรูดิบดีอะไร เพราะเราเองก็ไม่ใช่คนมีเงินพร้อมแบบที่ว่าสามารถต่อเติมบ้านได้ชุดใหญ่ในคราวเดียว ค่อยทำ ค่อยเติม เท่าที่เก็บเงินได้ เราจึงทำเพียงโครงหลังคาโพลีฯ และตีระแนงสีขาวไว้พอกันแดดฝน และตากผ้าได้ ซึ่งหลัง ๆ มา เราก็ย้ายไปตากหน้าบ้านแล้วเพราะช่วงที่ตากผ้าหลังบ้าน คนที่บ้านจะคันตามตัว ตามผิวหนังกัน หน้าฝนก็ได้กลิ่นขี้ไก่แบบอึน ๆ ลอยมาตามลม หน้าร้อนก็จะเป็นกลิ่นขี้ไก่แห้ง ๆ ลอยมา (5555 แยกกลิ่นออกด้วย) เราก็เลยแจ้งทางผู้จัดการโครงการไป ให้เข้ามาดูปัญหา ให้ขอร้องให้เพื่อนบ้านช่วยแก้ไขให้ที ซึ่งสิ่งที่เราขอไป ก็คิดว่าไม่มากมายอะไรนะ คือ 1. เราขอให้เขาย้ายเล้าไก่ไปไว้อีกฝั่ง ที่ไม่ติดกับกำแพงบ้านใครทั้งสิ้น เพราะบ้านเค้าเป็นบ้านหลังริม หลังมุมพอดี 2. ถ้าเขาไม่ย้ายเล้าไก่ ก็ขอให้ทำใหม่ ให้ห่างจากฝั่งที่ติดจากบ้านเราหน่อย และช่วยดูแลในเรื่องความสะอาด การกำจัดขี้ไก่ ซึ่งเราขอเพียงเท่านี้ เพราะเพื่อนบ้านเรา จริง ๆ แล้วก็เป็นคนอัธยาศัยดี เค้าเป็นมิตรกับทุก ๆ คนในระแวกบ้าน เราจึงไม่อยากมีปัญหาอะไรกับเค้า ซึ่งหลังจากแจ้งโครงการไป โครงการก็เข้าไปบ้านเค้าและเจรจาให้ ซึ่งเค้าก็ยอมรื้อเล้าไก่ออก และทำโครงหลังคาหลังบ้าน ... แต่ !! ปัญหามันก็ยังไม่จบ เพราะไก่ยังอยู่หลังบ้านเหมือนเดิม กลางคืนไก่ก็มาเกาะนอนบนกำแพงเหมือนเดิม ขี้ไก่เยอะเหมือนเดิม เพราะเค้าไม่หาอะไรมาปิดกำแพงฝั่งบ้านเค้า และหาที่ให้แม่ไก่เกาะตอนกลางคืน และจำนวนไก่เยอะขึ้นกว่าเดิม เราไม่แน่ใจเลยว่าจะเรียกว่าฟาร์มขนาดย่อมเลยได้มั้ย และตัวเพื่อนบ้านเองก็มาบอกกับเราว่า ตอนนี้ทำได้แค่นี้เพราะไม่มีเงิน เราก็ไม่อยากจะว่าเค้าเพราะเรารู้ว่าการจะต่อเติมมันต้องใช้เงินอีกมาก เลยกลายเป็นปัญหาน้ำท่วมปาก และอึดอัดใจ ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามานี้นะคะ อยากจะขอความคิดเห็นจากทุกคนดังนี้นะคะ
1. เราควรจะทำอย่างไรต่อดีกับเหตุการณ์ แบบที่ถนอมน้ำใจกัน บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ยอมรับว่าอึดอัดใจกับเรื่องนี้มาก เพราะเห็นกันทุกวัน แล้วเค้าเด็กกว่าเรา เวลาเจอกันเค้าก็จะสวัสดีเรา ทักทายเราก่อนทุกครั้ง ไม่อยากผิดใจกัน แต่อยากให้ปัญหามันจบแบบดี ๆ คือถ้าเค้าไม่ทำเล้าไก่ให้ดี ๆ ก็อยากให้เค้าเอาอะไรมากั้นกำแพงฝั่งเค้าด้วย เพราะเราได้กำแพงกันคนละด้านอยู่แล้ว เพื่อที่แม่ไก่จะได้มาเกาะกำแพงไม่ได้ และทำที่ให้เค้าเกาะใหม่
2. หรือว่าเราเองที่ใจแคบ คิดเล็กคิดน้อยเกินไป ไก่เป็นสัตว์ เค้าก็ต้องกิน ต้องขี้ ตามธรรมชาติของเขา เราเองที่ต้องเป็นคนปรับความคิดตัวเองใหม่ คิดให้ปลง หยวน ๆ กันไปซะว่าเพื่อนบ้านเค้าก็นิสัยดีอยู่ ตัวเราเองที่คิดให้มีปัญหา
ฝากเพื่อน ๆ ช่วยแนะนำทีนะคะ เพราะเรื่องนี้เราแจ้งโครงการไปสามครั้งแล้ว แต่มีความเปลี่ยนแปลงเพียงเท่านี้เอง อีกอย่างนะคะ ไก่เค้าจะผลัดกันขัน แทบจะทั้งคืน ยันเช้า ยิ่งเวลาเค้าตกใจอะไรนะ เค้าจะประสานเสียงกันแบบสนั่นเลย แล้วมันก็เคยมีงูเลื้อยข้ามมาจากเล้าไก่ฝั่งบ้านเค้า มาเข้าบ้านเราสองครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นงูมีพิษอะไร เป็นงูสิงห์ และงูเขียวเท่านั้นเอง
ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาอ่านนะคะ รบกวนขอความคิดเห็นทีนะคะ เรายินดีเปิดใจรับฟังความคิดเห็น และคำตำหนิจากทุกคนนะคะถ้าทุกคนเห็นว่าเราหยุมหยิม เป็นเพื่อนบ้านที่ใจแคบ จุกจิก ก็บอกมาได้เลยนะคะ บอกมาตรง ๆ เลย เพราะตอนนี้เราทำใจไม่ถูกจริง ๆ
รูปนี้เราถ่ายจากกำแพงฝั่งหลังบ้านเราค่ะ
รูปขี้ไก่ที่ย้อยมาตามกำแพงฝั่งบ้านเรา
พื้นที่ส่วนกลางที่เค้าจะนำไก่ไปผึ่งแดด กองหินกองทรายที่เห็น คือที่เหลือจากการทำหลังคาของเค้าค่ะ
หลังบ้านของเค้าค่ะ ที่เห็นระแนงสีขาวนั่นคือของบ้านเรา ซึ่งเราทำก่อนที่เค้าจะย้ายมา เลยไม่รู้ว่าเค้าจะเลี้ยงไก่ ถ้ารู้แต่แรกคงตีทึบไปเลย
จำนวนไก่ที่เค้าเลี้ยงไว้ในส่วนของด้านข้าง ๆ บ้านเค้าค่ะ