ถามอาการหนองในเทียมค่ะ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ ตอนนี้เจ้าของกระทู้อยากได้รับคำแนะนำมากๆ ค่ะ เนื่องจากตอนนี้อยู่ต่างประเทศ
เลยทำให้ไปหาหมอค่อนข้างลำบาก แล้วก็หลายขั้นตอน แล้วหมอที่นี่ก็ไม่ละเอียด ไม่ค่อยฟังรายละเอียดเหมือนบ้านเรา
พูดคุยปรึกษาได้ไม่นานค่ะ แล้วก็ไม่จ่ายยาง่ายๆ ด้วย เริ่มเลยนะคะ จะพยายามให้ข้อมูลละเอียดที่สุด

เริ่มจาก เมื่อประมาณต้นปีค่ะ (จำเดือนไม่ได้ น่าจะ มกราหรือ กุมภา) แฟนบ่นว่า รู้สึก เจ็บๆ แสบๆ อวัยวะเพศ เวลาฉี่ ค่ะ
ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้อะไรค่ะ เพราะคิดกันไปว่า แฟนทำงานเกี่ยวกับปิ้งย่างต้องยืนใกล้กระทะปิ้ง มันจะอยู่ระดับเดียวกับเป้ากางเกงพอดี
อาจจะไปยืนพิงเตาร้อนๆ โดยไม่รู้สึกตัว เพราะบางครั้งก็จะมีแผลไหม้ที่ต้นขากลับมาโดยไม่รู้ตัวว่าโดนตอนไหน เลยคิดว่า ที่เจ็บน้องชายนี่ อาจจะเพราะไปโดนความร้อนจากเตามา

ส่วนเรา ช่วงที่แฟนบ่น เราก็ไม่ได้เป็นอะไรผิดปกติค่ะ แต่โดยส่วนตัวเราเคยเป็น กระเพาะปัสสาวะอักเสบค่อนข้างบ่อย และ เป็นเชื้อราที่ช่องคลอดบ้างค่ะ แต่ปกติ ทายาแล้วก็จะหายไป ไม่มีอะไร  ช่วงนั้นเวลามีอะไรกับแฟนก็จะมีทั้งป้องกัน (ใส่ถุงยาง) หรือ ไม่ได้ป้องกันก็มีค่ะ

จนผ่านมาช่วงเดือน พฤษภาคม  เรามีอะไรกับแฟน โดยที่ไม่ได้ป้องกันค่ะ หลังจากนั้นแฟนก็บ่นเรื่องฉี่แล้วเจ็บน้องชายอีกครั้ง ( โดยก่อนหน้านั้นไม่ได้พูดถึงมานานแล้ว) หลังจากนั้น สองอาทิตย์ เราก็รู้สึกว่า ตกขาวเราผิดปกติค่ะ คือ มีตกขาวมาก แล้วตกขาวเริ่มมีสีเขียว แล้วก็มีอาการคันร่วมด้วย ส่วนเรื่องกลิ่นนี่ เราไม่แน่ใจ เพราะมันเหมือนกลิ่นตกขาวปกติ ดมแล้วคล้ายๆ กลิ่นยา มากกว่า เราเลยไม่แน่ใจค่ะ แต่ก็ ไปหาหมอ เพราะ ตกขาวสีเขียวนี่ ผิดปกติแล้ว ตอนแรกคิดว่า เป็นเชื้อแบคทีเรียแน่ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวไหน เพราะช่วงที่เราเป็นนี่ ก่อนหน้านั้น หนึ่งเดือน เราเริ่มกินยาคุมเป็นเดือนแรก ทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอยมาตลอด หนึ่งเดือน จนเราต้องใส่แผ่นอนามัยแบบบางๆ ตลอด เราก็คิดว่า หรือเป็นเพราะว่าเราใส่นานเกินไป ทำให้เราติดเชื้อ เลยไปหาหมอค่ะ

ตอนไปหาหมอ หมอเอาตกขาวไปตรวจก็ พบว่า ติดเชื้อรา และเชื้อ คลาไมเดีย ซึ่งก็คือ หนองในเทียม หมอเลยให้แฟนมาตรวจด้วย ก็เจอว่า ติดเชื้อคลาไมเดียเหมือนกัน ก็เลยให้ยามากิน เป็นยา Azithromycin กิน 1 กรัม ครั้งเดียว แล้วกินยารักษาเชื้อราร่วมด้วย ส่วนแฟนกิน Azithromycin กิน 1 กรัม ครั้งเดียว ค่ะ แล้วหมอสั่งห้ามมีอะไรกัน 2 เดือน  อย่างน้อย

หลังจากนั้น แฟนหายค่ะ ฉี่ไม่เจ็บไม่แสบแล้ว ส่วนเราก็ เหมือนจะปกติ แต่ยังมีอาการวิตกจริต คือ ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ใช้กระดาษทิชชู่ซับดู จะต้องเอาทิชชู่มาส่งมา มีตกขาวอีกมั้ยสีอะไร ซื้อตอนนั้นหลังจากกินยา แล้วผ่านช่วงที่ยาทำงาน ประมาณ สามถึงห้าวัน หลังจากนั้นเวลาดูกระดาษทิชชู่ เราจะเห็นเป็นเมือกใสๆ ติดมากับทิชชู่ นิดเดียวค่ะ แต่มีเกือบทุกครั้ง แล้วก็มีอาการปวดท้องน้อยบ้าง บางครั้งไปถ่าย ก็ หายปวด ฮ่าๆๆ คือ แยกไม่ออกแล้ว ว่าปวดเพราะ อะไร  แต่ก็จิตตกค่ะ เลยกลับไปให้หมอตรวจอีกครั้ง ก็เหมือนเดิมค่ะ คุณหมอ เอา ตกขาวไปตรวจ แต่คราวนี้ไม่เจออะไร แต่เราก็ยังยินยันหมอว่า เนี้ย ชั้นยังปวดท้องอยู่เลย ยังมีตกขาวออกมาทุกครั้ง ซึ่งหมอก็ยืนยันว่า ผลตรวจเป็นปกติ ไม่มีเชื้ออะไรในตกขาวแล้ว ...

เราก็อ่าว แล้วเราเป็นอะไรเนี้ย หลังจากนั้น ก็สังเกตุว่า เวลาเราปวดท้องถ่ายหนัก เวลาเช็ดแล้วจะมีเมือกติดทิชชู่มาด้วยค่ะ บางครั้งก็มีเลือดปนด้วย แต่ะจะมีเลือดเฉพาะเวลาเราถ่ายแข็งอ่ะค่ะ (เนื่องจากที่นี่ไม่มีน้ำฉีดตูดเหมือนบ้านเรา จะใช้กระดาษทิชชู่ หรือ ทิชชู่เปียก เช็ดทำความสะอาดกันค่ะ ) แล้วช่วงนั้นก็จะ ท้องผูกบ้างท้องเสียบ้างสลับกันไป เราก็ไปหาข้อมูลจากเน็ตอีก เจอโรคลำไส้แปรปรวน ก็ เออ อาการคล้ายกันมาก ก็คิดว่า สงสัยจะเป็นโรคนี้แหละ ก็เลยวางใจ ไม่ได้ไปจับผิดร่างกายตัวเองมากแล้ว แค่ปรับอาหารการกิน หลังจากนั้นก็ ดีขึ้นค่ะ ยังมีเมือกบ้างบางครั้ง แล้วก็หายไปหลังจากนั้นประมาณ เดือนกว่า ๆ

ผ่านมา สาม เดือนได้ค่ะ ถึงเริ่มมีอะไรกับแฟนแบบสอดใส่อีกครั้ง ครั้งแรก ใส่ถุงยาง ป้องกัน ก็ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร จนครั้งที่สองค่ะ ผ่านไป อีกอาทิตย์ คราวนี้ไม่ใส่ถุงค่ะ เพราะคิดว่า หายแล้ว ไม่มีอาการอะไรแล้ว พอมีอะไรกันครั้งนี้เหมือนช่องคลอดเราแห้งไปหน่อย ก็เลยเจ็บค่ะ วันแรกก็ไม่อะไร รู้สึกเจ็บๆ ระคายเคือง แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวคงหาย เพราะก็เคยเป็นแบบนี้บ้าง แต่ คราวนี้มันเริ่มคันมากขึ้นค่ะ จนวันที่สาม หลังจากมีอะไรกัน มันคัน แล้วก็ เริ่มมมีตกขาวเยะ และเปลี่ยนสีอีก คราวนี้เลย ไปหาหมออีกรอบค่ะ เพราะเจ็บแสบด้วย ทายาแก้เชื้อราก็ไม่หาย คุณหมอเอาตกขาวไปตรวจอีกรอบ ปรากฏว่ามีเชื้อคลาไมเดียอีกแล้ว หมอก็ว่าเรา ว่า เราเคยมีประวัติติดเชื้อมา ทำไมไปมีอะไรแบบไม่ป้องกันอีก เราก็แบบว่า ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรเพราะ ผ่านไป สามเดือนกว่าแล้ว คิดว่าน่าจะหายแล้วอ่ะค่ะหมอ >.<  หมอห้าม สองเดือน ขั้นต่ำ หนูก็ททำแล้ว

สรุปตอนนี้ หมอ ก็ให้ยาตัวเดิมมากินอีกค่ะ แต่ว่า เราสงสัยว่า าปกติแล้วเชื้อ คลาไมเดียจะต้องมีการฟักตัว ประมาณ สองอาทิตย์ ถึงจะออกอาการ แต่ทำไมคราวนี้ แค่สามวันก็ ออกอาการแล้ว อีกอย่างค่ะ แฟนเรา ปกติมาก ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ แต่เราก็สั่งยา Doxycycline มาให้แฟนทานด้วย เพราะอาจจะไม่แสดงอาการ เราก็ทานยา Azithromycin  ตามที่หมอสั่ง แล้วก็กำลังจะทาน Doxycycline ด้วย แต่อยากทราบว่าควรทาน นานเท่าไหร่ค่ะ 7 หรือ 14 วันดี เพราะดูทางเนทแล้วมีให้ทานแบบ เจ็ด สิบ หรือ สิบสีวัน บางข้อมูลทานเดือนนึงเลยก็มี เลยอยากทราบเวลาแน่นอนอ่ะค่ะ

อีกอย่างนึงค่ะ ตอนนี่เรามีอาการ คันที่ อวัยวะเพศ ด้านนอก จุดมุมบนสุดของอวัยวะเพศ ติดกับหัวหน่าว แล้วก็คันที่ รูทวารด้านนอก ค่ะ ทายาอะไรก็ไม่หายขาดค่ะ เหมือนทายาแล้วก็ดีขึ้น อาจจะหายคันซัก อาทิตย์ สองอาทิตย์ แต่พอเดี๋ยวสักพักนึง ก็จะกลับมาคันที่เดิมอีก ไม่ทราบว่า เป็นอะไร เพราะไม่ได้เป็นแผล หรือ ตุ่มอะไร แต่มันคันที่เดิมซ้ำๆ ก็เลยไม่แน่ใจว่ามันเพราะ อาการหนองในเทียมนี้ด้วยมั้ยอ่ะค่ะ รบกวน ใครพอรู้ข้อมูล หรือ มีคุณหมอในนี้มั้ยคะ แนะนำให้หน่อยค่ะ

พิมยาวมาก ขอบพระคุณที่อ่านจนจบนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่