เมื่อวันที่ ๒๑ - ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๙ ผมออกไปปั่นจักรยานเที่ยวเล่นเพียงลำพังคนเดียวจาก จ.ขอนแก่น ถึง อ.หล่มสัก ระหว่างทางปั่นก็แต่งนิราศไปด้วยแก้เหงา ก็เลยเอามาฝากชาวพันทิปอ่านเล่นสนุก ๆ (พอขำ ๆ ไม่ต้องคิดมากนะครับ ไม่ได้จริงจังอะไร)
๏ เจอรักหลอก ชอกช้ำ เจ็บซ้ำซ้อน
คนเรรวน ปรวนแปร ไม่แน่นอน
คอยหลอกหลอน ลวงเล่น ไม่เว้นวัน
ถึงหน้าหนาว คราวนี้ เหมือนมีบาป
ดั่งโดนสาป โดนสั่ง ให้โศกศัลย์
เกินหักห้าม น้ำตา เจ็บจาบัลย์
หลบมาปั่น จักรยาน ร้าวรานใจ
ออกจากเมือง ขอนแก่น สุดแสนเศร้า
ในยามเช้า หนาวสั่น และหวั่นไหว
ยังบ่แจ้ง แห่งหน ตำบลใด
จะพาใจ สัญจร เริ่มรอนแรม ๚
๏ พี่ปั่นเลียบ ลำน้ำพอง เหลียวมองน้ำ
ดูดื่มด่ำ ธรรมชาติ ดั่งวาดแต้ม
ไหวระยิบ ระยับ วับวับแววแวม
เหมือนอ้อมแอ้ม เอียงอาย ละม้ายเธอ
คิดถึง โอ้คิดถึง คนึงนิจ
ไม่รู้คิด จะถึง หรือเปล่าเน้อ
แต่พี่ คิดถึงมาก และอยากเจอ
อยากชวนเธอ มาเที่ยว ลำน้ำพอง ๚
๏ ถึงอำเภอ อุบลรัตน์ เหมือนนัดเก้อ
หน้าอำเภอ เดี๋ยวนี้ ไม่มีน้อง
มีแต่ทุกข์ ระทม ไม่สมปอง
มายืนครอง ความช้ำ หน้าอำเภอ ๚
๏ มาถึง หนองเหมือดแอ่ ชะแง้หา
ให้เห็นหน้า น้องพี่ สักทีเถ้อ
จะหยุดปั่น ทันที ถ้ามีเธอ
แต่ก็เก้อ เหมือนเก่า โอ้เหงาจัง
ตะวันต่ำ จะค่ำลง ที่ตรงหน้า
จำจะหา ที่พัก นอนสักหลัง
เจอรีสอร์ท ยอดเยี่ยม ทัดเทียมวัง
เขาปลูกตั้ง ไว้ท่า ให้มานอน
จะปักหลัก ฟักขวัญ รอวันพรุ่ง
ย่ำรุ่ง จะออกปั่น ไม่ทันร้อน
วันนี้เหนื่อย เมื่อยล้า และอาวรณ์
ขอพักนอน หนองเหมือดแอ่ สักแค่คืน ๚
๏ จากหนอง เหมือดแอ่ แต่เช้า
เหน็บหนาว เศร้าตรม ขมขื่น
พกพา ความช้ำ กล้ำกลืน
ปั่นฝืน ลมหนาว ยาวไป ๚
๏ โลกสวยสด งดงาม ดั่งความฝัน
ช่างเสกสรร สรรพสิ่ง อย่างยิ่งใหญ่
แล้วโลกนี้ มียา รักษาใจ
อยู่หนไหน เล่าหนอ สักหม้อโต
ฉันคน อกหัก โดนรักหั่น
จึงปั่น ปวดใจ มาไกลโข
ออกค้นหา ยากิน พอภิญโญ
หวังจะโง หัวหาย จากไข้ใจ
มาถึง หนองระกำ ยิ่งช้ำชอก
เหมือนยิ่งตอก ยิ่งย้ำ ให้ช้ำไฉน
แวะกินข้าว หนองระกำ อย่างจำใจ
น้ำตาไหล ทะลัก อกหักพัง ๚
๏ ถึงภูเวียง เที่ยงวัน แดดมันร้อน
หยุดพักผ่อน หย่อนใจ ยืดไหล่หลัง
รอแดดบ่าย คลายร้อน หย่อนกำลัง
พร้อมปรับตั้ง เข็มใจ เสียให้ตรง ๚
๏ พี่เพิ่งถึง โนนหัน เพราะปั่นช้า
มัวมองหา นงราม ด้วยความหลง
มาโนนหัน หันหา นวลอนงค์
พี่ยืนงง ยืนหัน หลายพันที
ถ้าน้องมา โนนหัน สักวันหนึ่ง
จะคิดถึง พี่ไหม นะโฉมศรี
โอ้พี่มา โนนหัน ในวันนี้
ยืนหันรี หันขวาง บนทางใจ ๚
๏ ออกจาก โนนหัน ไม่ทันเช้า
ทั้งเหน็บ ทั้งหนาว เป็นไหนไหน
ลมหนาว แทรกเข้า ถีงทรวงใน
หนาวใจ ปวดร้าว กว่าหนาวกาย
ปั่นไป ในสาย ลมหนาว
คิดถึง แต่เจ้า ไม่หาย
เงียบเหงา เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย
เป้าหมาย ที่จะไป ก็ไม่มี ๚
๏ ภูผาม่าน ผ่านมา คล้ายผ้าม่าน
มาบังบ้าน เราสอง บ้านน้องกับพี่
น้องไม่เห็น ความรัก ความภักดี
ก็เหมือนมี ม่านฟ้า ภูผาบัง
จึงจาก ภูผาม่าน หาบ้านน้อง
ให้ได้ครอง ความรัก กันสักครั้ง
พี่อยากผ่า ฝาบ้าน แหวกม่านบัง
เข้าไปนั่ง ในห้อง กับน้องนาง ๚
๏ ภูกระดึง พึ่งสะดุด พี่ทรุดนั่ง
อย่างสิ้นหวัง วังเวง และเคว้งคว้าง
นี่พี่คง หลงทิศ มาผิดทาง
โอ้อ้างว้าง ว้าเหว่ อกเอกา
ภูกระดึง พึงสดับ มารับด้วย
คิดว่าช่วย เอาบุญ นะคุณหนา
อย่าให้ หลงทางรัก หนักอุรา
โปรดช่วยพา ไปส่ง บ้านนงราม ๚
๏ โอ้ที่นี่ ที่ไหน พี่ไม่รู้
หลงมาอยู่ ได้ไง หัวใจมันถาม
ตอบว่า ที่ตากหน้า พยายาม
ให้คนงาม เห็นใจ ยังไงละเธอ
พลัดหลง เข้ามา ในป่าเขา
เงียบเหงา สับสน จนเพ้อ
ทั้งเหน็ดเหนื่อย เมื่อยใจ บ่ได้เจอ
คิดถึงเธอ คิดถึงเธอ แทบตาย ๚
๏ พี่มาถึง น้ำหนาว โอ้คราวนี้
เห็นที จะหนาว เหลือหลาย
เพราะมาโดย โดดเดี่ยว เดียวดาย
ข้างกาย ของพี่ ไม่มีใคร
นอนคิด ถึงน้อง ที่น้ำหนาว
พี่นี้ น้ำเน่า ไปไหม
นึกถึง น้ำหนาว ยิ่งหนาวใจ
หนาวไหม หนาวไหม คนดี ๚
๏ พี่ออกจาก น้ำหนาว แต่เช้าตรู่
ต้องปั่นสู้ ลมหนาว อย่างเศร้าศรี
เพียงเพราะว่า ความหวัง มันยังมี
จึงตัวพี่ ต้องปั้น ต้องสัญจร
เบื้องหน้ายัง ตั้งไกล ต้องใฝ่คว้า
พอเช้ามา ก็ไป เอาไว้ก่อน
ชีวิตมัน ผันแปร ไม่แน่นอน
ออกตามหา บังอร เสียก่อนใคร ๚
๏ เข้าสู่เส้น สิบสอง ใช่ของหวาน
จะปั่นผ่าน แทบว่า น้ำตาไหล
พี่โดน เส้นสิบสอง มันลองใจ
จวนไม่ไหว จะจอด ตลอดทาง
เส้นสิบสอง น้องจ๋า ช่วยมารับ
พาพี่กลับ ไปที เดี๋ยวพี่จ้าง
พี่จวนเจียน ขาดใจ จะวายวาง
ปั่นไปพลาง ร้องพลาง เหนื่อยปางตาย ๚
๏ ถึงหล่มสัก ความรัก จำหักข่ม
หากรักจม ลงหล่ม ของโฉมฉาย
ตกหล่มรัก ตกหล่ม ความงมงาย
อาจถึงตาย คาตม ของหล่มรัก
ออกมาปั่น หลายวัน จนวันนี้
บ่ายสี่ มาถึง หล่มสัก
จบทริป สิ้นสุด หยุดพัก
นิราศจบ ไม่พบรัก หล่มสักเอย ๚ะ๛
นิราศเมืองหล่มสัก
๏ เจอรักหลอก ชอกช้ำ เจ็บซ้ำซ้อน
คนเรรวน ปรวนแปร ไม่แน่นอน
คอยหลอกหลอน ลวงเล่น ไม่เว้นวัน
ถึงหน้าหนาว คราวนี้ เหมือนมีบาป
ดั่งโดนสาป โดนสั่ง ให้โศกศัลย์
เกินหักห้าม น้ำตา เจ็บจาบัลย์
หลบมาปั่น จักรยาน ร้าวรานใจ
ออกจากเมือง ขอนแก่น สุดแสนเศร้า
ในยามเช้า หนาวสั่น และหวั่นไหว
ยังบ่แจ้ง แห่งหน ตำบลใด
จะพาใจ สัญจร เริ่มรอนแรม ๚
๏ พี่ปั่นเลียบ ลำน้ำพอง เหลียวมองน้ำ
ดูดื่มด่ำ ธรรมชาติ ดั่งวาดแต้ม
ไหวระยิบ ระยับ วับวับแววแวม
เหมือนอ้อมแอ้ม เอียงอาย ละม้ายเธอ
คิดถึง โอ้คิดถึง คนึงนิจ
ไม่รู้คิด จะถึง หรือเปล่าเน้อ
แต่พี่ คิดถึงมาก และอยากเจอ
อยากชวนเธอ มาเที่ยว ลำน้ำพอง ๚
๏ ถึงอำเภอ อุบลรัตน์ เหมือนนัดเก้อ
หน้าอำเภอ เดี๋ยวนี้ ไม่มีน้อง
มีแต่ทุกข์ ระทม ไม่สมปอง
มายืนครอง ความช้ำ หน้าอำเภอ ๚
๏ มาถึง หนองเหมือดแอ่ ชะแง้หา
ให้เห็นหน้า น้องพี่ สักทีเถ้อ
จะหยุดปั่น ทันที ถ้ามีเธอ
แต่ก็เก้อ เหมือนเก่า โอ้เหงาจัง
ตะวันต่ำ จะค่ำลง ที่ตรงหน้า
จำจะหา ที่พัก นอนสักหลัง
เจอรีสอร์ท ยอดเยี่ยม ทัดเทียมวัง
เขาปลูกตั้ง ไว้ท่า ให้มานอน
จะปักหลัก ฟักขวัญ รอวันพรุ่ง
ย่ำรุ่ง จะออกปั่น ไม่ทันร้อน
วันนี้เหนื่อย เมื่อยล้า และอาวรณ์
ขอพักนอน หนองเหมือดแอ่ สักแค่คืน ๚
๏ จากหนอง เหมือดแอ่ แต่เช้า
เหน็บหนาว เศร้าตรม ขมขื่น
พกพา ความช้ำ กล้ำกลืน
ปั่นฝืน ลมหนาว ยาวไป ๚
๏ โลกสวยสด งดงาม ดั่งความฝัน
ช่างเสกสรร สรรพสิ่ง อย่างยิ่งใหญ่
แล้วโลกนี้ มียา รักษาใจ
อยู่หนไหน เล่าหนอ สักหม้อโต
ฉันคน อกหัก โดนรักหั่น
จึงปั่น ปวดใจ มาไกลโข
ออกค้นหา ยากิน พอภิญโญ
หวังจะโง หัวหาย จากไข้ใจ
มาถึง หนองระกำ ยิ่งช้ำชอก
เหมือนยิ่งตอก ยิ่งย้ำ ให้ช้ำไฉน
แวะกินข้าว หนองระกำ อย่างจำใจ
น้ำตาไหล ทะลัก อกหักพัง ๚
๏ ถึงภูเวียง เที่ยงวัน แดดมันร้อน
หยุดพักผ่อน หย่อนใจ ยืดไหล่หลัง
รอแดดบ่าย คลายร้อน หย่อนกำลัง
พร้อมปรับตั้ง เข็มใจ เสียให้ตรง ๚
๏ พี่เพิ่งถึง โนนหัน เพราะปั่นช้า
มัวมองหา นงราม ด้วยความหลง
มาโนนหัน หันหา นวลอนงค์
พี่ยืนงง ยืนหัน หลายพันที
ถ้าน้องมา โนนหัน สักวันหนึ่ง
จะคิดถึง พี่ไหม นะโฉมศรี
โอ้พี่มา โนนหัน ในวันนี้
ยืนหันรี หันขวาง บนทางใจ ๚
๏ ออกจาก โนนหัน ไม่ทันเช้า
ทั้งเหน็บ ทั้งหนาว เป็นไหนไหน
ลมหนาว แทรกเข้า ถีงทรวงใน
หนาวใจ ปวดร้าว กว่าหนาวกาย
ปั่นไป ในสาย ลมหนาว
คิดถึง แต่เจ้า ไม่หาย
เงียบเหงา เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย
เป้าหมาย ที่จะไป ก็ไม่มี ๚
๏ ภูผาม่าน ผ่านมา คล้ายผ้าม่าน
มาบังบ้าน เราสอง บ้านน้องกับพี่
น้องไม่เห็น ความรัก ความภักดี
ก็เหมือนมี ม่านฟ้า ภูผาบัง
จึงจาก ภูผาม่าน หาบ้านน้อง
ให้ได้ครอง ความรัก กันสักครั้ง
พี่อยากผ่า ฝาบ้าน แหวกม่านบัง
เข้าไปนั่ง ในห้อง กับน้องนาง ๚
๏ ภูกระดึง พึ่งสะดุด พี่ทรุดนั่ง
อย่างสิ้นหวัง วังเวง และเคว้งคว้าง
นี่พี่คง หลงทิศ มาผิดทาง
โอ้อ้างว้าง ว้าเหว่ อกเอกา
ภูกระดึง พึงสดับ มารับด้วย
คิดว่าช่วย เอาบุญ นะคุณหนา
อย่าให้ หลงทางรัก หนักอุรา
โปรดช่วยพา ไปส่ง บ้านนงราม ๚
๏ โอ้ที่นี่ ที่ไหน พี่ไม่รู้
หลงมาอยู่ ได้ไง หัวใจมันถาม
ตอบว่า ที่ตากหน้า พยายาม
ให้คนงาม เห็นใจ ยังไงละเธอ
พลัดหลง เข้ามา ในป่าเขา
เงียบเหงา สับสน จนเพ้อ
ทั้งเหน็ดเหนื่อย เมื่อยใจ บ่ได้เจอ
คิดถึงเธอ คิดถึงเธอ แทบตาย ๚
๏ พี่มาถึง น้ำหนาว โอ้คราวนี้
เห็นที จะหนาว เหลือหลาย
เพราะมาโดย โดดเดี่ยว เดียวดาย
ข้างกาย ของพี่ ไม่มีใคร
นอนคิด ถึงน้อง ที่น้ำหนาว
พี่นี้ น้ำเน่า ไปไหม
นึกถึง น้ำหนาว ยิ่งหนาวใจ
หนาวไหม หนาวไหม คนดี ๚
๏ พี่ออกจาก น้ำหนาว แต่เช้าตรู่
ต้องปั่นสู้ ลมหนาว อย่างเศร้าศรี
เพียงเพราะว่า ความหวัง มันยังมี
จึงตัวพี่ ต้องปั้น ต้องสัญจร
เบื้องหน้ายัง ตั้งไกล ต้องใฝ่คว้า
พอเช้ามา ก็ไป เอาไว้ก่อน
ชีวิตมัน ผันแปร ไม่แน่นอน
ออกตามหา บังอร เสียก่อนใคร ๚
๏ เข้าสู่เส้น สิบสอง ใช่ของหวาน
จะปั่นผ่าน แทบว่า น้ำตาไหล
พี่โดน เส้นสิบสอง มันลองใจ
จวนไม่ไหว จะจอด ตลอดทาง
เส้นสิบสอง น้องจ๋า ช่วยมารับ
พาพี่กลับ ไปที เดี๋ยวพี่จ้าง
พี่จวนเจียน ขาดใจ จะวายวาง
ปั่นไปพลาง ร้องพลาง เหนื่อยปางตาย ๚
๏ ถึงหล่มสัก ความรัก จำหักข่ม
หากรักจม ลงหล่ม ของโฉมฉาย
ตกหล่มรัก ตกหล่ม ความงมงาย
อาจถึงตาย คาตม ของหล่มรัก
ออกมาปั่น หลายวัน จนวันนี้
บ่ายสี่ มาถึง หล่มสัก
จบทริป สิ้นสุด หยุดพัก
นิราศจบ ไม่พบรัก หล่มสักเอย ๚ะ๛