สวัสดีนะครับ เรื่องราวของผมเป็นเรื่องราวของผู้หญิง 3 คน ที่ผมเคยคุยด้วยในช่วงเวลา 6 ปี
ผมแค่อยากจะเล่าเรื่องส่วนตัวที่น่าจะสะท้อนถึงความรักของคนอีกหลายคนได้
ตัวผมปัจจุบันอายุใกล้เลข 3 แล้วครับ หน้าตาพอดูได้และก็ไม่ได้รวยมาก ผมเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบัน
เริ่มต้นจากเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ผมรู้สึกเหงาๆ อยากมีผู้หญิงสักคนที่อยู่ข้างๆเรา ผมเป็นคนที่คุยกับผู้หญิงไม่ค่อยเก่งครับ จีบใครไม่ค่อยเป็น
แล้วก็ไม่ใช่พวกสายไปเที่ยวอ่าง หรือเลี้ยงน้องๆ
จนมีอยู่วันนึง ผมเจอกับผู้หญิงคนนึงที่ป้ายรถเมย์ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น เธอเป็นคนที่น่ารักแต่ไม่ได้สวยเวอร์ราวกับนางฟ้า ผมเลยเดินเข้าไปทักทาย (รวบรวมความกล้าอยู่นาน) เราก็ทำเนียนยืนคุยว่า จะไปใหน? รอนานแล้วเนอะ? อะไรเงี้ยแหละ เลยถามชื่อถามอะไรกัน เธอชื่อ หยก (นามสมมุติ) ผมคุยอยู่นาน โชคดีที่รถเมย์วันนั้นมาค่อนข้างช้า ผมเลยได้โอกาศขอเบอร์เธอไว้คุยกัน (ตอนนั้นไลน์ยังไม่ค่อยฮิตหรือยังไม่มีเนี้ยแหละ) วันต่อไปก็โทรไปหาเธอ... หยกเขาก็คุยโอเคนะครับ จนรู้ว่าเธอทำงานอยู่แถวนั้น ซึ่งที่ทำงานของเธออยู่ตรงข้ามกับคอนโดที่ผมอยู่ บางทีเย็นๆเราก็จะได้เจอกันเกือบทุกวัน กินข้าวกันบ่อยๆ แถวนั้นมีบิ๊กซีอยู่ ตอนเย็นเธอก็จะเป็นคนโทรมานัดให้ไปกินข้าวกัน แล้วแน่นอนว่า ผมจะเป็นคนจ่ายทุกครั้ง...
แต่ผมไม่เคย mind ว่า เราต้องจ่ายอยู่คนเดียวหรอ? ถ้าชอบแล้วจ่ายค่าข้าวให้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ตอนนั้นผมใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก็ไม่เคยกินข้าววันละ 3-4 ร้อยบาททุกวันๆนะ ผมเลยเริ่มจนขึ้นๆ แต่ก็ไม่เคยบ่นให้อีกฝ่ายเขาได้รู้ เพราะเรายังอยากเจออยากคุยกับเขาอยู่เหมือนเดิม ผมเลยเริ่มไปหางานพิเศษทำ ด้วยการเล่นดนตรีกลางคืน ได้มาคืนละ 600 บาท ตอนนั้นลำบากอยู่เหมือนกันครับ เพราะผมเป็นนักดนตรีที่ไม่มีอุปกรณ์ เลยต้องไปซื้อของมือ 2 มาใช้ เลยทำให้มีอุปกรณ์พอที่จะเอาไปทำงานหาเงินได้ เพื่อที่จะเอาเงินมาใช้ ไปเที่ยวกับผู้หญิงบ่อยๆ ก่อนหน้านั้นผมเพิ่งเรียนจบไปหมาดๆ งานการเลยยังไม่มี แต่จะเลี้ยงข้าวผู้หญิง ก็ต้องมีงานทำ เลยเป็นจุดที่ผมก็อยากจะขอบคุณเขา ที่ทำให้ผมมีแรงจูงใจในการไปทำงานหาเงิน ผมอยู่คอนโดที่แม่ซื้อไว้ให้นานแล้วครับ และผมก็จ่ายแค่พวกค่าน้ำค่าไฟอย่างเดียว เลยมีเงินเหลือไปให้คนอื่น...
ผมคุยกับหยกอยู่นานหลายเดือนเหมือนกัน คุยโทรศัพท์กันเป็นชั่วโมงๆ จนมีอยู่วันนึง... หยกเขาค่อนข้างอยู่ไกลจากที่ทำงาน ผมเลยเสนอว่า มานอนที่ห้องผมไหม? เพราะห้องผมมี 2 ห้องนอน แต่ว่าผมนอนอยู่ที่คอนโดคนเดียว หยกเขาก็ไว้ใจผมนะ วันนั้นเลยมานอนที่ห้องผม แต่ด้วยความที่ผมคุยกับผู้หญิงไม่ค่อยเก่ง และไม่ใช่คนที่รุกอะไรมาก ผมเลยให้หยกไปนอนในห้อง แล้วผมก็ไปนอนเฝ้าหน้าห้องอยู่ที่โซฟาให้ เพราะเหมือนเขาจะไม่ค่อยคุ้นที่ แล้วรู้สึกกลัวๆ จนตกดึกเขาก็มานอนอยู่บนโซฟาข้างๆผม (เหมือนเขาจะกลัวผี หรืออะไรเนี้ยแหละ) ผมเลยพาเขากลับเข้าไปนอนในห้อง แล้วผมก็นอนด้วยข้างๆ แต่เขาก็เอาหมอนข้างมากั้นไว้ แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนถึงเช้า....
หลังจากนั้นเขาก็ไว้ใจในตัวผมมากขึ้น หยกก็จะมานอนที่ห้องของผมบ่อยๆ เพราะเขาไม่ต้องรีบตื่นเช้าเพื่อนั่งรถเมย์ไปทำงาน แล้วระหว่างนั้น เขาก็เริ่มให้ผมซื้อของให้เขามากขึ้น เช่น ชุดว่ายน้ำ (ข้างบนคอนโดผมเป็นสระว่ายน้ำ) เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ แล้วเขาก็เอาของพวกนี้ไว้ที่ห้องผมนั้นแหละ เหมือนกับเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเขา ผมเริ่มมีความรู้สึกกับเขามากขึ้น เพราะผมรู้สึกว่า "ผมสามารถทำอะไรให้เขาก็ได้" เขาอยากจะได้อะไร ผมก็จะหามาให้ แต่ผมก็เป็นผู้ชายปกติคนนึงที่มีอารมณ์ทางเพศเหมือนกันนะ ทุกครั้งที่เขามานอนอยู่ที่ห้อง แต่มันก็ไม่เคยมีอะไรเลยเถิดสักครั้ง เป็นเพราะว่า เรายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เขาบอกว่าเขายังไม่แน่ใจ เขาอยากให้เราคุยกันไปแบบนี้ก่อน ผมเลยรู้สึกว่าผมรอได้ แม้ว่าจะมีหลายๆครั้ง ที่เขาใส่แค่ผ้าขนหนูสั้นๆ ออกมาจากห้องน้ำ แล้วให้ผมทาครีมที่หลังให้ หรือให้ผมไปเกาหัวให้บนเตียงก่อนที่เขาจะนอน ผมบอกตามตรงว่าผมมีอารมณ์ แต่ดูเขาชัดเจนมาก ว่าเขายังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ผมเลยปลอบใจตัวเองว่า... 'ไม่เป็นไร' ถ้าเราพิสูจน์ ให้เขาเห็นว่า ผมทำเพื่อเขาได้มากแค่ไหน เราอาจจะได้ตกลงเป็นแฟนกัน...
ช่วงเวลาผ่านไปเกือบปี เราก็อยู่กันแบบนี้แหละ โดยที่ผมก็จะพยายามพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการช่วยเวลาที่เขามีปัญหา เช่น บางทีเขาใช้บัครเครดิตไปเป็นหมื่น แต่ไม่มีเงินจ่าย เขาก็จะเอามาให้ผมช่วยจ่ายให้ หรือตอนที่เขาอยากได้เครื่องสำอางอะไร ผมก็จะเป็นคนไปหาซื้อให้... บอกตามตรงว่าผมท้อเหมือนกัน ที่รู้สึกว่าเหมือนใกล้กันแค่นิดเดียว แต่สถานะก็ไม่ได้คืบหน้าไปไหน ผมพยายามถามตัวเองว่า เราแค่อยากเอาชนะ หรือ อยากจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า? แต่ถ้าแค่นั้น ผมไปเที่ยวอ่างที่มีผู้หญิงสวยๆ ด้วยเงินที่น้อยกว่าก็ได้หนิ แล้วผมจะพยายามออกไปทำงานให้เงินมาเลี้ยงผู้หญิงคนนี้เพราะอะไร "ความรักรึเปล่า?" อาจจะใช่ก็ได้มั้ง...
จนมีอยุ่ครั้งนึง เขาอยากได้รถยนต์... ผมเป็นคนที่ไม่มีรถใช้ จะไปไหนมาไหนก็ต้องนั่งแท็กซี่ ไม่ก็ขึ้นรถเมย์เอา เขาจึงไปขอเงินดาวน์มาจากแม่เขา แต่ว่ามันขาดอยู่อีกประมาณ 5 หมื่น สำหรับหลายคนแล้ว มันน่าจะเป็นเงินที่ไม่เยอะมาก แต่สำหรับผมแล้ว มันเยอะมากเลยหล่ะ เพราะผมแทบจะไม่มีเงินเก็บเลย ผมมีเท่าไหร่ก็เอาให้หยกหมด ค่าบัตร ค่าเสื้อผ้า ค่าเครื่องสำอาง ค่ากินของแพงๆ ค่าโทรศัพท์ไอโฟน ผมก็ซื้อให้ ผมจ่ายให้ไปหมดแล้ว ผมจะไปหาเงิน 5 หมื่นมาจากที่ไหนหล่ะ? ตอนนั้นคิดแค่ว่า เราจะต้องทำยังไงเพื่อให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ... เพราะเราอยากจะให้เขาเห็นว่า "เราสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อเธอนะ" ผมเลยออกไปรับงานอย่างหนักหน่วง บวกกับตอนนั้นได้ไปทำงานกลางวันด้วย กลายเป็นว่าผมทำงานอยู่เกือบ 24 ชม. จนได้เงินจนครบตามที่ต้องการ...
ผมอยากจะเล่าเรื่องของหยกให้ฟัง... ตลอดเวลาปีกว่าๆที่ผ่านมา ในช่วงหลังๆ เหมือนเธอจะเริ่มเบื่อผม รำคานผม ทั้งๆที่ทุกครั้งที่มีปัญหา ผมก็คอยแก้ปัญหาให้ อยากได้อะไรก็ซื้อให้ ผมพยายามบอกว่าหยกว่า "ผมรักเขานะ" ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจ ช่วงวันวาเลนไทน์ผมส่งเพลงเพราะๆให้เขาฟัง พร้อมส่งดอกไม้ไปให้ที่ทำงาน เขาตอบกลับมาว่า "ขยะแขยง" ผมบอกว่า "เราพยายามทำเพื่อหยกทุกอย่างเลยนะ" เขาบอกว่า "คนที่เขาทำดี เขาจะไม่มานั่งพูดกันแบบนี้" เธอคงคิดว่าผมจะทวงบุณคุญ ผมเลยพยายามทำให้เขาทุกอย่างโดยที่ไม่บ่น ไม่พูด ไม่ต้องให้รู้ว่าผมต้องพยายามมากแค่ไหน เพื่อที่จะให้เขาหันมามองเห็นผมบ้าง...
ผมไม่รู้ว่ามันคือความรักรึเปล่า... แต่ผมไม่เคยจับเงิน 5 หมื่นมาก่อน เธอคือเหตุผลที่ทำให้ผมมีเงินเยอะขนาดนั้น แล้วผมก็เอาเงินไปให้หยกดาวน์รถ เธอจึงตอบกลับมาว่า "ขอบคุณนะ" อื้ม... มันเท่านั้นจริงๆครับ ผมคิดกับตัวเองหลายๆครั้งว่า เราควรออกไปจากจุดนี้ดีกว่าไหม? เพราะดูเขาไม่ได้มีใจให้ผมเลยสักนิด เขาเห็นผมเป็นแค่ของตาย ที่อยากจะมาหาเมื่อไหร่ก็ได้... อยากจะไปเมื่อไหร่ก็ได้... ผมกลายเป็นไอ้โง่คนนึงที่ปล่อยให้เขาหลอกใช้ฟรีๆ โดยที่ผมจะไปโทษเขาก็ไม่ได้... เพราะผมโง่ไปให้ทุกอย่างเขาเอง... ผมอยากจะบอกให้เคลียร์อีกครั้ง ว่าผมไม่เคยมีเซ็กส์กับหยก ผมไม่เคยได้เดินจูงมือหยก มันเป็นความสัมพันธ์ที่จะฆ่าผมให้ตายขึ้นทุกๆวัน เพราะผมเริ่มรู้สึกได้ว่า หยกเขาคุยกับคนอื่นอยู่ แล้วเขาเห็นว่าผมเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น สุดท้าย... เวลาประมาณ 2 ปีที่ผมทำเพื่อเขาก็จบลง เพราะหยกไปมีแฟนแล้ว ลงรูปหอมแก้มกัน นอนกอดกัน เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือน ตายทั้งเป็น...
ความรักของผู้ชายสายเปย์ และจุดจบของเขา
ผมแค่อยากจะเล่าเรื่องส่วนตัวที่น่าจะสะท้อนถึงความรักของคนอีกหลายคนได้
ตัวผมปัจจุบันอายุใกล้เลข 3 แล้วครับ หน้าตาพอดูได้และก็ไม่ได้รวยมาก ผมเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบัน
เริ่มต้นจากเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ผมรู้สึกเหงาๆ อยากมีผู้หญิงสักคนที่อยู่ข้างๆเรา ผมเป็นคนที่คุยกับผู้หญิงไม่ค่อยเก่งครับ จีบใครไม่ค่อยเป็น
แล้วก็ไม่ใช่พวกสายไปเที่ยวอ่าง หรือเลี้ยงน้องๆ
จนมีอยู่วันนึง ผมเจอกับผู้หญิงคนนึงที่ป้ายรถเมย์ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น เธอเป็นคนที่น่ารักแต่ไม่ได้สวยเวอร์ราวกับนางฟ้า ผมเลยเดินเข้าไปทักทาย (รวบรวมความกล้าอยู่นาน) เราก็ทำเนียนยืนคุยว่า จะไปใหน? รอนานแล้วเนอะ? อะไรเงี้ยแหละ เลยถามชื่อถามอะไรกัน เธอชื่อ หยก (นามสมมุติ) ผมคุยอยู่นาน โชคดีที่รถเมย์วันนั้นมาค่อนข้างช้า ผมเลยได้โอกาศขอเบอร์เธอไว้คุยกัน (ตอนนั้นไลน์ยังไม่ค่อยฮิตหรือยังไม่มีเนี้ยแหละ) วันต่อไปก็โทรไปหาเธอ... หยกเขาก็คุยโอเคนะครับ จนรู้ว่าเธอทำงานอยู่แถวนั้น ซึ่งที่ทำงานของเธออยู่ตรงข้ามกับคอนโดที่ผมอยู่ บางทีเย็นๆเราก็จะได้เจอกันเกือบทุกวัน กินข้าวกันบ่อยๆ แถวนั้นมีบิ๊กซีอยู่ ตอนเย็นเธอก็จะเป็นคนโทรมานัดให้ไปกินข้าวกัน แล้วแน่นอนว่า ผมจะเป็นคนจ่ายทุกครั้ง...
แต่ผมไม่เคย mind ว่า เราต้องจ่ายอยู่คนเดียวหรอ? ถ้าชอบแล้วจ่ายค่าข้าวให้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ตอนนั้นผมใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก็ไม่เคยกินข้าววันละ 3-4 ร้อยบาททุกวันๆนะ ผมเลยเริ่มจนขึ้นๆ แต่ก็ไม่เคยบ่นให้อีกฝ่ายเขาได้รู้ เพราะเรายังอยากเจออยากคุยกับเขาอยู่เหมือนเดิม ผมเลยเริ่มไปหางานพิเศษทำ ด้วยการเล่นดนตรีกลางคืน ได้มาคืนละ 600 บาท ตอนนั้นลำบากอยู่เหมือนกันครับ เพราะผมเป็นนักดนตรีที่ไม่มีอุปกรณ์ เลยต้องไปซื้อของมือ 2 มาใช้ เลยทำให้มีอุปกรณ์พอที่จะเอาไปทำงานหาเงินได้ เพื่อที่จะเอาเงินมาใช้ ไปเที่ยวกับผู้หญิงบ่อยๆ ก่อนหน้านั้นผมเพิ่งเรียนจบไปหมาดๆ งานการเลยยังไม่มี แต่จะเลี้ยงข้าวผู้หญิง ก็ต้องมีงานทำ เลยเป็นจุดที่ผมก็อยากจะขอบคุณเขา ที่ทำให้ผมมีแรงจูงใจในการไปทำงานหาเงิน ผมอยู่คอนโดที่แม่ซื้อไว้ให้นานแล้วครับ และผมก็จ่ายแค่พวกค่าน้ำค่าไฟอย่างเดียว เลยมีเงินเหลือไปให้คนอื่น...
ผมคุยกับหยกอยู่นานหลายเดือนเหมือนกัน คุยโทรศัพท์กันเป็นชั่วโมงๆ จนมีอยู่วันนึง... หยกเขาค่อนข้างอยู่ไกลจากที่ทำงาน ผมเลยเสนอว่า มานอนที่ห้องผมไหม? เพราะห้องผมมี 2 ห้องนอน แต่ว่าผมนอนอยู่ที่คอนโดคนเดียว หยกเขาก็ไว้ใจผมนะ วันนั้นเลยมานอนที่ห้องผม แต่ด้วยความที่ผมคุยกับผู้หญิงไม่ค่อยเก่ง และไม่ใช่คนที่รุกอะไรมาก ผมเลยให้หยกไปนอนในห้อง แล้วผมก็ไปนอนเฝ้าหน้าห้องอยู่ที่โซฟาให้ เพราะเหมือนเขาจะไม่ค่อยคุ้นที่ แล้วรู้สึกกลัวๆ จนตกดึกเขาก็มานอนอยู่บนโซฟาข้างๆผม (เหมือนเขาจะกลัวผี หรืออะไรเนี้ยแหละ) ผมเลยพาเขากลับเข้าไปนอนในห้อง แล้วผมก็นอนด้วยข้างๆ แต่เขาก็เอาหมอนข้างมากั้นไว้ แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนถึงเช้า....
หลังจากนั้นเขาก็ไว้ใจในตัวผมมากขึ้น หยกก็จะมานอนที่ห้องของผมบ่อยๆ เพราะเขาไม่ต้องรีบตื่นเช้าเพื่อนั่งรถเมย์ไปทำงาน แล้วระหว่างนั้น เขาก็เริ่มให้ผมซื้อของให้เขามากขึ้น เช่น ชุดว่ายน้ำ (ข้างบนคอนโดผมเป็นสระว่ายน้ำ) เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ แล้วเขาก็เอาของพวกนี้ไว้ที่ห้องผมนั้นแหละ เหมือนกับเป็นบ้านหลังที่ 2 ของเขา ผมเริ่มมีความรู้สึกกับเขามากขึ้น เพราะผมรู้สึกว่า "ผมสามารถทำอะไรให้เขาก็ได้" เขาอยากจะได้อะไร ผมก็จะหามาให้ แต่ผมก็เป็นผู้ชายปกติคนนึงที่มีอารมณ์ทางเพศเหมือนกันนะ ทุกครั้งที่เขามานอนอยู่ที่ห้อง แต่มันก็ไม่เคยมีอะไรเลยเถิดสักครั้ง เป็นเพราะว่า เรายังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เขาบอกว่าเขายังไม่แน่ใจ เขาอยากให้เราคุยกันไปแบบนี้ก่อน ผมเลยรู้สึกว่าผมรอได้ แม้ว่าจะมีหลายๆครั้ง ที่เขาใส่แค่ผ้าขนหนูสั้นๆ ออกมาจากห้องน้ำ แล้วให้ผมทาครีมที่หลังให้ หรือให้ผมไปเกาหัวให้บนเตียงก่อนที่เขาจะนอน ผมบอกตามตรงว่าผมมีอารมณ์ แต่ดูเขาชัดเจนมาก ว่าเขายังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ผมเลยปลอบใจตัวเองว่า... 'ไม่เป็นไร' ถ้าเราพิสูจน์ ให้เขาเห็นว่า ผมทำเพื่อเขาได้มากแค่ไหน เราอาจจะได้ตกลงเป็นแฟนกัน...
ช่วงเวลาผ่านไปเกือบปี เราก็อยู่กันแบบนี้แหละ โดยที่ผมก็จะพยายามพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการช่วยเวลาที่เขามีปัญหา เช่น บางทีเขาใช้บัครเครดิตไปเป็นหมื่น แต่ไม่มีเงินจ่าย เขาก็จะเอามาให้ผมช่วยจ่ายให้ หรือตอนที่เขาอยากได้เครื่องสำอางอะไร ผมก็จะเป็นคนไปหาซื้อให้... บอกตามตรงว่าผมท้อเหมือนกัน ที่รู้สึกว่าเหมือนใกล้กันแค่นิดเดียว แต่สถานะก็ไม่ได้คืบหน้าไปไหน ผมพยายามถามตัวเองว่า เราแค่อยากเอาชนะ หรือ อยากจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า? แต่ถ้าแค่นั้น ผมไปเที่ยวอ่างที่มีผู้หญิงสวยๆ ด้วยเงินที่น้อยกว่าก็ได้หนิ แล้วผมจะพยายามออกไปทำงานให้เงินมาเลี้ยงผู้หญิงคนนี้เพราะอะไร "ความรักรึเปล่า?" อาจจะใช่ก็ได้มั้ง...
จนมีอยุ่ครั้งนึง เขาอยากได้รถยนต์... ผมเป็นคนที่ไม่มีรถใช้ จะไปไหนมาไหนก็ต้องนั่งแท็กซี่ ไม่ก็ขึ้นรถเมย์เอา เขาจึงไปขอเงินดาวน์มาจากแม่เขา แต่ว่ามันขาดอยู่อีกประมาณ 5 หมื่น สำหรับหลายคนแล้ว มันน่าจะเป็นเงินที่ไม่เยอะมาก แต่สำหรับผมแล้ว มันเยอะมากเลยหล่ะ เพราะผมแทบจะไม่มีเงินเก็บเลย ผมมีเท่าไหร่ก็เอาให้หยกหมด ค่าบัตร ค่าเสื้อผ้า ค่าเครื่องสำอาง ค่ากินของแพงๆ ค่าโทรศัพท์ไอโฟน ผมก็ซื้อให้ ผมจ่ายให้ไปหมดแล้ว ผมจะไปหาเงิน 5 หมื่นมาจากที่ไหนหล่ะ? ตอนนั้นคิดแค่ว่า เราจะต้องทำยังไงเพื่อให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ... เพราะเราอยากจะให้เขาเห็นว่า "เราสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อเธอนะ" ผมเลยออกไปรับงานอย่างหนักหน่วง บวกกับตอนนั้นได้ไปทำงานกลางวันด้วย กลายเป็นว่าผมทำงานอยู่เกือบ 24 ชม. จนได้เงินจนครบตามที่ต้องการ...
ผมอยากจะเล่าเรื่องของหยกให้ฟัง... ตลอดเวลาปีกว่าๆที่ผ่านมา ในช่วงหลังๆ เหมือนเธอจะเริ่มเบื่อผม รำคานผม ทั้งๆที่ทุกครั้งที่มีปัญหา ผมก็คอยแก้ปัญหาให้ อยากได้อะไรก็ซื้อให้ ผมพยายามบอกว่าหยกว่า "ผมรักเขานะ" ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจ ช่วงวันวาเลนไทน์ผมส่งเพลงเพราะๆให้เขาฟัง พร้อมส่งดอกไม้ไปให้ที่ทำงาน เขาตอบกลับมาว่า "ขยะแขยง" ผมบอกว่า "เราพยายามทำเพื่อหยกทุกอย่างเลยนะ" เขาบอกว่า "คนที่เขาทำดี เขาจะไม่มานั่งพูดกันแบบนี้" เธอคงคิดว่าผมจะทวงบุณคุญ ผมเลยพยายามทำให้เขาทุกอย่างโดยที่ไม่บ่น ไม่พูด ไม่ต้องให้รู้ว่าผมต้องพยายามมากแค่ไหน เพื่อที่จะให้เขาหันมามองเห็นผมบ้าง...
ผมไม่รู้ว่ามันคือความรักรึเปล่า... แต่ผมไม่เคยจับเงิน 5 หมื่นมาก่อน เธอคือเหตุผลที่ทำให้ผมมีเงินเยอะขนาดนั้น แล้วผมก็เอาเงินไปให้หยกดาวน์รถ เธอจึงตอบกลับมาว่า "ขอบคุณนะ" อื้ม... มันเท่านั้นจริงๆครับ ผมคิดกับตัวเองหลายๆครั้งว่า เราควรออกไปจากจุดนี้ดีกว่าไหม? เพราะดูเขาไม่ได้มีใจให้ผมเลยสักนิด เขาเห็นผมเป็นแค่ของตาย ที่อยากจะมาหาเมื่อไหร่ก็ได้... อยากจะไปเมื่อไหร่ก็ได้... ผมกลายเป็นไอ้โง่คนนึงที่ปล่อยให้เขาหลอกใช้ฟรีๆ โดยที่ผมจะไปโทษเขาก็ไม่ได้... เพราะผมโง่ไปให้ทุกอย่างเขาเอง... ผมอยากจะบอกให้เคลียร์อีกครั้ง ว่าผมไม่เคยมีเซ็กส์กับหยก ผมไม่เคยได้เดินจูงมือหยก มันเป็นความสัมพันธ์ที่จะฆ่าผมให้ตายขึ้นทุกๆวัน เพราะผมเริ่มรู้สึกได้ว่า หยกเขาคุยกับคนอื่นอยู่ แล้วเขาเห็นว่าผมเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น สุดท้าย... เวลาประมาณ 2 ปีที่ผมทำเพื่อเขาก็จบลง เพราะหยกไปมีแฟนแล้ว ลงรูปหอมแก้มกัน นอนกอดกัน เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือน ตายทั้งเป็น...