สวัสดีค่ะ พี่ๆน้องๆ ห้องบลู ปกติแล้ว จขกท จะสิงอยู่ตามห้องต่างๆ และได้รับความรู้จากเพื่อนๆพี่ๆ มาเกือบ 10 ปีแล้ว หนาวนี้เห็นเพื่อนไปขึ้นดอย ไปกอดหมอก เห็นแล้วก็อยากจะตามรอยไปบ้าง เลยออกมาเป็นทริปฉุกละหุก เน้นกินบ้าง เที่ยวบ้าง ไม่ไหว ก็พักค่ะ ตามอายุ 3 คนร่วมทริปก็ ร้อยกว่าปี 5555 ไปตามที่ร่างกายไหวและบรรยากาศเป็นใจค่ะ
จขกท เดินทางศุกร์ที่ 16 ธ.ค. ตอนเย็นค่ะ ไปถึงก็รับรถที่สนามบิน รถที่ จขกท เช่าเป็นของ บริษัทโตโยต้าพารา ที่เชียงใหม่ค่ะ ได้เป็นรถโตโยต้า วีออส ราคา 1,000 บาทต่อวันค่ะ ที่พักของคืนแรกเป็น บ้านเส-ลาเกสท์เฮาส์ค่ะ
https://www.facebook.com/Baansayla-Guesthouse-364064897037564/?fref=ts
ห้องรกๆ หน่อยนะคะ ไปถึงก็ตั้งๆของวาง รีบหาอาหารทานเลยค่ะ
ที่พักเป็นห้อง family ค่ะ 1,340 บาท 4 ที่นอน แต่ จขกท ไปกัน 3 คนค่ะ ห้องอาบน้ำกับสุขาอยู่ในห้องแยกโซนเปียก แห้ง บรรยากาศดีค่ะ ที่พักไม่มีอาหารเช้านะคะ มีแค่กาแฟกับขนมปัง จขกท ไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดหน้าโลตัสถนนนิมมาน ทานคนละชุดค่ะระหว่างทาง
เช้าวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค. ก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ จขกท และเพื่อนๆไปไหว้สักการะหลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำก่อนค่ะ ระหว่างทางได้ซื้อพวงมาลัย ไหว้ที่รถก่อน พอเห็นพวงมาลัยแล้วประทับใจเลยค่ะ มีการใช้ใบเตยสานเป็นปลาตะเพียน ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียว แต่พอขับได้วันที่ 2-3 กลิ่นใบเตย ดีต่อใจ ดีต่อปอดมากๆค่ะ
การขอพรหลวงพ่อทันใจ ขอได้เพียงสิ่งเดียวค่ะ โดยตั้งจิตให้แน่วแน่ และหากสำเร็จแล้วจะนำดอกมะลิจำนวน 50 พวงขึ้นไปมาถวายค่ะ
หลังจากไหว้สักการะขอพร หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำแล้ว ก็มุ่งหน้าไป อ.จอมทองค่ะ ก่อนขึ้นดอยแวะทางอาหารกลางวันก่อนที่ร้านพิซซ่าต้นไม้ ก่อนไปต้องโทรถามก่อนนะคะ หลังจากสอบถามเรียบร้อยว่าร้านเปิดแน่นอน ก็บอกจำนวนค่ะว่าไป 3 ที่ จขกท ปักหมุดไปตาม maps เลยค่ะ หลักๆคือเข้าตัวอำเภอจอมทอง แล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ 500 เมตร เลี้ยวขวาซอยโกลเด้นปาล์มรีสอร์ท เข้าซอยแคบประมาณนึงอ้อมไปทางด้านหลังวัดพระธาตุจอมทอง เมนูที่สั่ง พิซซ่าฮาวาเอี้ยน , extreme sausages, สปาเก็ตตี้สเตฟาโน่ (เป็นสูตรพิเศษของร้านค่ะ) น้ำผลไม้ปั่น mixed berry, green apple, passion fruits ค่ะ
มื้อนี้นี่ อิ่มมากค่ะ พิซซ่าบางกรอบ แต่ชิ้นใหญ่มากๆ ทานเกือบไม่หมดค่ะ ไส้กรอกชีสก็มีสับปะรดแก้เลี่ยนอยู่ด้านล่างค่ะ ส่วนสปาเก็ตตี้จะออกรสไทยๆนิดนึงค่ะ
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อย แพลนวันนี้คือจะนอนเต็นท์ที่ดอยชัวร์ญ่าค่ะ เพราะได้ยินเสียงร่ำลือว่ากลางคืนสวย มีเสียงไฟจากแปลงดอกเบญจมาศ และมีวิวน้ำตกสิริภูมิให้เห็นด้วย ถ้าได้กินหมูกระทะที่ดอยน่าจะฟินน่าดู แต่ดูจากร่างของ จขกท และเพื่อนๆแล้ว หมูกระทะชุดเดียวไม่น่าอยู่ท้อง จขกท เลยแวะไปซื้อหมู cp freshmart สาขาที่อยู่ตรงข้ามวินรถสองแถวจอมทองเลยค่ะ ได้มาเป็น สันนอก 500 กรัม และสันคอหมู อีก 500 กรัม ค่ะ
ซื้อเสร็จแล้วรีบบึ่งขึ้นดอยเลยค่ะ เพราะดูเวลาแล้วก็บ่ายกว่าๆ เดี๋ยวจะเที่ยวไม่ทัน พอขึ้นมาได้สัก 5 กิโล ก็โทรเช็คที่เบอร์ดอยชัวร์ญ่าวิวสวย เพราะดูข้อมูลมาแล้วว่า เต็นท์จะเปิดจองหลังเวลาบ่ายโมงค่ะ ..... หาสัญญาณอยู่หลายโค้ง มาเจอที่โล่งถึงโทรติด ปลายสายตอบกลับมาว่า วันนี้ปักเต็นท์ไม่ได้ เนื่องจากพื้นเปียกจากละอองฝนคือก่อนหน้านั้นค่ะ
เอาล่ะสิ ทั้งรถนั่งเงียบกริบเลยค่ะ ค่อยๆทำใจเย็นมองหน้ากันไปมา เอาไงดี หาเบอร์พี่สมศักดิ์โฮมสเตย์คนดังในเนต พี่สมศักดิ์รับสายแล้วก็แจ้งว่าที่พักเต็ม แต่พี่สมศักดิ์ก็ใจดีมากค่ะ ให้เบอร์ที่พักอื่นๆที่แกแนะนำและไว้ใจได้ พออีกที่รับได้คำตอบเดียวกันค่ะ แต่ก็ยังอุตส่าห์แนะนำที่ใหม่ให้ ช่วงจังหวะที่กำลังเลี้ยวโค้งก็มาเจอบ้านพักที่ดูสวย วิวท้องนาและภูเขาและปลายสายก็รับบอกที่พักยังว่าง โอ้ยยย แทบกรี้ดดีใจกับเพื่อนๆนึกว่าคืนนี้จะไม่มีที่พัก ที่พักชื่อ อ่างกา ฟอเรสท์ วิว เลยโค้งมานิดนึง มองป้ายด้านซ้าย อ้าววววนี่มันที่พัก ที่เพิ่งโทรหานี่นา ขอบอกงานนี้ดีใจสุดสุดเลยค่ะ
https://www.facebook.com/angkaforestview/?pnref=story
บ้านพักที่ จขกท จองชื่อบ้านกลางนา ค่ะ ราคา 1,200 บาท เตียงเป็น double bed ค่ะ พี่เจ้าของใจดีมากถึงมากที่สุด แถมฟูกที่นอนให้อีก 1 โดยไม่คิดเงินค่ะ พวกเราบอกไปว่าเรานอนได้ ห้องนี้ถึงจะเล็กแต่เราชอบที่วิวสวย และเราโชคดีที่ได้ที่พักที่นี่ เพราะคืนนี้ตอนแรกที่เราจะนอนเต็นท์กันที่ดอยชัวร์ญ่า ปักเต็นท์ไม่ได้ค่ะ
หลังจากเอาของลงที่พักเสร็จ เราขึ้นไปเที่ยวต่อที่ พระมหาธาตุ นภเมทนีดล และ พระมหาธาตุ นภพลภูมิสิริ ค่ะ
รูปอาจจะไม่ค่อยสวยนะคะ แต่ถ้าได้ไปชมเองสวยมากค่ะ ทั้งพระมหาธาตุ และสวนดอกไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี ระบบการจัดการต่างๆ วันที่ จขกท ไปคนไม่เยอะมากค่ะ
บรรยากาศวันที่ จขกท ไป หมอกลงค่อนข้างเยอะค่ะ โดยทั่วไปอากาศเย็น มีละอองฝนประปรายบ้างช่วง สำหรับการขับรถขึ้นดอยนั้น เป็นครั้งแรกของ จขกท โดยทั่วไปตอนแรกถือว่ายากค่ะ ตอนขาขึ้นไม่เท่าไร แต่ตอนลงยังกะระยะห่างระหว่างคันหน้าไม่ได้ ถึงแม้จะทดเกียร์ต่ำเพื่อให้รถลงช้าลง ถึงกับต้องเหยียบเบรกอยู่บ่อยๆ ตอนลงจากพระมหาธาตุ ถึงกาดม้ง เริ่มได้กลิ่นเบรกไหม้ลอยมาๆ ถึงกับต้องรีบจอดเลยค่ะ รอผ้าเบรกเย็นก่อน พลางเดินกาดม้งไปพลาง แล้วค่อยขับต่อไปที่พักค่ะ
มื้อเย็นวันนี้ หลังจากกอกหัก ไม่ได้นอนเต็นท์บนดอย แต่ถือว่าไหนๆมาแล้ว ไม่ได้กินหมูกระทะบนเต็นท์ ขอมากินหน้าที่พักก็ได้ค่ะ บรรยากาศหน้าที่พักก็ชิลล์ๆ ค่ะ เย็นสบาย ฟินนนนนนนนนนน
ดูเมนูแล้ว จขกท สั่ง ต้มแซ่บ หมูกระทะชุดเล็ก ไข่เจียวหมูสับ ข้าวเปล่า 3 จาน บวกกับหมูที่ซื้อมาเองอีก 2 ห่อ รวมแล้วมื้อนี้ 540 บาท อิ่มล้นมากค่ะ อากาศเย็นๆแล้วกินหมูกระทะนี้คือแบบดีมาก ประทับใจมากกก
รูปอาจจะขาดหายไปบ้าง คือตอนนั้นหิวแบบ หิวมากก ซัดเรียบค่ะ จะไม่เรียบก็ตรงที่ซื้อหมูแพ็คมาเพิ่มเพราะกลัวกินไม่พอเนี่ยละค่ะ
แต่โดยรวมถือว่าเป็นมื้อที่ดีเยี่ยมค่ะ อากาศเย็นๆ บนดอย วิวสวยๆ ค่อยๆปิ้งหมูให้ฉ่าบนเตาร้อนๆ โอ้ย นึกถึงแล้วยังมีความสุขค่ะ
คืนนี้นอนสบายเลยค่ะ ที่พักเป็นน้ำอุ่นระบบแก๊ส แต่ว่าสามารถทำความเย็นได้เพียงจาก 19 เป็น 25 องศาเท่านั้น ตื่นเต้นดีค่ะ เวลากดเปิดน้ำ ก็จะได้ยินเสียง พรึ่บ แล้วตัวเลขสีแดงๆก็จะวิ่งบอกอุณหภูมิที่สามารถทำได้
รูปนี้แอบถ่ายบ้านอีกหลังนะคะ สวยจริงๆค่ะ วิวแบบนี้กับราคา 1,200 บาท ต่อ 3 คน
เช้าวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. วันนี้ตื่นมารับอากาศบริสุทธ์ สบายๆหน้าที่พักค่ะ
หลังจากแสงอาทิตย์เริ่มมาเยือน จขกท ก็เริ่มออกสำรวจที่พักรอบๆ
เริ่มเห็น รถจอดเยอะแยะ ยังนึกกับเพื่อนว่าโชคดีค่ะ ว่ายังมีบ้านพักเหลือ ถ้าเมื่อวานมาช้ากว่านี้สงสัย จะหาบ้านพักกันเหนื่อยเลยค่ะ
บ้านพักอีกแบบ อันนี้ได้แต่ส่องดูค่ะ แต่เหมือนเป็นที่พักจริงๆนะคะ ไม่ได้สอบถามราคาว่าเท่าไหร่
แอบดูดอกไม้หน้าบ้านตัวเอง ยามเช้า แหม่สีสันสวยไม่เบาค่ะ
สีสด แบบนี้เลยยย
ยังคงมีความสงสัยในระบบทำน้ำอุ่นแบบแก๊ส แอบถ่ายมาก็ห้อยข้างๆห้องน้ำแบบนี้เลยค่ะ เปิดมาก็พรึ่บๆ เบาๆค่ะ
แอบถ่ายบ้านอีกหลังตอนเช้าค่ะ แหม่ วิวดีจริงๆ
เดินเล่นได้สักระยะนึง ก็ทยอยอาบน้ำกันค่ะ แจ็คพ็อตตรงเครื่องทำน้ำอุ่นดับไปเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าแก๊ส หมดหรืออย่างไร ทำได้เพียงอาบน้ำและฟอกจุดสำคัญ T_T เราตกลงกันว่าจะสั่งอาหารเช้ากินที่นี่ไปเลย อย่าไปคาดหวังข้างหน้า กินไปให้อิ่ม แล้วเราก็ตัดสินใจไม่ผิดค่ะ มื้อนี้ 240 บาท ต้มจืด, ผัดกระเพราหมูสับ, ไข่เจียวหมูสับ
หลังจาก อิ่มท้องแล้วก็ต้องลุยล่ะค่ะ ค่อยๆขับขึ้นไปที่กิ่วแม่ปาน จะเลยพระมหาธาตุไปอีกนิดนึงนะคะ ไปถึงก็ต้องต่อคิวค่ะ คิวเนี่ยไม่นานเลยเพราะมีน้องๆไกด์ท้องถิ่นเยอะมาก ราคาต่อรอบอยู่ที่ 200 บาทค่ะ ถ้าใจดีหน่อยก็เพิ่มทิป น้องๆบอกว่า 10 เปอรฺเซ็นของรายรับจะสมทบทุนเพื่อการเรียนหนังสือของเด็กบนดอยค่ะ ไกด์ที่มากับกลุ่มเราชื่อน้องเจ แฟชั่นของน้องๆ ไกด์นี่เท่ห์ไม่เบานะคะ มีสไตล์น่าดู บางคนก็มิ๊กซ์แอนดฺแมทช์กับกางเกงม้ง ดูเข้ากันค่ะ
ก่อนขึ้นกิ่ว จะมีคำเตือนค่ะผู้ที่มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน หัวใจ หอบ ควรหลีกเลี่ยงนะคะ ถึงแม้ระยะทางจะเพียง 3 กิโลเมตร แต่ค่อนข้างสูงชันบางจุด บันไดทางเดินค่อนข้างดีค่ะ ควรถือน้ำขวดเล็กๆคอยจิบระหว่างทางด้วยนะคะ
วันที่เราไป น้องเจ บอกว่าเป็นวันที่กิ่วแม่ปานหมอกสวยที่สุดใน 13 ปี แหม่ เราก็ จริงอ๊ะป่าว พอกลับมาดูข้อมูลตอนกลับถึงบ้าน ถึงกับปลื้มเลยค่ะ จริงๆด้วยย กราบบบบบบ
* * * แอ่วเหนือ กินหมูกะทะบนดอย เดินกิ่วแม่ปาน แวะชิมอาหารที่ดงมาดาม * * *
สวัสดีค่ะ พี่ๆน้องๆ ห้องบลู ปกติแล้ว จขกท จะสิงอยู่ตามห้องต่างๆ และได้รับความรู้จากเพื่อนๆพี่ๆ มาเกือบ 10 ปีแล้ว หนาวนี้เห็นเพื่อนไปขึ้นดอย ไปกอดหมอก เห็นแล้วก็อยากจะตามรอยไปบ้าง เลยออกมาเป็นทริปฉุกละหุก เน้นกินบ้าง เที่ยวบ้าง ไม่ไหว ก็พักค่ะ ตามอายุ 3 คนร่วมทริปก็ ร้อยกว่าปี 5555 ไปตามที่ร่างกายไหวและบรรยากาศเป็นใจค่ะ
จขกท เดินทางศุกร์ที่ 16 ธ.ค. ตอนเย็นค่ะ ไปถึงก็รับรถที่สนามบิน รถที่ จขกท เช่าเป็นของ บริษัทโตโยต้าพารา ที่เชียงใหม่ค่ะ ได้เป็นรถโตโยต้า วีออส ราคา 1,000 บาทต่อวันค่ะ ที่พักของคืนแรกเป็น บ้านเส-ลาเกสท์เฮาส์ค่ะ
https://www.facebook.com/Baansayla-Guesthouse-364064897037564/?fref=ts
ห้องรกๆ หน่อยนะคะ ไปถึงก็ตั้งๆของวาง รีบหาอาหารทานเลยค่ะ
ที่พักเป็นห้อง family ค่ะ 1,340 บาท 4 ที่นอน แต่ จขกท ไปกัน 3 คนค่ะ ห้องอาบน้ำกับสุขาอยู่ในห้องแยกโซนเปียก แห้ง บรรยากาศดีค่ะ ที่พักไม่มีอาหารเช้านะคะ มีแค่กาแฟกับขนมปัง จขกท ไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดหน้าโลตัสถนนนิมมาน ทานคนละชุดค่ะระหว่างทาง
เช้าวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค. ก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ จขกท และเพื่อนๆไปไหว้สักการะหลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำก่อนค่ะ ระหว่างทางได้ซื้อพวงมาลัย ไหว้ที่รถก่อน พอเห็นพวงมาลัยแล้วประทับใจเลยค่ะ มีการใช้ใบเตยสานเป็นปลาตะเพียน ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียว แต่พอขับได้วันที่ 2-3 กลิ่นใบเตย ดีต่อใจ ดีต่อปอดมากๆค่ะ
การขอพรหลวงพ่อทันใจ ขอได้เพียงสิ่งเดียวค่ะ โดยตั้งจิตให้แน่วแน่ และหากสำเร็จแล้วจะนำดอกมะลิจำนวน 50 พวงขึ้นไปมาถวายค่ะ
หลังจากไหว้สักการะขอพร หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำแล้ว ก็มุ่งหน้าไป อ.จอมทองค่ะ ก่อนขึ้นดอยแวะทางอาหารกลางวันก่อนที่ร้านพิซซ่าต้นไม้ ก่อนไปต้องโทรถามก่อนนะคะ หลังจากสอบถามเรียบร้อยว่าร้านเปิดแน่นอน ก็บอกจำนวนค่ะว่าไป 3 ที่ จขกท ปักหมุดไปตาม maps เลยค่ะ หลักๆคือเข้าตัวอำเภอจอมทอง แล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ 500 เมตร เลี้ยวขวาซอยโกลเด้นปาล์มรีสอร์ท เข้าซอยแคบประมาณนึงอ้อมไปทางด้านหลังวัดพระธาตุจอมทอง เมนูที่สั่ง พิซซ่าฮาวาเอี้ยน , extreme sausages, สปาเก็ตตี้สเตฟาโน่ (เป็นสูตรพิเศษของร้านค่ะ) น้ำผลไม้ปั่น mixed berry, green apple, passion fruits ค่ะ
มื้อนี้นี่ อิ่มมากค่ะ พิซซ่าบางกรอบ แต่ชิ้นใหญ่มากๆ ทานเกือบไม่หมดค่ะ ไส้กรอกชีสก็มีสับปะรดแก้เลี่ยนอยู่ด้านล่างค่ะ ส่วนสปาเก็ตตี้จะออกรสไทยๆนิดนึงค่ะ
หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อย แพลนวันนี้คือจะนอนเต็นท์ที่ดอยชัวร์ญ่าค่ะ เพราะได้ยินเสียงร่ำลือว่ากลางคืนสวย มีเสียงไฟจากแปลงดอกเบญจมาศ และมีวิวน้ำตกสิริภูมิให้เห็นด้วย ถ้าได้กินหมูกระทะที่ดอยน่าจะฟินน่าดู แต่ดูจากร่างของ จขกท และเพื่อนๆแล้ว หมูกระทะชุดเดียวไม่น่าอยู่ท้อง จขกท เลยแวะไปซื้อหมู cp freshmart สาขาที่อยู่ตรงข้ามวินรถสองแถวจอมทองเลยค่ะ ได้มาเป็น สันนอก 500 กรัม และสันคอหมู อีก 500 กรัม ค่ะ
ซื้อเสร็จแล้วรีบบึ่งขึ้นดอยเลยค่ะ เพราะดูเวลาแล้วก็บ่ายกว่าๆ เดี๋ยวจะเที่ยวไม่ทัน พอขึ้นมาได้สัก 5 กิโล ก็โทรเช็คที่เบอร์ดอยชัวร์ญ่าวิวสวย เพราะดูข้อมูลมาแล้วว่า เต็นท์จะเปิดจองหลังเวลาบ่ายโมงค่ะ ..... หาสัญญาณอยู่หลายโค้ง มาเจอที่โล่งถึงโทรติด ปลายสายตอบกลับมาว่า วันนี้ปักเต็นท์ไม่ได้ เนื่องจากพื้นเปียกจากละอองฝนคือก่อนหน้านั้นค่ะ
เอาล่ะสิ ทั้งรถนั่งเงียบกริบเลยค่ะ ค่อยๆทำใจเย็นมองหน้ากันไปมา เอาไงดี หาเบอร์พี่สมศักดิ์โฮมสเตย์คนดังในเนต พี่สมศักดิ์รับสายแล้วก็แจ้งว่าที่พักเต็ม แต่พี่สมศักดิ์ก็ใจดีมากค่ะ ให้เบอร์ที่พักอื่นๆที่แกแนะนำและไว้ใจได้ พออีกที่รับได้คำตอบเดียวกันค่ะ แต่ก็ยังอุตส่าห์แนะนำที่ใหม่ให้ ช่วงจังหวะที่กำลังเลี้ยวโค้งก็มาเจอบ้านพักที่ดูสวย วิวท้องนาและภูเขาและปลายสายก็รับบอกที่พักยังว่าง โอ้ยยย แทบกรี้ดดีใจกับเพื่อนๆนึกว่าคืนนี้จะไม่มีที่พัก ที่พักชื่อ อ่างกา ฟอเรสท์ วิว เลยโค้งมานิดนึง มองป้ายด้านซ้าย อ้าววววนี่มันที่พัก ที่เพิ่งโทรหานี่นา ขอบอกงานนี้ดีใจสุดสุดเลยค่ะ
https://www.facebook.com/angkaforestview/?pnref=story
บ้านพักที่ จขกท จองชื่อบ้านกลางนา ค่ะ ราคา 1,200 บาท เตียงเป็น double bed ค่ะ พี่เจ้าของใจดีมากถึงมากที่สุด แถมฟูกที่นอนให้อีก 1 โดยไม่คิดเงินค่ะ พวกเราบอกไปว่าเรานอนได้ ห้องนี้ถึงจะเล็กแต่เราชอบที่วิวสวย และเราโชคดีที่ได้ที่พักที่นี่ เพราะคืนนี้ตอนแรกที่เราจะนอนเต็นท์กันที่ดอยชัวร์ญ่า ปักเต็นท์ไม่ได้ค่ะ
หลังจากเอาของลงที่พักเสร็จ เราขึ้นไปเที่ยวต่อที่ พระมหาธาตุ นภเมทนีดล และ พระมหาธาตุ นภพลภูมิสิริ ค่ะ
รูปอาจจะไม่ค่อยสวยนะคะ แต่ถ้าได้ไปชมเองสวยมากค่ะ ทั้งพระมหาธาตุ และสวนดอกไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี ระบบการจัดการต่างๆ วันที่ จขกท ไปคนไม่เยอะมากค่ะ
บรรยากาศวันที่ จขกท ไป หมอกลงค่อนข้างเยอะค่ะ โดยทั่วไปอากาศเย็น มีละอองฝนประปรายบ้างช่วง สำหรับการขับรถขึ้นดอยนั้น เป็นครั้งแรกของ จขกท โดยทั่วไปตอนแรกถือว่ายากค่ะ ตอนขาขึ้นไม่เท่าไร แต่ตอนลงยังกะระยะห่างระหว่างคันหน้าไม่ได้ ถึงแม้จะทดเกียร์ต่ำเพื่อให้รถลงช้าลง ถึงกับต้องเหยียบเบรกอยู่บ่อยๆ ตอนลงจากพระมหาธาตุ ถึงกาดม้ง เริ่มได้กลิ่นเบรกไหม้ลอยมาๆ ถึงกับต้องรีบจอดเลยค่ะ รอผ้าเบรกเย็นก่อน พลางเดินกาดม้งไปพลาง แล้วค่อยขับต่อไปที่พักค่ะ
มื้อเย็นวันนี้ หลังจากกอกหัก ไม่ได้นอนเต็นท์บนดอย แต่ถือว่าไหนๆมาแล้ว ไม่ได้กินหมูกระทะบนเต็นท์ ขอมากินหน้าที่พักก็ได้ค่ะ บรรยากาศหน้าที่พักก็ชิลล์ๆ ค่ะ เย็นสบาย ฟินนนนนนนนนนน
ดูเมนูแล้ว จขกท สั่ง ต้มแซ่บ หมูกระทะชุดเล็ก ไข่เจียวหมูสับ ข้าวเปล่า 3 จาน บวกกับหมูที่ซื้อมาเองอีก 2 ห่อ รวมแล้วมื้อนี้ 540 บาท อิ่มล้นมากค่ะ อากาศเย็นๆแล้วกินหมูกระทะนี้คือแบบดีมาก ประทับใจมากกก
รูปอาจจะขาดหายไปบ้าง คือตอนนั้นหิวแบบ หิวมากก ซัดเรียบค่ะ จะไม่เรียบก็ตรงที่ซื้อหมูแพ็คมาเพิ่มเพราะกลัวกินไม่พอเนี่ยละค่ะ
แต่โดยรวมถือว่าเป็นมื้อที่ดีเยี่ยมค่ะ อากาศเย็นๆ บนดอย วิวสวยๆ ค่อยๆปิ้งหมูให้ฉ่าบนเตาร้อนๆ โอ้ย นึกถึงแล้วยังมีความสุขค่ะ
คืนนี้นอนสบายเลยค่ะ ที่พักเป็นน้ำอุ่นระบบแก๊ส แต่ว่าสามารถทำความเย็นได้เพียงจาก 19 เป็น 25 องศาเท่านั้น ตื่นเต้นดีค่ะ เวลากดเปิดน้ำ ก็จะได้ยินเสียง พรึ่บ แล้วตัวเลขสีแดงๆก็จะวิ่งบอกอุณหภูมิที่สามารถทำได้
รูปนี้แอบถ่ายบ้านอีกหลังนะคะ สวยจริงๆค่ะ วิวแบบนี้กับราคา 1,200 บาท ต่อ 3 คน
เช้าวันอาทิตย์ที่ 20 ธ.ค. วันนี้ตื่นมารับอากาศบริสุทธ์ สบายๆหน้าที่พักค่ะ
หลังจากแสงอาทิตย์เริ่มมาเยือน จขกท ก็เริ่มออกสำรวจที่พักรอบๆ
เริ่มเห็น รถจอดเยอะแยะ ยังนึกกับเพื่อนว่าโชคดีค่ะ ว่ายังมีบ้านพักเหลือ ถ้าเมื่อวานมาช้ากว่านี้สงสัย จะหาบ้านพักกันเหนื่อยเลยค่ะ
บ้านพักอีกแบบ อันนี้ได้แต่ส่องดูค่ะ แต่เหมือนเป็นที่พักจริงๆนะคะ ไม่ได้สอบถามราคาว่าเท่าไหร่
แอบดูดอกไม้หน้าบ้านตัวเอง ยามเช้า แหม่สีสันสวยไม่เบาค่ะ
สีสด แบบนี้เลยยย
ยังคงมีความสงสัยในระบบทำน้ำอุ่นแบบแก๊ส แอบถ่ายมาก็ห้อยข้างๆห้องน้ำแบบนี้เลยค่ะ เปิดมาก็พรึ่บๆ เบาๆค่ะ
แอบถ่ายบ้านอีกหลังตอนเช้าค่ะ แหม่ วิวดีจริงๆ
เดินเล่นได้สักระยะนึง ก็ทยอยอาบน้ำกันค่ะ แจ็คพ็อตตรงเครื่องทำน้ำอุ่นดับไปเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าแก๊ส หมดหรืออย่างไร ทำได้เพียงอาบน้ำและฟอกจุดสำคัญ T_T เราตกลงกันว่าจะสั่งอาหารเช้ากินที่นี่ไปเลย อย่าไปคาดหวังข้างหน้า กินไปให้อิ่ม แล้วเราก็ตัดสินใจไม่ผิดค่ะ มื้อนี้ 240 บาท ต้มจืด, ผัดกระเพราหมูสับ, ไข่เจียวหมูสับ
หลังจาก อิ่มท้องแล้วก็ต้องลุยล่ะค่ะ ค่อยๆขับขึ้นไปที่กิ่วแม่ปาน จะเลยพระมหาธาตุไปอีกนิดนึงนะคะ ไปถึงก็ต้องต่อคิวค่ะ คิวเนี่ยไม่นานเลยเพราะมีน้องๆไกด์ท้องถิ่นเยอะมาก ราคาต่อรอบอยู่ที่ 200 บาทค่ะ ถ้าใจดีหน่อยก็เพิ่มทิป น้องๆบอกว่า 10 เปอรฺเซ็นของรายรับจะสมทบทุนเพื่อการเรียนหนังสือของเด็กบนดอยค่ะ ไกด์ที่มากับกลุ่มเราชื่อน้องเจ แฟชั่นของน้องๆ ไกด์นี่เท่ห์ไม่เบานะคะ มีสไตล์น่าดู บางคนก็มิ๊กซ์แอนดฺแมทช์กับกางเกงม้ง ดูเข้ากันค่ะ
ก่อนขึ้นกิ่ว จะมีคำเตือนค่ะผู้ที่มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน หัวใจ หอบ ควรหลีกเลี่ยงนะคะ ถึงแม้ระยะทางจะเพียง 3 กิโลเมตร แต่ค่อนข้างสูงชันบางจุด บันไดทางเดินค่อนข้างดีค่ะ ควรถือน้ำขวดเล็กๆคอยจิบระหว่างทางด้วยนะคะ
วันที่เราไป น้องเจ บอกว่าเป็นวันที่กิ่วแม่ปานหมอกสวยที่สุดใน 13 ปี แหม่ เราก็ จริงอ๊ะป่าว พอกลับมาดูข้อมูลตอนกลับถึงบ้าน ถึงกับปลื้มเลยค่ะ จริงๆด้วยย กราบบบบบบ