ใกล้ปลายปีแบบนี้ หลายคนก็รีบช้อปช่วยชาติกันอยู่ใช่มั้ยคะ แต่ถ้ายังคิดไม่ออกว่า ช่วงปลายปีนี้มี Gadgets อะไรน่าตื่นเต้น อุ้มขอเอา รีวิว Lenovo YOGA BOOK มาฝากกัน ต้องบอกว่าเป็น Tablet ที่ทำให้อุ้มสนุกสนานที่สุดในปี 2016 เลยทีเดียว
YOGA BOOK
สำหรับอุ้ม หากต้องการใช้งาน Tablet สักเครื่องนึง คงจะต้องเป็นอะไรที่ชัดเจนมากๆ ว่าเราจะเอามันไปทำอะไร และสุดท้าย จะต้องไม่โดนมือถือ หรือคอมพิวเตอร์จริงๆ กลบความสามารถจนไม่ได้ใช้งาน
เจ้า YOGA Book ถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีค่ะ ด้วยการเป็น Tablet แบบ 2 in 1 คือสามารถใช้งานแบบปกติก็ได้ หรือจะใช้แทนสมุดโน๊ต วาดรูป หรือจดบันทึก ก็ทำได้ทันที ซึ่งมากับ HALO Keyboard และปากกา LENOVO Real Pen โดยจะเลือกได้ 2 ระบบปฏิบัติการ คือแบบ Windows 10 (เครื่องที่อุ้มเล่นอยู่วันนี้) และ Android 6.0
TABLET หรือสมุดโน๊ต
ด้วยความที่ตัวเครื่องมีความบางมากกก หนาแค่ 9 มิลนิด และเมื่อกางออกมา จะเหลือความหนาแค่ 4.5 มิล !!! ตอนแรกก่อนได้เห็นตัวจริง ยังแอบมีคำถามในใจว่า มันก็คงจะหนักเหมือน Tablet เครื่องอื่นๆ ใช่มั้ย สรุปว่า เบาจริงๆ มีน้ำหนักแค่ 690 กรัม (ประมาณเดียวกับ iPad mini)
โดยตัวเครื่องทำจาก Magnesium ผสมกับ Aluminum เป็นสีดำดูหรูหราไฮโซ พร้อมบานพับที่หน้าตาเหมือนสายนาฬิกา ความคิดเห็นส่วนตัวคือ สวยหมด ยกเว้นบานพับ 555 แต่มันมีเหตุผลค่ะ ที่ทำให้บานพับเป็นแบบนี้
ซึ่งทาง LENOVO บอกเลยค่ะ ว่า YOGA Book เป็น Tablet ที่มีความบางและเบาที่สุดในโลก เพราะมี Keyboard ติดมากับตัวเครื่องเลย ไม่จำเป็นต้องซื้อแยกให้ยุ่งยากอีก ส่วนหน้าจอ จะมีขนาด 10.1 นิ้ว เป็น Full HD Display มีความละเอียดของหน้าจอ 224 ppi อาจจะละเอียดน้อยไปนิดนึง
หมุนได้ 360 องศา
การออกแบบบานพับของ YOGA BOOK เป็นอีก 1 สิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเราสามารถหมุนได้ครบรอบ 360 องศาดังนี้
- วางตั้งแบบปกติ เพื่อพิมพ์งาน หรือจดบันทึก
- กางแบนราบ 180 องศา เพื่อเขียนในแนวตั้ง หรือลอกลาย
- หมุนไปด้านหลังเป็นทรงปฏิทิน เพื่อตั้งดูหนัง หรือวิดีโอ
- พับไปด้านหลัง ให้กลายเป็นทรง Tablet เพื่อเล่นเว็บ หรืออ่านหนังสือ
เท่าที่อุ้มหมุนไปหมุนมาอยู่หลายรอบ ตัวบานพับออกแบบมาให้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่มีความรู้สึกติดหรือขัด ที่สำคัญคือ หมุนไปหมุนมา ก็ยังแน่นอยู่ ไม่หลวมให้น่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมารึเปล่า 555
สมุดโน็ตอิเล็กทรอนิกส์
สิ่งที่อุ้มจำเป็นจะต้องพิจารณาในหัวข้อนี้ คงไม่พ้นการจดบันทึก และนำไปใช้เพื่อ Lecture หรือนำไปใช้ทำงานจริงๆ โดยจะแบ่งการจดออกเป็น 3 รูปแบบ
Lenovo Real Pen
ก่อนจะไปถึงการจด อีกสิ่งนึงที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ปากกา เจ้าปากกา Real Pen จะมีขนาดและหน้าตา เหมือนๆกับปากกาทั่วไป มีหัวที่แหลมพอสมควร โดยสามารถใช้งานได้ทั้ง การเป็นปากกา Stylus และเปลี่ยนไส้เป็นปากกาจริงๆ มีวิธีง่ายๆดังนี้
- ถอดปลอกปากกาออกมา จะมีรูอยู่ด้านบน
- ใช้รูนี้จิ้มเอาไปที่ไส้ปากกาอันเดิม
- เอียงนิดนึง แล้วดึงออกมาเบาๆ
- เอาไส้ปากกาอันใหม่ เสียบเข้าแทน
- เท่านี้ก็พร้อมที่จะเขียนได้ทั้ง 3 รูปแบบแล้วค่ะ
เขียนบน Create Pad (บน Keyboard นั่นแหละ)
ถ้าอธิบายง่ายๆ YOGA Book จะมีหน้าจอ Touch Screen 2 จอ จอแรกคือจอคอมพิวเตอร์ เหมือนที่อุ้มเล่าไปด้านบน ส่วนอีกจอนึง จะสามารถทำได้ 2 ฟังก์ชั่น คือ เป็น Keyboard แบบสัมผัส และเมื่อกดที่รูปปากกามุมขวาบน Keyboard จะหายไป กลายเป็นที่ว่างๆ ให้เราใช้เขียน หรือวาดภาพแทน
ทีนี้เราก็สามารถใช้ปากกา Real Pen ที่เป็นหัว Stylus ปกติ ในการจดบันทึก หรือวาดภาพเข้าไปในตัวเครื่องได้เลยทันที โดยเขียนบนพื้นที่สีดำ ที่เคยเป็น Keyboard เมื่อตะกี้ โดยวางอุ้งมือลงไปได้เลยนะคะ
โดยรวม อุ้มชอบที่หัวปากกามีขนาดเล็ก และเขียนได้รวดเร็วว่องไว ไม่มีการหน่วงที่เกิดจากการเขียนเร็วๆ และเขียนได้ถนัดกว่าการเขียนลงไปบนหน้าจอเลย เพราะมือเราไม่บังส่วนที่เหลือ และเห็นภาพรวมได้ทั้งหมด เวลาเอา Real Pen จ่อที่ฝั่ง Keyboard ที่ฝั่งหน้าจอ ก็จะมีจุด cursor เล็กๆ ทำให้รู้ตำแหน่งการเขียนได้โดยง่าย
เขียนบนสมุด (โดยใช้หัวแบบ Stylus)
ความสามารถพิเศษที่ตื่นเต้นมากๆ คือการเขียนทะลุกระดาษค่ะ เพราะเราสามารถเอา YOGA Book Pad หรือสมุกโน๊ตที่แถมมาในกล่อง วางตรงกลาง (จะมีแม่เหล็กดูดเอาไว้) และใช้ Real Pen เขียนได้เลย
เอาจริงๆ การเขียน หรือวาดภาพบนกระดาษ จะทำให้เราจดได้เร็วและถนัดมือมากขึ้น เพราะนอกจากความคุ้นเคยแล้ว มันจะไม่ค่อยมีแรงต้านจากการเขียนอีกด้วย โดยเราเขียนทะลุกระดาษได้หนาสูงสุด 1.5 ซม.ตรงนี้มีประโยชน์ต่อการนำไปลอกลาย หรือเอาพวกตัวการ์ตูนมาวาง และวาดตามอีกด้วยค่ะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเขียนบน Book Pad ที่แถมมาอย่างดียวนะคะ เอากระดาษสมุดปกติมาวางเขียนได้เลยค่า
เขียนบนสมุด (โดยใช้ไส้ปากกาจริง)
อันนี้คืออันที่ได้ใช้งานจริงแล้วชอบสุด ทุกอย่างเหมือนหัวข้อที่แล้วเลยค่ะ ต่างกันที่พอเราเปลี่ยนมาใช้ไส้ปากกาจริงแล้ว ก็เขียนลงไปบน Book Pad ได้เลยจริงๆ โดยทุกอย่างที่เราเขียน จะถูกบันทึกเข้าไปใน Yoga Book ด้วย แบบนี้เราก็จดครั้งเดียว ได้งานทั้ง 2 รูปแบบเลยค่ะ
ลายมือ และขนาดตัวหนังสือบนจอจริงๆ กับบนกระดาษ เรียกว่าเหมือนกันเป๊ะ เขียนตัวเล็กๆ ก็ยังแสดงผลออกมาได้ดี ดีพอๆกับการเขียนบนกระดาษปกติ (จริงๆก็เขียนบนกระดาษปกตินิเนาะ 555)
HALO Keyboard
นอกจากการเขียนแล้ว อีกเทคโนโลยีที่ใส่มากับ YOGA Book คงไม่พ้นเรื่อง Keyboard แบบสัมผัส หรือ HALO Keyboard นี่เอง โดยหากเราอยู่ในโหมดการเขียน ให้กดที่รูปปากกาอีก 1 ครั้ง ตัว Keyboard จะเปล่งแสงออกมา อย่างเท่
ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าไม่มี Keyboard แบบ ภาษาไทย ถ้าคนพิมพ์แบบไม่ดูอยู่แล้ว ก็สบายค่ะ ส่วนอุ้ม พิมพ์แบบดูบ้างไม่ดูบ้าง นี่ก็ยากเลยทีเดียว ซึ่งการสัมผัส สามารถทำได้ดีกว่าการพิมพ์บน On Screen Keyboard เพราะทุกครั้งที่เราวางนิ้วลงไป ตัวเครื่องจะตอบสนองด้วยการสั่นเบาๆ มีเสียงเล็กๆ และการจัดวางตัวหนังสือ ที่รู้สึกถนัดมือกว่า
เป็นมากกว่า Tablet ทั่วๆไป
คุณสมบัติสำคัญ ที่ทำให้โดดเด่นอีกอย่าง คือการที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มาพร้อมกับ Book UI ทำให้เปิดหลายๆหน้าจอ ได้ในเวลาเดียวกัน และยังลงโปรแกรมต่างๆที่เราต้องการ ได้เองอย่างอิสระ โดย Yoga Book จะมาพร้อมกับ Microsoft Office ทั้ง Word / Excel / PowerPoint มาให้ด้วย ไม่ต้องลงเพิ่มนะคะ
โดยจะใช้ CPU Intel Atom x5-Z8550 (2M Cache, Quad-Core, Up to 2.4 GHz) ให้แรมมา 4GB มีความจุในตัวเครื่อง 64GB และใส่ SD Card เพิ่มได้ จุดเด่นอีกอย่างคือ ใส่ซิมได้ด้วยนะคะ เป็น Portable Device จริงๆ
ตัวนี้มีกล้อง ทั้งกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งเราใช้กล้องในการเป็น Webcam ได้เลย
และยังใส่ลำโพงแบบ Dolby Atmos ดังกระหึ่ม ยิ่งเวลาหมุนมาเป็นทรงปฏิทิน ดูพวกคอนเสิร์ตเริ่ดเลย เพราะลำโพงเสียงดี และยังตั้งได้ โดยไม่ต้องใส่เคสได้หนาเตอะ
ถ้าถามเรื่องการเชื่อมต่อ เจ้าตัวนี้จะมีช่อง Micro USB ให้ 1 ช่อง Micro HDMI 1 ช่อง รูเสียบหูฟัง 3.5 มม.ยังมีมา และที่ใส่ SD Card รวมถึงถาดซิม เอาเป็นว่าก็ครบครันอยู่
โดยใส่แบตเตอรี่ก้อนใหญ่สุดๆ มาให้ถึง 8,500 mAh ชาร์จเต็มครั้งนึง ก็อยู่ได้เกือบ 15 ชม.เอาเป็นว่าเกิน 10 ชม.ก็ดีใจแล้วค่ะ
SUMMARY
หลังจากห่างหายการรีวิว Tablet ไปช่วงนึง เนื่องจากไม่รู้จะเล่นตัวไหนดี เจ้า Yoga Book ก็มาสร้างความสนุก และรู้สึกถึงประโยชน์ที่ Tablet เรื่องอื่นๆ ควรจะทำนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
- การเขียนทะลุกระดาษ
- เปลี่ยนไส้ปากกาเป็นหมึกจริงได้
- ทำตัวเครื่องให้บางเบากว่าเดิม และปรับหมุนได้ 360 องศา
- การใช้ Halo Keyboard ซึ่งมีการจัดวางตัวหนังสือ ให้พิมพ์ง่ายกว่า On Screen Keyboard
- ใส่พวก Microsoft Office มาเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
- ใส่ลำโพง Dolby Atmos มาให้เสียงกระหึ่ม
- ใส่แบตมาเยอะๆ 8,500 mAh ไม่ต้องกั๊ก
เพียงเท่านี้ก็ทำให้ Yoga Book เป็น Tablet อีกเครื่องนึง ที่อยากจะเอาไว้เล่นยาวๆ เพราะพอเอาใช้งานจริงๆ ค่อนข้างมีความเหมาะกับ Lifestyle ของอุ้มมาก ติดอยู่ 3 อย่างคือ
- ตัว Keyboard ดันไม่มีภาษาไทยแสดง (แต่พิมพ์ไทยได้นะคะ)
- เล่นไปเล่นมา อาจมีจังหวะหน่วงอยู่เบาๆ
- หน้าจอ ถ้าแจ่มกว่านี้จะดีมากๆ
วันนี้ อุ้มก็ขอฝาก รีวิว LENOVO Yoga Book ซึ่งเป็นมากกว่าแท็บเล็ตสำหรับอุ้ม ไว้ประมาณนี้ สามารถซื้อแบบตัว Windows 10 ได้ที่ราคา 24,900 บาท และแบบ Android ได้ที่ 19,990 บาท ขอบคุณมากค่า
[SR] :+: รีวิว Lenovo YOGA BOOK :+: อย่าเรียกว่า Tablet ให้เรียกว่าสมุดโน๊ต
ใกล้ปลายปีแบบนี้ หลายคนก็รีบช้อปช่วยชาติกันอยู่ใช่มั้ยคะ แต่ถ้ายังคิดไม่ออกว่า ช่วงปลายปีนี้มี Gadgets อะไรน่าตื่นเต้น อุ้มขอเอา รีวิว Lenovo YOGA BOOK มาฝากกัน ต้องบอกว่าเป็น Tablet ที่ทำให้อุ้มสนุกสนานที่สุดในปี 2016 เลยทีเดียว
YOGA BOOK
สำหรับอุ้ม หากต้องการใช้งาน Tablet สักเครื่องนึง คงจะต้องเป็นอะไรที่ชัดเจนมากๆ ว่าเราจะเอามันไปทำอะไร และสุดท้าย จะต้องไม่โดนมือถือ หรือคอมพิวเตอร์จริงๆ กลบความสามารถจนไม่ได้ใช้งาน
เจ้า YOGA Book ถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีค่ะ ด้วยการเป็น Tablet แบบ 2 in 1 คือสามารถใช้งานแบบปกติก็ได้ หรือจะใช้แทนสมุดโน๊ต วาดรูป หรือจดบันทึก ก็ทำได้ทันที ซึ่งมากับ HALO Keyboard และปากกา LENOVO Real Pen โดยจะเลือกได้ 2 ระบบปฏิบัติการ คือแบบ Windows 10 (เครื่องที่อุ้มเล่นอยู่วันนี้) และ Android 6.0
TABLET หรือสมุดโน๊ต
ด้วยความที่ตัวเครื่องมีความบางมากกก หนาแค่ 9 มิลนิด และเมื่อกางออกมา จะเหลือความหนาแค่ 4.5 มิล !!! ตอนแรกก่อนได้เห็นตัวจริง ยังแอบมีคำถามในใจว่า มันก็คงจะหนักเหมือน Tablet เครื่องอื่นๆ ใช่มั้ย สรุปว่า เบาจริงๆ มีน้ำหนักแค่ 690 กรัม (ประมาณเดียวกับ iPad mini)
โดยตัวเครื่องทำจาก Magnesium ผสมกับ Aluminum เป็นสีดำดูหรูหราไฮโซ พร้อมบานพับที่หน้าตาเหมือนสายนาฬิกา ความคิดเห็นส่วนตัวคือ สวยหมด ยกเว้นบานพับ 555 แต่มันมีเหตุผลค่ะ ที่ทำให้บานพับเป็นแบบนี้
ซึ่งทาง LENOVO บอกเลยค่ะ ว่า YOGA Book เป็น Tablet ที่มีความบางและเบาที่สุดในโลก เพราะมี Keyboard ติดมากับตัวเครื่องเลย ไม่จำเป็นต้องซื้อแยกให้ยุ่งยากอีก ส่วนหน้าจอ จะมีขนาด 10.1 นิ้ว เป็น Full HD Display มีความละเอียดของหน้าจอ 224 ppi อาจจะละเอียดน้อยไปนิดนึง
หมุนได้ 360 องศา
การออกแบบบานพับของ YOGA BOOK เป็นอีก 1 สิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเราสามารถหมุนได้ครบรอบ 360 องศาดังนี้
- วางตั้งแบบปกติ เพื่อพิมพ์งาน หรือจดบันทึก
- กางแบนราบ 180 องศา เพื่อเขียนในแนวตั้ง หรือลอกลาย
- หมุนไปด้านหลังเป็นทรงปฏิทิน เพื่อตั้งดูหนัง หรือวิดีโอ
- พับไปด้านหลัง ให้กลายเป็นทรง Tablet เพื่อเล่นเว็บ หรืออ่านหนังสือ
เท่าที่อุ้มหมุนไปหมุนมาอยู่หลายรอบ ตัวบานพับออกแบบมาให้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่มีความรู้สึกติดหรือขัด ที่สำคัญคือ หมุนไปหมุนมา ก็ยังแน่นอยู่ ไม่หลวมให้น่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมารึเปล่า 555
สมุดโน็ตอิเล็กทรอนิกส์
สิ่งที่อุ้มจำเป็นจะต้องพิจารณาในหัวข้อนี้ คงไม่พ้นการจดบันทึก และนำไปใช้เพื่อ Lecture หรือนำไปใช้ทำงานจริงๆ โดยจะแบ่งการจดออกเป็น 3 รูปแบบ
Lenovo Real Pen
ก่อนจะไปถึงการจด อีกสิ่งนึงที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ปากกา เจ้าปากกา Real Pen จะมีขนาดและหน้าตา เหมือนๆกับปากกาทั่วไป มีหัวที่แหลมพอสมควร โดยสามารถใช้งานได้ทั้ง การเป็นปากกา Stylus และเปลี่ยนไส้เป็นปากกาจริงๆ มีวิธีง่ายๆดังนี้
- ถอดปลอกปากกาออกมา จะมีรูอยู่ด้านบน
- ใช้รูนี้จิ้มเอาไปที่ไส้ปากกาอันเดิม
- เอียงนิดนึง แล้วดึงออกมาเบาๆ
- เอาไส้ปากกาอันใหม่ เสียบเข้าแทน
- เท่านี้ก็พร้อมที่จะเขียนได้ทั้ง 3 รูปแบบแล้วค่ะ
เขียนบน Create Pad (บน Keyboard นั่นแหละ)
ถ้าอธิบายง่ายๆ YOGA Book จะมีหน้าจอ Touch Screen 2 จอ จอแรกคือจอคอมพิวเตอร์ เหมือนที่อุ้มเล่าไปด้านบน ส่วนอีกจอนึง จะสามารถทำได้ 2 ฟังก์ชั่น คือ เป็น Keyboard แบบสัมผัส และเมื่อกดที่รูปปากกามุมขวาบน Keyboard จะหายไป กลายเป็นที่ว่างๆ ให้เราใช้เขียน หรือวาดภาพแทน
ทีนี้เราก็สามารถใช้ปากกา Real Pen ที่เป็นหัว Stylus ปกติ ในการจดบันทึก หรือวาดภาพเข้าไปในตัวเครื่องได้เลยทันที โดยเขียนบนพื้นที่สีดำ ที่เคยเป็น Keyboard เมื่อตะกี้ โดยวางอุ้งมือลงไปได้เลยนะคะ
โดยรวม อุ้มชอบที่หัวปากกามีขนาดเล็ก และเขียนได้รวดเร็วว่องไว ไม่มีการหน่วงที่เกิดจากการเขียนเร็วๆ และเขียนได้ถนัดกว่าการเขียนลงไปบนหน้าจอเลย เพราะมือเราไม่บังส่วนที่เหลือ และเห็นภาพรวมได้ทั้งหมด เวลาเอา Real Pen จ่อที่ฝั่ง Keyboard ที่ฝั่งหน้าจอ ก็จะมีจุด cursor เล็กๆ ทำให้รู้ตำแหน่งการเขียนได้โดยง่าย
เขียนบนสมุด (โดยใช้หัวแบบ Stylus)
ความสามารถพิเศษที่ตื่นเต้นมากๆ คือการเขียนทะลุกระดาษค่ะ เพราะเราสามารถเอา YOGA Book Pad หรือสมุกโน๊ตที่แถมมาในกล่อง วางตรงกลาง (จะมีแม่เหล็กดูดเอาไว้) และใช้ Real Pen เขียนได้เลย
เอาจริงๆ การเขียน หรือวาดภาพบนกระดาษ จะทำให้เราจดได้เร็วและถนัดมือมากขึ้น เพราะนอกจากความคุ้นเคยแล้ว มันจะไม่ค่อยมีแรงต้านจากการเขียนอีกด้วย โดยเราเขียนทะลุกระดาษได้หนาสูงสุด 1.5 ซม.ตรงนี้มีประโยชน์ต่อการนำไปลอกลาย หรือเอาพวกตัวการ์ตูนมาวาง และวาดตามอีกด้วยค่ะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเขียนบน Book Pad ที่แถมมาอย่างดียวนะคะ เอากระดาษสมุดปกติมาวางเขียนได้เลยค่า
เขียนบนสมุด (โดยใช้ไส้ปากกาจริง)
อันนี้คืออันที่ได้ใช้งานจริงแล้วชอบสุด ทุกอย่างเหมือนหัวข้อที่แล้วเลยค่ะ ต่างกันที่พอเราเปลี่ยนมาใช้ไส้ปากกาจริงแล้ว ก็เขียนลงไปบน Book Pad ได้เลยจริงๆ โดยทุกอย่างที่เราเขียน จะถูกบันทึกเข้าไปใน Yoga Book ด้วย แบบนี้เราก็จดครั้งเดียว ได้งานทั้ง 2 รูปแบบเลยค่ะ
ลายมือ และขนาดตัวหนังสือบนจอจริงๆ กับบนกระดาษ เรียกว่าเหมือนกันเป๊ะ เขียนตัวเล็กๆ ก็ยังแสดงผลออกมาได้ดี ดีพอๆกับการเขียนบนกระดาษปกติ (จริงๆก็เขียนบนกระดาษปกตินิเนาะ 555)
HALO Keyboard
นอกจากการเขียนแล้ว อีกเทคโนโลยีที่ใส่มากับ YOGA Book คงไม่พ้นเรื่อง Keyboard แบบสัมผัส หรือ HALO Keyboard นี่เอง โดยหากเราอยู่ในโหมดการเขียน ให้กดที่รูปปากกาอีก 1 ครั้ง ตัว Keyboard จะเปล่งแสงออกมา อย่างเท่
ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าไม่มี Keyboard แบบ ภาษาไทย ถ้าคนพิมพ์แบบไม่ดูอยู่แล้ว ก็สบายค่ะ ส่วนอุ้ม พิมพ์แบบดูบ้างไม่ดูบ้าง นี่ก็ยากเลยทีเดียว ซึ่งการสัมผัส สามารถทำได้ดีกว่าการพิมพ์บน On Screen Keyboard เพราะทุกครั้งที่เราวางนิ้วลงไป ตัวเครื่องจะตอบสนองด้วยการสั่นเบาๆ มีเสียงเล็กๆ และการจัดวางตัวหนังสือ ที่รู้สึกถนัดมือกว่า
เป็นมากกว่า Tablet ทั่วๆไป
คุณสมบัติสำคัญ ที่ทำให้โดดเด่นอีกอย่าง คือการที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มาพร้อมกับ Book UI ทำให้เปิดหลายๆหน้าจอ ได้ในเวลาเดียวกัน และยังลงโปรแกรมต่างๆที่เราต้องการ ได้เองอย่างอิสระ โดย Yoga Book จะมาพร้อมกับ Microsoft Office ทั้ง Word / Excel / PowerPoint มาให้ด้วย ไม่ต้องลงเพิ่มนะคะ
โดยจะใช้ CPU Intel Atom x5-Z8550 (2M Cache, Quad-Core, Up to 2.4 GHz) ให้แรมมา 4GB มีความจุในตัวเครื่อง 64GB และใส่ SD Card เพิ่มได้ จุดเด่นอีกอย่างคือ ใส่ซิมได้ด้วยนะคะ เป็น Portable Device จริงๆ
ตัวนี้มีกล้อง ทั้งกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งเราใช้กล้องในการเป็น Webcam ได้เลย
และยังใส่ลำโพงแบบ Dolby Atmos ดังกระหึ่ม ยิ่งเวลาหมุนมาเป็นทรงปฏิทิน ดูพวกคอนเสิร์ตเริ่ดเลย เพราะลำโพงเสียงดี และยังตั้งได้ โดยไม่ต้องใส่เคสได้หนาเตอะ
ถ้าถามเรื่องการเชื่อมต่อ เจ้าตัวนี้จะมีช่อง Micro USB ให้ 1 ช่อง Micro HDMI 1 ช่อง รูเสียบหูฟัง 3.5 มม.ยังมีมา และที่ใส่ SD Card รวมถึงถาดซิม เอาเป็นว่าก็ครบครันอยู่
โดยใส่แบตเตอรี่ก้อนใหญ่สุดๆ มาให้ถึง 8,500 mAh ชาร์จเต็มครั้งนึง ก็อยู่ได้เกือบ 15 ชม.เอาเป็นว่าเกิน 10 ชม.ก็ดีใจแล้วค่ะ
SUMMARY
หลังจากห่างหายการรีวิว Tablet ไปช่วงนึง เนื่องจากไม่รู้จะเล่นตัวไหนดี เจ้า Yoga Book ก็มาสร้างความสนุก และรู้สึกถึงประโยชน์ที่ Tablet เรื่องอื่นๆ ควรจะทำนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
- การเขียนทะลุกระดาษ
- เปลี่ยนไส้ปากกาเป็นหมึกจริงได้
- ทำตัวเครื่องให้บางเบากว่าเดิม และปรับหมุนได้ 360 องศา
- การใช้ Halo Keyboard ซึ่งมีการจัดวางตัวหนังสือ ให้พิมพ์ง่ายกว่า On Screen Keyboard
- ใส่พวก Microsoft Office มาเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
- ใส่ลำโพง Dolby Atmos มาให้เสียงกระหึ่ม
- ใส่แบตมาเยอะๆ 8,500 mAh ไม่ต้องกั๊ก
เพียงเท่านี้ก็ทำให้ Yoga Book เป็น Tablet อีกเครื่องนึง ที่อยากจะเอาไว้เล่นยาวๆ เพราะพอเอาใช้งานจริงๆ ค่อนข้างมีความเหมาะกับ Lifestyle ของอุ้มมาก ติดอยู่ 3 อย่างคือ
- ตัว Keyboard ดันไม่มีภาษาไทยแสดง (แต่พิมพ์ไทยได้นะคะ)
- เล่นไปเล่นมา อาจมีจังหวะหน่วงอยู่เบาๆ
- หน้าจอ ถ้าแจ่มกว่านี้จะดีมากๆ
วันนี้ อุ้มก็ขอฝาก รีวิว LENOVO Yoga Book ซึ่งเป็นมากกว่าแท็บเล็ตสำหรับอุ้ม ไว้ประมาณนี้ สามารถซื้อแบบตัว Windows 10 ได้ที่ราคา 24,900 บาท และแบบ Android ได้ที่ 19,990 บาท ขอบคุณมากค่า