ตอนแรกก็ยังลังเลอยู่ครับว่าจะตั้งกระทู้ดีหรือไม่ แต่ก็คิดว่าเผื่อเป็นประโยช์ต่อเพื่อนสมาชิกบ้างไม่มากก็น้อย หรืออีกนัยหนึ่งผมอาจจะได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากเพื่อนสมาชิกกลับมาก็เป็นได้
เริ่มต้นจากเมื่อหลายวันก่อนผมได้ซื้อปริ๊นเตอร์ Epson L565 มาใชังาน จากการใช้งานครั้งแรกก็เจอปัญหาเลยคือสั่งปริ๊นงานด้วยกระดาษ glossy photo 230 Gsm ยี่ห้อ Hi-jet (กระดาษผิวมัน) แล้วปรากฎว่างานที่ออกมาเกิดรอยขีดยาว+รอยล้อลูกกลิ้งยาวตลอดแนวกระดาษ
สอบถามทางพนักงานขายเค้าบอกว่าเราต้องเปลี่ยน ยี่ห้อกระดาษที่สามารถใช้งานกับเจ้า Epson L565 ได้โดยจะเป็นของยี่ห้อใดก็ได้หรือถ้าอยากใช้ของ Hi-jet แบบเดิมก็ต้องใช้เป็นรุ่นที่หนาขึ้นมาอีก ตั้งแต่ 250-270 Gsm ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อลองนำกระดาษยี่ห้ออื่นที่ทางพนักงานขายได้นำมาทดลองปริ๊นให้ดู โดยมีขนาด 230 Gsm(หรือเปล่า) ผมไม่ได้สังเกตว่า 230 แกรมจริงหรือไม่ แต่ก็ปรากฎว่างานออกมา ไม่มีรอยขีดข่วนใดๆเลยแม้แต่น้อยเสียตรงแค่ว่าสีสันของภาพที่ได้จากกระดาษดังกล่าวมันซีดเหลืองไม่สดใสเหมือนกับคุณภาพงานที่ออกมาจากกระดาษของแบรนด์ Hi-jet สรุปง่ายๆคือเปลี่ยนยี่ห้อกระดาษแล้วปัญหารอยขีดข่วนดูจะจบไปแต่สีสันที่ได้ไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควรครับ และจากนั้นผมได้ทดลองไปซื้อกระดาษ 270 แกรม ของยี่ห้อ Hi-jet มาทดสอบปริ๊นดูผลงานออกมาก็ไม่มีรอยขีดใดๆเลยสรุปว่า ใช้กระดาษยี่ห้อเดิมได้แต่ให้หนาขึ้นปัญหารอยขีดข่วนก็จะจบไป อ่านมาถึงตรงนี้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ใช่มั้ยครับแค่เปลี่ยนกระดาษก็จบ แต่ปัญหามันมีก็ตรงที่ กระดาษ Grossy Photo 270 Gsm ของ Hi-jet มันราคาสูงมากและได้จำนวนแค่50แผ่นในราคา500กว่าบาท
สำหรับคนที่จะซื้อเครื่องปริ๊นมาใช้เพื่อรับงานลูกค้าจะต้องแบกรับต้นทุนตรงนี้ไปเต็มๆครับ สำหรับท่านที่กำลังเล็งเจ้า Epson L565 นี้อยู่ก็อยากให้พิจารณาดูให้ดีอีกทีว่ามันใช้กับกระดาษแบรนด์ใดรุ่นใดได้บ้าง ในพื้นที่ที่ๆท่านอยู่นั้นสามารถหาซื้อกระดาษรุ่นที่ใช้กับเครื่องนี้ได้ง่ายหรือไม่เพราะทั้งหมดนี้มันคือต้นทุนที่เราต้องแบกรับครับ ถ้ารับได้ถ้าลงตัวกับลักษณะการใช้งานของท่านก็ไม่มีปัญหาครับซื้อไปเถอะ เพราะข้อดีหรือจุดเด่นของเจ้า Epson L565 นี้คือ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันทั้งแฟ็ก ,ไวไฟ,อิงค์แทงค์ โรงงานติดมาให้พร้อม ,แอปพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานจากสมาร์ทโฟนและคุณภาพงานที่ออกมาค่อนข้างละเอียดสวยงาม ตรงนี้เป็นจุดที่ผมยอมรับในความสามารถของมัน ซึ่งรวมทุกอย่างนี้ในราคา 8,xxx ถือว่าคุ้ม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องผมนี่รับไม่ได้จริงๆครับงานออกมาเกิดมีรอยล้อยังกับรอยรถไถ แบรนด์อื่นมีปัญหาแบบนี้บ้างหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ ผมใช้ปริ๊นเตอร์ของแบรนด์นี้มาตลอดตั้งแต่ ME 32 แล้ว แต่ต่อไปอาจต้องเผื่อใจไปคบกับแบรนด์อื่นดูบ้างครับ
สุดท้ายนี้ผมยังอดค้างคาใจไม่ได้ว่าเจ้า Epson L565 นี้มันจะมีปัญหาแบบนี้ทุกเครื่องเลยหรือเปล่า ใจผมอยากขอความช่วยเหลือสำหรับท่านที่ใช้รุ่นนี้อยู่ให้ช่วยลองทดสอบปริ๊นงานจากกระดาษ Grossy Photo 230 Gsm ของ Hi-jet หรือยี่ห้ออื่นๆออกมาดูเปรียบเทียบกับของผมว่าจะเกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่ จะได้ฟันธงเลยว่าแบรนด์นี้รุ่นนี้มันเป็นปัญหาแบบนี้จริงหรือแค่เครื่องของผมมันป่วยเอง (ผมลืมบอกอีกนิดว่าได้ลองปริ๊นกับกระดาษPhotoแบรนด์อื่นขนาด 180 Gsm ก็เกิดรอยเหมือนกันครับ) และผมเหลือระยะเคลมเครื่องอีกแค่2วันก่อนประกัน7วันจะหมดลงครับ
และขออกตัวนะครับว่าผมไม่ได้มีความรู้เรื่องปริ๊นเตอร์อะไรมากมายทุกอย่างออกมาจากความรู้สึกที่เกิดจากการใช้งานจริงหากมีอะไรผิดพลาดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และยินดีรับคำชี้แนะจากทุกท่านครับ ผมเองไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับใครทั้งสิ้นทุกอย่างออกมาจากใจครับ
ปล.ผมขอชื่นชมพนักงานญิงร้าน J.I.B สาขา เซียร์รังสิตทั้งสองท่านที่ช่วยแนะนำตลอดจนช่วยแก้ผัญหาต่างๆ โดยเฉพาะพนักงานหญิงท่านที่อยู่กับผมตลอดที่พาไปซื้อกระดาษและดูแลผมตั้งแต่ต้นจนจบและยังอาสาจะช่วยยกของไปส่งผมที่รถแต่ผมปฎิเสธไปเพราะสงสารครับ พนักงานญิงคนนี้ใจเย็นพูดเพราะมีไหวพริบและดูเป็นคนจริงใจมาก หน่วยงานใดได้เธอร่วมทีมถือว่าโชคดีมากครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ปริ๊นเตอร์ Epson L565 ใครเล็งตัวนี้อยู่เข้ามาอ่านก่อนนะครับ
เริ่มต้นจากเมื่อหลายวันก่อนผมได้ซื้อปริ๊นเตอร์ Epson L565 มาใชังาน จากการใช้งานครั้งแรกก็เจอปัญหาเลยคือสั่งปริ๊นงานด้วยกระดาษ glossy photo 230 Gsm ยี่ห้อ Hi-jet (กระดาษผิวมัน) แล้วปรากฎว่างานที่ออกมาเกิดรอยขีดยาว+รอยล้อลูกกลิ้งยาวตลอดแนวกระดาษ
สอบถามทางพนักงานขายเค้าบอกว่าเราต้องเปลี่ยน ยี่ห้อกระดาษที่สามารถใช้งานกับเจ้า Epson L565 ได้โดยจะเป็นของยี่ห้อใดก็ได้หรือถ้าอยากใช้ของ Hi-jet แบบเดิมก็ต้องใช้เป็นรุ่นที่หนาขึ้นมาอีก ตั้งแต่ 250-270 Gsm ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อลองนำกระดาษยี่ห้ออื่นที่ทางพนักงานขายได้นำมาทดลองปริ๊นให้ดู โดยมีขนาด 230 Gsm(หรือเปล่า) ผมไม่ได้สังเกตว่า 230 แกรมจริงหรือไม่ แต่ก็ปรากฎว่างานออกมา ไม่มีรอยขีดข่วนใดๆเลยแม้แต่น้อยเสียตรงแค่ว่าสีสันของภาพที่ได้จากกระดาษดังกล่าวมันซีดเหลืองไม่สดใสเหมือนกับคุณภาพงานที่ออกมาจากกระดาษของแบรนด์ Hi-jet สรุปง่ายๆคือเปลี่ยนยี่ห้อกระดาษแล้วปัญหารอยขีดข่วนดูจะจบไปแต่สีสันที่ได้ไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควรครับ และจากนั้นผมได้ทดลองไปซื้อกระดาษ 270 แกรม ของยี่ห้อ Hi-jet มาทดสอบปริ๊นดูผลงานออกมาก็ไม่มีรอยขีดใดๆเลยสรุปว่า ใช้กระดาษยี่ห้อเดิมได้แต่ให้หนาขึ้นปัญหารอยขีดข่วนก็จะจบไป อ่านมาถึงตรงนี้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ใช่มั้ยครับแค่เปลี่ยนกระดาษก็จบ แต่ปัญหามันมีก็ตรงที่ กระดาษ Grossy Photo 270 Gsm ของ Hi-jet มันราคาสูงมากและได้จำนวนแค่50แผ่นในราคา500กว่าบาท
สำหรับคนที่จะซื้อเครื่องปริ๊นมาใช้เพื่อรับงานลูกค้าจะต้องแบกรับต้นทุนตรงนี้ไปเต็มๆครับ สำหรับท่านที่กำลังเล็งเจ้า Epson L565 นี้อยู่ก็อยากให้พิจารณาดูให้ดีอีกทีว่ามันใช้กับกระดาษแบรนด์ใดรุ่นใดได้บ้าง ในพื้นที่ที่ๆท่านอยู่นั้นสามารถหาซื้อกระดาษรุ่นที่ใช้กับเครื่องนี้ได้ง่ายหรือไม่เพราะทั้งหมดนี้มันคือต้นทุนที่เราต้องแบกรับครับ ถ้ารับได้ถ้าลงตัวกับลักษณะการใช้งานของท่านก็ไม่มีปัญหาครับซื้อไปเถอะ เพราะข้อดีหรือจุดเด่นของเจ้า Epson L565 นี้คือ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันทั้งแฟ็ก ,ไวไฟ,อิงค์แทงค์ โรงงานติดมาให้พร้อม ,แอปพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานจากสมาร์ทโฟนและคุณภาพงานที่ออกมาค่อนข้างละเอียดสวยงาม ตรงนี้เป็นจุดที่ผมยอมรับในความสามารถของมัน ซึ่งรวมทุกอย่างนี้ในราคา 8,xxx ถือว่าคุ้ม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องผมนี่รับไม่ได้จริงๆครับงานออกมาเกิดมีรอยล้อยังกับรอยรถไถ แบรนด์อื่นมีปัญหาแบบนี้บ้างหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ ผมใช้ปริ๊นเตอร์ของแบรนด์นี้มาตลอดตั้งแต่ ME 32 แล้ว แต่ต่อไปอาจต้องเผื่อใจไปคบกับแบรนด์อื่นดูบ้างครับ
สุดท้ายนี้ผมยังอดค้างคาใจไม่ได้ว่าเจ้า Epson L565 นี้มันจะมีปัญหาแบบนี้ทุกเครื่องเลยหรือเปล่า ใจผมอยากขอความช่วยเหลือสำหรับท่านที่ใช้รุ่นนี้อยู่ให้ช่วยลองทดสอบปริ๊นงานจากกระดาษ Grossy Photo 230 Gsm ของ Hi-jet หรือยี่ห้ออื่นๆออกมาดูเปรียบเทียบกับของผมว่าจะเกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่ จะได้ฟันธงเลยว่าแบรนด์นี้รุ่นนี้มันเป็นปัญหาแบบนี้จริงหรือแค่เครื่องของผมมันป่วยเอง (ผมลืมบอกอีกนิดว่าได้ลองปริ๊นกับกระดาษPhotoแบรนด์อื่นขนาด 180 Gsm ก็เกิดรอยเหมือนกันครับ) และผมเหลือระยะเคลมเครื่องอีกแค่2วันก่อนประกัน7วันจะหมดลงครับ
และขออกตัวนะครับว่าผมไม่ได้มีความรู้เรื่องปริ๊นเตอร์อะไรมากมายทุกอย่างออกมาจากความรู้สึกที่เกิดจากการใช้งานจริงหากมีอะไรผิดพลาดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และยินดีรับคำชี้แนะจากทุกท่านครับ ผมเองไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับใครทั้งสิ้นทุกอย่างออกมาจากใจครับ
ปล.ผมขอชื่นชมพนักงานญิงร้าน J.I.B สาขา เซียร์รังสิตทั้งสองท่านที่ช่วยแนะนำตลอดจนช่วยแก้ผัญหาต่างๆ โดยเฉพาะพนักงานหญิงท่านที่อยู่กับผมตลอดที่พาไปซื้อกระดาษและดูแลผมตั้งแต่ต้นจนจบและยังอาสาจะช่วยยกของไปส่งผมที่รถแต่ผมปฎิเสธไปเพราะสงสารครับ พนักงานญิงคนนี้ใจเย็นพูดเพราะมีไหวพริบและดูเป็นคนจริงใจมาก หน่วยงานใดได้เธอร่วมทีมถือว่าโชคดีมากครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ