หลักๆใช้งานไม่เยอะค่ะเดือนนึงอาจจะไม่กี่แผ่น ปริ้นพวกภาพระบายสีค่ะ หน้าเว็บนิดหน่อยไม่ได้เยอะอะไร ตอนแรกก็ดูเป็น printer ตัวเล็กที่พันกว่าบาทแอปซ่อม ต่อมาก็เป็นกังวลว่ามันจะใส่กระดาษ 200 แกรมไหวไหม ไม่ได้ใส่ตลอดหรือบ่อยๆ ก็มีบ้าง ก็เลยดูเป็นรุ่นราคาขึ้นมาอีกนิดนึง ดูไว้มี epson ถูกใจราคาเพื่อนเชียร์มาก ก็ได้ข้อมูลว่าถ้ามันเสียเหลืออะไรต้องเข้าศูนย์อย่างเดียว ซ่อมเองไม่ได้ พนักงานขายแนะนำ canon ให้สามารถใส่กระดาษหนาๆได้ อ่านคอมเม้นบนโซเชียลไม่ค่อยเชียร์ canon เลย ส่วนตัวถ้าเป็นคอมพิวเตอร์เป็นไฟล์ HP อยู่แล้วเคยซื้อ dell สุดท้ายก็ต้องขายกลับมา HP ค่ะ  ที่ชอบแบรนด์นี้เพราะดีไซน์กับหน้าจอสดใส พอมา printer นาทีสุดท้ายก็ตัดสินใจถอย HP มาค่ะ เป็น wireless ทางร้านให้บริการดีมาก แถมหมึกดำให้อีกขวดนึง สอนตั้งค่าติดตั้งเครื่องดาวน์โหลดแอปให้ แกะกล่องตรงหน้าเลย ตัดสินใจไปซื้อที่เดอะมอลล์บางกะปิค่ะ ในใจคิดว่ามันเซลล์แล้วก็แพงอีกนิดนึงแต่ได้จับได้สัมผัสได้ลองก่อน โดยเฉพาะเราไม่ถนัดเลยกับเทคโนโลยีถ้ามีคนช่วยก็น่าจะดียอมจ่าย ถ้าในราคา 4,290 บาทค่ะ กลับมาถึงบ้านปริ้นได้ สแกนไม่ได้ ตอนดึกกระสับกระส่ายหน่อยนึงเพราะไม่ถนัดเรื่องพวกนี้ ซึ่งCall Center ให้ความช่วยเหลือ 24 ชั่วโมงจริงๆค่ะ Happy มากโทรไปปุ๊บติดเลย พักช่างโทรกลับบอกวิธีแก้ไข เหมือนกันต่อ wireless ของเรายังไม่สมบูรณ์มันก็เลยยังใช้งานทุกฟังชั่นไม่ได้ เราก็สอนวิธีต่อกับ wireless ที่บ้านให้ด้วยจะได้ไม่ต้องสลับไปสลับมา ตอนนี้ใช้งานได้ดีเลยค่ะ ปริ้นออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ ระยะยาวไม่ทราบนะคะ แต่ก็อุ่นใจ Call Centerช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง มี on site ที่บ้านด้วย 2 ปี เราก็เลยอยากมาแชร์ต่อเรื่องราวดีๆสำหรับใครที่กำลังตัดสินใจ จริงๆก็ผิดคาดไปเยอะตั้งใจอยากได้เครื่องเล็กๆอย่าง epson 4 กิโลกรัม HP อยู่ที่ 7 กิโล แต่น่าจะแข็งแรงค่ะ ตัวเครื่องสีขาวเข้ากับห้องพอดี รุ่นนี้ลองใส่กระดาษ 200 แกรมได้อยู่ค่ะ พนักงานบอกว่าได้ทีละแผ่น 2 แผ่นไม่เยอะๆหรือไม่บ่อยๆ ซึ่งเราโอเค เหลือคำถามนิดนึงคือปกติเพื่อนๆเปิดปริ้นเตอร์ทิ้งไว้เลยหรือเฉพาะตอนที่จะใช้งานคะ? เป็นแบบ wireless หรือเปล่า?