หลังจากพ่ายแพ้ให้กับทาคามิแล้ว วันถัดมาฮิคาริก็เก็บข้าวของเพื่อย้ายไปประจำการที่เกาฮาวาทันที
ก่อนไปก็มาบอกลาจิโดริ
ทางด้านคันโนะก็มอบถุงมือให้เป็นของขวัญจากลา
ทุกคนจาก 502 มาร่วมกันส่งฮิคาริขึ้นรถ
ซาดาโกะกับโจเซ่นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้เอาไว้กินระหว่างทาง
รอสส์มันน์บอกว่าสิ่งีท่ฮิคาริทำมาจนถึงวันนี้ไม่สูญเปล่าหรอกนะ
ครูปินสกี้เอาปืนลิเบอเรเตอร์คืนให้ฮิคาริแต่เนื่องจากนิป้าเล่าให้ฟังแล้วว่าจริงๆนี่น่ะเป็นอาวุธ ไม่ใช่เครื่องรางอย่างที่ครูปินสกี้อำ
แต่ถึงจะความแตกแล้วครูปินสกี้ก็ใส่กระสุนไปให้ 1 นัด เพื่อให้ดูเป็นเครื่องรางมากขึ้น (เดี๋ยวปืนนี้อาจจะได้มีบทบาทอีกก็ได้)
หลังจากรถออกไป นิป้าวิ่งตามมาเล็กน้อย
และก็ถามคันโนะที่มาตามตัวไปประชุมว่าทำไมไม่คิดจะไล่ตามไปหน่อยล่ะ ทั้งที่ฮิคาริเป็นคู่หูของคันโนะ
คันโนะบอกว่า คู่หูของเธอก็คือทาคามิ
ที่โรงเก็บ ทาคามิยืนจ้องมองจิโดริในตำแหน่งเดียวกับที่ฮิคาริยืนก่อนหน้านี้
ราลบอกว่าถึงฮิคาริจะแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่คนที่ที่เธอต้องการคือผู้ที่พร้อมสำหรับการทำภารกิจให้ลุล่วง
สำหรับปฏิบัติการเฟรย่า สรุปขั้นตอนคร่าวๆดังนี้
1.จากการสำรวจพบว่าภายในเมฆที่ปกคลุมกริกอริมีนิวรอยขนาดใหญ่ที่เป็นรังคอยสร้างนิวรอยตัวใหม่ๆออกมาอยู่
2.ให้กองทหารปีเตอร์สเบิร์กระดมโจมตีใส่กริกอริ
3.จากนั้นจะใช้ปืนใหญ่รางด้วยกัน 2 กระบอกคือ กุสตาฟ และ โดรา เป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเนื่องจากมีความกว้างปากลำกล้องถึง 800 มม.
- กุสตาฟจะใช้กระสุนระเบิดแรงสูง (HE) ยิงก่อนเพื่อสลายกลุ่มเมฆที่กริกอริใช้อำพรางตัว
- หลังจากสลายกลุ่มเมฆแล้วจะใช้โดรายิงกระสุนเวทมนตร์เจาะเกราะ (AP) เข้าไปที่คอร์ โดยผู้ที่ทำหน้าที่ค้นหาตำแหน่งคอร์ก็คือทาคามิ
สำหรับกระสุนเวทมนตร์ที่โดราใช้ยิงได้รับการบรรจุพลังเวทมนตร์จากวิทช์ภาคพื้นดินเข้าไปเพื่อให้สามารถเจาะทะลุเกราะของนิวรอยได้มากขึ้น
แต่การจะยิงให้ได้มีประสิทธิภาพจริงๆนั้นต้องยิงในระยะ 10 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระยะโจมตีของกริกอริพอดี
ดังนั้นหน้าที่ของ 502 คือช่วยกันคุ้มกันปืนใหญ่ทั้งสองไว้
ทางด้านฮิคาริมาถึงสถานีรถไฟซุโอมุส และคนที่มารอรับเธอก็คือเอล่าและซาเนียนั่นเอง
บนรถไฟ ฮิคาริเห็น 502 ที่ออกปฏิบัติการอยู่บนฟ้า พอมองไปแล้วก็นึกถึงพี่เลยทำให้รู้สึกซึมไปเล็กน้อย
เอล่าอยากให้ฮิคาริสดชื่นขึ้นก็เลยเทลูกอมให้ฮิคาริกิน ซึ่งฮิคาริเข้าใจว่าน่าจะเป็นช็อคโกแลตเพราะเป็นสีดำเลยกำเข้าไปทั้งกำเลย
ซาเนียถึงกับเหวอที่ฮิคาริกินเข้าไปมากขนาดนั้น
เพราะว่ามันไม่ใช่ช็อคโกแลตแต่เป็นซัลมิอักกิ (SALMIAKKI) ทำเอาฮิคาริถึงกำหน้าเปลี่ยนสีเพราะความเค็ม
ซัลมิอักกิ (SALMIAKKI)
เป็นลูกอมของทางฟินแลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติแปลกประหลาดมากเพราะดันเค็มแทนที่จะหวาน
ทั้งนี้เป็นเพราะมีส่วนผสมของแอมโมเนียมคลอไรด์ ถือเป็นเกลือบริสุทธิ์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นอมไปคงไม่ต่างอะไรจากอมก้อนเกลือ
(และถ้ากินเข้าไป 1 กำมือเลยนี่เค็มตาย)
ปกติแล้วคนฟินแลนด์มักจะเอาไว้กินคู่กับวอดก้ากัน
http://salmiakki.fi/?p=362
ทางกองกำลังทหารปีเตอร์สเบิร์กเปิดฉากโจมตีแล้วทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ
เมื่อกริกอริถูกโจมตีก็ปล่อยนิวรอยขนาดเล็กออกมาเป็นจำนวนมาก
เห็นฉากนี้แล้วนึกถึง ID4
ซาเนียจับสัญญานวิทยุจากเสาอากาศของเธอได้เลยรู้ว่าเริ่มยิงกันแล้ว
เอล่าอยากรู้สถานการณ์ก็เลยอยู่ๆหยิบวิทยุมาจากไหนไม่รู้ราวกับเป็นโดราเอม่อน
หลังจากที่อัตราการส่งนิวรอยของกริกอริลดลงเพราะว่าสร้างออกมาไม่ทัน ผบ.ทั้งสองจึงสั่งให้ยิงปืนใหญ่ได้
เมื่อปืนใหญ่ทั้งสองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งเรียบร้อยแล้วก็ให้กุสตาฟยิงกระสุนระเบิดแรงสูงทันที
อันนี้ต่างจากของจริงนิดหน่อยตรงที่ของจริงมันหันแบบนี้ไม่ได้นะครับ ต้องต่อรางเพิ่มแล้วให้แล่นไปเพื่อเปลี่ยนทิศทางอย่างเดียว แล้วต้องใช้คนเป็นร้อยในการยิงปืนใหญ่นี้
หลังจากบรรจุพลังเวทแล้วยิงออกไปก็ทำให้สามารถสลายกลุ่มเมฆได้ ทำให้เห็นร่างหลักของกริกอริ
พวกฮิคาริที่กำลังฟังวิทยุอยู่ก็ถูกคลื่นรบกวนทำให้ไม่สามารถฟังต่อได้
อาวุธที่กริกอริใช้คือรยางค์ที่ขอตัวอยู่ด้านล่าง ซึ่งสามารถยิงบีมได้
รอสส์มันน์พบว่าอาวุธรรมดาไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นจึงต้องใช้กระสุนเวทมนตร์ของโดราเท่านั้น
ทาคามิใช้มาคังหาตำแหน่งคอร์ ซึ่งก็อยู่ตรงแกน เยื้องมาริมๆนิดหน่อย
ขณะที่โดรากำลังจะยิงกระสุนเวทมนตร์เจาะเกราะกริกอริก็ยิงบีมใส่ซะก่อน
ทางด้านนิป้าและโจเซ่ไม่สามารถต้านทานบีมเอาไว้ได้ ทำให้ลำกล้องเสียหายไม่สามารถทำการยิงได้
มันชไตน์สั่งให้ใช้กุสตาฟยิงแทนโดนเอากระสุนสำรองมาบรรจุ แต่ต้องใช้เวลาอีก 20 นาที กว่าจะบรรจุ กว่าจะถ่ายเทพลังเวทเสร็จ
ซึ่งก็ถือว่าเร็วขึ้นมาแล้วนะสำหรับปืนใหญ่ชนิดนี้เพราะของจริงต้องใช้เวลา 30-45 นาที วันนึงจึงยิงได้เต็มที่ก็ 14 นัด
เพราะว่ากระสุนมีน้ำหนักหลายตันเลยต้องใช้กำลังพลหลายสิบนายในการขนย้าย
20 นาทีคงไม่ทันการ กริกอริออกจากระยะยิงหวังผลไปก่อนแน่
ทาคามิก็เลยตัดสินใจนำกระสุนเวทมนตร์ออกจากรังเพลิงแล้วตั้งใจจะแบกไปทิ้งใส่กริกอริตรงๆเหมือนเครื่องบินทิ้งระเบิด
โดยเธอบอกว่าถ้าเป็นฮิคาริคงเลือกจะทำแบบนี้แน่
แต่กระสุนเจาะเกราะขนาด 800 มม. มีน้ำหนักมากถึง 7,100 กก. หรือประมาณ 7 ตัน ต่อให้เป็นวิทช์ก็ยกคนเดียวไม่ไหว
502 ทุกคนเลยมาช่วยกันยกขึ้นมา ทั้งคันโนะและรอสส์มันน์บอกว่าทาคามินี่ทำอะไรเหมือนๆฮิคาริไม่มีผิด
เกี่ยวกับน้ำหนักกระสุน
กระสุนเจาะเกราะนั้นจำเป็นต้องมีความแข็งแรง และหนาแน่นสูงเพื่อให้สามารถเจาะทะลุเข้าไปในโลหะที่เป็นเกราะหนาๆได้ก็เลยทำให้มีน้ำหนักมากกว่ากระสุนหัวระเบิด
นี่เป็นภาพของกระสุน 800 มม. ของปืนใหญ่ Schwerer Gustav เทียบกับขนาดร่างกายของคนชาวยุโรป
http://rarehistoricalphotos.com/heavy-gustav-1941/
http://www.navyfield.com/Community/Forum/Old/View.aspx?num=136498&searchtype=1&searchvalue=&sort=6&category=D08&thread=20&page=230
ในที่สุดทุกคนก็ยกกระสุนขึ้นมาได้ และบินขึ้นไปอยู่เหนือศัตรู 600 เมตร ดูเหมือนกริกอริจะยังไม่รู้ตัว
ทิ้งระเบิดด้วยวิธีดำดิ่ง กดหัวลงไปเพื่อให้ตกสู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
หลังจากทุกคนแยกตัวออกแล้วมีเพียงทาคามิที่ไม่ยอมออกไปเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถพากระสุนไปตกยังตำแหน่งคอร์ที่เธอเห็นอยู่ได้อย่างแน่นอน
กริกอริรู้ตัวแล้ว ประสานบีมสามเส้นยิงใส่ทาคามิ
คันโนะเข้ามารับไว้ได้
ทิ้งกระสุนใส่คอร์ได้สำเร็จกริกอริแตกสลาย
แต่ไม่เป็นแบบนั้น กริกอริคืนสภาพขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้เป็นเพราะเจ้านี่ก็มีคอร์จริงอยู๋ข้างในอีกทีเหมือนๆกับนิวรอยทรงกลมก่อนหน้านี้
หลังจากคืนสภาพสมบูรณ์แล้วทาคามิก็ไม่สามารถมองเห็นคอร์จริงได้
วิทยุของพวกฮิคาริกลับมาฟังได้อีกครั้ง ซึ่งก็กำลังพูดถึงคอร์จริงอยู่พอดีทำให้ฮิคารินึกขึ้นมาได้ว่าพี่สาวของเธอต้องใช้สิ่งนั้นแน่ๆ
เซ็ทไต มาคัง ที่จะเผาผลาญพลังและจิตใจของผู้ใช้จนทำให้พี่สาวต้องนอนหมดสติไปร่วม 3 เดือน
ฮิคาริจะไปเอายูนิตเพื่อไปร่วมต่อสู้ แต่เนื่องจากส่งมาคนละขบวน
เอล่าเองก็บอกว่าไม่มียูนิตแล้วจะไปยังไง ฮิคาริบอกถ้าไม่ลองดูก็ไม่รู้หรอก แล้วก็กระโดดออกจากรถไฟไป
คาดว่าตอนหน้าฮิคาริต้องใช้ความสามารถในการวิ่งที่ฝึกฝนมาตลอดวิ่งไปจนถึงสนามรบแน่ๆ
ในช่วงพรีวิวตอนต่อไป คำบรรยายที่ฮิคาริพูดเป็นเนื้อเพลงในท่อนสร้อยของ OP
ashita no tsubasa (ปีกแห่งวันพรุ่งนี้)
สยายปีกให้ใหญ่ขึ้น ดังที่ใจปรารถนา
เชื่อมั่น แล้วโบยบินไปตามที่ใจปรารถนา
แล้วไปให้ถึงฟากฟ้าที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ในวันนั้น
ตอนต่อไปของ Brave Witches ตอนสุดท้าย
แสง(ฮิคาริ)ส่องประกาย...
[Spoil] Brave Witches ตอนที่ 11 - ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอก
ก่อนไปก็มาบอกลาจิโดริ
ทางด้านคันโนะก็มอบถุงมือให้เป็นของขวัญจากลา
ทุกคนจาก 502 มาร่วมกันส่งฮิคาริขึ้นรถ
ซาดาโกะกับโจเซ่นำอาหารและเครื่องดื่มมาให้เอาไว้กินระหว่างทาง
รอสส์มันน์บอกว่าสิ่งีท่ฮิคาริทำมาจนถึงวันนี้ไม่สูญเปล่าหรอกนะ
ครูปินสกี้เอาปืนลิเบอเรเตอร์คืนให้ฮิคาริแต่เนื่องจากนิป้าเล่าให้ฟังแล้วว่าจริงๆนี่น่ะเป็นอาวุธ ไม่ใช่เครื่องรางอย่างที่ครูปินสกี้อำ
แต่ถึงจะความแตกแล้วครูปินสกี้ก็ใส่กระสุนไปให้ 1 นัด เพื่อให้ดูเป็นเครื่องรางมากขึ้น (เดี๋ยวปืนนี้อาจจะได้มีบทบาทอีกก็ได้)
หลังจากรถออกไป นิป้าวิ่งตามมาเล็กน้อย
และก็ถามคันโนะที่มาตามตัวไปประชุมว่าทำไมไม่คิดจะไล่ตามไปหน่อยล่ะ ทั้งที่ฮิคาริเป็นคู่หูของคันโนะ
คันโนะบอกว่า คู่หูของเธอก็คือทาคามิ
ที่โรงเก็บ ทาคามิยืนจ้องมองจิโดริในตำแหน่งเดียวกับที่ฮิคาริยืนก่อนหน้านี้
ราลบอกว่าถึงฮิคาริจะแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่คนที่ที่เธอต้องการคือผู้ที่พร้อมสำหรับการทำภารกิจให้ลุล่วง
สำหรับปฏิบัติการเฟรย่า สรุปขั้นตอนคร่าวๆดังนี้
1.จากการสำรวจพบว่าภายในเมฆที่ปกคลุมกริกอริมีนิวรอยขนาดใหญ่ที่เป็นรังคอยสร้างนิวรอยตัวใหม่ๆออกมาอยู่
2.ให้กองทหารปีเตอร์สเบิร์กระดมโจมตีใส่กริกอริ
3.จากนั้นจะใช้ปืนใหญ่รางด้วยกัน 2 กระบอกคือ กุสตาฟ และ โดรา เป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเนื่องจากมีความกว้างปากลำกล้องถึง 800 มม.
- กุสตาฟจะใช้กระสุนระเบิดแรงสูง (HE) ยิงก่อนเพื่อสลายกลุ่มเมฆที่กริกอริใช้อำพรางตัว
- หลังจากสลายกลุ่มเมฆแล้วจะใช้โดรายิงกระสุนเวทมนตร์เจาะเกราะ (AP) เข้าไปที่คอร์ โดยผู้ที่ทำหน้าที่ค้นหาตำแหน่งคอร์ก็คือทาคามิ
สำหรับกระสุนเวทมนตร์ที่โดราใช้ยิงได้รับการบรรจุพลังเวทมนตร์จากวิทช์ภาคพื้นดินเข้าไปเพื่อให้สามารถเจาะทะลุเกราะของนิวรอยได้มากขึ้น
แต่การจะยิงให้ได้มีประสิทธิภาพจริงๆนั้นต้องยิงในระยะ 10 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระยะโจมตีของกริกอริพอดี
ดังนั้นหน้าที่ของ 502 คือช่วยกันคุ้มกันปืนใหญ่ทั้งสองไว้
ทางด้านฮิคาริมาถึงสถานีรถไฟซุโอมุส และคนที่มารอรับเธอก็คือเอล่าและซาเนียนั่นเอง
บนรถไฟ ฮิคาริเห็น 502 ที่ออกปฏิบัติการอยู่บนฟ้า พอมองไปแล้วก็นึกถึงพี่เลยทำให้รู้สึกซึมไปเล็กน้อย
เอล่าอยากให้ฮิคาริสดชื่นขึ้นก็เลยเทลูกอมให้ฮิคาริกิน ซึ่งฮิคาริเข้าใจว่าน่าจะเป็นช็อคโกแลตเพราะเป็นสีดำเลยกำเข้าไปทั้งกำเลย
ซาเนียถึงกับเหวอที่ฮิคาริกินเข้าไปมากขนาดนั้น
เพราะว่ามันไม่ใช่ช็อคโกแลตแต่เป็นซัลมิอักกิ (SALMIAKKI) ทำเอาฮิคาริถึงกำหน้าเปลี่ยนสีเพราะความเค็ม
ซัลมิอักกิ (SALMIAKKI)
เป็นลูกอมของทางฟินแลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติแปลกประหลาดมากเพราะดันเค็มแทนที่จะหวาน
ทั้งนี้เป็นเพราะมีส่วนผสมของแอมโมเนียมคลอไรด์ ถือเป็นเกลือบริสุทธิ์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นอมไปคงไม่ต่างอะไรจากอมก้อนเกลือ
(และถ้ากินเข้าไป 1 กำมือเลยนี่เค็มตาย)
ปกติแล้วคนฟินแลนด์มักจะเอาไว้กินคู่กับวอดก้ากัน
http://salmiakki.fi/?p=362
ทางกองกำลังทหารปีเตอร์สเบิร์กเปิดฉากโจมตีแล้วทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ
เมื่อกริกอริถูกโจมตีก็ปล่อยนิวรอยขนาดเล็กออกมาเป็นจำนวนมาก
เห็นฉากนี้แล้วนึกถึง ID4
ซาเนียจับสัญญานวิทยุจากเสาอากาศของเธอได้เลยรู้ว่าเริ่มยิงกันแล้ว
เอล่าอยากรู้สถานการณ์ก็เลยอยู่ๆหยิบวิทยุมาจากไหนไม่รู้ราวกับเป็นโดราเอม่อน
หลังจากที่อัตราการส่งนิวรอยของกริกอริลดลงเพราะว่าสร้างออกมาไม่ทัน ผบ.ทั้งสองจึงสั่งให้ยิงปืนใหญ่ได้
เมื่อปืนใหญ่ทั้งสองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งเรียบร้อยแล้วก็ให้กุสตาฟยิงกระสุนระเบิดแรงสูงทันที
อันนี้ต่างจากของจริงนิดหน่อยตรงที่ของจริงมันหันแบบนี้ไม่ได้นะครับ ต้องต่อรางเพิ่มแล้วให้แล่นไปเพื่อเปลี่ยนทิศทางอย่างเดียว แล้วต้องใช้คนเป็นร้อยในการยิงปืนใหญ่นี้
หลังจากบรรจุพลังเวทแล้วยิงออกไปก็ทำให้สามารถสลายกลุ่มเมฆได้ ทำให้เห็นร่างหลักของกริกอริ
พวกฮิคาริที่กำลังฟังวิทยุอยู่ก็ถูกคลื่นรบกวนทำให้ไม่สามารถฟังต่อได้
อาวุธที่กริกอริใช้คือรยางค์ที่ขอตัวอยู่ด้านล่าง ซึ่งสามารถยิงบีมได้
รอสส์มันน์พบว่าอาวุธรรมดาไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นจึงต้องใช้กระสุนเวทมนตร์ของโดราเท่านั้น
ทาคามิใช้มาคังหาตำแหน่งคอร์ ซึ่งก็อยู่ตรงแกน เยื้องมาริมๆนิดหน่อย
ขณะที่โดรากำลังจะยิงกระสุนเวทมนตร์เจาะเกราะกริกอริก็ยิงบีมใส่ซะก่อน
ทางด้านนิป้าและโจเซ่ไม่สามารถต้านทานบีมเอาไว้ได้ ทำให้ลำกล้องเสียหายไม่สามารถทำการยิงได้
มันชไตน์สั่งให้ใช้กุสตาฟยิงแทนโดนเอากระสุนสำรองมาบรรจุ แต่ต้องใช้เวลาอีก 20 นาที กว่าจะบรรจุ กว่าจะถ่ายเทพลังเวทเสร็จ
ซึ่งก็ถือว่าเร็วขึ้นมาแล้วนะสำหรับปืนใหญ่ชนิดนี้เพราะของจริงต้องใช้เวลา 30-45 นาที วันนึงจึงยิงได้เต็มที่ก็ 14 นัด
เพราะว่ากระสุนมีน้ำหนักหลายตันเลยต้องใช้กำลังพลหลายสิบนายในการขนย้าย
20 นาทีคงไม่ทันการ กริกอริออกจากระยะยิงหวังผลไปก่อนแน่
ทาคามิก็เลยตัดสินใจนำกระสุนเวทมนตร์ออกจากรังเพลิงแล้วตั้งใจจะแบกไปทิ้งใส่กริกอริตรงๆเหมือนเครื่องบินทิ้งระเบิด
โดยเธอบอกว่าถ้าเป็นฮิคาริคงเลือกจะทำแบบนี้แน่
แต่กระสุนเจาะเกราะขนาด 800 มม. มีน้ำหนักมากถึง 7,100 กก. หรือประมาณ 7 ตัน ต่อให้เป็นวิทช์ก็ยกคนเดียวไม่ไหว
502 ทุกคนเลยมาช่วยกันยกขึ้นมา ทั้งคันโนะและรอสส์มันน์บอกว่าทาคามินี่ทำอะไรเหมือนๆฮิคาริไม่มีผิด
เกี่ยวกับน้ำหนักกระสุน
กระสุนเจาะเกราะนั้นจำเป็นต้องมีความแข็งแรง และหนาแน่นสูงเพื่อให้สามารถเจาะทะลุเข้าไปในโลหะที่เป็นเกราะหนาๆได้ก็เลยทำให้มีน้ำหนักมากกว่ากระสุนหัวระเบิด
นี่เป็นภาพของกระสุน 800 มม. ของปืนใหญ่ Schwerer Gustav เทียบกับขนาดร่างกายของคนชาวยุโรป
http://rarehistoricalphotos.com/heavy-gustav-1941/
http://www.navyfield.com/Community/Forum/Old/View.aspx?num=136498&searchtype=1&searchvalue=&sort=6&category=D08&thread=20&page=230
ในที่สุดทุกคนก็ยกกระสุนขึ้นมาได้ และบินขึ้นไปอยู่เหนือศัตรู 600 เมตร ดูเหมือนกริกอริจะยังไม่รู้ตัว
ทิ้งระเบิดด้วยวิธีดำดิ่ง กดหัวลงไปเพื่อให้ตกสู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
หลังจากทุกคนแยกตัวออกแล้วมีเพียงทาคามิที่ไม่ยอมออกไปเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถพากระสุนไปตกยังตำแหน่งคอร์ที่เธอเห็นอยู่ได้อย่างแน่นอน
กริกอริรู้ตัวแล้ว ประสานบีมสามเส้นยิงใส่ทาคามิ
คันโนะเข้ามารับไว้ได้
ทิ้งกระสุนใส่คอร์ได้สำเร็จกริกอริแตกสลาย
แต่ไม่เป็นแบบนั้น กริกอริคืนสภาพขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้เป็นเพราะเจ้านี่ก็มีคอร์จริงอยู๋ข้างในอีกทีเหมือนๆกับนิวรอยทรงกลมก่อนหน้านี้
หลังจากคืนสภาพสมบูรณ์แล้วทาคามิก็ไม่สามารถมองเห็นคอร์จริงได้
วิทยุของพวกฮิคาริกลับมาฟังได้อีกครั้ง ซึ่งก็กำลังพูดถึงคอร์จริงอยู่พอดีทำให้ฮิคารินึกขึ้นมาได้ว่าพี่สาวของเธอต้องใช้สิ่งนั้นแน่ๆ
เซ็ทไต มาคัง ที่จะเผาผลาญพลังและจิตใจของผู้ใช้จนทำให้พี่สาวต้องนอนหมดสติไปร่วม 3 เดือน
ฮิคาริจะไปเอายูนิตเพื่อไปร่วมต่อสู้ แต่เนื่องจากส่งมาคนละขบวน
เอล่าเองก็บอกว่าไม่มียูนิตแล้วจะไปยังไง ฮิคาริบอกถ้าไม่ลองดูก็ไม่รู้หรอก แล้วก็กระโดดออกจากรถไฟไป
คาดว่าตอนหน้าฮิคาริต้องใช้ความสามารถในการวิ่งที่ฝึกฝนมาตลอดวิ่งไปจนถึงสนามรบแน่ๆ
ในช่วงพรีวิวตอนต่อไป คำบรรยายที่ฮิคาริพูดเป็นเนื้อเพลงในท่อนสร้อยของ OP
ashita no tsubasa (ปีกแห่งวันพรุ่งนี้)
สยายปีกให้ใหญ่ขึ้น ดังที่ใจปรารถนา
เชื่อมั่น แล้วโบยบินไปตามที่ใจปรารถนา
แล้วไปให้ถึงฟากฟ้าที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ในวันนั้น
ตอนต่อไปของ Brave Witches ตอนสุดท้าย
แสง(ฮิคาริ)ส่องประกาย...