[Spoil] Brave Witches - ep 06 ขอให้โชคดี

ที่ตอนนี้ทำออกมาช้าเนื่องจากตัว ENG แปลได้ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ
และบางประโยคก็ถูกใหม่ขึ้นเองด้วยทั้งๆที่ตัวละครไม่ได้พูดเลยก็มี
ทำให้เป็นตอนแรกที่ต้องให้ผู้แปลที่รู้ภาษาญี่ปุ่นช่วยแปลใหม่จากญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด ราวๆ 90%
คาดว่าคงเป็นเพราะ Crunchyroll น่าจะเปลี่ยนผู้แปลเป้นคนละคนกับตอนที่ 2-5

----------------------------------------------------------

ที่โรงเก็บรอสส์มันน์กำลังฝึกฮิคาริให้ทรงตัวอยู่

ระหว่างนั้นนิป้าที่โดนซาช่าไล่กวดมาเพราะดันไปทำยูนิตพังอีกแล้วก็วิ่งผ่านไปมาแถวนั้นพอดี
แต่ด้วยความซวยของนิป้าอยู่ก็มีกระป๋องน้ำมันมาอยู่บนพื้นได้ยังไงไม่รู้เลยลื่นล้มและก็โดนซาช่าไล่ทัน
ก็เลยต้องถูกลงโทษให้นั่งคุกเข่าเหมือนทุกที


ระหว่างที่โดนลงโทษอยู่นั้นฮิคาริก็คุยกับนิป้าไปด้วยโดยถามว่าแล้วหัวโนนั่นไม่เป็นไรเหรอ
นิป้าก็บอกว่าสบายมากเพราะตัวเองมีเวทมนตร์ที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
แต่พลังนี้ไม่สามารถใช้รักษาให้คนอื่นได้



ฮิคาริเลยบอกว่าถ้างั้นก็ทำเครื่องตกได้แบบไม่อั้นเลยน่ะสิ

(ช่วงนี้ฮิคาริรักษาการทรงตัวได้ดีมากถึงจะโดนหิมะปาใส่แต่ก็ไม่ตกลงมาเลย)

ซาช่าลองตรวจสอบยูนิตของนิป้าให้ว่าเสียหายตรงไหน ก็พบว่าไม่ได้เสียหายมากนัก เธอสามารถซ่อมด้วยตัวคนเดียวได้อยู่

รอสส์มันน์ช่วยอธิบายความสามารถของซาช่าให้ฮิคาริฟังว่า
เป็นเวทมนตร์การบันพึกภาพ ถ้าหากใช้เวทมนตร์ในการจดจำภาพใดแล้วล่ะก็จะสามารถจำได้อย่างไม่มีวันลืม
ตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยหรือแม้กระทั่งเมนูอาหารเมื่อ 10 ปีก่อนเลยทีเดียว

ก็เลยทำให้ซาช่ารู้ว่าตรงไหนที่เสียหาเมื่อเทียบกับแบบแปลนยูนิตที่อยู่ในหัว


*เพิ่มเติมเรื่องของซาช่า
ซาช่ามีพ่อเป็นช่าง ทำให้มีความคุ้นเคยกับเครื่องยนต์กลไกต่างๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
จึงมีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องกลมาตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่าเป็น "mecha fetish" (พวกบ้าเครื่องจักร)
และนักบินต้นแบบของซาช่าก็คือ อเล็กซานเดอร์ อิวาโนวิช โพครีชกิน ผู้ได้รับฉายาว่าเป็น ‘นายช่าง’ ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น


แต่ถึงอย่างนั้นรอสส์มันน์เองก็อยากให้ซาช่าเอาพลังมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกจากการซ่อมยูนิตบ้าง
นิป้าเลยรู้สึกผิดที่ตัวเองทำให้ซาช่าต้องลำบากอยู่เรื่อย



ที่ชานเมืองปีเตอร์สเบิร์ก หน่วยทหารที่สังเกตการณ์อยู่ถูกโจมตีจากกระสุนปืนใหญ่ของนิวรอย
ซึ่งก่อนที่จะถูกโจมตีมีนิวรอยตัวเล็กหน้าคล้ายเครื่องยิงบาร์โค้ด
ที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างเป็นสิ่งของต่างๆได้อยู่ในบริเวณนั้นด้วย



มีคำสั่งให้ออกปฏิบัติการ ซาช่าบอกให้นิป้าคอยอยู่ที่ฐานเพราะว่ายูนิตยังซ่อมไม่เสร็จ

เมื่อมาถึงตำบลกระสุนตกที่หน่วยสังเกตการณ์ ก็คุยกันว่าเมื่อเร็วๆนี้(ตอนที่แล้ว) น้ำในทะเลสาบลาโดกาเป็นน้ำแข็งไปพักนึง
เลยทำให้พวกนิวรอยสามารถเคลื่อนทัพมาทางภาคพื้นดินได้

ราลมอบหมายหน้าที่ให้ซาช่าเป็นคนสั่งการ
ซาช่าเลยแบ่งออกเป็นสามกลุ่มแล้วแยกแย้ายกันค้นหานิวรอยที่ยิงปืนใหญ่


ระหว่างนั้นนิป้าที่คุกเข้าจนเป็นเหน็บก็ล้มลงไปและไปเห็นอะไรบางอย่างที่ฝายูนิตเข้า


ทั้ง 3 หน่วยค้นหาจนเย็นก็ไม่พบอะไรเลยขอให้ทุกคนกลับฐานกันก่อน เดี๋ยวไว้ให้เป้นหน้าที่วิทช์ภาคพื้นดินค้นหาต่อเอง
แต่ตัวเธอจะขอค้นหาบริเวณนี้ดูอีกสักรอบก่อนแล้วค่อยตามไป


นิวรอยตัวเล็กยังคงอยู่ในเมือง คราวนี้เปลี่ยนร่างเป็นรถและก็กระพริบแสงบางอย่างทำให้นิวรอยอีกตัวที่เป็นตัวยิงปืนใหญ่โผล่มาจากใต้หิมะซึ่งเป็นบริเวณที่ซาช่าอยู่พอดี



กระสุนปืนใหญ่ได้ถูกยิงออกมา และนิวรอยปืนใหญ่ก็มุดกลับไปซ่อนตัวทันที
ซาช่าไม่สามารถหยุดยั้งกระสุนได้ทัน ทำให้คลังที่ 1 ถูกทำลาย



กชกลับมาที่ห้องยุทธการ เมื่อนำข้อมูลจากทุกฝ่ายมาวิเคราะห์แล้วสรุปได้ว่า

1.ฐานของหน่วยสังเกตการณ์ถูกกระสุนปืนใหญ่โจมตีจากนิวรอยที่อยู่ห่างออกไป 88 กิโลเมตร
ในยุคนั้นถือว่าเป็นพิสัยการยิงที่ไกลมาก ขนาดปืนใหญ่อย่าง Gustav ยังมีพิสัยการยิงสูงสุดที่แค่ราวๆ 47 กิโลเมตร
หรือแม้กระทั่งปืนใหญ่ 46 ซม. ของเรือยามาโตะก็ยังได้แค่ 42 กิโลเมตรเท่านั้น

2.จากรายงานของทหารที่อยู่ในบริเวณตำบลกระสุนตกทั้ง 2 พบว่าก่อนจะถูกโจมตีสามารถจับสัญญานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้

ดังนั้นสรุปได้ว่า มีนิวรอย 2 ตัวคอยช่วยกันอยู่
ตัวนึงอยู่นอกเมืองคอยยิงปืนใหญ่ อีกตัวอยู่ในเมืองคอยชี้เป้า

เนื่องจากตัวนิวรอยปืนใหญ่ไม่สามารถโจมตีเองจากระยะไกลขนาดนั้นได้แน่นอน เพราะว่ามองไม่เห็นเป้าหมาย
ดังนั้นเลยจำเป็นต้องมีนิวรอยอีกตัวทำหน้าที่ของผู้ตรวจการณ์หน้า ชี้เป้าให้กับตัวปืนใหญ่ว่าให้ยิงมาที่พิกัดไหน
และจะมีการปล่อยคลื่นแม่เหล็กออกมาเพื่อความแม่นยำของกระสุน

โดยหลักการที่ใช้ถือว่าเป้นเทคโนโลยีของกระสุนปืนใหญ่นำวิถีที่ล้ำกว่ายุคนั้นมาก ตัวกระสุนจะร่อนลงไปตกในตำแหน่งที่ชี้เป้าด้วยคลื่นแม่เหล็กเอาไว้อย่างแม่นยำตั้งแต่นัดแรกโดยไม่จำเป็นต้องปรับการยิงอีก เหมือนๆกับการใช้เลเซอร์ชี้เป้าในการยิงปืนใหญ่นำวิถีในปัจจุบัน

สำหรับขั้นตอนคร่าวๆของการยิงปืนของนิวรอยสองตัวเทียบกับขั้นตอนการยิงของปืนใหญ่สนามก็ดังภาพเลยครับ


ราลแบ่งออกเป็นสองหน่วย
หน่วยแรกรอสส์มันน์ ครูปินสกี คันโนะ ซาดาโกะ โจเซ่ ให้ค้นหานิวรอยปืนใหญ่แล้วกำจัด
หน่วยที่สองนิป้า ฮิคาริ ซาช่า ให้ค้นหานิวรอยตัวชี้เป้าในเมืองแล้วกำจัด

โดยราลให้เหตุผลว่านิป้ากับซาช่าอยู่ซุโอมุสและโอราเซียเลยน่าจะรู้จักเมืองนี้เป็นอย่างดี




เช้าวันต่อมา นิป้าบอกว่าจริงๆตัวเองแค่เคยมาที่นี่เมื่อตอนเด็กๆเท่านั้นไม่ได้รู้จักเมืองนี้ดีนักหรอก
ส่วนซาช่าเองก็บอกว่าตัวเองเกิดทางใต้ ถึงคุณยายจะมีบ้านอยู่ที่นี่ก็จริง แต่ก็ไม่เคยได้มาเยี่ยมเยียนเลย


ตอนนั้นเองราลก็วิทยุบอกว่าหน่วยสังเกตการณ์สามารถจับสัญญานคลื่นแม่เหล็กได้จากคลังที่ 2
แต่เมื่อไปถึงก็สายเกินไป คลังถูกทำลายไปแล้วซาช่าเลยให้ช่วยกันตามหานิวรอยตัวชี้เป้าเพราะน่าจะยังไปไหนได้ไม่ไกล


นิป้าด้วยความซวยอยู่ๆก็บินไปชนรูปปั้นเข้า แต่ก็พบว่ารูปปั้นนั้นคือนิวรอยตัวชี้เป้าที่เปลี่ยนร่างมา ทั้ง 3 เลยออกไล่ล่า



ระหว่างไล่ล่า นิป้าหัวไปชนกับป้ายอีกเลยทำให้ฮิคาริชนไปด้วย จึงเหลือเพียงซาช่าตนเดียวที่ไล่าตามไปได้
แต่ก็ต้องแปลกใจที่ทำไมตัวเองถึงคุ้นชินกับเมือง แล้วก็เกิดภาพ Flash back ขึ้นมา ทำให้นิวรอยตัวชี้เป้าหลุดไปได้


ด้วยเหตุนี้ซาช่าเลยคิดว่าตัวเองน่าจะรู้จักเมืองนี้มาก่อน


ที่ห้องของราล รอสมันน์และซาช่ามาหารือกันเรื่องนิวรอยในครั้งนี้ว่า
กระสุนปืนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาจากเซลล์ของตัวนิวรอยปืนใหญ่เอง
และใน 1 วันจะยิงได้ไม่เกิด 3 ลูก
ส่วนนิวรอยตัวชี้เป้าก็สามารถพรางตัวเป็นสิ่งของต่างๆได้อีกด้วยทำให้รับมือยากน่าดู


ซาช่าครุ่นคิดเรื่องของวันนี้ว่าตัวเองเคยรู้จักเมืองนี้มาก่อนรึเปล่า แต่ถึงแม้จะใช้พลังไปก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี เธอจึงเลิกคิดไปเพราะหน้าที่ตอนนี้คือการจะกำจัดนิวรอยไม่ใช่มาปกป้องเมืองที่ไร้ผู้คน


หลังจากกลับจากซาวน่า ซาช่าเห็นนิป้ากำลังทำอะไรกับยูนิตของตนอยู๋ และก็พบว่านิป้าแอบเขีขยนเส้นยึกยือไว้ข้างในทำให้เธอโกรธมาก
ซาช่าบอกว่าถึงเธอจะเข้มงวดกับนิป้าแต่ก็ไม่ได้ทำเพราะอยากทำ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรจะต้องมาทำกันถึงขนาดแกล้งเขียนอะไรลงไปแบบนี้

นิป้าพยายามอธิบายแต่ซาช่าก็ไม่ฟังแล้วก็พยายามลบที่นิป้าเขียนออก




วันต่อมาซาช่าพยายามจดจำเมืองในส่วนที่มีแนวโน้มจะถูกโจมตีเพื่อให้สามารถไล่ต้อนนิวรอยชี้เป้าได้ทัน

นิป้าที่กำลังกังวลว่าตัวเองจะถูกเกลียดเข้าก็ไปชนกับรูปปั้นอีกแล้ว (รอบที่ 4 แล้วมั้ง)
แต่คราวนี้รูปปั้นดันมาอยู่บนยอดโดมของโบสถ์แล้วก็กลายร่างกลับเป็นนิวรอย
ไม่รู้ว่าความซวยของนิป้านี่แลกด้วยการค้นหาศัตรูเจอโดยไม่ได้ตั้งใจรึเปล่า




นิป้าพยายามไล่ตามนิวรอย แต่จากการฟังวิทยุของฮิคาริรู้สึกว่าคราวนี้ก็ไปชนกับเสาไฟที่ถนนอีก
ซาช่าถ฿งจะยังโกรธๆอยู่แต่ก็รู้สึกสงสาร เด็กคนนั้นจะไม่โชคดีกับเขาบ้างเลยรึไงนะ




สภาพนิป้าหลังจากหัวไปกระแทกเสาไฟ


นิวรอยพรางตัวอีกครั้งแต่ครั้งนี้เหมือนจะไม่มีเวลาคิดเลยทำได้ไม่เนียนเท่าไหร่ คนที่ไหนมันจะมาใส่ชุดแบบนี้เดินป้วนเปี้ยนอยู่ในเมืองที่คนอพยพกันหมดแล้วล่ะ


ซาช่าไล่ตามนิวรอยชี้เป้าแต่ก็มีแสงวาบเข้าตาทำให้เสียการทรงตัวและตกไป


กลุ่มของรอสส์มันน์หานิวรอยปืนใหญ่เจอจนได้ จากการคำนวณวิถีกระสุนปืนใหญ่ของรอสส์มันน์ทำให้จำกัดพื้นที่ค้นหาได้แคบลง


ซาช่าตื่นขึ้นมาและรู้สึกว่าตัวเองรู้จักเมืองนี้และก็เริ่มนึกออกว่าสมัยเด็กเคยมาเยี่ยมคุณยายพร้อมกับแม่ที่เมืองนี้มาก่อน


ในตอนนั้นซาช่าไปเล่นกับเด็กๆในละแวกนั้นและเกือบถูกรถชน แต่ก็สามารถใช้ชิลด์มาป้องกันตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว
นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่เธอใช้เวทมนตร์ออกมา


เด็กๆแถวนั้นหวาดกลัวที่เห็นซาช่าใช้เวทมนตร์ได้
ตัวเธอจึงร้องไห้แล้ววิ่งมาจนถึงบ้านคุณยาย เพราะว่าโอราเซียมีความเชื่องมงายเรื่องแม่มด ทำให้เธอรู้สึกกลัวที่ตัวเองเป็นวิทช์
ดังนั้นจึงผนึกความทรงจำส่วนนี้เอาไว้นั่นเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่