แฟนคนปัจจุบันของดิฉันเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนที่เป็นตำรวจยศนายร้อยเคยมีภรรยามาแล้วหนึ่งคนซึ่งจำเป็นต้องแต่งงานเพราะไปทำเขาท้อง โดยผู้หญิงไปหาถึงห้องพัก แล้วโกหกว่ากินยาคุม แต่จริงๆแล้วไม่ได้กินยาคุม จึงเกิดมีเพศสัมพันธ์พลาดทำผู้หญิงท้อง ซึ่งตอนนั้นเขาพึ่งจบอบรมนายร้อยมาแค่อาทิตย์เดียว เขาจึงต้องไปสู่ขอแต่งงานเพื่อรับผิดชอบลูกในท้อง แต่พออยู่กินกับภรรยาคนแรกที่บ้านพักตำรวจ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนขี้เกียจมาก ปล่อยเสื้อผ้าเหม็นไม่ยอมซัก โดยเฉพาะเสื้อผ้าลูกปล่อยกองไว้ไม่ยอมซัก จานอาหารไม่ยอมล้างจนขึ้นรา งานบ้านไม่ยอมทำ บอกให้หัดทำกับข้าวก็ไม่ยอมทำ ขยะไม่ยอมทิ้ง เอาแต่ชอบออกไปข้างนอกไปคุยกับเพื่อน ไปเที่ยวกินอาหารดีๆหรูๆ เล่นไพ่ แต่งตัวสวยๆ จะให้ทำมาหากิน ลงทุนการค้าให้ ทำอาชีพอะไรเธอก็ไม่เอาเลย ขี้เกียจมากๆ แม่ผัวก็ไม่ชอบเพราะเธอเป็นคนขี้เกียจ บกพร่องในการดูแลลูกผัวอย่างมาก แต่ข้อดีของเธอก็คือ เป็นคนพูดเพราะ ปากหวาน แต่งตัวสวย เป็นคนสวยวางท่าเป็นคุณนายได้ไม่ขัดเขิน แม้เธอคนนี้จะพอมีข้อดีอยู่บ้างแต่แฟนของดิฉันก็เล่าให้ฟังอีกว่า ตอนนั้นเขาทุกข์มากกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆต้องมานั่งทำงานบ้าน ทำอาหารให้เมีย-ลูกกิน แต่ที่เขาโกรธจัดที่สุดรับไม่ได้เลย ก็คือ บางวันภรรยาก็ทิ้ง ลูกน้อยวัย 2-3 ขวบ อยู่ในห้องล็อคประตูอยู่ในบ้านคนเดียวแล้วตัวเองแแอบหนีไปเที่ยว โดยมีอยู่วันหนึ่งเขากลับมาจากเข้าเวรตำรวจเวลาเที่ยงคืน ได้ยินลูกสาวร้องไห้อยู่ในบ้าน จึงรีบเข้าไปดู พบลูกสาวอยู่ในห้องล็อคประตู นั่งอยู่บนเตียงร้องไห้จ้าอยู่คนเดียว ส่วนแม่นั้นหนีไปเที่ยวผับกลางคืนกับเพื่อนๆ เขาทุกข์ใจมาก และด้วยเขาเป็นผู้ชายผิวขาวหน้าตาดี รูปร่างดี มีอาชีพตำรวจ ทำให้สาวๆเข้าหาเยอะ เขาจึงนอกใจภรรยาไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนอื่นๆที่เข้ามาหา แต่ก็ยังไม่ทิ้งภรรยาเพราะมีลูกด้วยกัน วันหนึ่งเขาโดนย้ายไปรับราชการตำรวจยังบ้านเกิดตนเองทำให้ต้องย้ายครอบครัวกลับไปที่บ้านเกิดซึ่งทำธุรกิจโรงสีข้าวอยู่อาศัยร่วมกับแม่สามี พี่น้องสามี สะใภ้คนอื่น ปรากฎว่าภรรยาคนแรกของแฟนดิฉันก็มีปัญหาไม่ลงรอยกับทุกคนเพราะไม่ยอมทำงานบ้าน ไม่เคารพคนในบ้าน ให้รับหน้าที่ทำบัญชีของโรงสีก็ยักยอกเงิน และขโมยเอาข้าวสารไปขายในราคาถูก ทำให้บัญชีโรงสีมีปัญหาตลอด แม่สามีก็ไม่ชอบ คู่นี้จึงทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆ ตัวภรรยาเองจึงคิดจะออกจากโรงสี เพราะอยู่โรงสีแล้วโดนบังคับให้ทำงาน ไปเที่ยวไม่ได้ และหวังจะคุมสามีให้มารัก ลุ่มหลงเอาใจแต่ตนเอง มีอยู่วันหนึ่งตัวสามี (หรือแฟนของดิฉัน) กำลังแต่งตัวจะออกไปทำงานอยู่ในห้องนอนได้ยินเสียงดัง เป็นระยะๆๆ ก็สงสัยว่าเสียงอะไร จึงลองค้นหาดูว่าเสียงอะไร พบเป็น หุ่นรูปผู้หญิง-ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กันมัดด้วยสายสิญจ์พร้อมกับเส้นผมและเล็บของเขาห่ออยู่ในผ้าซ่อนอยู่ภายในห้องนอน เขาเห็นดังนั้นก็ตกใจจึงรีบเก็บแล้วนำไปทิ้งที่วัด และคิดว่าภรรยาจะต้องไปทำเสน่ห์ใส่แน่ๆ แต่ก็ไม่ได้เล่าให้ใครๆฟัง หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้มีจิต สเน่หา ลุ่มหลงอะไรในตัวภรรยาคนแรกแต่อย่างใดเลย นั่นก็แปลว่า ทำเสน่ห์ไม่ได้ผล หลังจากนั้นพอเขาโดนกลั่นแกล้งทางราชการโดนวินัย เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน ภรรยาคนแรกก็แอบไปมีชู้หนีออกจากบ้าน ทิ้งลูกสาวสองคนไว้ให้แฟนของดิฉันเลี้ยง สุดท้ายก็ไปไม่รอดเลิกลาหย่าร้างกันไป โดยปรกติแล้วแฟนของดิฉัน จะภาวนา พุทธธังปิด ธัมมังปิด สังฆังปิด ปิดด้วยนะโมพุทธายะ อยู่ในใจเสมอ และมักจะแขวนพระเครื่อง เช่น สมเด็จวัดระฆัง หลวงปู่ทวด ซุ้มกอกำแพงเพชร ขึ้นคออยู่ตลอด จะถอดก็เวลาอาบน้ำเท่านั้น ดิฉันเห็นว่าเรื่องของแฟนดิฉันไม่เหมือนคนอื่นที่โดนทำเสน่ห์ คือชัดเจนว่าทำเสน่ห์ไม่ได้ผล ของเข้าไม่ได้ ดิฉันมีความสนใจในเรื่องศาสนา พระพุทธคุณคุ้มครอง จึงอยากถามผู้มีประสบการณ์ว่าเป็นเพราะสาเหตุ ทำไมของถึงเข้าไม่ได้ เป็นเพราะพระพุทธคุณคุ้มครองใช่หรือไม่ค่ะ สรุปว่ามีจริงๆใช่ไหมค่ะ เครื่องราง ของคลังของดีป้องกันภัย ตัวดิฉันเองจบวิทยาศาสตร์ ฟังเขาเล่า ก็อยากเล่าต่อเป็นวิทยาทาน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านอื่นๆที่เคยสัมผัสบารมีพระพุทธคุณคุ้มครองลักษณะแบบนี้ค่ะ
แฟนเคยโดนทำสเน่ห์จากภรรยาคนแรกแต่ของทำเสน่ห์มันร้อง ไม่เข้า แฟนจึงนำไปทิ้ง ทำเสน่ห์ไม่ได้ผลเพราะอะไร?