[CR] อยากเป็นนางฟ้า...จะได้มีเทวดาอยู่ข้างกาย เลยต้องไปหาเทวดาาาาา @ยอดเขาเทวดา จ.สุพรรณบุรี 10-12 ธันวาคม 2559



ปล.กระทู้นี้มาแบ่งปันเรื่องราวระหว่างการเดินทาง รูปทั้งหมดถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ อย่าคาดหวังกับรูปจากกระทู้นี้ 555

“อากาศเริ่มเย็นลง เราคงต้องหาที่เที่ยว”
ลมเย็นพัดผ่านหน้า พลางเห็นเพื่อนในเฟสบุคลงรูปแบบไม่เกรงใจต่อมเที่ยวเล๊ยยยย เปิดพันทิปรัวๆ คิดๆไว้อยากไปกิ่วแม่ปาน
แต่โชคช่วย(หรอ) ...ตั๋วรถทัวร์ รถไฟ แน่นเอี๊ยด เปลี่ยนทิศกันรัวๆ นึกขึ้นมาได้...เคยอ่านกระทู้ในนี้แหละ เค้าว่าสวยอย่าบอกใครเราก็เลยบอกเพื่อนว่า...
เห้ยแกรร เราหนีไปทางสุพรรณไหม ใกล้กรุง รถราไม่น่ารุงรัง สมาชิกทั้งหมดตามใจเห็นดีเห็นงาม มอบหมายให้เป็นหัวหน้าทริป...
ก็ลงมือหาข้อมูล ไม่น่าเชื่อว่ารีวิว อช.พุเตยในพันทิปมันน้อยจนเราแทบถอดใจ จดทุกเบอร์ โทรสอบถามเจ้าหน้าที่จนนางรำคานเราเบาๆ
เลยตั้งใจไว้ว่าหลังจบทริปจะทำรีวิวไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับใครไม่มากก็น้อยนะ
หลังจากทำการบ้านอย่างหนัก ก็ได้แพลนออกมาดังนี้....

ได้แพลนแล้วก็โทรจอง ทุกอย่างปากเปล่าหมดเลยนะคะ ไม่มีมัดจำ
1.แพชาวเขื่อนลุงโต 087-112-4675 (ทีแรกจองที่กระเสียวรีสอร์ทแต่ไปช้าที่เต็ม)
2.จนท.ที่ทำการ อช.พุเตย 081-934-2240 (จองรถขึ้นตะเพินคี่)

วันที่ 1
ออกเดินทางจากวัชรพล 9:30 มุ่งหน้าบางกรวยไปรับเพื่อนสาวอีกหนึ่งนาง แล้วมุ่งหน้าไปทาง บางบัวทอง - สุพรรณบุรี 340
ถึงอุทยานมังกรสวรรค์ 14:00 น. (เลทจากแผนไปเนื่องจากรถติด)

แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส...เดินถ่ายรูปเล่นกันอยู่แปปนึง แดดก็แรงดีจัง อ่อ กลุ่มเราไม่ได้เข้าพิพิธภัณฑ์มังกรนะคะ
เบี้ยน้อยหอยน้อย (ค่าเข้าคนละ 300 บาท)
ถ่ายรูปเช็คอินเรียบร้อยก็ท้องร้อง.. กินอารายดีน้าาา “ก๋วยเตี๋ยวนายเท้า” นี่ไงๆ พวกแก ฉันอ่านรีวิวมาร้านนี้ต้องโดน

เดินนำสมาชิกเข้าไปเลยจ้า เฮียเจ้าของร้านมาแนะนำว่าต้องโดนเส้นบะหมี่ทำเองของเฮียเค้า เครๆๆเอามาเล๊ยเฮีย หน้าตาหน้ากินมั้ยค้า

เข้าปาก...เห้ย อร่อยอ่ะ สมคำร่ำลือในรีวิว เรากินแค่ชามเดียวอิ่มละ แฟนกินแบบแห้งนางบอกว่า อร่อยกว่าแบบน้ำ
ถ้าผ่านไปลองไปชิมได้ ไม่แพงด้วย ชามละ 30 บาทเท่าน้านนน


อิ่มท้องแล้วก็ไปต่อกันที่ “วัดป่าเลไลย์” แวะไหว้พระกันหน่อย ขอพรหลวงพ่อให้ลูกและสมาชิกเดินทางปลอดภัยทั้งไปกลับ

อิ่มท้องแล้ว อิ่มบุญแล้ว ก็ต้องไปหาที่พักละ...อ๊ะๆ แวะเที่ยวเขื่อนกระเสียวก่อน เห็นว่าใกล้ๆที่พัก


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

มีพลับพลาที่ประทับของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เปิดให้เข้าชมด้วยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ภายในพลับพลา มีภาพขณะเสด็จ ณ เขื่อนกระเสียว



รูปบนเป็นวิวที่ถ่ายจากระเบียงพลับพลา ส่วนรูปล่างลงมาถ่ายริมเขื่อนค่ะ ลมดีมากๆ
ชมวิว และถ่ายรูปกันพอสมควรก็ได้เวลาไปที่พักแล้วนะคะ...

มุ่งหน้า “กระเสียวรีสอร์ท” ด้วยความที่จองปากเปล่า... ไปช้าที่เต็มแล้วไงจะอะไรล่ะ....แป่ววว
ดีนะมีช้อยส์สำรองมา โทรหาลุงโตด่วนๆ แกว่าเข้ามาเลย มีที่กางอยู่ รีบเลยจ้า...
(ตรงนี้จะขอเล่านิดนึง ด้วยความหวังพึ่ง GPS นางพาเข้าป่าเข้าดงอีกแล้ว ถนนแบบว่าน่ากลัวมาก
ขับไปนี่ต้นไม้ข่วนรถตลอดทางจนแบบว่า เห้ยยย มั่วป่าววะ ถ้ามาหลงป่านี่ซวยชิบ คนขับก็ยังใจเย็นอยู่...ไปต่อเรื่อยๆ
จนไปโผล่ที่แพกำนัน งงดิ!! ถามพี่ๆแถวนั้น เอ้าต้องไปอีกหน่อยเดี๋ยวก็ถึงแล้ว....
ในที่สุดๆๆๆ ถึงแพลุงโตแล้ว ลุงบอกต้องมาอีกทาง ถ้าไปตาม GPS มันชอบพาไปทางนั้น) แนะนำเส้นทางควรไปทางนี้

จากแผนที่จะเห็นว่า จากเขื่อนกระเสียวมีเส้นสีขาวเล็กๆๆๆ อยู่ นั่นแหละค่ะ นางพาเรามาทางนั้น
ลัดเลาะมาตามป่า ถนนที่แบบว่าหลุมอุกาบาตตลอดทาง คิดเลยว่ามีแพอยู่ข้างหน้าจริงๆหรอ
ถ้าไม่อยากเหวอ ไปทางเส้นหลักนะคะ 555 (เหวอจนลืมถ่ายรูปอ่ะ มัวแต่กลัว)


บรรยากาศที่แพลุงโตค่อนข้างดีนะ ติดน้ำเลย มีแพหลายหลัง ดูสบายๆกว่ากระเสียวรีสอร์ทไม่อึดอัด
แต่ส่วนมากลุงบอกว่าเค้านิยมมาตกปลากันมากกว่า บอกก่อนนะว่าทีแรกเราตั้งใจมากางเต๊นท์นอน
แต่เห็นบรรยากาศแล้วขอลุงนอนแพดีกว่า (แพ 700/ไม่จำกัดคน, เต๊นท์คิดหลังละ 100)
และ...บอกอีกอย่างว่าแพนี่ก็อย่างที่ลุงว่า เค้ามาตกปลากัน มันเลยไม่ค่อยสะอาดนะ ถ้าอยากนอนก็ทำใจ (มาก) นิดนึงเรื่องความสะอาด

บนแพมีเตาย่าง สามารถก่อไฟทำอาหารได้ ก็เตรียมของสดกันมาเองได้เลย หรือถ้าไม่ทำเองสั่งที่แพก็ได้ค่ะ
มีอาหารให้สั่งทานอยู่ ขาดเหลืออะไรก็ถามลุงแกได้ค่ะ ใจดีมากๆ
ตอนกลางคืน แมลงมาตอมไฟเยอะมาก (รำคานมาก)
ยิ่งดึก ลมยิ่งพัด ลมหนาวๆ มีหมอกลอยเหนือน้ำ ฟินอ่ะ อิอิ


วันที่ 2
ตื่นมาบรรยากาศดีมากๆ อากาศเย็นกำลังดี ก็แบ่งกันไปอาบน้ำ (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ พออาบได้อยู่ไม่มีน้ำอุ่น)
บางส่วนก็ทำกับข้าว หลังจากทานมื้อเช้าเรียบร้อยก็เก็บของเตรียมตัวออกเดินทางไป “อช.พุเตย”
ซึ่งเราตั้งใจไว้จะขึ้นไปนอน “ตะเพินคี่” เพื่อขึ้นยอดเขาเทวดาในเช้าอีกวัน
เส้นทางที่เราจะไปต้องไปทาง...”เส้น 3086 และ 3480” ถ้าใช้ GPS ปักหมุด
เจ้าหน้าที่แนะนำให้ปักไปที่ “โรงเรียนบ้านห้วยหินดำ” แล้วจะมีทางเลี้ยวขวาก่อนถึงโรงเรียน
ตอนแรกเราก็ไม่รู้ค่ะ ไปทาง 333 อีกแค่ 20 โลจะถึงอยู่แล้ว
เจ้าหน้าที่บอกว่ามาไม่ได้นะเป็นทางลาดยางถึงแค่หน่วยที่ 1 ต่อไปเป็นทางลูกรัง 10 กว่าโลจะถึงที่ทำการ
อย่าเชื่อ GPS 55555+ (อย่าพลาดเหมือนเรานะเสียเวลามาก)

กลับรถสิคะ รออะไร (บางทีการหาข้อมูลก็สักแต่ว่าหาอย่างเดียวอ่ะค่ะ หวังพึ่ง GPS มากเกินไป
เรื่องนี้เป็นความผิดเราเลย อ่านไม่ละเอียด ทั้งๆที่ในเว็ปเค้าก็แนะนำเส้นทางที่ต้องไปอยู่แล้ว เขกหัวตัวเอง 3 ที ร้องไห้ )

กลับเข้ามาสู่เส้นทางที่ต้องไป จากแผนที่ก่อนถึงจุดหมายจะมีทางเลี้ยวขวาเข้าอุทยานค่ะ


ตามนี้เลยค่ะ ไปถึงแจ้งชื่อเราที่จองรถไว้ ชำระเงินค่าบำรุงอุทยาน
คน หัวละ 20 บาท
รถยนต์ คันละ 30 บาท (จอดไว้ที่ทำการ)
ค่ากางเต๊นท์ (เอาไปเอง) หลังละ 30 บาท
และ ค่าเหมารถขึ้นตะเพินคี่ คันละ 2,000 บาท

เรียบร้อยแล้วก็จัดของขึ้นกะบะพี่เค้าได้เลยค่ะ

นี่ไปกันทั้งหมด 7 ชีวิต รวมของด้วยก็นั่งกันแน่นๆพอดีค่ะ แนะนำหมวก แว่นกันแดด และแมสปิดจมูก เส้นทางขึ้นตะเพินคี่เป็นทางลูกรังตลอดทาง

จากที่ทำการ ระยะทางประมาณ 13 km. ใช้เวลาเดินทาง 1:30 ชม. เห็นเส้นทางแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เช่ารถมากค่ะ
(แอบเห็น civic ขึ้นไป กันชนหน้าหลุดเสียดายรถมากๆ)

ถึงแล้ววววว นั่งกันมาแมสไม่มี ปากคอนี่แห้งผากเลย หาทำเลกางเต๊นท์ได้เลย
(ถ้ามาถึงเร็วก็ได้เลือกที่กางเต๊นท์ก่อนนะคะ เพราะที่ข้างบนนี้ไม่ได้เยอะมาก)

ยิ่งเย็นคนยิ่งเยอะ ยิ่งเป็นวันหยุดแล้วก็ต้องทำใจค่ะ อ่อ...เรื่องห้องน้ำ มีประมาณ 5-6 ห้องไม่ได้แยกชายหญิง
ความสะอาดพอใช้ได้ ไม่ถึงกับแย่นะ (ลืมถ่ายรูปมาขออภัย) น้ำเย็นมากกกกกกกกกกกกกก
จับจองที่กันเรียบร้อยก็ หุงหาอาหารกันได้เลยจ้า
เสบียงของสด+เครื่องดื่ม ต้องเตรียมขึ้นมาเองทั้งหมดนะ ข้างบนนี้ มีขายนิดหน่อยเช่น มาม่าคัพ ไข่ไก่ ประมาณนี้ค่ะ
ข้างบนใช้เตาสนาม เตาแก๊สกระป๋อง ได้ แต่ไม่อนุญาตให้ก่อไฟกับพื้น

ยิ่งดึกดาวยิ่งสวย ดาวเต็มฟ้ามากๆ น้ำค้างก็แรงมากๆด้วย ขนาดว่ามีทั้งกราวชีท ฟลายชีทเต๊นท์ยังซึมๆนะ
คืนนี้ 18-19 องศา (ดูเทอร์โมมิเตอร์หน้าห้องน้ำตอน 3 ทุ่มครึ่ง)

วันที่ 3
เช้านี้ตื่นตี 4 ค่ะ โผล่ออกจากเต๊นท์มานี่สั่นหงึกหงักเลย น่าจะประมาณ 15 องศาได้นะสำหรับเช้ามืดนี้
นัดพี่คนขับรถไว้ 4:30 จากที่กางเต๊นท์ขับรถไปประมาณนึง ถึงจุดที่เริ่มเดินขึ้นเขาเทวดากัน
** ควรเตรียมไฟฉายคนละ 1 อัน / น้ำเปล่า / ยาดม ให้พร้อมนะจ๊ะ ทางเดินมืดมาก ส่วนขนมใครจะพกไปทานบนยอดก็ได้ฟินไปอีก **
(เอาอะไรขึ้นไป ควรเอาลงมาให้หมดนะจ๊ะ ข้างบนขยะเยอะมาก)

ระยะทางจากข้างล่างถึงยอดเขา ประมาณ 800 เมตร ใช้เวลาเดิน 1-1:30 ชม. เป็นทางขึ้นๆๆๆๆ อย่างเดียวเลย และมืดมาก
บางช่วงเป็นทางราบ บางช่วงเป็นขั้นบันได บางช่วงที่ชันมากๆ ก็จะมีเชือกช่วย (รึเปล่า)

ใช้เวลาพอสมควรค่อยๆไต่ขึ้นมาถึงยอด หายเหนื่อยเลยอ่ะ วิวนี้มันดีต่อใจเนอะ หัวใจ

โชคดีไปอีก เจอทะเลหมอกด้วย

ก็ดื่มด่ำกับสิ่งที่ธรรมชาติสรรค์สร้างกันพอสมควร อิ่มเอมใจแล้วก็กลับลงมา มาดูทางชัดๆ นี่ฉันขึ้นไปได้ยังงายยยยย


กลับมาถึงเต๊นท์ ก็จัดการมื้อเช้า แล้วเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับสู่โลกความเป็นจริง T^T

ก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้....หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่รักการเดินทางนะคะ
ชื่อสินค้า:   อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่