ค่าเช่าห้างไทยสูงแซงญี่ปุ่น-ฮ่องกง ‘เย็นตาโฟมัลลิการ์’หนี หันเปิดร้านในปั๊มน้ำมันแทน
นางมัลลิการ์ ธรรมวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มัลลิการ์ อินเตอร์ฟู๊ด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง ร้าน อ.มัลลิการ์ เปิดเผยว่า การขยายสาขาร้านอาหารจะเน้นในปั๊มน้ำมัน ทั้งการลงทุนเอง และขายแฟรนไชส์ที่เพิ่งทำในปีนี้ หลังจากปิดร้านในห้าง 2-3 สาขา เพราะไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการ และห้างมีค่าเช่าพื้นที่แพง ขณะที่การแข่งขันในปั๊มยังน้อย การทำกำไรได้มากกว่าในห้างเท่าตัว และต้นทุนถูกกว่า โดยแต่ละสาขาจะลงทุน 4-5 ล้านบาท พื้นที่ 100 ตารางเมตร ส่วนลงทุนในห้างใช้เงิน 7-8 ล้านบาท บนพื้นที่ 150 ตารางเมตร
นอกจากนี้ มีปั๊มน้ำมันรายใหญ่สนใจซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดขายเอง ซึ่งกำลังคุยในต่างจังหวัด รวมถึงจะเปิดขายแฟรนไชส์ร้านเย็นตาโฟในต่างประเทศ โดยปัจจุบันร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง สร้างรายได้ 70% ของรายได้ทั้งบริษัท มี 35 สาขา แบ่งเป็นในไทย 30 สาขา และประเทศเพื่อนบ้าน 5 สาขา
” ภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร ช่วงนี้ดีขึ้น เข้าเทศกาลเฉลิมฉลอง มีมาตรการภาครัฐ ส่วนแนวโน้มร้านอาหารปีหน้ายังคงทรงตัว อาจดีกว่าปีนี้เล็กน้อย ผู้ประกอบการดูแลตัวเองให้ดี ควบคุมคุณภาพต้นทุนไม่ให้บานปลาย ร้านมีเอกลักษณ์ ที่คนรู้จักและยอมรับ จะอยู่ได้ แต่หากไม่มีแบรนด์ตัวเองคนไม่รู้จัก ก็อยู่ยาก” นางมัลลิการ์กล่าว
นายนพดล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้า Body Glove กล่าวว่า อัตราค่าเช่าพื้นที่ในห้างของไทยแพงกว่าญี่ปุ่น และฮ่องกง เนื่องจากการแข่งขันค้าปลีกในไทยเป็นกลุ่มใหญ่เพียงไม่กี่กลุ่ม ซึ่งกำหนดราคาพื้นที่เช่าได้ สำหรับธุรกิจ Body Glove ขยายประมาณ 10 สาขาต่อปี ปัจจุบันมี 159 ร้าน โดย 9 เดือนแรกมีรายได้ 600 ล้านบาท
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
http://www.matichon.co.th/news/399539 
เศรษฐกิจดี๊ดี.........................(นพนครพิงค์)
นางมัลลิการ์ ธรรมวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มัลลิการ์ อินเตอร์ฟู๊ด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง ร้าน อ.มัลลิการ์ เปิดเผยว่า การขยายสาขาร้านอาหารจะเน้นในปั๊มน้ำมัน ทั้งการลงทุนเอง และขายแฟรนไชส์ที่เพิ่งทำในปีนี้ หลังจากปิดร้านในห้าง 2-3 สาขา เพราะไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการ และห้างมีค่าเช่าพื้นที่แพง ขณะที่การแข่งขันในปั๊มยังน้อย การทำกำไรได้มากกว่าในห้างเท่าตัว และต้นทุนถูกกว่า โดยแต่ละสาขาจะลงทุน 4-5 ล้านบาท พื้นที่ 100 ตารางเมตร ส่วนลงทุนในห้างใช้เงิน 7-8 ล้านบาท บนพื้นที่ 150 ตารางเมตร
นอกจากนี้ มีปั๊มน้ำมันรายใหญ่สนใจซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดขายเอง ซึ่งกำลังคุยในต่างจังหวัด รวมถึงจะเปิดขายแฟรนไชส์ร้านเย็นตาโฟในต่างประเทศ โดยปัจจุบันร้านเย็นตาโฟเครื่องทรง สร้างรายได้ 70% ของรายได้ทั้งบริษัท มี 35 สาขา แบ่งเป็นในไทย 30 สาขา และประเทศเพื่อนบ้าน 5 สาขา
” ภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร ช่วงนี้ดีขึ้น เข้าเทศกาลเฉลิมฉลอง มีมาตรการภาครัฐ ส่วนแนวโน้มร้านอาหารปีหน้ายังคงทรงตัว อาจดีกว่าปีนี้เล็กน้อย ผู้ประกอบการดูแลตัวเองให้ดี ควบคุมคุณภาพต้นทุนไม่ให้บานปลาย ร้านมีเอกลักษณ์ ที่คนรู้จักและยอมรับ จะอยู่ได้ แต่หากไม่มีแบรนด์ตัวเองคนไม่รู้จัก ก็อยู่ยาก” นางมัลลิการ์กล่าว
นายนพดล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจเสื้อผ้า Body Glove กล่าวว่า อัตราค่าเช่าพื้นที่ในห้างของไทยแพงกว่าญี่ปุ่น และฮ่องกง เนื่องจากการแข่งขันค้าปลีกในไทยเป็นกลุ่มใหญ่เพียงไม่กี่กลุ่ม ซึ่งกำหนดราคาพื้นที่เช่าได้ สำหรับธุรกิจ Body Glove ขยายประมาณ 10 สาขาต่อปี ปัจจุบันมี 159 ร้าน โดย 9 เดือนแรกมีรายได้ 600 ล้านบาท
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
http://www.matichon.co.th/news/399539