สวัสดีค่ะ ชาวพันทิพย์ที่น่ารักทุกคน หลังจากย้ายสัมมะโนครัวมาตั้งรกรากที่เเคนาดาได้สามเดือนกว่า
ทำงานก้มหน้ายกของจนหลังเเทบพัง ก็ถึงเวลาที่เงินเก็บพอที่จะไปเยือนหมู่บ้านสกีชื่อดัง
เเหล่งบ้านพักตากอากาศของเหล่าเซเล็บ คนรวย ดัสเชส ดัชชี่ ทั้งหลาย
เกริ่นประวัติคร่าวๆ (อยากได้ยาวๆหาอ่านในกูเกิ้ล อิอิ) Whistler เป็นสกีรีสอร์ตชื่อดังอลังมาก (เราไม่รู้จักอะ) ด้วยความที่ไปถึงเมืองหนาวในช่วงฤดูร้อนเเต่อยากเห็นหิมะใจจะขาด อยากมีโมเมนต์หิมะหล่นใส่หัว หมุนตัวไปรอบๆ วิสเลอร์จึงเป็นความหวังเดียวของเรา
เเต่ความหวังก็พังลงมาช่วงที่เราไปเป็นช่วงหมดซีซั่นเเล้ว ที่เเวนคูเวอร์จะเป็นหนาวเเบบไม่มีหิมะ หนาวเเบบเปียกเเฉะ หนาวเเบบน่ารำคาญเพราะไม่เห็นเเสงอาทิตย์กันเป็นอาทิตย์ หนาวเเบบเเช่อยู่ในน้ำใส่น้ำเเข็ง ประมาณนั้น
เดินเข้ามาเรื่อยๆเมืองก็จะมีประชาสัมพันธ์ เเนะว่าเราควรต้องเดินต่อไปทางไหน ไปยังไงเมื่อไม่มีเธอ อ่อ ไม่ใช่ละ! คือการท่องเที่ยวของที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรฟรี นอกจากน้ำเปล่าเเล้วเกือบทุกอย่างก็เสียเงินหมด ค่าเข้าของที่นี่ก็เช่นกัน เบาะๆเคาะมาเลย 3000 กว่าบาท ฮืออ
ทางเข้าหมู่บ้านจะมีร้านขายของมากมาย ส่วนมากจะเป็นเเบรนด์เนมขายอุปกรณ์กีฬาสำหรับนักสกี เเต่ช่วงที่เราไปเป็นหน้าร้อน หิมะหายไปเกือบหมดเหลือเเต่ภูเขาโล้นๆ ซึ่งเค้าก็ปรับให้เป็นที่ปั่นจักรยานของเหล่านักปั่นผาดโผน เราเเทบไม่ต้องเสีบเงินไปดูโชว์เเพงๆเลย มาที่นี่คุ้มจริงๆ ปั่นลงมาล้มหัวคะมำ ดั้งหัก ขาหัก ก็เเทบจะหลายคน ดูเเล้วเร้าใจมาก 5555555
สระน้ำมรกต ไม่ได้มรกตด้วยตะไคร่นะจ๊ะ เป้นน้ำที่ละลายมาจากหิมะบนยอดเขาสูง ไหลมารวมกันในอ่างเเล้วทำปฏิกริยาอะไรสักอย่าง ฟังเค้าอธิบายไม่ค่อยรู้เรื่อง ขอโทษจริงๆ
หลังจากเสียค่าเข้า ก็จะมีกระเช้าเเบบที่เอาขาห้อยลงมาได้ เป็นกระเช้าสำหรับนักสกี หวาดเสียวมาก เราเคยท้าความกลัวตัวเองด้วยการไปกระโดดบันจี้จัมพ์เพื่อให้หายป๊อดเวลาขึ้นที่สูง ปรากฎว่าดีมากเลยค่ะ กลัวหนักกว่าเดิมไปอี๊ก ขาสั่นพั่บๆ เราไม่มีรูปนะค่ะ เราหลับตา เเลัวพับขาขึ้นนั่งเเบบกุลสตรีชาววังนะค่ะ มือนี่สั่น เหงื่อเเตกไปหมด พอขึ้นไปเรื่อยๆมันก็จะสูงขึ้น เรื่อยๆ จนถึงยอดเลย พอมองลงมาก็จะเห็นหมู่บ้านกระจิ๋วเท่ากำมือ
พอขึ้นมาบนเขา ก็จะมีป้ายบอกทางว่าถ้าเราจะไปเขาถัดไปก็สามารถนั่งกระเช้าไปได้ รอบนี้เป็นกระเช้าเเบบปิด โล่งอกไปนิด ที่นี่เขาหลายลูกมาก เอาไว้ให้นักสกีที่มีสกิลสูงๆ เค้ามาท้าทายความโหดกันนะคะ เราเเอบชะเง้อหน้าลงไปมอง เเหล่งสกีของนักสกีระดับโลก อู๊ว เเม่เจ้า นี่มันหน้าผา เอดร๊อกก มองเเล้วใจหวิวๆ หน้ามืด จะเป็นลม 555555 ชะนีที่ดีต้องมีความป๊อด
หิมะยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เเต่ก็ไม่สามารถเล่นสกีได้ ในช่วงหน้าหนาว หุบเขาเเห่งนี้จะเต็มไปด้วยหิมะที่ปกคลุมหนามากกกกก เเต่มันจะเป็นเเบบนี้เเหละ ไม่ใช่ช่วงนี้ไง ช่วงที่เราว่างเเล้วมีเงิน 5555555
รอขึ้นกระเช้า peak to peak
ง พีคจริงๆ เค้าเคลมมาว่าเป็นเส้นทางกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก นี่ก็ไม่ทราบ เเต่ที่ทราบคือหวั่นไหวต่อธรณีเบื้องล่างเหลือเกิน
มีกิจกกรมมากมายทั้งเส้นทางนักไต่เขา เส้นทางนักปั่น เส้นทางนักสกี เเละเส้นทางผู้หญิงขี้เกียจอย่างเราคือเดินขึ้นกระเช้าอย่างเดียว 55555
ร่องรอยอารยะธรรมของหิมะ ที่อยากมาเจอ มีเหลืออยู่เเค่นี้เเหละ เเถมพี่หรั่งยังฝากรอยตรีนไว้ในกายเธออีก เราฝืนหยิบมากินไม่ไหวจริงๆ โถ่วววว
ด้านนอกจะเป็นลานเฮลิคอปเตอร์ท่องเที่ยว ใครมีงบก็สามารถขึ้นฮอล์เที่ยวชมเขาได้ค่ะ ส่วนเราฮอลล์คูลไปก่อน บ๊ายบายกันด้วยภาพนี้นะค่ะ คนดี ใครว่างๆก็เเวะมาเม้าส์มอยกันได้ในเพจเค้านะ อยู่เหงาๆ วันๆทำเเต่งาน เดี๋ยวกระทู้หน้าจะมาเม้าส์ชีวิตโหดมันส์ ฮา(ไม่ออก) ที่เเคนาดาให้ฟังกัน
วี๊ทเลิฟฟฟ <3
ปล.นี่ขนาดจะเเท็กชีวิตต่างเเดน ยังไม่มีเเท็กคนไทยในเเคนาดาเลย ฮือออออ กวักมือเเรงงง มาอยู่กันเยอะๆโหน่ยยยย
https://www.facebook.com/lookkaidum/
[CR] โอ๊ววว เเคนาดา ! ตอน พาตะลอนหมู่บ้านสกีกลางหุบเขาของเหล่าเซเล็บ ด้วยงบบานปลาย
ทำงานก้มหน้ายกของจนหลังเเทบพัง ก็ถึงเวลาที่เงินเก็บพอที่จะไปเยือนหมู่บ้านสกีชื่อดัง
เเหล่งบ้านพักตากอากาศของเหล่าเซเล็บ คนรวย ดัสเชส ดัชชี่ ทั้งหลาย
เเต่ความหวังก็พังลงมาช่วงที่เราไปเป็นช่วงหมดซีซั่นเเล้ว ที่เเวนคูเวอร์จะเป็นหนาวเเบบไม่มีหิมะ หนาวเเบบเปียกเเฉะ หนาวเเบบน่ารำคาญเพราะไม่เห็นเเสงอาทิตย์กันเป็นอาทิตย์ หนาวเเบบเเช่อยู่ในน้ำใส่น้ำเเข็ง ประมาณนั้น
สระน้ำมรกต ไม่ได้มรกตด้วยตะไคร่นะจ๊ะ เป้นน้ำที่ละลายมาจากหิมะบนยอดเขาสูง ไหลมารวมกันในอ่างเเล้วทำปฏิกริยาอะไรสักอย่าง ฟังเค้าอธิบายไม่ค่อยรู้เรื่อง ขอโทษจริงๆ
หลังจากเสียค่าเข้า ก็จะมีกระเช้าเเบบที่เอาขาห้อยลงมาได้ เป็นกระเช้าสำหรับนักสกี หวาดเสียวมาก เราเคยท้าความกลัวตัวเองด้วยการไปกระโดดบันจี้จัมพ์เพื่อให้หายป๊อดเวลาขึ้นที่สูง ปรากฎว่าดีมากเลยค่ะ กลัวหนักกว่าเดิมไปอี๊ก ขาสั่นพั่บๆ เราไม่มีรูปนะค่ะ เราหลับตา เเลัวพับขาขึ้นนั่งเเบบกุลสตรีชาววังนะค่ะ มือนี่สั่น เหงื่อเเตกไปหมด พอขึ้นไปเรื่อยๆมันก็จะสูงขึ้น เรื่อยๆ จนถึงยอดเลย พอมองลงมาก็จะเห็นหมู่บ้านกระจิ๋วเท่ากำมือ
พอขึ้นมาบนเขา ก็จะมีป้ายบอกทางว่าถ้าเราจะไปเขาถัดไปก็สามารถนั่งกระเช้าไปได้ รอบนี้เป็นกระเช้าเเบบปิด โล่งอกไปนิด ที่นี่เขาหลายลูกมาก เอาไว้ให้นักสกีที่มีสกิลสูงๆ เค้ามาท้าทายความโหดกันนะคะ เราเเอบชะเง้อหน้าลงไปมอง เเหล่งสกีของนักสกีระดับโลก อู๊ว เเม่เจ้า นี่มันหน้าผา เอดร๊อกก มองเเล้วใจหวิวๆ หน้ามืด จะเป็นลม 555555 ชะนีที่ดีต้องมีความป๊อด
หิมะยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เเต่ก็ไม่สามารถเล่นสกีได้ ในช่วงหน้าหนาว หุบเขาเเห่งนี้จะเต็มไปด้วยหิมะที่ปกคลุมหนามากกกกก เเต่มันจะเป็นเเบบนี้เเหละ ไม่ใช่ช่วงนี้ไง ช่วงที่เราว่างเเล้วมีเงิน 5555555
รอขึ้นกระเช้า peak to peak ง พีคจริงๆ เค้าเคลมมาว่าเป็นเส้นทางกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก นี่ก็ไม่ทราบ เเต่ที่ทราบคือหวั่นไหวต่อธรณีเบื้องล่างเหลือเกิน
มีกิจกกรมมากมายทั้งเส้นทางนักไต่เขา เส้นทางนักปั่น เส้นทางนักสกี เเละเส้นทางผู้หญิงขี้เกียจอย่างเราคือเดินขึ้นกระเช้าอย่างเดียว 55555
ร่องรอยอารยะธรรมของหิมะ ที่อยากมาเจอ มีเหลืออยู่เเค่นี้เเหละ เเถมพี่หรั่งยังฝากรอยตรีนไว้ในกายเธออีก เราฝืนหยิบมากินไม่ไหวจริงๆ โถ่วววว
ด้านนอกจะเป็นลานเฮลิคอปเตอร์ท่องเที่ยว ใครมีงบก็สามารถขึ้นฮอล์เที่ยวชมเขาได้ค่ะ ส่วนเราฮอลล์คูลไปก่อน บ๊ายบายกันด้วยภาพนี้นะค่ะ คนดี ใครว่างๆก็เเวะมาเม้าส์มอยกันได้ในเพจเค้านะ อยู่เหงาๆ วันๆทำเเต่งาน เดี๋ยวกระทู้หน้าจะมาเม้าส์ชีวิตโหดมันส์ ฮา(ไม่ออก) ที่เเคนาดาให้ฟังกัน
วี๊ทเลิฟฟฟ <3
ปล.นี่ขนาดจะเเท็กชีวิตต่างเเดน ยังไม่มีเเท็กคนไทยในเเคนาดาเลย ฮือออออ กวักมือเเรงงง มาอยู่กันเยอะๆโหน่ยยยย
https://www.facebook.com/lookkaidum/