แฟนเราอยู่ในช่วงเพิ่งเปลี่ยนงานและเทรนงานให้ผ่านโปร และช่วงนี้เค้าเครียดๆกับงาน งานของแฟนเป็นงานที่เวลาไม่สม่ำเสมอเหมือนคนทั่วไป บางวันทำกลางวัน บางวันกลางคืน แต่ละอาทิตย์ก็มีวันหยุดไม่เหมือนกัน
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อสองสามวันก่อนเราจองทริปสำหรับไปเที่ยวด้วยกันช่วงหลังปีใหม่ แฟนจองโรงแรมทางเว็บ agoda จองแบบลดหลาย % ซึ่งต้องจ่ายเงินทันทีและยกเลิกไม่ได้ ถ้ายกเลิกก็ไม่ได้เงินคืน
วันนี้เมื่อตอนเย็น แฟนโทรมาบอกเราว่าตารางงานของเดือนมกราเพิ่งออก และต้องเข้างานตรงกับวันที่จองทริปไว้พอดี เราก็บอกว่าไม่เป็นไร น่าจะขอเลื่อนได้ แล้วก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เพราะเป็นครั้งแรกของวันที่ได้คุยกัน แฟนก็บอกว่าต้องตื่นเช้า เมื่อเช้าตื่นตี 5 พรุ่งนี้ต้องเช้ากว่านั้น เราก็บอกไปว่าอย่านอนดึก แล้วก็วางสาย
หลังจากนั้นเราก็รีบเสิร์ชหาข้อมูลว่าถ้าจะเลื่อนวันการจองโรงแรมต้องทำอย่างไร ก็เห็นคนแนะนำว่าให้โทรไปที่ agoda แล้วขอเลื่อน
เราเลยส่งข้อความให้แฟนว่าให้ลองโทรไปคุยที่ agoda สักพักแฟนก็ส่งข้อความกลับมาว่า กำลังโทรอยู่
ตอนนั้นเวลาประมาณทุ่มครึ่ง เราก็กะว่า พอแฟนวางสายก็คงโทรหรือส่งข้อความกลับมาบอกเราว่า เลื่อนได้/เลื่อนไม่ได้/ติดต่อ agoda ไม่ได้
แต่หลังจากนั้นก็เงียบไป
สักสองทุ่มเราก็ส่งข้อความไปถามแฟนว่าตกลงเลื่อนได้ไหม แฟนก็ไม่ได้อ่าน เราก็รอจนสองทุ่มครึ่งก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโทรหรือตอบกลับ เรากลัวว่าจะดึกเกินไป เราเลยรีบโทรหาแฟนเพื่อถาม แฟนก็รับ น้ำเสียงงัวเงียแล้วบอกว่านอนแล้ว เราก็บอกขอโทษ แล้วก็รีบวาง
อีกห้านาทีต่อมาแฟนโทรกลับมา เรารับแล้วก็โดนแฟนตะคอกพูดหยาบคายใส่ โวยวายว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นตีสอง พอเราโทรไปแล้วนอนไม่หลับเลย และบอกว่าเราเป็นโรคประสาทที่โทรจิกเค้า
จากมุมมองเรา
1. เรารู้แค่ว่าแฟนต้องตื่นเช้า แต่ไม่รู้ว่าเช้าขนาดตีสอง เพราะอยู่คนละบ้านและแฟนไม่ได้บอกเรา
2. ข้อความสุดท้ายที่ส่งมา "กำลังโทรหา agoda อยู่" เป็นข้อความเชิงให้เรารอคำตอบ
3. เราคิดว่าตามปกติ ถ้าคนจะเข้านอนและไม่อยากให้ใครรบกวนก็น่าจะปิดเสียงมือถือ ใครโทรเข้าก็ไม่ได้ยินอยู่แล้ว
4. เราไม่คิดว่าการโทรหา 1 ครั้งเพื่อถามเรื่องที่ค้างคาอยู่คือการโทรจิก
เรามองว่า
- ถ้าแฟนบอกเราให้ชัดเจนตอนคุยเมื่อตอนเย็นว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นตีสอง เราก็คงไม่โทรไปถาม
- ถ้าหลังจากวางสายจาก agoda ก่อนเข้านอน แฟนสละเวลาสักนิด พิมพ์ข้อความมาหาเราสักสองสามคำ เลื่อนได้/เลื่อนไม่ได้/ติดต่อไม่ได้ ก็จบ เราก็ไม่ต้องโทรถาม
- ถ้าแฟนเข้านอนโดยปิดเสียงโทรศัพท์ ต่อให้เราโทรเข้าก็ไม่ได้ยินอยู่แล้ว เวลาคนเราโทรหาใคร ไม่มีใครรู้หรอกว่าปลายทางทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นตามตรรกะทั่วไป ถ้าไม่อยากให้ใครรบกวน เจ้าตัวก็น่าจะปิดเสียงเอง ไม่ใช่คาดหวังว่าคนโทรมาต้องทราบว่าทำอะไรอยู่ ตื่นหรือนอนอยู่ สะดวกรับสายหรือไม่
แต่จากมุมมองแฟนเรา (ตามที่เราจับใจความได้ สอดแทรกอยู่ในการตะคอกโวยวาย)
พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าและมีงานสำคัญ แฟนคิดว่าเราควรจะรู้ว่าเค้าเข้านอนแล้ว (ทั้งๆที่ไม่ได้บอกเราว่าจะต้องตื่นกี่โมง) และไม่ควรจะโทรกลับมาติดตามเรื่อง (ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ตอบเราก็ตาม)
เราเลยอยากทราบว่า เหตุการณ์ข้างบนนี้
ถ้าเป็นคนทั่วไป เวลาอีกคนนึงบอกว่ากำลังโทรตามอะไรอยู่แล้วเงียบหายไป คนทั่วไปจะไม่โทรกลับไปถามอัพเดทหรอคะ ?
คนทั่วไปต้องทราบว่าแฟนเข้านอนแล้ว ตื่นแล้ว ว่าง ไม่ว่าง สะดวก ไม่สะดวก เวลาไหนโทรได้ โทรไม่ได้ โดยที่แฟนไม่ต้องบอกหรอคะ ?
คนทั่วไปเข้านอนโดยไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วคาดหวังว่าคนโทรมาต้องรู้ว่าหลับแล้ว และตะคอกใส่คนโทรมาหรอคะ ?
อยากทราบว่าการกระทำของเราคือเหมือนคนเป็นโรคประสาท หรือว่าแฟนเราเครียดจนสติหลุดคะ ?
จากเหตุกาณ์นี้ เราเป็นโรคประสาท หรือว่า แฟนเราสติหลุดคะ ?
เรื่องของเรื่องคือ เมื่อสองสามวันก่อนเราจองทริปสำหรับไปเที่ยวด้วยกันช่วงหลังปีใหม่ แฟนจองโรงแรมทางเว็บ agoda จองแบบลดหลาย % ซึ่งต้องจ่ายเงินทันทีและยกเลิกไม่ได้ ถ้ายกเลิกก็ไม่ได้เงินคืน
วันนี้เมื่อตอนเย็น แฟนโทรมาบอกเราว่าตารางงานของเดือนมกราเพิ่งออก และต้องเข้างานตรงกับวันที่จองทริปไว้พอดี เราก็บอกว่าไม่เป็นไร น่าจะขอเลื่อนได้ แล้วก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เพราะเป็นครั้งแรกของวันที่ได้คุยกัน แฟนก็บอกว่าต้องตื่นเช้า เมื่อเช้าตื่นตี 5 พรุ่งนี้ต้องเช้ากว่านั้น เราก็บอกไปว่าอย่านอนดึก แล้วก็วางสาย
หลังจากนั้นเราก็รีบเสิร์ชหาข้อมูลว่าถ้าจะเลื่อนวันการจองโรงแรมต้องทำอย่างไร ก็เห็นคนแนะนำว่าให้โทรไปที่ agoda แล้วขอเลื่อน
เราเลยส่งข้อความให้แฟนว่าให้ลองโทรไปคุยที่ agoda สักพักแฟนก็ส่งข้อความกลับมาว่า กำลังโทรอยู่
ตอนนั้นเวลาประมาณทุ่มครึ่ง เราก็กะว่า พอแฟนวางสายก็คงโทรหรือส่งข้อความกลับมาบอกเราว่า เลื่อนได้/เลื่อนไม่ได้/ติดต่อ agoda ไม่ได้
แต่หลังจากนั้นก็เงียบไป
สักสองทุ่มเราก็ส่งข้อความไปถามแฟนว่าตกลงเลื่อนได้ไหม แฟนก็ไม่ได้อ่าน เราก็รอจนสองทุ่มครึ่งก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโทรหรือตอบกลับ เรากลัวว่าจะดึกเกินไป เราเลยรีบโทรหาแฟนเพื่อถาม แฟนก็รับ น้ำเสียงงัวเงียแล้วบอกว่านอนแล้ว เราก็บอกขอโทษ แล้วก็รีบวาง
อีกห้านาทีต่อมาแฟนโทรกลับมา เรารับแล้วก็โดนแฟนตะคอกพูดหยาบคายใส่ โวยวายว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นตีสอง พอเราโทรไปแล้วนอนไม่หลับเลย และบอกว่าเราเป็นโรคประสาทที่โทรจิกเค้า
จากมุมมองเรา
1. เรารู้แค่ว่าแฟนต้องตื่นเช้า แต่ไม่รู้ว่าเช้าขนาดตีสอง เพราะอยู่คนละบ้านและแฟนไม่ได้บอกเรา
2. ข้อความสุดท้ายที่ส่งมา "กำลังโทรหา agoda อยู่" เป็นข้อความเชิงให้เรารอคำตอบ
3. เราคิดว่าตามปกติ ถ้าคนจะเข้านอนและไม่อยากให้ใครรบกวนก็น่าจะปิดเสียงมือถือ ใครโทรเข้าก็ไม่ได้ยินอยู่แล้ว
4. เราไม่คิดว่าการโทรหา 1 ครั้งเพื่อถามเรื่องที่ค้างคาอยู่คือการโทรจิก
เรามองว่า
- ถ้าแฟนบอกเราให้ชัดเจนตอนคุยเมื่อตอนเย็นว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นตีสอง เราก็คงไม่โทรไปถาม
- ถ้าหลังจากวางสายจาก agoda ก่อนเข้านอน แฟนสละเวลาสักนิด พิมพ์ข้อความมาหาเราสักสองสามคำ เลื่อนได้/เลื่อนไม่ได้/ติดต่อไม่ได้ ก็จบ เราก็ไม่ต้องโทรถาม
- ถ้าแฟนเข้านอนโดยปิดเสียงโทรศัพท์ ต่อให้เราโทรเข้าก็ไม่ได้ยินอยู่แล้ว เวลาคนเราโทรหาใคร ไม่มีใครรู้หรอกว่าปลายทางทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นตามตรรกะทั่วไป ถ้าไม่อยากให้ใครรบกวน เจ้าตัวก็น่าจะปิดเสียงเอง ไม่ใช่คาดหวังว่าคนโทรมาต้องทราบว่าทำอะไรอยู่ ตื่นหรือนอนอยู่ สะดวกรับสายหรือไม่
แต่จากมุมมองแฟนเรา (ตามที่เราจับใจความได้ สอดแทรกอยู่ในการตะคอกโวยวาย)
พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าและมีงานสำคัญ แฟนคิดว่าเราควรจะรู้ว่าเค้าเข้านอนแล้ว (ทั้งๆที่ไม่ได้บอกเราว่าจะต้องตื่นกี่โมง) และไม่ควรจะโทรกลับมาติดตามเรื่อง (ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ตอบเราก็ตาม)
เราเลยอยากทราบว่า เหตุการณ์ข้างบนนี้
ถ้าเป็นคนทั่วไป เวลาอีกคนนึงบอกว่ากำลังโทรตามอะไรอยู่แล้วเงียบหายไป คนทั่วไปจะไม่โทรกลับไปถามอัพเดทหรอคะ ?
คนทั่วไปต้องทราบว่าแฟนเข้านอนแล้ว ตื่นแล้ว ว่าง ไม่ว่าง สะดวก ไม่สะดวก เวลาไหนโทรได้ โทรไม่ได้ โดยที่แฟนไม่ต้องบอกหรอคะ ?
คนทั่วไปเข้านอนโดยไม่ปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วคาดหวังว่าคนโทรมาต้องรู้ว่าหลับแล้ว และตะคอกใส่คนโทรมาหรอคะ ?
อยากทราบว่าการกระทำของเราคือเหมือนคนเป็นโรคประสาท หรือว่าแฟนเราเครียดจนสติหลุดคะ ?