การเที่ยวครั้งนี้เป็นหนึ่งในที่สุดความประทับใจตั้งแต่ได้เที่ยวมา ถึงแม้ยังไม่ได้ไปเที่ยวมาครบทุกที่ทุกประเทศ แต่ก็ถือว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบการท่องเที่ยวพอสมควรเลยค่ะ ครั้งนี้เป็นการเที่ยวในประเทศอีกครั้งนึง แต่มันดันเป็นหนึ่งในที่สุดความประทับใจ ตั้งแต่น้ำได้ไปเที่ยวมาเลยล่ะค่ะ บางคนคงอาจจะสงสัยนะคะว่าด้วยราคาและอื่นๆ ไปเที่ยวต่างประเทศอาจจะราคาพอๆกัน แต่พอจขกทได้ไปรับประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง เจอสิ่งดีๆน่ารักๆ ที่ไม่รู้ว่าถ้าอยากได้การณ์ประสบการณ์แบบนี้ จะต้องหาได้จากที่ไหนหรือประเทศอะไร เลยเข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมคนถึงมาเที่ยวที่นี่กันทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายพอๆกับการไปเที่ยวต่างประเทศเลย มาค่ะตามมาดูกัน น้ำเองก็ไม่แน่ใจว่าจะถ่ายทอดประสบการณ์และพลังงานบวกที่ได้รับมาได้ดี หรือครบถ้วนแค่ไหน แต่ก็จะพยามทำให้ดีที่สุดนะคะ
ลองชม VDO - EP 1 ตามลิ้งค์ ด้านล่างนี้ได้นะคะ เดี๋ยว EP ต่อๆไปจะตามมาค่ะ ;)
น้ำเอง ไม่เคยเที่ยวจังหวัดตราดเลยค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เริ่มกันที่สนามบินเลยละกันนะคะ
สนามบินสุวรรณภูมินะคะเชคอินที่เค้าเต้อ D24 จะมีแบคดรอปของโซเนว่าวางเอาไว้ให้สังเกตุเห็นกันง่ายๆ
ทิวทัศน์อันสวยงาม ;)
เครื่องบินจะแลนที่เกาะไม้ซี้ เป็นเกาะข้างๆเกาะกูดค่ะใช้เป็นสนามบินแบบprivate
สำหรับโซเนวา เท่านั้น เกาะนี้มีชาวบ้านอยู่ด้วยนะแต่จำนวนประชากรจะน้อย เลยจะดูเงียบๆนิดนึง
ที่เกาะไม้ซี้จะมีพนักงานที่คอยดูแลพวกเราพร้อมกับรถกอล์ฟมารอรับข้างๆเครื่องบินเลยค่ะ
เพื่อจะพาเราไปส่งที่เรือเพื่อข้ามไปเกาะอีกทีนึง
พนักงานคนนี้จะเป็นคนที่คอยดูแลเราเป็นประจำเลยค่ะ เค้าเรียกกันว่า Mr./Ms. Friday.
Mr. Friday ของน้ำชื่อว่าคุณโทนี่ค่ะ น่ารักเป็นกันเองแล้วที่สำคัญ friendly มากๆค่ะ
พอแลนด์แล้ว เราก็มานั่งเรือข้ามไปยังเกาะกูดค่า บนเรือจะมีน้ำผลไม้ชื่นใจในขวดแก้วมาให้ทาน
น้ำได้ทานน้ำแตงโมค่ะ คั้นสดชื่นใจ นอกจากนั้นเค้าก็ยังมีผ้าเย็นไว้เช็ดหน้า-มือ
ช่วยทำให้เราrefreshได้อีกด้วย
หวานสุดๆ
สวยมั้ยคะ ;)
พอเรือเทียบท่าบนเกาะกูด เราก็จะพบกับคนของทางรีสอร์ท
ที่มีทั้งไทยและเทศ ยืนยิ้มแย้มแจ่มใส บทท่าเรือที่เป็นสะพานไม้แน่นหนา
สะอาดและถูกขัดมาให้พื้นผิวเรียบเป็นอย่างดี แล้วตัวสะพานมันก็ทอดยาวขึ้น
ทิวทัศน์พอหันหลัง มองกลับไปที่ท่าเรือค่ะ
พอมาถึงที่นี่ สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือการถอดรองเท้าค่ะ ตามคอนเซปของเค้าที่ว่า
No news, no shoes เป็นที่ๆไม่มีซึ่งข่าวสาร และรองเท้าก็เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น
อันนี้คือ จากประสบการณ์ที่ไปมานะคะ การทำแบบนี้มันดีตรงที่ว่ามันเปิดโอกาสให้เราพักผ่อน
และrelaxได้จริงๆ โดยขอพักจากโลกที่วุ่นวายขอปิดหูปิดตาไม่รับรู้ข่าวสารใดๆแบบชั่วคราว
แล้วถอดรองเท้าเพื่อให้เรา stay connected with the ground หรือแปลตรงตัวก็คือการเชื่อมต่อกับพื้นดิน
เพื่อให้เท้าเราได้สัมผัสพื้นไม้ ทราย หญ้า และดิน ที่มาจากธรรมชาติ
เชื่อมประสาทสัมผัสบนฝ่าเท้าที่แทบจะไม่เคยมีโอกาสได้เจอกับธรรมชาติแบบนี้ >.<
ดังนั้นทั้งทริปไม่ว่าจะไปไหนมาไหน เดินไปทะเล ห้องกินข้าว ห้องนั่งเล่น ก็จะไม่มีรองเท้าไปด้วยเลย
สิ่งที่แปลกก็คือ เท้าสะอาดมากค่ะ ผิดกับตอนอยู่กรุงเทพที่ใส่ถุงเท้าขาวๆก็ดำ เดินในบ้าน ออฟฟิต
ก็ดำจากฝุ่นอยู่ดี แต่ที่นี่เดินไปหมดเลยค่ะแต่เท้ากลับสะอาดมาก อันนี้อาจเป็นผลจากที่เกาะกูดเป็นเกาะโลคาร์บอน
เลยทำให้ไม่มีฝุ่นที่เป็นมลพิษค่ะ
เนื่องจากที่นี่มีพื้นที่กว่า 300ไร่ เค้าเลยให้รถกอล์ฟมาบ้านละหลังค่ะ
น้ำก็จะมีหนึ่งคันไว้ช่วยทุ่นแรงเวลาเดินไปไหนมาไหน คุณโทนี่ Mr.Friday
ของเราจะเข้ามาแนะนำทุกอย่างแล้วอธิบายสถานที่ แผนที่ และกิจกรรมต่างๆภายในรีสอร์ทให้ฟังค่ะ
จอดรถที่ด้านหน้าวิลล่าได้เลยค่ะ
ทางเดินเข้าวิลล่า ที่จะเป็นสะพานไม้ผ่านธรรมชาติ สวยมากๆค่ะ อยากให้ไปเห็นด้วยกันค่ะ
ขออนุญาติพาขึ้นชั้น2ไปชมวิวจากที่สูงกันก่อนนะคะ
มองจากชั้น 2 ค่ะ
ระเบียงห้องชั้น 2 ค่ะ
ทางเดินเชื่อมห้องต่างๆ ของชั้น2ค่ะ
อันนี้เป้นอีกวิลล่านึงค่ะ เนื่องจากวิลล่าที่น้ำอยู่ด้านหน้าจะเป็นวิวทะเล
จึงทำให้ไม้มีสนามที่สามารถทำให้ยืนถ่ายรูปได้ค่ะ
เเต่โดยรวมจะคล้ายๆกับวิลล่านี้ค่ะ
ที่นี่เรียกเป็นวิลล่าค่ะ วิลล่าที่น้ำอยู่เป็นวิลล่าที่61 มี4ห้องนอนใหญ่
สามารถจุได้10กว่าคนได้เลย ไปกันยกแก๊งค์หรือทั้งครอบครัวจะเหมาะมากค่ะ
สบายๆชิลชิลค่ะ
ห้องนอนค่ะ ดีไซน์อย่างสวยงาม
ปลายเท้าเวลาเรานอนก้จะเห็นวิวทะเลเเบบนี้ค่ะ
มีโต๊ะหมากรุก มีโซฟา เเละที่สำคัญ กล่องปลายเตียงค่ะ
กล่องนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่โซเนวาเลยก็ว่าได้
เจ้ากล่องนี้ด้านในจะเป็น TV เเละ เครื่องเล่นดีวีดีค่ะ เราสามารถไปยืม ดีวีดี ได้จากห้องสมุดค่ะ
ทุกห้องนอนจะมี indoor และ outdoor shower ส่วนตัวค่ะ แล้วก็จะมีอ่างอาบน้ำให้ทุกห้องอีกด้วย
(อ่างจะอยู่outdoorค่ะ) น้ำอุ่นมีนะคะ สบายใจได้ ในห้องน้ำก็จะมีห้องแต่งหน้าให้ด้วย
กระจกบานใหญ่ไว้ส่องเต็มตัว สำหรับสาวๆไว้เช็คตัวเองก่อนออกจากห้อง อันนี้ช๊อบชอบมว้ากกๆๆๆ
ทางเชื่อมชั้น1ค่ะ
ทางเดินที่จะเห็นเงาต้นไม้สะท้อน เวลากลางวัน
เเละจะเห้นเงานสะท้อนหระจันทรืหรือดวงดาวในเวลากลางคืนค่ะ
หมดปัญหาการเเย่งกันแปรงฟันเเละล้างหน้าล้างมือค่ะ
การเเก้ผ้าอาบน้ำส่วนนี้ บอกเลยว่าหวิวๆในตอนเเรกแต่กลับสดชื่นพอเริ่มอาบไปสักพักค่ะ
จะมีที่ไหนที่จะให้เราได้กล้าเป็นตัวเอง เห็นความเป็นตัวเองได้ชัดเจนมากไปกว่าที่นี่อีกมั้ยคะ
การอาบน้ำท่ามกลางป่าไม้เขียวขจี ท้องฟ้าที่ใส หรือเต็มไปด้วยดวงดาวในเวลากลางคืน
ได้ปลดปล่อยจริงๆ เเนะนำว่าปล่อยใจให้ว่าง เปิดน้ำใส่อ่าง ตีฟองให้ฟูๆ เเล้วเเช่ตัวลงไปได้เลยคร่า ;)
ปลดทุกข์ได้สบายใจเลยค่ะ
สไลด์ยาวๆไปค่ะ
ห้องนั่งเล่นชั้น2ค่ะ
ขนาดโต๊ะพูลยังมีในวิลล่าที่เราอยู่เลยค่ะ
ขอวางแผนการใช้ชีวิตที่นี่กับคุณโทนี่เเป้ปนะคะ กิจกรรมเค้าเยอะมากๆๆๆจริงๆๆๆ
เดี๋ยวมาต่อนะคะ
[SR] เที่ยวเกาะกูดครั้งเเรก - Soneva kiri resort - ต้องไปสักครั้ง
น้ำเอง ไม่เคยเที่ยวจังหวัดตราดเลยค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เริ่มกันที่สนามบินเลยละกันนะคะ
สนามบินสุวรรณภูมินะคะเชคอินที่เค้าเต้อ D24 จะมีแบคดรอปของโซเนว่าวางเอาไว้ให้สังเกตุเห็นกันง่ายๆ
ทิวทัศน์อันสวยงาม ;)
เครื่องบินจะแลนที่เกาะไม้ซี้ เป็นเกาะข้างๆเกาะกูดค่ะใช้เป็นสนามบินแบบprivate
สำหรับโซเนวา เท่านั้น เกาะนี้มีชาวบ้านอยู่ด้วยนะแต่จำนวนประชากรจะน้อย เลยจะดูเงียบๆนิดนึง
ที่เกาะไม้ซี้จะมีพนักงานที่คอยดูแลพวกเราพร้อมกับรถกอล์ฟมารอรับข้างๆเครื่องบินเลยค่ะ
เพื่อจะพาเราไปส่งที่เรือเพื่อข้ามไปเกาะอีกทีนึง
พนักงานคนนี้จะเป็นคนที่คอยดูแลเราเป็นประจำเลยค่ะ เค้าเรียกกันว่า Mr./Ms. Friday.
Mr. Friday ของน้ำชื่อว่าคุณโทนี่ค่ะ น่ารักเป็นกันเองแล้วที่สำคัญ friendly มากๆค่ะ
พอแลนด์แล้ว เราก็มานั่งเรือข้ามไปยังเกาะกูดค่า บนเรือจะมีน้ำผลไม้ชื่นใจในขวดแก้วมาให้ทาน
น้ำได้ทานน้ำแตงโมค่ะ คั้นสดชื่นใจ นอกจากนั้นเค้าก็ยังมีผ้าเย็นไว้เช็ดหน้า-มือ
ช่วยทำให้เราrefreshได้อีกด้วย
หวานสุดๆ
สวยมั้ยคะ ;)
พอเรือเทียบท่าบนเกาะกูด เราก็จะพบกับคนของทางรีสอร์ท
ที่มีทั้งไทยและเทศ ยืนยิ้มแย้มแจ่มใส บทท่าเรือที่เป็นสะพานไม้แน่นหนา
สะอาดและถูกขัดมาให้พื้นผิวเรียบเป็นอย่างดี แล้วตัวสะพานมันก็ทอดยาวขึ้น
ทิวทัศน์พอหันหลัง มองกลับไปที่ท่าเรือค่ะ
พอมาถึงที่นี่ สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือการถอดรองเท้าค่ะ ตามคอนเซปของเค้าที่ว่า
No news, no shoes เป็นที่ๆไม่มีซึ่งข่าวสาร และรองเท้าก็เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น
อันนี้คือ จากประสบการณ์ที่ไปมานะคะ การทำแบบนี้มันดีตรงที่ว่ามันเปิดโอกาสให้เราพักผ่อน
และrelaxได้จริงๆ โดยขอพักจากโลกที่วุ่นวายขอปิดหูปิดตาไม่รับรู้ข่าวสารใดๆแบบชั่วคราว
แล้วถอดรองเท้าเพื่อให้เรา stay connected with the ground หรือแปลตรงตัวก็คือการเชื่อมต่อกับพื้นดิน
เพื่อให้เท้าเราได้สัมผัสพื้นไม้ ทราย หญ้า และดิน ที่มาจากธรรมชาติ
เชื่อมประสาทสัมผัสบนฝ่าเท้าที่แทบจะไม่เคยมีโอกาสได้เจอกับธรรมชาติแบบนี้ >.<
ดังนั้นทั้งทริปไม่ว่าจะไปไหนมาไหน เดินไปทะเล ห้องกินข้าว ห้องนั่งเล่น ก็จะไม่มีรองเท้าไปด้วยเลย
สิ่งที่แปลกก็คือ เท้าสะอาดมากค่ะ ผิดกับตอนอยู่กรุงเทพที่ใส่ถุงเท้าขาวๆก็ดำ เดินในบ้าน ออฟฟิต
ก็ดำจากฝุ่นอยู่ดี แต่ที่นี่เดินไปหมดเลยค่ะแต่เท้ากลับสะอาดมาก อันนี้อาจเป็นผลจากที่เกาะกูดเป็นเกาะโลคาร์บอน
เลยทำให้ไม่มีฝุ่นที่เป็นมลพิษค่ะ
เนื่องจากที่นี่มีพื้นที่กว่า 300ไร่ เค้าเลยให้รถกอล์ฟมาบ้านละหลังค่ะ
น้ำก็จะมีหนึ่งคันไว้ช่วยทุ่นแรงเวลาเดินไปไหนมาไหน คุณโทนี่ Mr.Friday
ของเราจะเข้ามาแนะนำทุกอย่างแล้วอธิบายสถานที่ แผนที่ และกิจกรรมต่างๆภายในรีสอร์ทให้ฟังค่ะ
จอดรถที่ด้านหน้าวิลล่าได้เลยค่ะ
ทางเดินเข้าวิลล่า ที่จะเป็นสะพานไม้ผ่านธรรมชาติ สวยมากๆค่ะ อยากให้ไปเห็นด้วยกันค่ะ
มองจากชั้น 2 ค่ะ
ระเบียงห้องชั้น 2 ค่ะ
ทางเดินเชื่อมห้องต่างๆ ของชั้น2ค่ะ
อันนี้เป้นอีกวิลล่านึงค่ะ เนื่องจากวิลล่าที่น้ำอยู่ด้านหน้าจะเป็นวิวทะเล
จึงทำให้ไม้มีสนามที่สามารถทำให้ยืนถ่ายรูปได้ค่ะ เเต่โดยรวมจะคล้ายๆกับวิลล่านี้ค่ะ
ที่นี่เรียกเป็นวิลล่าค่ะ วิลล่าที่น้ำอยู่เป็นวิลล่าที่61 มี4ห้องนอนใหญ่
สามารถจุได้10กว่าคนได้เลย ไปกันยกแก๊งค์หรือทั้งครอบครัวจะเหมาะมากค่ะ
สบายๆชิลชิลค่ะ
ห้องนอนค่ะ ดีไซน์อย่างสวยงาม
ปลายเท้าเวลาเรานอนก้จะเห็นวิวทะเลเเบบนี้ค่ะ
มีโต๊ะหมากรุก มีโซฟา เเละที่สำคัญ กล่องปลายเตียงค่ะ
กล่องนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่โซเนวาเลยก็ว่าได้
เจ้ากล่องนี้ด้านในจะเป็น TV เเละ เครื่องเล่นดีวีดีค่ะ เราสามารถไปยืม ดีวีดี ได้จากห้องสมุดค่ะ
ทุกห้องนอนจะมี indoor และ outdoor shower ส่วนตัวค่ะ แล้วก็จะมีอ่างอาบน้ำให้ทุกห้องอีกด้วย
(อ่างจะอยู่outdoorค่ะ) น้ำอุ่นมีนะคะ สบายใจได้ ในห้องน้ำก็จะมีห้องแต่งหน้าให้ด้วย
กระจกบานใหญ่ไว้ส่องเต็มตัว สำหรับสาวๆไว้เช็คตัวเองก่อนออกจากห้อง อันนี้ช๊อบชอบมว้ากกๆๆๆ
ทางเชื่อมชั้น1ค่ะ
ทางเดินที่จะเห็นเงาต้นไม้สะท้อน เวลากลางวัน
เเละจะเห้นเงานสะท้อนหระจันทรืหรือดวงดาวในเวลากลางคืนค่ะ
หมดปัญหาการเเย่งกันแปรงฟันเเละล้างหน้าล้างมือค่ะ
การเเก้ผ้าอาบน้ำส่วนนี้ บอกเลยว่าหวิวๆในตอนเเรกแต่กลับสดชื่นพอเริ่มอาบไปสักพักค่ะ
จะมีที่ไหนที่จะให้เราได้กล้าเป็นตัวเอง เห็นความเป็นตัวเองได้ชัดเจนมากไปกว่าที่นี่อีกมั้ยคะ
การอาบน้ำท่ามกลางป่าไม้เขียวขจี ท้องฟ้าที่ใส หรือเต็มไปด้วยดวงดาวในเวลากลางคืน
ได้ปลดปล่อยจริงๆ เเนะนำว่าปล่อยใจให้ว่าง เปิดน้ำใส่อ่าง ตีฟองให้ฟูๆ เเล้วเเช่ตัวลงไปได้เลยคร่า ;)
ปลดทุกข์ได้สบายใจเลยค่ะ
สไลด์ยาวๆไปค่ะ
ห้องนั่งเล่นชั้น2ค่ะ
ขนาดโต๊ะพูลยังมีในวิลล่าที่เราอยู่เลยค่ะ
ขอวางแผนการใช้ชีวิตที่นี่กับคุณโทนี่เเป้ปนะคะ กิจกรรมเค้าเยอะมากๆๆๆจริงๆๆๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น