7 สิ่งต้องทำ! ป้องกันตัวจากแฮกเกอร์ออนไลน์


ความปลอดภัยเมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้จะต้องพึงระวังเป็นอย่างมาก อย่างที่เห็นข่าวไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่ "ยาฮู" บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ออกมายอมรับว่ามีบัญชีของผู้ใช้มากกว่าหนึ่งพันล้านรายได้รับผลกระทบจากการแฮ็กข้อมูลที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี2556ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ยาฮูเคยออกมายอมรับก่อนหน้านี้ว่าพบการแฮ็กข้อมูลของผู้ใช้ราว 500 ล้านรายในปี 2557 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ถึงแม้เราจะรู้ว่าบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายๆ แห่ง มีเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยที่จะช่วยปกป้องข้อมูลของบรรดาผู้ใช้บัญชีได้ แต่ผู้ใช้เองก็ควรจะรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยตัวเองเหมือนกัน

เว็บไซต์ indy100 เผย 7 สิ่งที่คุณควรจะทำทันทีเพื่อป้องกันตัวเองจากออนไลน์

1.อย่าเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวในโซเชียลมีเดีย
คุณอาจจะแชร์ภาพถ่ายต่างๆที่คุณไปเที่ยวหรือชอบได้ แต่เพื่อความชัวร์คุณไม่ควรที่จะเผยแพร่วันเกิด ชื่อพ่อแม่  ชื่อสัตว์เลี้ยง หรือข้อมูลที่อาจสามารถระบุตัวตนคุณ คนส่วนใหญ่มักจะรู้ และหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นพาสเวิร์ด แต่คุณจะเซอร์ไพรส์มากเพราะเหล่าแฮกเกอร์ตัวป่วนก็มีวิธีสืบเสาะ และใช้ข้อมูลที่คุณเผยแพร่ในการมาช่วยในการรีเซทพาสเวิร์ดได้เหมือนกัน

2.อัพเดทให้เป็นปัจจุบันสม่ำเสมอ
ในที่นี้หมายถึงการอัพเดทปรับปรุงโปรแกรมจำพวกแอนตี้ไวรัสในคอมพิวเตอร์ให้เป็นปัจจุบัน(Up-to-date) รวมถึงอัพเดทเว็บเบราว์เซอร์ระบบต่างๆ ให้เป็นปัจจุบันด้วย เพราะการอัพเดทนั้นเป็นประโยชน์ที่จะช่วยป้องกันสิ่งรบกวนที่พวกแฮกเกอะร์อาจจะใช้มารบกวนระบบการทำงานในคอมพิวเตอร์ได้

3.สร้างพาสเวิร์ดแบบStrong
ด้วยการใช้ตัวอักษรที่เดายากและหลากหลาย อย่างเช่น @,!,* เป็นต้น หลีกเลี่ยงพวกตัวเลขเช่น 123 หรือตัวอักษรเรียงกันเพราะมันสามารถเดาได้ง่าย  แต่เมื่อคุณตั้งพาสเวิร์ดแบบสตรองแล้วก็ต้องชัวร์ว่าคุณจะสามารถจำพาสเวิร์ดที่ตั้งได้ด้วย

4.ใช้คอมมอนเซนส์เพิ่มอีกสักนิด
เรามักจะเจอพวกป๊อปอัพจำพวกคุณเป็นผู้ได้รับรางวัล, เป็นผู้โชคดี ขึ้นมาเวลาใช้อินเทอร์เน็ต และหากมีการถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการ ขอให้คุณจำไว้เลยว่า "อย่ากด"

5.ตั้งรหัส/พาสเวิร์ดให้โทรศัพท์
การตั้งพาสเวิร์ดโทรศัพท์จะช่วยป้องกันการถูกขโมยข้อมูลได้ระดับหนึ่งเพราะส่วนใหญ่คนมักจะใช้โทรศัพท์ทำทุกอย่างถ้าทำหายหรือถูกขโมยไป แต่เมื่อเราตั้งรหัสก็อาจจะเพิ่มความอุ่นใจให้เราได้บ้าง

6.ต้องมั่นใจว่าคุณรู้จักสิ่งนั้นจริง
อย่างพวกอีเมล์ทั้งหลายแนะนำว่าอย่าเปิดหากคุณไม่รู้จักไม่คุณเคยเป็นอันขาด

7.เช็คที่อยู่ URLของลิ้งค์
เพราะพวกแฮกเกอร์ ส่วนมากชอบสร้างเว็บไซต์ที่มีชื่อใกล้เคียงกับของจริง หากเราเผลอไม่เช็คไปเพียงนิดเดียว คุณอาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพก็เป็นได้


บทความจาก : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1481866398
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่