ตอนนี้ธุรกิจผมเจอแบบ คุณตันเลยครับ
คู่แข่งรายใหญ่กว่า เปิดมานานกว่า เงินทุนสูงกว่า ต้นทุนถูกกว่า(เค้าซื้อในปริมาณที่เยอะ) market share เยอะกว่า ลูกค้ารู้จักมากกว่า
หลังจากผมมาเปิด ก็เริ่ม ปรับ เปลี่ยน เพิ่มสินค้า เพิ่มไลน์สินค้า ทำcampaignต่างๆ
เหมือนจะไปได้ดีฮะ แต่ไม่ทันไร
ผมทำอะไรมา พี่แกก็ทำตามหมดเลย
ออกสินค้านี้มา เค้าก็ออก ปรับร้าน เค้าก็ปรับ แถมตัดราคาอีก
ผมเลยไปศึกษา
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/504970 จากบทความนี้ครับ
เขาเปรียบการแข่งขันครั้งนี้ว่า "เป็นการต่อกรกับไดโนเสาร์ และผมขอเป็นไดโนเสาร์พันธุ์เล็กที่พอจะแข่งได้แม้ไม่ชนะ แต่จะไม่หนี เหมือนแบรนด์ชาเขียวดังๆในอดีต"
-------------------------------------------------------------------
"เราไม่มีทางสู้ได้เลย
ดิสทริบิวชั่นเขาแข็งแกร่งมากๆ"
แม้ "อิชิตัน" จะเต็มไปด้วยจุดแข็ง แต่ตันยอมรับเองว่า จุดอ่อนสำคัญที่ทำให้อิชิตัน "ยาก" ที่จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์1 ในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในระยะยาวได้ นั่นคือ ในเรื่อง "การกระจายสินค้า" (Distribution) ที่แม้อิชิตันจะได้กลุ่มสิงห์ ยักษ์ใหญ่ในสังเวียนเบียร์ มากระจายสินค้าให้ แต่ก็ยังแพ้ทาง "โออิชิ" ที่ได้ "ตัวพ่อ" อย่างเสริมสุขฯ บริษัทในร่มเงาของไทยเบฟมาเป็นแรงหนุนสำคัญ คำนวณแล้ว ช่องทางการกระจายสินค้าของอิชิตัน ผ่านร้านค้าทั่วไป (Traditional Trade) ของบุญรอดฯ ทำได้เพียง 50% "ห่างชั้น" เสริมสุขฯ ที่กินรวบตลาดนี้ได้ถึง 80%
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบในแง่ "ยอดขายต่อร้าน" ตันให้ข้อมูลว่า อิชิตันมียอดขายมากกว่าโออิชิราว 20-30% แต่เมื่อมีจำนวนร้านที่จำหน่ายมีน้อยกว่าโออิชิ สะระตะออกมาแล้ว ยอดขายก็ยังสู้โออิชิ ไม่ได้
"ตัวแปร" เรื่องช่องทางการกระจายสินค้า จึงทำให้ตันเชื่อว่า.. ต่อให้ทำเต็มที่แค่ไหน ดีที่สุดในระยะยาว ก็ทำได้แค่เบอร์ 2
หากวัดขุมกำลังในการกระจายสินค้าแล้ว อิชิตันไม่มีทางเทียบโออิชิได้เลย จากความ "ครบวงจร" ของบริษัทแม่อย่างไทยเบฟ ที่มีเครือข่ายการกระจายสินค้าที่แน่นปึ้กอย่างเสริมสุข ไม่รวมรูปแบบการขายโออิชิผ่านระบบโควตา ขายพ่วงสินค้าอื่นในพอร์ตไทยเบฟ
"เราไม่มีทางสู้ได้เลย ดิสทริบิวชั่นเขาแข็งแกร่งมากๆ โดยเฉพาะเสริมสุขเป็นตัวแปรสำคัญในการกระจายสินค้าที่ไม่มีวันทำได้เทียบเท่า อีกทั้งโออิชิยังได้เปรียบเพราะมีเงินทุนมหาศาลด้วย"
ผมเพลียที่ต้องโดนก็อปไอเดีย+ตัดราคาแบบนี้แล้วครับ มีใครมีแนวทางแนะนำผมบ้างว่าเจอแบบนี้ควรแก้ไขปัญหายังไง จัดการยังไง
จากย่อหน้านี้ทำให้ผมคิดว่า หรือว่าที่ผมทำอยู่ตอนนี้ ระยะยาว ทำให้ดีที่สุดยังไง
ก็เป็นไดโนเสาร์พันธุ์เล็ก ไม่สามารถเป็นพันธุ์ใหญ่เท่า หรือกว่าเค้า สู้เค้าไม่ได้ครับ?
อยากเป็นจ้าวตลาดก็ควรไปตลาดอื่น.... แต่คิดๆไปอีกเสียงในหัวก็ค้าน ที่อื่นมันก็มีจ้าวตลาดของทางนั้นเหมือนกันนั่นแหละ
ผมควรจะทำยังไงกับคู่แข่งแบบนี้ดีครับ
กระผมความรู้และ ประสบการณ์ยังน้อยนัก รบกวนผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ช่วยสอน ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณมากๆครับ
คิดว่า อิชิตัน จะสู้ โออิชิ ให้ราบคาบยังไงครับ?
คู่แข่งรายใหญ่กว่า เปิดมานานกว่า เงินทุนสูงกว่า ต้นทุนถูกกว่า(เค้าซื้อในปริมาณที่เยอะ) market share เยอะกว่า ลูกค้ารู้จักมากกว่า
หลังจากผมมาเปิด ก็เริ่ม ปรับ เปลี่ยน เพิ่มสินค้า เพิ่มไลน์สินค้า ทำcampaignต่างๆ
เหมือนจะไปได้ดีฮะ แต่ไม่ทันไร
ผมทำอะไรมา พี่แกก็ทำตามหมดเลย
ออกสินค้านี้มา เค้าก็ออก ปรับร้าน เค้าก็ปรับ แถมตัดราคาอีก
ผมเลยไปศึกษา http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/504970 จากบทความนี้ครับ
เขาเปรียบการแข่งขันครั้งนี้ว่า "เป็นการต่อกรกับไดโนเสาร์ และผมขอเป็นไดโนเสาร์พันธุ์เล็กที่พอจะแข่งได้แม้ไม่ชนะ แต่จะไม่หนี เหมือนแบรนด์ชาเขียวดังๆในอดีต"
-------------------------------------------------------------------
"เราไม่มีทางสู้ได้เลย
ดิสทริบิวชั่นเขาแข็งแกร่งมากๆ"
แม้ "อิชิตัน" จะเต็มไปด้วยจุดแข็ง แต่ตันยอมรับเองว่า จุดอ่อนสำคัญที่ทำให้อิชิตัน "ยาก" ที่จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์1 ในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในระยะยาวได้ นั่นคือ ในเรื่อง "การกระจายสินค้า" (Distribution) ที่แม้อิชิตันจะได้กลุ่มสิงห์ ยักษ์ใหญ่ในสังเวียนเบียร์ มากระจายสินค้าให้ แต่ก็ยังแพ้ทาง "โออิชิ" ที่ได้ "ตัวพ่อ" อย่างเสริมสุขฯ บริษัทในร่มเงาของไทยเบฟมาเป็นแรงหนุนสำคัญ คำนวณแล้ว ช่องทางการกระจายสินค้าของอิชิตัน ผ่านร้านค้าทั่วไป (Traditional Trade) ของบุญรอดฯ ทำได้เพียง 50% "ห่างชั้น" เสริมสุขฯ ที่กินรวบตลาดนี้ได้ถึง 80%
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบในแง่ "ยอดขายต่อร้าน" ตันให้ข้อมูลว่า อิชิตันมียอดขายมากกว่าโออิชิราว 20-30% แต่เมื่อมีจำนวนร้านที่จำหน่ายมีน้อยกว่าโออิชิ สะระตะออกมาแล้ว ยอดขายก็ยังสู้โออิชิ ไม่ได้
"ตัวแปร" เรื่องช่องทางการกระจายสินค้า จึงทำให้ตันเชื่อว่า.. ต่อให้ทำเต็มที่แค่ไหน ดีที่สุดในระยะยาว ก็ทำได้แค่เบอร์ 2
หากวัดขุมกำลังในการกระจายสินค้าแล้ว อิชิตันไม่มีทางเทียบโออิชิได้เลย จากความ "ครบวงจร" ของบริษัทแม่อย่างไทยเบฟ ที่มีเครือข่ายการกระจายสินค้าที่แน่นปึ้กอย่างเสริมสุข ไม่รวมรูปแบบการขายโออิชิผ่านระบบโควตา ขายพ่วงสินค้าอื่นในพอร์ตไทยเบฟ
"เราไม่มีทางสู้ได้เลย ดิสทริบิวชั่นเขาแข็งแกร่งมากๆ โดยเฉพาะเสริมสุขเป็นตัวแปรสำคัญในการกระจายสินค้าที่ไม่มีวันทำได้เทียบเท่า อีกทั้งโออิชิยังได้เปรียบเพราะมีเงินทุนมหาศาลด้วย"
ผมเพลียที่ต้องโดนก็อปไอเดีย+ตัดราคาแบบนี้แล้วครับ มีใครมีแนวทางแนะนำผมบ้างว่าเจอแบบนี้ควรแก้ไขปัญหายังไง จัดการยังไง
จากย่อหน้านี้ทำให้ผมคิดว่า หรือว่าที่ผมทำอยู่ตอนนี้ ระยะยาว ทำให้ดีที่สุดยังไง
ก็เป็นไดโนเสาร์พันธุ์เล็ก ไม่สามารถเป็นพันธุ์ใหญ่เท่า หรือกว่าเค้า สู้เค้าไม่ได้ครับ?
อยากเป็นจ้าวตลาดก็ควรไปตลาดอื่น.... แต่คิดๆไปอีกเสียงในหัวก็ค้าน ที่อื่นมันก็มีจ้าวตลาดของทางนั้นเหมือนกันนั่นแหละ
ผมควรจะทำยังไงกับคู่แข่งแบบนี้ดีครับ
กระผมความรู้และ ประสบการณ์ยังน้อยนัก รบกวนผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ช่วยสอน ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณมากๆครับ