"คุณรู้จักคำว่า toxic people (คนมีพิษภัย) ไหมครับ คำนี้อันตรายมาก
ยิ่งอายุมากขึ้น คุณต้องรู้จักคัดกรองว่าคนไหนควรสานสัมพันธ์ต่อ คนไหนยิ่งคบไปนานๆ ยิ่งบ่อนทำลายชีวิต ทำลายสุขภาพจิต ถ้าไม่เลิกคบก็ต้องสร้างกำแพงเว้นระยะห่าง เพราะมันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบสมัยเด็กๆ แล้ว ที่เสียหายมาแล้วฟื้นตัวไว
มีแฟนที่เวลาไม่พอใจแล้วไปปรากฎตัวถึงที่ทำงาน ชี้หน้าด่ากราดในที่ทำงานคุณ แฉโน่นแฉนี่ให้สาธารณะชนได้ยิน
มีแฟนที่เลือกใช้คำพูดประชดประชัน ทำลายน้ำใจ ชอบพูดให้เสียกำลังใจ มากกว่าคุยแสดงความไม่พอใจกันด้วยเหตุผล และต้องการตกลงกันดีๆ
มีแฟนที่ไม่พอใจ เลือกใช้วิธีการใช้กำลัง ทำให้เวลากลับมาบ้านบรรยากาศกลายเป็นนรก ไม่ใช่ที่พักฟื้นความเหน็ดเหนื่อย
เก็บคนแบบนี้เข้ามาในวงจรชีวิต ไม่ว่าจะแฟนหรือเพื่อน ความเสียหายไม่เท่ากับแฟนหรือเพื่อนคบกันสมัยเรียนหรอกครับ เพราะเรามีเรื่องให้รับผิดชอบมากขึ้น
ชีวิตคนเรามีหลากหลายมิติ จากประสบการณ์ของผม คนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ พื้นฐานอยู่บนความสามารถในการดูแลรับผิดชอบความรู้สึกตัวเองได้ครับ
คนที่คิดจะรักษาความสัมพันธ์ด้วยวิธีการข่มขู่ ด่าประจาน ทำร้ายทางร่างกายหรือคำพูด ขาดวุฒิภาวะ เน้นแรง เน้นความสะใจ ผมไม่เคยเห็นผลแบบวินๆ เลยครับ เห็นแต่
- ฝ่ายที่มีวุฒิภาวะมากกว่าขอยุติความสัมพันธ์กับคนที่ด้อยวุฒิภาวะ
- ถ้ายอมรับได้แนวศีลเสมอกัน มักออกแนวคู่เวรคู่กรรม ต่างฝ่ายต่างแรงใส่กันแต่อยู่ด้วยกันได้ยาว แต่จะเก็บกดแบบเรื้อรัง และจะเพิ่มดีกรีความรุนแรงต่อกันเรื่อยๆ
- ฝ่ายด้อยวุฒิภาวะ เจ็บปวดที่ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้ บางรายถึงขั้นโคม่าคือไม่รู้ตัว ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเขาบอกเลิกเพราะอะไร เพราะทำให้อีกคนกลัว อึดอัด รู้สึกโดนกดหัว แล้วตราบใดที่ไม่ฉุกใจคิดนะ ไม่มีดีขึ้นหรอก คบกับใครคนใหม่ก็เจอแต่ปัญหาเดิมๆ จนอยู่กับใครไม่ได้ โทษโลก โทษคน โทษสวรรค์โชคชะตากลั่นแกล้ง
เพราะแก่นของการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ไม่ใช่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมตัวเองให้ 100% หรอก แต่ต้องพบปรับจูนกันคนละครึ่งทางจนอยู่ด้วยกันได้แบบไม่มีรู้สึกว่าเราเหนือกว่าเขาต่ำกว่า หรือเราต่ำกว่าเขาเหนือกว่า เป็นศิลปะมาก ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ไม่ใช่หยาบๆ แบบสมัยโกรธกันก็ใช้กำลังให้อีกฝ่ายสยบอะไรแบบนั้น
มนุษย์แพ้ความดีครับ ไม่ใช่ความเฮี่ย ความเฮี่ยซื้อใจคนไม่ได้ นอกจากยอมให้แต่ในใจคิดบวกลูบคูณหารรอจังหวะแล้วเก็บไว้ในใจอยู่ลึกๆ
Cr. เพื่อนบอกแชร์จาก fbค่ะ อ่านแล้วชอบ^^
ความสัมพันธ์ของคุณเป็นแบบtoxic peopleกันหรือเปล่า
ยิ่งอายุมากขึ้น คุณต้องรู้จักคัดกรองว่าคนไหนควรสานสัมพันธ์ต่อ คนไหนยิ่งคบไปนานๆ ยิ่งบ่อนทำลายชีวิต ทำลายสุขภาพจิต ถ้าไม่เลิกคบก็ต้องสร้างกำแพงเว้นระยะห่าง เพราะมันไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบสมัยเด็กๆ แล้ว ที่เสียหายมาแล้วฟื้นตัวไว
มีแฟนที่เวลาไม่พอใจแล้วไปปรากฎตัวถึงที่ทำงาน ชี้หน้าด่ากราดในที่ทำงานคุณ แฉโน่นแฉนี่ให้สาธารณะชนได้ยิน
มีแฟนที่เลือกใช้คำพูดประชดประชัน ทำลายน้ำใจ ชอบพูดให้เสียกำลังใจ มากกว่าคุยแสดงความไม่พอใจกันด้วยเหตุผล และต้องการตกลงกันดีๆ
มีแฟนที่ไม่พอใจ เลือกใช้วิธีการใช้กำลัง ทำให้เวลากลับมาบ้านบรรยากาศกลายเป็นนรก ไม่ใช่ที่พักฟื้นความเหน็ดเหนื่อย
เก็บคนแบบนี้เข้ามาในวงจรชีวิต ไม่ว่าจะแฟนหรือเพื่อน ความเสียหายไม่เท่ากับแฟนหรือเพื่อนคบกันสมัยเรียนหรอกครับ เพราะเรามีเรื่องให้รับผิดชอบมากขึ้น
ชีวิตคนเรามีหลากหลายมิติ จากประสบการณ์ของผม คนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ พื้นฐานอยู่บนความสามารถในการดูแลรับผิดชอบความรู้สึกตัวเองได้ครับ
คนที่คิดจะรักษาความสัมพันธ์ด้วยวิธีการข่มขู่ ด่าประจาน ทำร้ายทางร่างกายหรือคำพูด ขาดวุฒิภาวะ เน้นแรง เน้นความสะใจ ผมไม่เคยเห็นผลแบบวินๆ เลยครับ เห็นแต่
- ฝ่ายที่มีวุฒิภาวะมากกว่าขอยุติความสัมพันธ์กับคนที่ด้อยวุฒิภาวะ
- ถ้ายอมรับได้แนวศีลเสมอกัน มักออกแนวคู่เวรคู่กรรม ต่างฝ่ายต่างแรงใส่กันแต่อยู่ด้วยกันได้ยาว แต่จะเก็บกดแบบเรื้อรัง และจะเพิ่มดีกรีความรุนแรงต่อกันเรื่อยๆ
- ฝ่ายด้อยวุฒิภาวะ เจ็บปวดที่ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้ บางรายถึงขั้นโคม่าคือไม่รู้ตัว ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเขาบอกเลิกเพราะอะไร เพราะทำให้อีกคนกลัว อึดอัด รู้สึกโดนกดหัว แล้วตราบใดที่ไม่ฉุกใจคิดนะ ไม่มีดีขึ้นหรอก คบกับใครคนใหม่ก็เจอแต่ปัญหาเดิมๆ จนอยู่กับใครไม่ได้ โทษโลก โทษคน โทษสวรรค์โชคชะตากลั่นแกล้ง
เพราะแก่นของการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ไม่ใช่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมตัวเองให้ 100% หรอก แต่ต้องพบปรับจูนกันคนละครึ่งทางจนอยู่ด้วยกันได้แบบไม่มีรู้สึกว่าเราเหนือกว่าเขาต่ำกว่า หรือเราต่ำกว่าเขาเหนือกว่า เป็นศิลปะมาก ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ไม่ใช่หยาบๆ แบบสมัยโกรธกันก็ใช้กำลังให้อีกฝ่ายสยบอะไรแบบนั้น
มนุษย์แพ้ความดีครับ ไม่ใช่ความเฮี่ย ความเฮี่ยซื้อใจคนไม่ได้ นอกจากยอมให้แต่ในใจคิดบวกลูบคูณหารรอจังหวะแล้วเก็บไว้ในใจอยู่ลึกๆ
Cr. เพื่อนบอกแชร์จาก fbค่ะ อ่านแล้วชอบ^^