บทเรียนจากความพ่ายแพ้ ไทย 1 อินโด 2
การรู้จักแพ้ เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้ทุกคน ได้รู้จักเผชิญปัญหา
เรียนรู้จักการ “แพ้” และ “ชนะ” ให้เป็น เป็นเรื่องสำคัญยิ่งในยุคนี้
และเป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝัง เพราะสภาพปัญหาที่วุ่นวายอยู่ในทุกวันนี้
ส่วนหนึ่งเกิดจากน้ำมือผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เป็นแบบอย่างไม่ดี และยึดติด “ต้องชนะ” เท่านั้น แพ้ไม่ได้
ทั้งที่จริง ๆ แล้วการสอนตัวเองให้รู้จักผิดหวัง หรือรู้จักแพ้ จะช่วยสร้างภูมิต้านทานชีวิตเพิ่มขึ้นทุกครั้ง
เรื่องแพ้ - ชนะ เป็นหนึ่งในบทเรียนชีวิตที่ทำให้เราเติบโตอย่างมีคุณภาพ
และเป็นเรื่องที่คนที่มีวุฒิภาวะต้องช่วยกันสร้างให้ตัวเอง ครอบครัว คนรอบข้าง และนักกีฬา
แล้วอย่างไรล่ะ?
หนึ่ง – ชนะได้ก็แพ้ได้
เราควรสอนตัวเองให้เรียนรู้ว่าการชนะในวันนี้ไม่ได้หมายว่าความจะชนะตลอดไป
เพราะเมื่อมีคนชนะก็ย่อมต้องมีคนแพ้เสมอ
เพราะฉะนั้น ทุกคนก็มีโอกาสชนะและแพ้ได้เท่า ๆ กัน ไม่ใช่เรื่องแปลก
และผู้ชนะก็ควรชื่นชมผู้แพ้ ในขณะเดียวกัน เมื่อแพ้ก็ควรยินดีกับผู้ชนะ
ไม่มีใครชนะตลอดกาล และไม่มีใครแพ้ตลอดกาล
ที่สำคัญ เราต้องให้กำลังใจทุกครั้งเมื่อเราหรือเค้าผิดหวังหรือแพ้
และคอยปลุกขวัญกำลังใจพร้อมที่จะให้เราหรือเค้าลุกขึ้นใหม่
และต้องเรียนรู้ว่าทุกครั้งที่เราแพ้เป็น ภูมิคุ้มกันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
สอง - เอาใจเขามาใส่ใจเรา
การสอนตัวเองให้รู้จักสปิริตของผู้ชนะเป็นเรื่องสำคัญ
เราควรถามตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อชนะ ความรู้สึกที่มีความสุขเป็นอย่างไร
และลองให้เรานึกกลับว่าถ้าเราแพ้ล่ะจะรู้สึกอย่างไร
เพราะฉะนั้นเมื่อเราชนะในวันนี้ ก็ควรจะเข้าอกเข้าใจผู้อื่นด้วย
อย่าซ้ำเติมหรือทับถมผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการแสดงออกว่าเราเก่งกว่าหรือเหนือกว่า
ควรต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา
สาม - สร้างแรงบันดาลใจ
ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เราควรต้องหาจังหวะและโอกาสในการที่จะส่งเสริมให้ตัวเองเกิดแรงบันดาลใจในครั้งต่อไป
ที่อยากจะทำให้ดีขึ้นหรือมีพัฒนาการมากขึ้น สามารถแปรเปลี่ยนเรื่องที่เราชนะหรือแพ้
ให้กลายเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องอื่น ๆ หรือเสริมสร้างศักยภาพของตัวเองให้ถูกทาง
ถ้าจะให้ดี เราต้องรู้จักการเป็นทั้ง “ผู้ชนะ” และ “ผู้แพ้”
แล้วเราจะเข้าใจความรู้สึกและไม่ยึดติดกับการต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้น
และเมื่อแพ้ ก็ต้องไม่สิ้นหวัง ต้องมีพลังและทัศนคติที่จะผลักดันให้มีความพยายามในครั้งต่อไป
สี่ - ฝึกให้มีความมุ่งมั่น เพื่อไปสู่เป้าหมาย
สิ่งสำคัญที่เราสามารถปลูกฝังและสอดแทรกไปกับการเรียนรู้เรื่องแพ้ - ชนะ คือ
ความมุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมาย โดยใส่ใจในรายละเอียดระหว่างทางด้วย
ให้ตัวเราเองได้เห็นความสำคัญของทักษะชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย
เช่น ความอดทน ความพยายาม การเรียนรู้ความผิดพลาด ฯลฯ
รวมไปถึงการฝึกให้เรามีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน
ถ้าเข้าใจได้อย่างนี้ แม้จะเป็นผู้แพ้ แต่ก็ถือเป็นผู้ชนะ
ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่เข้าใจได้อย่างนี้ แม้จะเป็นผู้ชนะ แท้จริงแล้วกลับเป็นผู้แพ้
เมื่อพูดถึงเรื่อง "การแข่งขัน" ก็ย่อมต้องมี "ผู้แพ้" และ "ผู้ชนะ" เป็นเรื่องปกติ
แต่ที่ "ไม่ปกติ" เห็นจะเป็นภายหลังจากการแข่งขันต่างหาก
โดยเฉพาะการแข่งขันกีฬา ที่มักจบลงด้วยเสียงหัวเราะของผู้ชนะ และเสียงร้องไห้ของผู้แพ้...
และไม่ว่าจะจบลงแบบไหน คนที่สำคัญที่สุดสำหรับนักกีฬาก็คือผู้สนับสนุน ทีมงาน และ "กองเชียร์"
ผู้ที่จะทำให้นักกีฬาได้เรียนรู้ชีวิตหลังจากนั้นว่า นักกีฬาได้เรียนรู้อะไรในชีวิต
เพราะในความเป็นจริงนักกีฬาต้องเผชิญกับโลกการแข่งขัน
ฉะนั้น การสร้างภูมิต้านทานให้นักกีฬาได้รู้จัก “แพ้” และ “ชนะ” ให้เป็น จะเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
สรุปก็คือ
ชนะได้ก็แพ้ได้
ชนะและไม่ซ้ำเติมคนแพ้ แต่ชนะแล้วชื่นชมผู้แพ้
ชนะแบบไม่ยึดติด
แพ้ แล้วสรุปบทเรียน ปรับปรุงตัวเองที่เป็นจุดอ่อน
แพ้เกม แต่ใจไม่ยอมแพ้ ไม่ถอดใจ รักษาจุดแข็งตัวเอง ฮึดสู้
แพ้ได้ก็ชนะได้ เป็นคุณสมบัติของนักสู้ทุกวงการ
17 ธันวานี้ ติดงาน ว่าจะไม่ไปเชียร์ที่สนาม
แต่ติดต่อเลื่อนนัดงานไปแล้ว
ให้กำลังใจนักกีฬา โค้ช และทีมงานทุกคน
ให้กำลังใจเพื่อนกองเชียร์ชาวไทยทุกคน
พบกันที่ราชมังค่ะ
แพ้ได้ ก็ชนะได้ ชนะได้ ก็แพ้ได้ แต่ต้องแพ้หรือชนะให้เป็น
การรู้จักแพ้ เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้ทุกคน ได้รู้จักเผชิญปัญหา
เรียนรู้จักการ “แพ้” และ “ชนะ” ให้เป็น เป็นเรื่องสำคัญยิ่งในยุคนี้
และเป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝัง เพราะสภาพปัญหาที่วุ่นวายอยู่ในทุกวันนี้
ส่วนหนึ่งเกิดจากน้ำมือผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เป็นแบบอย่างไม่ดี และยึดติด “ต้องชนะ” เท่านั้น แพ้ไม่ได้
ทั้งที่จริง ๆ แล้วการสอนตัวเองให้รู้จักผิดหวัง หรือรู้จักแพ้ จะช่วยสร้างภูมิต้านทานชีวิตเพิ่มขึ้นทุกครั้ง
เรื่องแพ้ - ชนะ เป็นหนึ่งในบทเรียนชีวิตที่ทำให้เราเติบโตอย่างมีคุณภาพ
และเป็นเรื่องที่คนที่มีวุฒิภาวะต้องช่วยกันสร้างให้ตัวเอง ครอบครัว คนรอบข้าง และนักกีฬา
แล้วอย่างไรล่ะ?
หนึ่ง – ชนะได้ก็แพ้ได้
เราควรสอนตัวเองให้เรียนรู้ว่าการชนะในวันนี้ไม่ได้หมายว่าความจะชนะตลอดไป
เพราะเมื่อมีคนชนะก็ย่อมต้องมีคนแพ้เสมอ
เพราะฉะนั้น ทุกคนก็มีโอกาสชนะและแพ้ได้เท่า ๆ กัน ไม่ใช่เรื่องแปลก
และผู้ชนะก็ควรชื่นชมผู้แพ้ ในขณะเดียวกัน เมื่อแพ้ก็ควรยินดีกับผู้ชนะ
ไม่มีใครชนะตลอดกาล และไม่มีใครแพ้ตลอดกาล
ที่สำคัญ เราต้องให้กำลังใจทุกครั้งเมื่อเราหรือเค้าผิดหวังหรือแพ้
และคอยปลุกขวัญกำลังใจพร้อมที่จะให้เราหรือเค้าลุกขึ้นใหม่
และต้องเรียนรู้ว่าทุกครั้งที่เราแพ้เป็น ภูมิคุ้มกันจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
สอง - เอาใจเขามาใส่ใจเรา
การสอนตัวเองให้รู้จักสปิริตของผู้ชนะเป็นเรื่องสำคัญ
เราควรถามตัวเองว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อชนะ ความรู้สึกที่มีความสุขเป็นอย่างไร
และลองให้เรานึกกลับว่าถ้าเราแพ้ล่ะจะรู้สึกอย่างไร
เพราะฉะนั้นเมื่อเราชนะในวันนี้ ก็ควรจะเข้าอกเข้าใจผู้อื่นด้วย
อย่าซ้ำเติมหรือทับถมผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการแสดงออกว่าเราเก่งกว่าหรือเหนือกว่า
ควรต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา
สาม - สร้างแรงบันดาลใจ
ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เราควรต้องหาจังหวะและโอกาสในการที่จะส่งเสริมให้ตัวเองเกิดแรงบันดาลใจในครั้งต่อไป
ที่อยากจะทำให้ดีขึ้นหรือมีพัฒนาการมากขึ้น สามารถแปรเปลี่ยนเรื่องที่เราชนะหรือแพ้
ให้กลายเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องอื่น ๆ หรือเสริมสร้างศักยภาพของตัวเองให้ถูกทาง
ถ้าจะให้ดี เราต้องรู้จักการเป็นทั้ง “ผู้ชนะ” และ “ผู้แพ้”
แล้วเราจะเข้าใจความรู้สึกและไม่ยึดติดกับการต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้น
และเมื่อแพ้ ก็ต้องไม่สิ้นหวัง ต้องมีพลังและทัศนคติที่จะผลักดันให้มีความพยายามในครั้งต่อไป
สี่ - ฝึกให้มีความมุ่งมั่น เพื่อไปสู่เป้าหมาย
สิ่งสำคัญที่เราสามารถปลูกฝังและสอดแทรกไปกับการเรียนรู้เรื่องแพ้ - ชนะ คือ
ความมุ่งมั่นที่จะไปสู่เป้าหมาย โดยใส่ใจในรายละเอียดระหว่างทางด้วย
ให้ตัวเราเองได้เห็นความสำคัญของทักษะชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย
เช่น ความอดทน ความพยายาม การเรียนรู้ความผิดพลาด ฯลฯ
รวมไปถึงการฝึกให้เรามีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน
ถ้าเข้าใจได้อย่างนี้ แม้จะเป็นผู้แพ้ แต่ก็ถือเป็นผู้ชนะ
ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่เข้าใจได้อย่างนี้ แม้จะเป็นผู้ชนะ แท้จริงแล้วกลับเป็นผู้แพ้
เมื่อพูดถึงเรื่อง "การแข่งขัน" ก็ย่อมต้องมี "ผู้แพ้" และ "ผู้ชนะ" เป็นเรื่องปกติ
แต่ที่ "ไม่ปกติ" เห็นจะเป็นภายหลังจากการแข่งขันต่างหาก
โดยเฉพาะการแข่งขันกีฬา ที่มักจบลงด้วยเสียงหัวเราะของผู้ชนะ และเสียงร้องไห้ของผู้แพ้...
และไม่ว่าจะจบลงแบบไหน คนที่สำคัญที่สุดสำหรับนักกีฬาก็คือผู้สนับสนุน ทีมงาน และ "กองเชียร์"
ผู้ที่จะทำให้นักกีฬาได้เรียนรู้ชีวิตหลังจากนั้นว่า นักกีฬาได้เรียนรู้อะไรในชีวิต
เพราะในความเป็นจริงนักกีฬาต้องเผชิญกับโลกการแข่งขัน
ฉะนั้น การสร้างภูมิต้านทานให้นักกีฬาได้รู้จัก “แพ้” และ “ชนะ” ให้เป็น จะเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
สรุปก็คือ
ชนะได้ก็แพ้ได้
ชนะและไม่ซ้ำเติมคนแพ้ แต่ชนะแล้วชื่นชมผู้แพ้
ชนะแบบไม่ยึดติด
แพ้ แล้วสรุปบทเรียน ปรับปรุงตัวเองที่เป็นจุดอ่อน
แพ้เกม แต่ใจไม่ยอมแพ้ ไม่ถอดใจ รักษาจุดแข็งตัวเอง ฮึดสู้
แพ้ได้ก็ชนะได้ เป็นคุณสมบัติของนักสู้ทุกวงการ
17 ธันวานี้ ติดงาน ว่าจะไม่ไปเชียร์ที่สนาม
แต่ติดต่อเลื่อนนัดงานไปแล้ว
ให้กำลังใจนักกีฬา โค้ช และทีมงานทุกคน
ให้กำลังใจเพื่อนกองเชียร์ชาวไทยทุกคน
พบกันที่ราชมังค่ะ