อันยองฮาเซโยววววว หลังจากไปเกาหลีกับทัวร์เมื่อหลายปีก่อน แล้วอารมณ์ยังค้างๆ คาๆ ปีนี้เลยคว้าแขนคนรอบข้างไปลุย สถานที่ที่อยากไป ร้านนี้ที่อยากกิน ย่านนี้ที่อยากช๊อป เลยมารีวิวเก็บไว้เป็นบันทึกการเดินทางของตัวเอง เก็บไว้ใช้ประโยชน์ในครั้งหน้า และแบ่งปันข้อมูลเผื่อว่าจะมีใครกำลังหาข้อมูลการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง... ไปเกาหลีกัน ^^
ระยะเวลาการท่องเที่ยว : 01-07/12/2016 (เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใบไม้เปลี่ยนสี และมีหิมะน้อยมากกกก แต่มีวันหยุดยาวในไทยไง)
ผู้ร่วมทริป : จขกท ลากน้องติ่งซีรี่ย์ และแอนตี้เกาหลีไปอีกสองคน (คือแอนตี้จริงๆ แบบว่าไม่ชอบทุกสิ่งที่เป็นเกาหลี แต่โดน จขกท. เอาของกินมาหลอกล่อ เลยหลวมตัวตามไป แต่หลังจากกลับมาถามตลอดว่าจะกลับไปอีกมะไหร่ 555+)
แผนการเดินทาง :
DAY 1 : ICN, ABLE GUESTHOUSE HONGDAE, Ewha Womans University, Noryangjin Fisheries Wholesale Market.
DAY 2 : Seoraksan National Park, Sinheungsa Temple.
DAY 3 : Seodaemun Prison, Bukchon Hanok Village, Gyeonbokgung Palace, Gwanghamun Square, Cheonggyecheon Stream, Insa-Dong Antique Street (วันที่ 3 ได้ไปจริงๆ แค่ Seodaemun Prison, Bukchon Hanok Village, Gyeonbokgung Palace (แค่ไปถ่ายรูปด้านหน้า) แล้วก็ไป Hangang River ที่ไม่ได้มีในแพลน เพราะเค้าประท้วงกันที่ Gwanghamun Square เจ็บช้ำมากกกก)
DAY 4 : War Memorial of Korea, N Seoul Tower, Myeongdong, Myeongdong Cathedral (แต่สุดท้ายไม่ได้ไป Myeongdong Cathedral เพราะผู้เฒ่าผู้แก่ในทริปเดินไม่ไหว T-T)
DAY 5 : Everland ดินแดนแห่งความช้ำชอก (ช้ำยังไง รอตามจากรีวิว)
DAY 6 : Namiseom, Dongdaemun Market, LOTTE MART - Seoul Station
(การเดินทางหลักๆ ใช้บริการ MRT จ่ายด้วย T-Money มีนั่งรถบัสบ้างตอนออกต่างจังหวัด ท่านใดต้องการแผนการเดินทางในแต่ละวันอย่างละเอียด รบกวนแจ้งอีเมล์มาใน inbox นะคะ)
ค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง 7 วัน 6 คืน (ไม่รวม Shopping) : ประมาณ 34,000 บาท / คน
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 14,xxx บาท รวมน้ำหนักกระเป๋า, insurance, อาหารบนเครื่อง, เลือกที่นั่ง ถ้าใครจองชั่วโปร และตัด option บางอย่างออก จะประหยัดไปได้อีกมาก (รอบหน้าตั้งเป้าไว้ว่าถ้าตั๋วไป-กลับ รวมเบ็ดเสร็จแล้วเกินหมื่นจะไม่จอง หึๆ)
- ค่าที่พัก เราพักที่ Able Guesthouse ย่านฮงแด (ใกล้ ม.ฮงอิก) ทั้ง 6 คืน รวม 5,400 บาท (เป็นห้องที่พักได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งอาหารตา อาหารกินมีมาก เครื่องสำอาง เสื้อผ้า มีให้ช๊อปเพียบบบ)
- ค่ากิน ประมาณ 12,000 บาท (จัดหนักทุกมื้อ)
- ค่าเดินทางภายในเกาหลี 1,500 บาท (วันกลับเหลือเงินในบัตรประมาณหลักพันวอน หรือไม่ถึงร้อยบาทไทย) เดินทางหลักๆ ใช้บริการ MRT และรสบัสบ้าง จ่ายด้วย T-Money เกือบทั้งหมด)
- ค่าช๊อปปิ้ง ของฝาก ตัวใครตัวมัน ที่สำคัญ นน. กระเป๋าเกินจากที่ซื้อไปคนละโลก่าๆ กันทุกคน โชคดีเจอ จนท. ใจดี ไม่คิดเงินเพิ่ม ปลื้มปริ่มมาก
ได้เวลาเดินทางไปสนามบิน ทริปนี้ใช้บริการหางแดง ใครๆ ก็บินได้ เราก็เลยบินได้ อิอิ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เครื่องดีเลย์ไปชั่วโมงนึง ไปถึงอินชอนเกือบๆ 10 โมง เป็นเวลาที่ จนท. ตม. กำลังหงุดหงิดหิวข้าวพอดี T-T จะรอดมั๊ย รอดสิ ไม่งั้นคงไม่ได้มารีวิว 555
ขอเล่าถึง ตม. เกาหลีที่เลื่องลือกันซักนิด เราบินไปกัน 3 คนก่อน (ผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คน) เพื่อนอีกคนตามไปช่วงบ่าย ตอนแรกเราจะเดินเข้าไปก่อน เพราะเคยมาเกาหลีแล้ว แต่น้องขอเป็นหน่วยกล้าตายไปก่อน
ระหว่างรอแถวที่เรายืนรออยู่ คนไทยโดนเรียกไปต่อหน้าต่อตา 4 คน น้องหันมาบอก "พี่ สี่แระนะ ไม่ถามซักคำ T-T"
เรากวาดสายตาไปรอบๆ เจอแถวสุดท้ายลิบๆ คนน้อยเว้ยเห้ย บอกทุกคนว่า "เราไปตายเอาแถวสุดท้ายกัน คนน้อย รู้ผลเร็ว 555"
ทุกคนเลยย้ายไปแถวสุดท้าย น้องเข้าไปก่อนคนแรก เห็นแค่คุยๆ กับ ตม. (ตม. ผู้หญิง) แล้ว ตม. ก็หันมาทางเรา น้องชี้มา เราโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณว่ามาด้วยกัน (พอผ่านมาได้ น้องเล่าให้ฟังว่า เค้าเอาใบ arrival card ที่แจกให้เขียนบนเครื่องบินไปดู แล้วถามว่า มากับใคร มากี่คน พักที่ไหน (ซึ่งภาษาอังกฤษน้อง snack snack fish fish เอาภาษาอังกฤษสำเนียงไทย สู้กับอังกฤษสำเนียงเกาหลีกันไปเลย) แล้วน้องก็หลุดออกไป ยืนรอเป็นคนแรก
จากนั้นพี่ผู้ชายแฟนเราก็ตามเข้าไป เห็นแค่ ตม. ส่ายหัว คิดในใจ โดนแระแน่ๆ (แต่พี่ผู้ชายชี้มา แล้วก็หันมามองเรา แล้วก็ปล่อยให้เข้าไปคร่า แฟนมาเล่าให้ฟังว่า น้องคนแรกบอกว่ามากับ brother แต่นามสกุลมันไม่เหมือนกัน เค้าเอาใบ arrival card มาเทียบแล้ว เห็นว่าที่พักเหมือนกัน ที่สำคัญคือ เราให้แฟนท่องไปว่า I'm not good english please ask my wife แล้วให้ชี้มาที่เรา แฟนเราก็บอกไปแบบนี้ คือเหตุผลที่นางหันมามองเราสินะ ภาษาอังกฤษเราอยู่แค่ระดับพออ่านออก เขียนได้ พูดและฟังได้บ้าง กะว่าถ้ามีปัญหาอย่างน้อยๆ เราก็ได้อธิบายได้มากกว่าแฟนเรา เลยให้คุณแฟนท่องไปแบบนี้ 555)
มาถึงคราวเราบ้าง นางมองหน้า แล้วเอาใบ arrival card 3 ใบมาเรียงกัน เห็นนางเทียบตรงที่พัก ในใบ arrival card เรากรอกรายละเอียดครบถ้วน ตรงที่พัก เราใส่เบอร์โทรและเบอร์ติดต่อพี่พักไปด้วย แล้วนางก็มองหน้าเราสอง-สามครั้ง แล้วก็ stamp ผ่าน เรายิ้ม แล้วก็ thank you so much and คัมซาฮัมนิตา (แอบเห็นว่านางหน้าบึ้งเหมือนเดิม แต่ก็ช่างเถอะ นางให้ไปต่อแล้ว 555)
ขอเหลานอกเรื่องหน่อยเนอะ คือตอนจะไปก็ค่อนข้างกังวลกับเกาหลี ขนาดเพื่อนคุณฮั่นเดอะสตาร์ ยังไม่รอด แล้วหน้าตากะเหรี่ยงขนาดนี้ จะได้ไปต่อมั๊ย เลยเตรียมเอกสารไปเยอะมาก ทั้งตั๋วขากลับ, ใบรับรองการลางานเป็นภาษาอังกฤษ, แพลนการเดินทาง ทั้งแบบละเอียดไม่ละเอียด เรียกว่าเอกสารเป็นกิโล แล้วก็ซื้อ Sim2fly ของ Ais ไป คือมันดีมาก เปิดใช้ซิมที่ไทย พอลงเครื่องปุ๊บใช้ได้เลย (ของแฟนเรามีเอ๋อๆ ใช้ไม่ได้ เหมือนมันหาซิมไม่เจอ เลยใช้วิธีถอดซิมออกเปลี่ยนไปใส่อีกเครื่อง พอมันใช้ได้ ก็เอากลับมาใส่เครื่องที่ต้องการ) สาเหตุที่ซื้อซิม เพราะ ตม. ล้วนๆ คือได้ยินว่าในห้องเย็นไม่มีสัญญาณไวไฟ หลายคนไม่ได้ไปต่อ เพราะติดต่อคนข้างนอกไม่ได้ เราเลยซื้อซิมไปเลย กะว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งติด จะสามารถโทรไลน์ หรือเฟสไทม์ออกมาให้คนที่ผ่านช่วยอธิบายกับ จนท. ด้านในได้ คือยังไงๆ ก็จะไม่ยอมให้ส่งกลับเด็ดขาด เพราะเรามาเที่ยวจริงๆ (ถ้าเค้าไม่ให้ผ่าน คิดไว้ว่าจะให้คนที่ผ่านนั่งถือป้ายประท้วงที่สนามบินครบ 7 วัน จนกว่าจะได้เวลากลับ พี่ที่ทำงานบอกว่าคนอื่นอาจจะแค่ติดห้องเย็น แต่
คงติดคุกอ่ะ 5555)
จากนั้นก็เดินไปรอรับกระเป๋า แล้วก็เดินไปหาซื้อบัตร T-Money เพื่อขึ้น A'REX ไปฮงแด (รวดเดียวไม่ต้องเปลี่ยนสาย สบายสุดๆ เรานั่งแบบหยุดทุกสถานี เพราะเวลาไม่ต่างกันมาก แต่ราคาต่างกันมากจริงๆ) ราคา All stop train จาก ICN to Hongik Station = 4,050KRW ใช้บัตร T-Money จ่ายได้ แต่ถ้าเป็นแบบ Express ราคา 8,000KRW ใช้บัตร T-Money จ่ายไม่ได้ ต้องซื้อตั๋วที่เคาเตอร์ด้านหน้าเท่านั้นค่ะ
ที่พักเราชื่อ Able Guesthouse in Hongdae อยู่ใกล้ๆ กับ ม.ฮงอิก ใกล้สถานี MRT Hongik Exit 8 เดินทางง่าย และสะดวกมาก แต่ทางออกจาก MRT ไม่มีบันไดเลื่อนนะคะ เป็นบันไดธรรมดา ปกติเราเดินเอา ยกเว้นวันเดินทางไป และกลับที่มีกระเป๋า ใช้บริการลิฟท์ อาจุมม่ากับอาจัชชี่ใจดีค่ะ ถ้าเห็นมีกระเป๋าเดินทางจะกวักมือเรียกให้ขึ้นลิฟท์ (ทุกสถานีที่เราไป มีลิฟท์ทั้งหมด เค้าไว้บริการผู้สูงอายุ และผู้พิการค่ะ)
รายละเอียดการท่องเที่ยวประจำวัน DAY 1 - DAY 7, อาหารการกิน และเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ขอเล่าต่อใน ความคิดเห็นนะคะ
จะหาเวลาอู้งานมาเขียนรีวิวให้จบโดยเร็วค่ะ ^^"
[CR] เกาหลีที่รัก (01-07 ธันวาคม 2559) รีวิวแบบ (เกือบ) ละเอียด
ระยะเวลาการท่องเที่ยว : 01-07/12/2016 (เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใบไม้เปลี่ยนสี และมีหิมะน้อยมากกกก แต่มีวันหยุดยาวในไทยไง)
ผู้ร่วมทริป : จขกท ลากน้องติ่งซีรี่ย์ และแอนตี้เกาหลีไปอีกสองคน (คือแอนตี้จริงๆ แบบว่าไม่ชอบทุกสิ่งที่เป็นเกาหลี แต่โดน จขกท. เอาของกินมาหลอกล่อ เลยหลวมตัวตามไป แต่หลังจากกลับมาถามตลอดว่าจะกลับไปอีกมะไหร่ 555+)
แผนการเดินทาง :
DAY 1 : ICN, ABLE GUESTHOUSE HONGDAE, Ewha Womans University, Noryangjin Fisheries Wholesale Market.
DAY 2 : Seoraksan National Park, Sinheungsa Temple.
DAY 3 : Seodaemun Prison, Bukchon Hanok Village, Gyeonbokgung Palace, Gwanghamun Square, Cheonggyecheon Stream, Insa-Dong Antique Street (วันที่ 3 ได้ไปจริงๆ แค่ Seodaemun Prison, Bukchon Hanok Village, Gyeonbokgung Palace (แค่ไปถ่ายรูปด้านหน้า) แล้วก็ไป Hangang River ที่ไม่ได้มีในแพลน เพราะเค้าประท้วงกันที่ Gwanghamun Square เจ็บช้ำมากกกก)
DAY 4 : War Memorial of Korea, N Seoul Tower, Myeongdong, Myeongdong Cathedral (แต่สุดท้ายไม่ได้ไป Myeongdong Cathedral เพราะผู้เฒ่าผู้แก่ในทริปเดินไม่ไหว T-T)
DAY 5 : Everland ดินแดนแห่งความช้ำชอก (ช้ำยังไง รอตามจากรีวิว)
DAY 6 : Namiseom, Dongdaemun Market, LOTTE MART - Seoul Station
(การเดินทางหลักๆ ใช้บริการ MRT จ่ายด้วย T-Money มีนั่งรถบัสบ้างตอนออกต่างจังหวัด ท่านใดต้องการแผนการเดินทางในแต่ละวันอย่างละเอียด รบกวนแจ้งอีเมล์มาใน inbox นะคะ)
ค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง 7 วัน 6 คืน (ไม่รวม Shopping) : ประมาณ 34,000 บาท / คน
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 14,xxx บาท รวมน้ำหนักกระเป๋า, insurance, อาหารบนเครื่อง, เลือกที่นั่ง ถ้าใครจองชั่วโปร และตัด option บางอย่างออก จะประหยัดไปได้อีกมาก (รอบหน้าตั้งเป้าไว้ว่าถ้าตั๋วไป-กลับ รวมเบ็ดเสร็จแล้วเกินหมื่นจะไม่จอง หึๆ)
- ค่าที่พัก เราพักที่ Able Guesthouse ย่านฮงแด (ใกล้ ม.ฮงอิก) ทั้ง 6 คืน รวม 5,400 บาท (เป็นห้องที่พักได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งอาหารตา อาหารกินมีมาก เครื่องสำอาง เสื้อผ้า มีให้ช๊อปเพียบบบ)
- ค่ากิน ประมาณ 12,000 บาท (จัดหนักทุกมื้อ)
- ค่าเดินทางภายในเกาหลี 1,500 บาท (วันกลับเหลือเงินในบัตรประมาณหลักพันวอน หรือไม่ถึงร้อยบาทไทย) เดินทางหลักๆ ใช้บริการ MRT และรสบัสบ้าง จ่ายด้วย T-Money เกือบทั้งหมด)
- ค่าช๊อปปิ้ง ของฝาก ตัวใครตัวมัน ที่สำคัญ นน. กระเป๋าเกินจากที่ซื้อไปคนละโลก่าๆ กันทุกคน โชคดีเจอ จนท. ใจดี ไม่คิดเงินเพิ่ม ปลื้มปริ่มมาก
ได้เวลาเดินทางไปสนามบิน ทริปนี้ใช้บริการหางแดง ใครๆ ก็บินได้ เราก็เลยบินได้ อิอิ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เครื่องดีเลย์ไปชั่วโมงนึง ไปถึงอินชอนเกือบๆ 10 โมง เป็นเวลาที่ จนท. ตม. กำลังหงุดหงิดหิวข้าวพอดี T-T จะรอดมั๊ย รอดสิ ไม่งั้นคงไม่ได้มารีวิว 555
ขอเล่าถึง ตม. เกาหลีที่เลื่องลือกันซักนิด เราบินไปกัน 3 คนก่อน (ผู้หญิง 2 คน ผู้ชาย 1 คน) เพื่อนอีกคนตามไปช่วงบ่าย ตอนแรกเราจะเดินเข้าไปก่อน เพราะเคยมาเกาหลีแล้ว แต่น้องขอเป็นหน่วยกล้าตายไปก่อน
ระหว่างรอแถวที่เรายืนรออยู่ คนไทยโดนเรียกไปต่อหน้าต่อตา 4 คน น้องหันมาบอก "พี่ สี่แระนะ ไม่ถามซักคำ T-T"
เรากวาดสายตาไปรอบๆ เจอแถวสุดท้ายลิบๆ คนน้อยเว้ยเห้ย บอกทุกคนว่า "เราไปตายเอาแถวสุดท้ายกัน คนน้อย รู้ผลเร็ว 555"
ทุกคนเลยย้ายไปแถวสุดท้าย น้องเข้าไปก่อนคนแรก เห็นแค่คุยๆ กับ ตม. (ตม. ผู้หญิง) แล้ว ตม. ก็หันมาทางเรา น้องชี้มา เราโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณว่ามาด้วยกัน (พอผ่านมาได้ น้องเล่าให้ฟังว่า เค้าเอาใบ arrival card ที่แจกให้เขียนบนเครื่องบินไปดู แล้วถามว่า มากับใคร มากี่คน พักที่ไหน (ซึ่งภาษาอังกฤษน้อง snack snack fish fish เอาภาษาอังกฤษสำเนียงไทย สู้กับอังกฤษสำเนียงเกาหลีกันไปเลย) แล้วน้องก็หลุดออกไป ยืนรอเป็นคนแรก
จากนั้นพี่ผู้ชายแฟนเราก็ตามเข้าไป เห็นแค่ ตม. ส่ายหัว คิดในใจ โดนแระแน่ๆ (แต่พี่ผู้ชายชี้มา แล้วก็หันมามองเรา แล้วก็ปล่อยให้เข้าไปคร่า แฟนมาเล่าให้ฟังว่า น้องคนแรกบอกว่ามากับ brother แต่นามสกุลมันไม่เหมือนกัน เค้าเอาใบ arrival card มาเทียบแล้ว เห็นว่าที่พักเหมือนกัน ที่สำคัญคือ เราให้แฟนท่องไปว่า I'm not good english please ask my wife แล้วให้ชี้มาที่เรา แฟนเราก็บอกไปแบบนี้ คือเหตุผลที่นางหันมามองเราสินะ ภาษาอังกฤษเราอยู่แค่ระดับพออ่านออก เขียนได้ พูดและฟังได้บ้าง กะว่าถ้ามีปัญหาอย่างน้อยๆ เราก็ได้อธิบายได้มากกว่าแฟนเรา เลยให้คุณแฟนท่องไปแบบนี้ 555)
มาถึงคราวเราบ้าง นางมองหน้า แล้วเอาใบ arrival card 3 ใบมาเรียงกัน เห็นนางเทียบตรงที่พัก ในใบ arrival card เรากรอกรายละเอียดครบถ้วน ตรงที่พัก เราใส่เบอร์โทรและเบอร์ติดต่อพี่พักไปด้วย แล้วนางก็มองหน้าเราสอง-สามครั้ง แล้วก็ stamp ผ่าน เรายิ้ม แล้วก็ thank you so much and คัมซาฮัมนิตา (แอบเห็นว่านางหน้าบึ้งเหมือนเดิม แต่ก็ช่างเถอะ นางให้ไปต่อแล้ว 555)
ขอเหลานอกเรื่องหน่อยเนอะ คือตอนจะไปก็ค่อนข้างกังวลกับเกาหลี ขนาดเพื่อนคุณฮั่นเดอะสตาร์ ยังไม่รอด แล้วหน้าตากะเหรี่ยงขนาดนี้ จะได้ไปต่อมั๊ย เลยเตรียมเอกสารไปเยอะมาก ทั้งตั๋วขากลับ, ใบรับรองการลางานเป็นภาษาอังกฤษ, แพลนการเดินทาง ทั้งแบบละเอียดไม่ละเอียด เรียกว่าเอกสารเป็นกิโล แล้วก็ซื้อ Sim2fly ของ Ais ไป คือมันดีมาก เปิดใช้ซิมที่ไทย พอลงเครื่องปุ๊บใช้ได้เลย (ของแฟนเรามีเอ๋อๆ ใช้ไม่ได้ เหมือนมันหาซิมไม่เจอ เลยใช้วิธีถอดซิมออกเปลี่ยนไปใส่อีกเครื่อง พอมันใช้ได้ ก็เอากลับมาใส่เครื่องที่ต้องการ) สาเหตุที่ซื้อซิม เพราะ ตม. ล้วนๆ คือได้ยินว่าในห้องเย็นไม่มีสัญญาณไวไฟ หลายคนไม่ได้ไปต่อ เพราะติดต่อคนข้างนอกไม่ได้ เราเลยซื้อซิมไปเลย กะว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งติด จะสามารถโทรไลน์ หรือเฟสไทม์ออกมาให้คนที่ผ่านช่วยอธิบายกับ จนท. ด้านในได้ คือยังไงๆ ก็จะไม่ยอมให้ส่งกลับเด็ดขาด เพราะเรามาเที่ยวจริงๆ (ถ้าเค้าไม่ให้ผ่าน คิดไว้ว่าจะให้คนที่ผ่านนั่งถือป้ายประท้วงที่สนามบินครบ 7 วัน จนกว่าจะได้เวลากลับ พี่ที่ทำงานบอกว่าคนอื่นอาจจะแค่ติดห้องเย็น แต่
จากนั้นก็เดินไปรอรับกระเป๋า แล้วก็เดินไปหาซื้อบัตร T-Money เพื่อขึ้น A'REX ไปฮงแด (รวดเดียวไม่ต้องเปลี่ยนสาย สบายสุดๆ เรานั่งแบบหยุดทุกสถานี เพราะเวลาไม่ต่างกันมาก แต่ราคาต่างกันมากจริงๆ) ราคา All stop train จาก ICN to Hongik Station = 4,050KRW ใช้บัตร T-Money จ่ายได้ แต่ถ้าเป็นแบบ Express ราคา 8,000KRW ใช้บัตร T-Money จ่ายไม่ได้ ต้องซื้อตั๋วที่เคาเตอร์ด้านหน้าเท่านั้นค่ะ
ที่พักเราชื่อ Able Guesthouse in Hongdae อยู่ใกล้ๆ กับ ม.ฮงอิก ใกล้สถานี MRT Hongik Exit 8 เดินทางง่าย และสะดวกมาก แต่ทางออกจาก MRT ไม่มีบันไดเลื่อนนะคะ เป็นบันไดธรรมดา ปกติเราเดินเอา ยกเว้นวันเดินทางไป และกลับที่มีกระเป๋า ใช้บริการลิฟท์ อาจุมม่ากับอาจัชชี่ใจดีค่ะ ถ้าเห็นมีกระเป๋าเดินทางจะกวักมือเรียกให้ขึ้นลิฟท์ (ทุกสถานีที่เราไป มีลิฟท์ทั้งหมด เค้าไว้บริการผู้สูงอายุ และผู้พิการค่ะ)
รายละเอียดการท่องเที่ยวประจำวัน DAY 1 - DAY 7, อาหารการกิน และเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ขอเล่าต่อใน ความคิดเห็นนะคะ
จะหาเวลาอู้งานมาเขียนรีวิวให้จบโดยเร็วค่ะ ^^"