บลจ.ทาลิส ร่วมทัพบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ ในมหกรรม “โค้งสุดท้ายของปีวางแผนภาษีกับ RMF<F” ระหว่าง 17-18 ธ.ค.นี้ รองรับความต้องการ “มนุษย์เงินเดือน” ขาช้อปหน่วยลงทุน เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี มองแนวโน้มตลาดเงิน-ตลาดทุน ปี”60 ยังมีความผันผวน คาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,400 – 1,800 จุด
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับบลจ.ชั้นนำกว่า 15 บลจ.เข้าร่วมงานมหกรรม “โค้งสุดท้ายของปี วางแผนภาษีกับ RMF<F” ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ ในการนำเสนอขายหน่วยลงทุน รวมทั้งให้ข้อมูลความรู้และคำแนะนำการลงทุนให้แก่ผู้ที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจหรือต้องการซื้อหน่วยลงทุน RMF หรือ LTF ในช่วงโอกาสสุดท้ายใกล้สิ้นปีเพื่อสามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษี
ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดเงินและตลาดทุนในปี 2560 ยังมีความผันผวนมาก ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสำคัญ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,800 จุด โดยจะได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการแข็งค่าในระยะยาวของค่าเงินบาท
“เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินเกี่ยวกับผลกระทบต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม เรามีการเตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมรับมืออย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่เหมาะสมของนักลงทุน”นายประภาสกล่าวในที่สุด
บลจ.ทาลิส คาด SET Index ปีหน้าผันผวนในกรอบ 1,400-1,800 จุด
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับบลจ.ชั้นนำกว่า 15 บลจ.เข้าร่วมงานมหกรรม “โค้งสุดท้ายของปี วางแผนภาษีกับ RMF<F” ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ ในการนำเสนอขายหน่วยลงทุน รวมทั้งให้ข้อมูลความรู้และคำแนะนำการลงทุนให้แก่ผู้ที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจหรือต้องการซื้อหน่วยลงทุน RMF หรือ LTF ในช่วงโอกาสสุดท้ายใกล้สิ้นปีเพื่อสามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษี
ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดเงินและตลาดทุนในปี 2560 ยังมีความผันผวนมาก ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสำคัญ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,800 จุด โดยจะได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการแข็งค่าในระยะยาวของค่าเงินบาท
“เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินเกี่ยวกับผลกระทบต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม เรามีการเตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมรับมืออย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่เหมาะสมของนักลงทุน”นายประภาสกล่าวในที่สุด