e-banking กสิกร มีให้ยอมรับข้อตกลงใหม่ มีอะไรแปลกใหม่บ้างครับ

แค่สงสัย ทำไมให้มียอมรับข้อตกลงใหม่อีก



เนื้อหาข้อตกลง
  ผู้ใช้บริการตกลงใช้บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตกสิกรไทย (K-Cyber Banking) หรือชื่ออื่นที่ธนาคารพิจารณาเปลี่ยนแปลงตามที่ธนาคารเห็นสมควร (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริการ”) กับ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ธนาคาร”) ตามที่ได้รับอนุมัติจากธนาคาร และตามรายละเอียดที่ธนาคารกำหนด โดยตกลงผูกพันและปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ดังต่อไปนี้
1.     
ธนาคารเปิดให้บริการ K-Cyber Banking สำหรับบุคคลธรรมดาที่อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป และ K-Cyber for SME สำหรับนิติบุคคลจดทะเบียนตามกฎหมายไทย
2.     
ผู้สมัครใช้บริการจะต้องมี E-mail address และบัญชีประเภทกระแสรายวันหรือออมทรัพย์ของธนาคารอย่างน้อย 1 บัญชี
3.     
ผู้ใช้บริการสามารถเข้าดูข้อมูลทางด้านบัญชีออมทรัพย์และกระแสรายวันและข้อมูลส่วนตัวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นแต่การโอนเงินระหว่างบัญชีตนเอง การโอนเงินให้บุคคลอื่น ชำระค่าสินค้า/บริการ หรือเพิ่มบัญชีกสิกรไทย จะต้องเป็นไปตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงระยะเวลาของรายการต่างๆได้ตามแต่จะเห็นสมควร
4.     
ผู้ใช้บริการสามารถสมัครใช้บริการผ่าน สาขาของธนาคาร เครื่องเอทีเอ็ม (ATM) ของธนาคาร โดยผู้ใช้บริการต้องกรอกข้อมูลการสมัครใช้บริการครบถ้วนและถูกต้อง ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการได้ทุกรายการ ได้แก่ สอบถามยอดเงินคงเหลือในบัญชี สอบถามข้อมูลบัตรเครดิต โอนเงิน เติมเงิน ชำระเงินและอื่นๆ และสำหรับผู้ใช้บริการที่สมัครผ่าน ช่องทางออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิต สามารถใช้บริการได้เฉพาะสอบถามข้อมูลบัตรเครดิตเท่านั้น หากต้องการทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ โอนเงิน เติมเงิน ชำระเงินและอื่นๆ จะต้องขอเพิ่มบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน สำหรับบริการ K-Cyber for SME ผู้ใช้บริการสามารถสมัครใช้บริการผ่านสาขาของธนาคารเท่านั้น
  การสมัครจะมีผลสมบูรณ์ เมื่อผู้ใช้บริการได้รับข้อความยืนยันการสมัครทาง Email Address และ/หรือข้อความ SMS ทางโทรศัพท์มือถือตามหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งไว้กับธนาคาร
5.     
การใช้รหัสผู้ใช้งาน (User ID) และ/หรือ รหัสผ่าน (Password) และ/หรือ รหัส One Time Password (OTP)
  5.1 เมื่อผู้ใช้บริการได้รับอนุมัติให้ใช้บริการแล้ว ผู้ใช้บริการจะได้รับรหัสผ่าน (Password) จากธนาคาร ผู้ใช้บริการจะต้องทำการเปลี่ยนรหัสผู้ใช้งานก่อน โดยในการเข้าสู่ระบบครั้งแรก ระบบจะทำการบังคับให้มีการเปลี่ยนรหัสผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ
  5.2 ผู้ใช้บริการจะต้องเก็บรักษารหัสผู้ใช้งาน (User ID) รหัสผ่าน (Password) และรหัส One Time Password (OTP) ไว้ในที่ปลอดภัยและถือเป็นความลับเฉพาะตัวของผู้ใช้บริการรายนั้นเท่านั้น การเปิดเผยรหัสผู้ใช้งาน (User ID) รหัสผ่าน (Password) และรหัส One Time Password (OTP) ถือเป็นการปฏิบัติผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ หากเกิดความเสียหายประการใดจากการที่ผู้ใช้บริการเปิดเผยหรือกระทำการใดๆ จนทำให้รหัสผู้ใช้งาน (User ID) รหัสผ่าน (Password) และรหัส One Time Password (OTP) สูญหาย ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายนั้น ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสผ่าน (Password) ได้ด้วยตนเองตลอดเวลา โดยไม่ต้องแจ้งให้ธนาคารทราบ
  5.3 ในกรณีที่เกิดการชำรุด/สูญหาย/ถูกโจรกรรม/ถูกระงับเนื่องจากผู้ใช้บริการหรือบุคคลอื่นใดระบุรหัสผู้ใช้งาน (User ID) หรือรหัสผ่าน (Password) ไม่ถูกต้องติดต่อกันตามจำนวนครั้งที่ธนาคารกำหนด/ผู้ใช้บริการลืมรหัสผู้ใช้งาน (User ID) และ/หรือรหัสผ่าน (Password) ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อธนาคารที่ K-Contact Center หมายเลข 02-8888888 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสาขาของธนาคาร โดยจะต้องดำเนินการตามที่ธนาคารกำหนด
  5.4 ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่าหากเกิดกรณีที่รหัสผู้ใช้งาน (User ID) หรือรหัสผ่าน (Password) ของผู้ใช้บริการถูกระงับใช้ถาวรหรือชั่วคราว โดยระบบของธนาคารอันเนื่องมาจากผู้ใช้บริการหรือบุคคลอื่นใดระบุรหัสผู้ใช้งานหรือรหัสผ่านไม่ถูกต้องหรือเหตุอื่นใดการที่รหัสผู้ใช้งานหรือรหัสผ่านถูกระงับด้วยระบบดังกล่าว จะส่งผลให้ธุรกรรมต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการได้ทำไว้หรือตกลงให้ทำไว้ล่วงหน้า จะถูกระงับทันที และผู้ใช้บริการตกลงที่จะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวกับธนาคารทั้งสิ้น
    
  หากผู้ใช้บริการประสงค์ที่จะให้มีการยกเลิกการระงับใช้บริการโดยระบบของธนาคาร ผู้ใช้บริการจะต้องจัดส่งแบบฟอร์มขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลฯ พร้อมแนบเอกสารสำเนาบัตรประชาชนและเอกสารที่เกี่ยวข้องมายังสาขาของธนาคาร หรือผ่านทางโทรสาร/ไปรษณีย์ไปยังฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องตามที่ธนาคารแจ้งไว้ โดยผู้ใช้บริการจะสามารถใช้บริการได้ต่อเมื่อ ผู้ใช้บริการได้แสดงหลักฐานจนเป็นที่พอใจของธนาคารแล้ว
    
  ในกรณีที่ธนาคารได้ดำเนินการยกเลิกการระงับใช้บริการตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว ผู้ใช้บริการตกลงและรับทราบว่า ธุรกรรมใดๆ ของผู้ใช้บริการที่ยังไม่ถึงกำหนดทำรายการ จะกลับมามีผลบังคับใช้เสมือนว่าไม่มีการระงับใช้บริการทันที
6.     
การกระทำใดๆ ทั้งที่เป็นการกระทำของผู้ใช้บริการเอง หรือเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบุคคลอื่น ไม่ว่าโดยประการใดก็ตาม หากได้กระทำไปโดยการใช้รหัสผู้ใช้งาน (User ID) และ/หรือรหัสผ่าน (Password) และ/หรือรหัส One Time Password (OTP) แล้ว ผู้ใช้บริการตกลงให้ถือว่าถูกต้องสมบูรณ์นับตั้งแต่เวลาที่มีการยืนยันทำธุรกรรม และให้มีผลผูกพันผู้ใช้บริการเสมือนหนึ่งได้กระทำโดยผู้ใช้บริการเอง รวมทั้งให้ถือว่าเป็นการที่ผู้ใช้บริการได้ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ไว้แก่ธนาคารเพื่อเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมผ่านบริการในครั้งนั้นๆ โดยถูกต้องสมบูรณ์แล้ว และตกลงให้ธนาคารสามารถใช้ข้อมูลการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นต้นฉบับเอกสารที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ว่าผู้ใช้บริการได้ทำธุรกรรมนั้น และใช้ในการดำเนินการทางกฎหมายได้ทุกประการ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการตกลงยอมรับและรับทราบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมด้วยตนเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสาร หรือหลักฐานอื่นใดยืนยันเพิ่มเติม และ/หรือมอบให้แก่ธนาคารอีกแต่ประการใด เว้นแต่รายการที่ธนาคารกำหนดให้ต้องทำเอกสาร หรือหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้ถูกต้องตามวิธีการ และประเพณีของธนาคารในเรื่องนั้นๆ อาทิเช่น การขอให้ธนาคารออกเช็คตามคำสั่ง ฯลฯ ผู้ใช้บริการจะต้องทำเอกสารหรือหลักฐาน (ถ้ามี) ตามที่ธนาคารกำหนดด้วย ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการต้องตรวจสอบยอดเงินภายหลังจากทำรายการทุกครั้ง โดยผู้ใช้บริการยินยอมรับผิดชอบต่อการทำธุรกรรมดังกล่าวทุกประการ
7.     
ผู้ใช้บริการที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถเข้าใช้งานฟังก์ชั่น K-Expert MyPort ซึ่งสามารถแสดงภาพรวมของสินทรัพย์ของผู้ใช้บริการที่อาจมีหลากหลายประเภท เช่น บัญชีเงินฝาก กองทุน หลักทรัพย์ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่รวมไว้ในฟังก์ชั่นนี้ โดยผู้ใช้บริการสามารถเพิ่มเติมสินทรัพย์อื่นๆ นอกจากสินทรัพย์ที่มีอยู่กับกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยได้ด้วยตนเอง รวมถึงสามารถวางแผนทางการเงินโดยขอคำปรึกษาจากผู้ให้คำปรึกษาทางการเงินของธนาคารได้ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของบริการ โดยเมื่อผู้ใช้บริการได้รับยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้แล้ว ผู้ใช้บริการจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่น K-Expert MyPort ได้โดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขแสดงข้อมูลทรัพย์สินใน K-Expert MyPort ตามที่ธนาคารพิจารณาเห็นสมควร
8.     
ผู้ใช้บริการตกลงและยอมรับว่าการที่ธนาคารแสดงข้อมูลทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ และการวางแผนทางการเงิน ใน K-Expert MyPort เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการเพื่อประกอบการตัดสินใจเบื้องต้นสำหรับการออมหรือการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้เป็นการวิเคราะห์ความเสี่ยง รับรอง หรือประกันผลตอบแทนจากการออมและการลงทุนของผู้ใช้บริการ แต่อย่างใด ดังนั้น ในกรณีที่มีความเสียหายแก่ผู้ใช้บริการอันมิได้เกิดจากการจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของธนาคารแล้ว ผู้ใช้บริการจะไม่เรียกร้องค่าเสียหาย หรือค่าทดแทนใดๆ จากธนาคารทั้งสิ้น
9.     
ผู้ใช้บริการสามารถโอนเงินไปบัญชีบุคคลอื่น โอนเงินต่างธนาคาร หรือชำระค่าสินค้า/บริการเป็นจำนวนยอดรวมกันได้ไม่เกิน 100,000.-บาท/วัน ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการแจ้งขอเพิ่มวงเงินโอนและชำระค่าสินค้า/บริการได้ โดยแจ้งผ่าน K-Contact Center (โทร 02-8888888) ตลอด 24 ชั่วโมง สูงสุดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 500,000 บาท/วัน หรือแจ้งผ่านสาขาของธนาคาร หรือตามจำนวนเงินที่ธนาคารจะประกาศเปลี่ยนแปลงหรือตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากธนาคาร โดยไม่กำหนดจำนวนครั้ง และธนาคารจะทำการตัดบัญชีตามจำนวนเงินที่ระบุพร้อมค่าธรรมเนียมจากบัญชีของผู้ใช้บริการและเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีผู้รับโอนทันทีหลังจากที่ผู้ใช้บริการได้ทำรายการ ยกเว้นแต่การโอนเงินต่างธนาคารจะต้องเป็นไปตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดเท่านั้น
  สำหรับผู้ใช้บริการ K-Cyber for SME สามารถใช้บริการโอนเงิน หรือชำระค่าสินค้า/บริการได้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในใบแบบคำขอใช้บริการ K-Cyber for SME และผู้ใช้บริการสามารถแจ้งดำเนินการขอปรับเพิ่มวงเงิน โดยการส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านสาขาของธนาคาร
10.     
การใช้บริการโอนเงินและชำระค่าสินค้า/บริการธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีตามจำนวนเงินที่ระบุพร้อมค่าธรรมเนียม จากบัญชีของผู้ใช้บริการ และเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีผู้รับโอน/ผู้รับชำระเงินทันที หลังจากที่ผู้ใช้บริการได้ทำรายการ ยกเว้นแต่การโอนเงินต่างธนาคารจะต้องเป็นไปตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดเท่านั้น
11.     
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการขอใช้บริการโอนเงินไปต่างประเทศ (International Fund Transfer) ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการโอนเงินเป็นจำนวนเริ่มต้นหรือจำนวนเงินสูงสุดตามจำนวนที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารจะทำการตัดบัญชีตามจำนวนเงินที่ระบุพร้อมค่าธรรมเนียมจากบัญชีของผู้ใช้บริการ และเงินนั้นจะถูกโอนโดยการแปลงเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (BANK SELLING RATE: BANK NOTES) สกุลเงินต่างประเทศนั้นๆ ที่ธนาคารขายในวันและเวลาที่ทำรายการ และผู้ใช้บริการตกลงให้ธนาคารคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินในอัตราสูงสุดไม่เกินร้อยละ 5 (ห้า) ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศดังกล่าวเป็นอัตราที่ใช้แลกเปลี่ยน และธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีผู้รับโอนหลังจากที่ผู้ใช้บริการทำรายการเรียบร้อยแล้ว
12.     
ผู้ใช้บริการสามารถดูข้อมูลการทำรายการโอนเงินผ่านบริการย้อนหลังได้ ทั้งนี้ นอกเหนือจากรายการบันทึกในสมุดบัญชีเงินฝากแล้ว ผู้ใช้บริการจะได้รับหลักฐานการทำรายการโอนเงินผ่าน E-mail Address ที่ผู้ใช้บริการลงทะเบียนไว้กับบริการ
  “หลักฐานการทำรายการ” หมายถึง เอกสารหลักฐานอันได้แก่ ใบบันทึกรายการ ใบแจ้งการโอนเงิน ใบแจ้งรายการ (statement) และหลักฐานอื่นใดที่ทำด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ และสื่อบันทึกข้อมูล หรือสื่อบันทึกข้อมูลอื่นใดที่ใช้เก็บข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดขึ้นในอนาคต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่