คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
เข้าไปอ่านกระทู้เก่าของคุณแล้ว บอกตามตรงว่าเราเข้าใจคุณนะ เพราะเราก็เคยผ่านช่วงเวลานั้นมาเหมือนกัน
สามีมีกิ๊ก ติดต่อพูดคุยกับกิ๊กทั้งวัน แถมยังเอาเราไปเปรียบกับกิ๊ก ตำหนิต่อว่าเราต่างๆนานา ช่วงเวลานั้นเราเป็นโรคซึมเศร้า ทำงานไม่ได้จนแทบถูกไล่ออกจากงาน ใครว่าอะไรมาเรารับเอามาเป็นความผิดของตัวเองทั้งหมด กลไกการป้องกันตัวเองเสียหาย ใช้ชีวิตอย่างไม่ระวัง ช่วงนั้นเราถูกหลอกถูกโกง ถูกเอาเปรียบจนมีความเสียหายมากมาย กลัวว่าลูกจะเป็นเด็กบ้านแตก คิดไปถึงขนาดว่าเราเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง ถึงไม่มีเราลูกก็ไม่เดือดร้อน เพราะสามีชอบพูดซ้ำๆ ว่าเราเป็นแม่ที่ไม่ดีพอ ไม่มีประโยชน์ต่อลูกเลย วันๆคอยเช็คโทรศัพท์ของสามี ว่าเขาโทรหากันกี่ครั้ง บอกรักกันกี่หน สามีล๊อกโทรศัพท์ ล๊อกไลน์ แต่เราก็อุตส่าห์ไปรู้รหัสเขามาจนได้
จิตใจคนนี่สำคัญนะ ถ้ามันอ่อนแอเสียแล้ว เหตุผลอะไรก็ช่วยไม่ได้จริงๆ อาการเราหนักมาก ที่มันไม่ดีขึ้นเพราะมัวแต่ยึดติด คิดเอาเองว่าอยู่ไมได้หรอกถ้าต้องเสียงาน หรือสูญเสียครอบครัว เรามีอาการแบบนั้นปีกว่า ขับรถไปพบจิตแพทย์ด้วยตัวเองคนเดียว ได้ยามาแล้วก็ไม่อยากกิน
อยู่ๆวันหนึ่งก็นคิดขึ้นมาว่าจะเป็นไรไป ถ้าเราต้องสูญเสียทุกอย่าง เสียงาน เสียครอบครัว แต่เราก็ยังไม่ตายนิ พอคิดได้อย่างนี้ก็เกิดเสียดายชีวิตตัวเองขึ้นมา บอกตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างมันเถอะ
ไม่น่าเชื่อว่าพอคิดได้แบบนี้ ไอ้พวกสติปัญญาต่างๆมันกลับมา คิดได้ว่าสามีไม่มีสิทธิ์มาทำกับเราแบบนี้ มาโยนความผิดให้เรา มาโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเรา มายกย่องผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ว่าดีกว่าเรา แล้วยังมาบอกว่าเราไม่ดีพอสำหรับลูก
จากคิดได้เลยเปลี่ยนเป็นโมโห เราขอหย่ากับสามี ในขณะที่สามีไม่ยอมหย่า ยังอยู่บ้านเดียวกัน นอนห้องเดียวกันทุกวัน แต่ก็ไม่คุยกัน ไม่มีอะไรความสัมพันธ์ทางเพศกันเลย
พอเราได้โกรธแล้วเราก็เลิกสนใจสามีไปเลยนะ จะไปกิ๊กกับใคร เลิกกับกิ๊กหรือยังเราไม่สนใจ ก็อยู่กันแบบนี้มาปีกว่าค่ะ
หลังๆมานี้สามีเลิกหวงโทรศัพท์ เราเคยแอบหยิบมาดูครั้งสองครั้ง ดูเหมือนสามีเลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ความโกรธของเราเริ่มจาง
พอจิตใจสงบนิ่งเราค่อยมาถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของเรา สุดท้ายก็ได้คำตอบที่เราไม่อยากยอมรับที่ว่า เราไม่ได้รักสามีมากพอที่จะปรับตัวและฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ครอบครัวยังอยู่ด้วยกัน
ตลอดมาเราไม่เคยให้เขาช่วยเหลือ ไม่เคยปรึกษา ไม่เคยบอกเล่าความคิดและความรู้สึกตัวเองกับเขาเลย เราอยากแต่งงานกับเขา อยากอยู่ด้วยกัน แต่ไม่เคยอยากแบ่งปันทุกข์สุขร่วมกับเขา ตอนที่เขามีกิ๊ก เราก็ไม่ได้หึงหวง เราสนใจแค่ว่าเราดีหรือไม่ดีตรงไหนเท่านั้น หลายครั้งที่สามีถามว่าเรารักเขาบ้างไหม อารมณ์ดีเราก็ตอบส่งๆไปว่ารัก อารมณ์ไม่ดีก็แค่เงียบ ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าหากเราถามเขา แล้วเขาตอบมาแบบนี้เราจะรู้สึกยังไง
ชีวิตคู่เป็นเรื่องซับซ้อน แต่ละคู่ก็ไม่เหมือนกัน มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ระหว่างนี้ จขกท.ลองถามตัวเองดูค่ะว่าจริงๆแล้ว รู้สึกอย่างไร หากเราเข้าใจตัวเอง เราก็จะเข้าใจสามี และเข้าใจชีวิตคู่ได้เองค่ะ
หรือสมมุติว่าสุดท้ายต้องแยกทางกันจริงๆ ตัว จขกท. จะรู้สึกยังไง อย่าคิดแทนลูกทุกอย่าง ไม่มีลูกคนไหนไม่อยากให้แม่มีความสุขหรอกค่ะ
อายุเรากับจขกท.ใกล้เคียงกันค่ะ บางคนอาจบอกว่าอายุมากแล้ว แต่เรามองว่ายังไม่มากจนเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ ทุกวันนี้จขกท.ก็มีรายได้ สามารถดูแลตัวเองได้ ถ้าจขกท. อยากเริ่มต้นใหม่ควรขอเงินจากสามีซักก้อน หรือบ้านซักหลังที่เป็นชื่อ จขกท. ถ้าไม่ได้ก็อาจให้ศาลจัดการ การทนอยู่ด้วยกันเพื่อลูกนั้น เราไม่เชื่อหรอกว่าเป็นทางออกที่ดี
ส่วนตัวเราตอนนี้ก็ยังอยู่กับสามีโดยที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยา ยังรำคาญและไฝ่ฝันถึงวันที่ไม่มีสามีมาคอยห้ามนั่นโน่นนี่ เราไม่ได้อยากอยู่แบบนี้หรอกแต่เราไม่มีทางเลือก ทั้งสามีและญาติของเราไม่ยอมให้เราเลือก แต่ถ้าจขกท.มีทางเลือก ก็ขอให้เลือกในสิ่งที่ดีกับตัวเองนะคะ
ขอให้มีความสุขในเร็ววัน
สามีมีกิ๊ก ติดต่อพูดคุยกับกิ๊กทั้งวัน แถมยังเอาเราไปเปรียบกับกิ๊ก ตำหนิต่อว่าเราต่างๆนานา ช่วงเวลานั้นเราเป็นโรคซึมเศร้า ทำงานไม่ได้จนแทบถูกไล่ออกจากงาน ใครว่าอะไรมาเรารับเอามาเป็นความผิดของตัวเองทั้งหมด กลไกการป้องกันตัวเองเสียหาย ใช้ชีวิตอย่างไม่ระวัง ช่วงนั้นเราถูกหลอกถูกโกง ถูกเอาเปรียบจนมีความเสียหายมากมาย กลัวว่าลูกจะเป็นเด็กบ้านแตก คิดไปถึงขนาดว่าเราเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง ถึงไม่มีเราลูกก็ไม่เดือดร้อน เพราะสามีชอบพูดซ้ำๆ ว่าเราเป็นแม่ที่ไม่ดีพอ ไม่มีประโยชน์ต่อลูกเลย วันๆคอยเช็คโทรศัพท์ของสามี ว่าเขาโทรหากันกี่ครั้ง บอกรักกันกี่หน สามีล๊อกโทรศัพท์ ล๊อกไลน์ แต่เราก็อุตส่าห์ไปรู้รหัสเขามาจนได้
จิตใจคนนี่สำคัญนะ ถ้ามันอ่อนแอเสียแล้ว เหตุผลอะไรก็ช่วยไม่ได้จริงๆ อาการเราหนักมาก ที่มันไม่ดีขึ้นเพราะมัวแต่ยึดติด คิดเอาเองว่าอยู่ไมได้หรอกถ้าต้องเสียงาน หรือสูญเสียครอบครัว เรามีอาการแบบนั้นปีกว่า ขับรถไปพบจิตแพทย์ด้วยตัวเองคนเดียว ได้ยามาแล้วก็ไม่อยากกิน
อยู่ๆวันหนึ่งก็นคิดขึ้นมาว่าจะเป็นไรไป ถ้าเราต้องสูญเสียทุกอย่าง เสียงาน เสียครอบครัว แต่เราก็ยังไม่ตายนิ พอคิดได้อย่างนี้ก็เกิดเสียดายชีวิตตัวเองขึ้นมา บอกตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างมันเถอะ
ไม่น่าเชื่อว่าพอคิดได้แบบนี้ ไอ้พวกสติปัญญาต่างๆมันกลับมา คิดได้ว่าสามีไม่มีสิทธิ์มาทำกับเราแบบนี้ มาโยนความผิดให้เรา มาโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเรา มายกย่องผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ว่าดีกว่าเรา แล้วยังมาบอกว่าเราไม่ดีพอสำหรับลูก
จากคิดได้เลยเปลี่ยนเป็นโมโห เราขอหย่ากับสามี ในขณะที่สามีไม่ยอมหย่า ยังอยู่บ้านเดียวกัน นอนห้องเดียวกันทุกวัน แต่ก็ไม่คุยกัน ไม่มีอะไรความสัมพันธ์ทางเพศกันเลย
พอเราได้โกรธแล้วเราก็เลิกสนใจสามีไปเลยนะ จะไปกิ๊กกับใคร เลิกกับกิ๊กหรือยังเราไม่สนใจ ก็อยู่กันแบบนี้มาปีกว่าค่ะ
หลังๆมานี้สามีเลิกหวงโทรศัพท์ เราเคยแอบหยิบมาดูครั้งสองครั้ง ดูเหมือนสามีเลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ความโกรธของเราเริ่มจาง
พอจิตใจสงบนิ่งเราค่อยมาถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของเรา สุดท้ายก็ได้คำตอบที่เราไม่อยากยอมรับที่ว่า เราไม่ได้รักสามีมากพอที่จะปรับตัวและฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้ครอบครัวยังอยู่ด้วยกัน
ตลอดมาเราไม่เคยให้เขาช่วยเหลือ ไม่เคยปรึกษา ไม่เคยบอกเล่าความคิดและความรู้สึกตัวเองกับเขาเลย เราอยากแต่งงานกับเขา อยากอยู่ด้วยกัน แต่ไม่เคยอยากแบ่งปันทุกข์สุขร่วมกับเขา ตอนที่เขามีกิ๊ก เราก็ไม่ได้หึงหวง เราสนใจแค่ว่าเราดีหรือไม่ดีตรงไหนเท่านั้น หลายครั้งที่สามีถามว่าเรารักเขาบ้างไหม อารมณ์ดีเราก็ตอบส่งๆไปว่ารัก อารมณ์ไม่ดีก็แค่เงียบ ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าหากเราถามเขา แล้วเขาตอบมาแบบนี้เราจะรู้สึกยังไง
ชีวิตคู่เป็นเรื่องซับซ้อน แต่ละคู่ก็ไม่เหมือนกัน มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ระหว่างนี้ จขกท.ลองถามตัวเองดูค่ะว่าจริงๆแล้ว รู้สึกอย่างไร หากเราเข้าใจตัวเอง เราก็จะเข้าใจสามี และเข้าใจชีวิตคู่ได้เองค่ะ
หรือสมมุติว่าสุดท้ายต้องแยกทางกันจริงๆ ตัว จขกท. จะรู้สึกยังไง อย่าคิดแทนลูกทุกอย่าง ไม่มีลูกคนไหนไม่อยากให้แม่มีความสุขหรอกค่ะ
อายุเรากับจขกท.ใกล้เคียงกันค่ะ บางคนอาจบอกว่าอายุมากแล้ว แต่เรามองว่ายังไม่มากจนเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ ทุกวันนี้จขกท.ก็มีรายได้ สามารถดูแลตัวเองได้ ถ้าจขกท. อยากเริ่มต้นใหม่ควรขอเงินจากสามีซักก้อน หรือบ้านซักหลังที่เป็นชื่อ จขกท. ถ้าไม่ได้ก็อาจให้ศาลจัดการ การทนอยู่ด้วยกันเพื่อลูกนั้น เราไม่เชื่อหรอกว่าเป็นทางออกที่ดี
ส่วนตัวเราตอนนี้ก็ยังอยู่กับสามีโดยที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยา ยังรำคาญและไฝ่ฝันถึงวันที่ไม่มีสามีมาคอยห้ามนั่นโน่นนี่ เราไม่ได้อยากอยู่แบบนี้หรอกแต่เราไม่มีทางเลือก ทั้งสามีและญาติของเราไม่ยอมให้เราเลือก แต่ถ้าจขกท.มีทางเลือก ก็ขอให้เลือกในสิ่งที่ดีกับตัวเองนะคะ
ขอให้มีความสุขในเร็ววัน
แสดงความคิดเห็น
ขอวิธีทำใจ สำหรับคนที่เป็นสามีภรรยา แล้วลดความสัมพันธ์เป็นแค่พ่อและแม่ แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน
เราตกลงกับสามีว่า จะลดความสัมพันธ์เหลือแค่พ่อกับแม่ ที่ช่วยกันดูแลลูก
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ให้จบลงนับตั้งแต่นี้
แต่ปัญหาคือ เราทำใจไม่ได้ค่ะ
เรายังเจ็บปวด เราไม่มีความสุข และมองไม่เห็นอนาคต
อยากขอวิธีทำใจ หรือ วิธีอะไรก็ได้ ที่ทำให้เราไม่รู้สึกอะไรกับสามีอีกแล้ว
อะไรก็ได้ที่ทำให้เราสามารถอยู่เพื่อลูก โดยที่ไม่เจ็บปวดอีกต่อไป
ส่วนความรู้สึกของสามี ค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่เหลือความรักให้เราต่อไปอีกแล้ว
ซึ่งตัวเค้าเองก็พยายามปรับตัวให้อยู่ในจุดที่เราตกลงไว้
คือจบความสัมพันธ์สามีภรรยา แต่ช่วยกันดูแลลูกเท่านั้น
ช่วยเราด้วยค่ะ
เรารู้สึกเจ็บปวด จนไม่อยากหายใจอีกต่อไปแล้ว