part 1 : http://ppantip.com/topic/35887864
part 2 : http://ppantip.com/topic/35901546
และขอฝากเพจเล็ก ๆ ไว้ด้วยครับ https://www.facebook.com/Legend-Journey-345246089176098/
สวัสดีครับทุกท่านเรามาต่อกันที่ part 3 วันที่ 2 กันนะครับ
วันที่ 2 odaiba สำหรับโอไดบะเป็นย่านที่หน้าเที่ยวสุด ๆ ของโตเกียวครับ สำหรับผมนั้น 1 วันเต็มก็เที่ยวไม่พอครับ เพราะว่าเนื่องจากเป็นเด็กมัธยมสายวิทย์นั้น เรียกได้ว่าตื่นเต้นสุด ๆ กับแหล่งความรู้ด้านวิทย์ยาศาสตร์ของญี่ปุ่นครับ บนเกาะโอไดบะนั้น มีแหล่งเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์กว่า 10 แห่งด้วยกันครับ ยังไม่รวมแลนด์มาร์คสำคัญ ๆ อย่าง Giant wheel Gundam front tokyo และอีกมากมายครับ เอาหล่ะ ขี้เกียจโม้แล้ว เชิญรับชมเลยดีกว่าครับ

เปิดวันแรกด้วย ที่เก่าเจ้าเดิมอย่าง matsuya ด้วยอาหารเช้าตามตำหรับญี่ปุ่นอย่าง TKG หรือชื่อเต็มว่าtamako kake gohan หรือที่เราเรียกกันว่า ข้าวตอกไข่ดิบนั้นเองครับ นับเป็นความอร่อยแบบง่าย ๆ ของชาวญี่ปุ่นครับ แต่มีเพียงข้าว ไข่ โชยุ แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ ตอนกลับมาไทย เช้าไหนคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรก็มี TKG เนี่ยแหละครับที่ช่วยเอาไว้ อร่อยสุด ๆ ไปเลย
อื่มแล้วก็ได้เวลาลุยครับ
การเดินทางก็ไม่ยากครับ หลาย ๆ คนอาจจะไปด้วย jr แต่เนื่องจาก 24hr pass ยังไม่หมดก็ใช้ให้คุ้มครับ จะมุด ginza line หรือ asakusa line ก็ไปโผ่ลที่ shimbashiเหมือนกันครับแล้ว

pass ที่ใช้ในวันนี้ก็คือ yurikamome pass ราคา 820 เยนนั้นเองครับ(ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปไว้)
โดยสถานที่แรกที่จะไปก็คือ mirai-kan นั้นเองครับ

mirai-kan มีชื่อเรียกเป็นทางการว่าnational museum of emerging science and inovation มีการแสดงเทคโนโลยีที่น่าสนใจอยู่หลายเรื่องเลยครับ น่าสนใจมาก ๆ แต่ อพวช ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ แต่เรื่องคอนเท้นต์ mirai-kan กินขาดครับ

เพราะความสามารถในการนำเสนอทำให้ผู้เข้าชมได้รู้ว่า
วิทยาศาสตร์ใกล้ตัวมากกว่าที่คิดครับ เช่น การรับ-ส่งข้อมูลดิจิตอล

จากรูปเป็นการแสดงการทำงานของโมเด็มนะครับที่แสดงการรับ-ส่งข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ถ้างงก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเองก็งงเหมือนกัน

เดินไปได้ไม่นานก็หิวแล้วครับ เราเลยมากันที่พิพิธภัณฑ์ทาโกะยากิแห่งโอไดบะกันครับ อยู่ที่ aqua city(มั้ง) หรือไม่ก็ deck นี่แหละครับ5555 ลืมไปแล้ว เป็นการรวมทาโกะยากิร้านดัง 4 ร้าน ไม่ต้องไปไกลถึง universal city walk ครับ เนื่องจากมาแค่คนเดียวการกินให้ครบ 4 รสทำได้ยากมากครับ เลยขอลองแค่ 2 ก่อน อีก 2 เดี๋ยวไว้ทีหลังครับ

เมื่อกินอื่มแล้ว หนังท้องตึง แต่หนังตายังหย่อนไม่ได้ครับ เรามาต่อกันที่แลนด์มาร์คฮอตฮิตตลอดการอย่าง GFT หรือชื่อเต็มว่า Gandam Front Tokyo นั้นเองครับ อยู่หน้าห้าง Diver city tokyo plaza ครับข้างบนห้าง ยังมีเป็นmuseumอยู่ด้วยครับ แต่เนื่องจากแพงก็เลยไม่ได้เข้าไปตามระเบียบ

แวะร้านรองเท้าเจ้าดังอย่าง abc mart เพื่อตามล่าหา NMD หน่อยครับ

เดินเพลินไปนิดจนเลยเวลาที่เจ้าอาซิโม่จะมาโชว์ตัวครับ นึกได้เลยรีบวิ่งไปเลย ก็ได้เจอกันเพียนาทีเดียวครับ

แปปเดียวก็มึดอีกแล้ว ก็แวะไปที่megaweb toyata city showcase ครับ ช่างนี้สนใจรถวิลแชร์เป็นพิเศษครับ คุณยายน่าจะอยากได้

มีการโชว์ระบบของรถแห่งอนาคตอย่างเจ้า Mirai ด้วยครับ

เนื่องจากวันนี้ใช้พลังงานมากเป็นพิเศษเย็นนี้ก็ขอเป็นซูชิครับ เลยเดินมาที่ aqua deck ครับซูชิที่ญี่ปุ่นถ้าเป็นร้านธรรมดาผมลงความเห็นว่าเหมือนกันครับ แต่ถ้าเป็น jiro นี่ไม่รู้ครับเพราะไม่เคยไป
เริ่นต้นกับชาเขียวครับ

ไม่รอช้ารีบสั่งแชลม่อน

ต่อด้วยเอนกาวะครับ

สำหรับเอนกาวะที่นี่จะไม่นิยมเผานะครับ ฟิลลิ่งจะเหมือน กรุบกรอบ+เหนียว ๆ ครับ เนื่องจากไม่ชอบก็ขอให้คุณเชฟ เผาให้ครับ
ต่อด้วยกุ้งหวานครับ สด+หวานมาก ๆ ครับ

สำหรับการคิดเงิน เค้าจะเอาเครื่องอะไรไม่รู้มาแสกนครับ เหมือนตอนเช็คความปลอดถัยที่สนามบินเลย แต่ถ่ายไม่ทันครับ ได้ตอนปริ้นใบเสร็จแทน T T

มืดแล้วก็ได้เวลาร่ำลาโอไดบะครับ เนื่องจากทริปนี้ไม่ได้มีเงินมากเราจึงต้องซื้อของมาตุนที่ Asakusa Donquijote ครับซื้อของที่เลือกซื้อมาก็คือ
ลิปมันครับ อยู่ญี่ปุ่นปากแห้งมากครับ เลยต้งป้องกันไว้ก่อน เดี๋ยวจะกินข้าวไม่อร่อย

ต่อมาก็คือ หน้ากากครับ ใส่ออกข้างนอกนี่อย่างฟินครับ

และที่ขาดไม่ได้ ที่ท่วมปี54 นั้นก็คือน้ำโง่

ครับ กินเข้าไปพ่นออกแทบไม่ทัน 5555
สำหรับวันที่ 2 ก็จบแต่เพียงเท่านี้ครับ