ตอนที่ 1 Saturday 9/11/2013 KIX
http://ppantip.com/topic/31498018
ตอนที่ 2 Sunday 10/11/2013 Universal Studio (USJ) - Halloween Event
http://ppantip.com/topic/31501877
ตอนที่ 3 Monday 11/11/2013 Kyoto
http://ppantip.com/topic/31549215
Tuesday 12/11/2013 Osaka
Wednesday 13/11/2013 Osaka
Thursday 14/11/2013 Tokyo
Friday 15/11/2013 Kawaguchi(Fuji)
Saturday 16/11/2013 Hakone
Sunday 17/11/2013 Tokyo
Monday 18/11/2013 Tokyo – Odaiba
Tuesday 19/11/2013 Akihabara
ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่จะไปญี่ปุ่นด้วยตนเองนะครับ
ระยะเวลาการเที่ยว คือ 9-19 พย. 2013 -- 11 วัน
ทริปนี้ใช้ค่าจ่ายไปทั้งสิ้น 51,742.32 บาท/คน
เงินสด Rate 0.3195 และใช้บัตรเครดิตร่วมด้วยที่ rate 0.32xx แบ่งออกเป็น
- ค่าตั๋วเครื่องบิน = 16,500 บาท/คน
- ค่าโรงแรม 17,224.04 บาท (พักคู่) หาร 2 = 8,612.02 บาท/คน
- ค่ารถ Bus นอน Osaka → Tokyo = 1,597.93 บาท/คน
- ค่าเดินทาง+Pass ทั้งหลาย+ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ = 10,266 บาท บาท/คน
- อื่นๆ ค่าอาหาร (มื้อที่แพงสุดคือ 4,000¥/คน), ทำบุญเล็กน้อยตามวัด,ซื้อของจุกจิก
มีเที่ยวบินไปลง 1ทุ่มกับ 3 ทุ่มคิดไปคิดมา เลยเลือกให้ลง 3 ทุ่มดีกว่า นอนมันสนามบินซะเลย ประหยัดค่าที่พัก
ลง 1 ทุ่มเดี๋ยวจะนอนนานเกิน ไม่รู้จะทำอะไร
ขาไปลงสนามบิน KIX ที่ Osaka / ขากลับ กลับจาก สนามบิน Hanada ที่ Tokyo
ที่จองเที่ยวบินแบบนี้เพราะไม่อยากเดินทางย้อนไปมา เพื่อประหยัดค่าเดินทางครับ
จากความที่ไม่รู้อะไรเลย ตัดสินใจอยู่นานมากว่าจะซื้อ JR Pass หรือไม่
หลังจากทำแผนการเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจ ไม่ซื้อ JR Pass ครับ
วันที่ 1 -- Saturday 9/11/2013 KIX
11.50น. เครื่องบิน Cathay Pacific (333) ออกจาก สุวรรณภูมิ เที่ยวบิน CX750 BKK 11:50 → HKG 15:35
16.35น. เครื่องบิน Cathay Pacific (773) ออกจาก ฮ่องกง เที่ยวบิน CX502 HKG 16:35 → KIX 21:00
เครื่องคาเธย์นี่ ลำใหญ่ก็พอ ok นะครับ เคยนั่ง A380 มา เห็นอะไรเก่าไปหมดเลย
ลำเล็กนี่ อึดอัดเล็กน้อยสำหรับทริปที่นั่งนานๆ ผมจำไม่ได้ว่าอันไหนลำใหญ่ลำเล็ก
21.00น. ถึง Kansai Airport *** รีบลงจากเครื่องผ่าน ตม. ไป Travel Desk ให้ทันก่อน 21:30
21.30น. ถึง Kansai Tourist Deck (7:00-22:00) Terminal 1 ตึก 1F Cental Area หาข้อมูลท่องเที่ยว แผนที่ รถเมล์
มีเวลา 30 นาที ในการซื้อ Pass ต่างๆ
ซื้อ Kyoto city bus one-day pass 500¥
ซื้อ Osaka Unlimited Pass 2 day 2,700¥ ต้องโชว์ Passport ตอนซื้อ
(Osaka Unlimited Pass มี 2 แบบ 1 day 2,000¥ / 2 day 2,700¥)
Pass ต่างๆ ดูได้ที่
http://www.kaakix.co.jp/travel/travel_en.html
เจ้า pass ตัวนี้ เข้าฟรีหลายสถานที่มากๆ ผมนั่งเรือไป 3 ลำ นั่งกระเช้า เข้าปราสาท ขึ้นหอคอย คุ้มครับ ใครไปครั้งแรก ควรค่าแก่การซื้อมาก
เข้าที่ไหนได้บ้างดูจากใน web ครับ
สาเหตุที่ซื้อ 2 day นะครับ เพราะว่า เพิ่ม 700¥ ได้นั่ง subway ฟรีอีกวันครับ
ผมจะใช้เวลาใน Osaka 2 วัน ซึ่ง เผื่อว่าถ้าเที่ยวได้ไม่ตามแผน จะได้เปลี่ยนแผนใน 2 วันได้ครับ
หน้าตาตามรูปเลยครับ เริ่มใช้วันไหน นับวันนั้นครับ วันที่จะถูกพิมพ์ไว้หลังบัตรครับ
*สิ่งที่ต้องระวังมากๆคือ ถ้าคุณซื้อ Kansai pass และ Osaka pass ระวังหยิบผิดนะครับ
ตอนขึ้นรถไฟครั้งแรก มันใช้ขึ้นรถไฟได้ทั้งคู่ เพื่อนผมพลาดมาแล้ว ใช้ผิดวัน เสียเจ้า osaka pass ไปฟรีๆ
Osaka Unlimited Pass+คูปอง เวลาใช้ต้องใช้คู่กันเสมอ
http://www.osaka-info.jp/osp/en/
สามารถเข้าสถานที่ฟรี 28 ที่ (บางสถานที่จะเปลี่ยนไปแล้วแต่ปี) ขึ้น subway ทุกสายฟรี (ไม่รวม JR) และยังมีส่วนลดร้านอาหารอื่นๆตามเอกสาร
ตรงข้าม Travel Deck จะมีโต๊ะ ให้ชาร์จแบต และแผนที่ข้อมูลต่างๆให้เราหยิบได้ตามใจชอบ
ผมก็ไปนั่งตรงโต๊ะบาร์สีขาว ที่มีแผ่นพับแจกข้างหน้าครับ นักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาก็เดินมาถามทาง ถามรถไฟตลอด
ผมก็งง หน้าตาผมอาจจะเหมือนจิตอาสามาก
เลยลองเปลี่ยนมุมกลับ ปรับมุมมอง อ้าว... Tourist Information งี้นี่เอง เค้านึกว่าเราเป็นพนักงานชาวญี่ปุ่นสินะ ๕๕๕++
ถ่ายรูปไป 1 แชะ ให้กับความบังเอิญ ที่ช่วยเพื่อนร่วมโลกไปหลายคน (รึเปล่า)
Tralvel Deck ปิด 22:00น. ผมไม่ได้ดูข้อมูลมาก่อนจองตั๋ว ทำให้มีโจทย์แรก ก็คือ ผมต้องไปถึง Travel Deck ให้ได้ภายใน 30 นาที นับจากเวลาเครื่องลง
ซึ่งจะเป็นไปได้นั้น ก็ต้องไม่โหลดกระเป๋าครับ ซึ่งผมก็ตั้งใจไม่โหลดอยู่แล้ว เครื่องลงปุ๊บแทบวิ่งเลยครับ
จองที่นั่งค่อนไปทางหน้าเครื่อง (ประตูทางออก) ริมทางเดิน เพื่อความสะดวกและรวดเเร็ว
โดยพากระเป๋าไป 2 ใบครับ กระเป๋า 22 นิ้ว size ใหญ่ที่สุดที่ลากขึ้นเครื่องได้ และ กระเป๋ากล้องอีกใบ
โดยใส่กระเป๋ากีฬา (ใส่ของ load กลับ) และเป้แบบพับได้(ใส่เสื้อผ้าไป Fuji-Hakone) ไว้ข้างในกระเป๋าเดินทางอีก
กระเป๋า size นี้จะเป็น Size ที่สามารถ load ขึ้นรถ bus ที่ไป Tokyo ได้ด้วย ส่วนกระเป๋ากล้องก็เป็นขนาดพอดีกับ Carry on รถ bus ครับ
สำหรับผมเป็นกระเป๋าลากคู่ใจเลย ช่วยทำเวลาได้ดีมาก และไม่หนักเกินไปสำหรับการยกขึ้นลงบันได Subway ครับ
หากคิดจะใช้บริการรถ bus ขนาดกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญครับ
การจัดกระเป๋า ก็จัดให้เหลือที่ว่างครับ ไปหลวมๆ ขากลับเกินกระเป๋าแน่นอน
ผมใช้เวลากับ Travel Deck ไปครึ่งชั่วโมงครับ ในการรอคิวและซื้อ Pass ทั้ง 2 ใบ เค้าปิดพอดี
*Osaka 1 Day Pass + Nankai special express trains = 2,300¥ (ถ้าต้องการราคานี้ ต้องซื้อที่นายสถานีรถ Nankai)
ตามภาพเลยครับ ต้องเดินไปให้ถึงสถานี จะอยู่ตรงหน้าทางเข้าครับ แต่ผมใช้ 2day เลยซื้อที่ Travel Deck ครับ
ระหว่างที่สำรวจ สถานี Nankai ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ครับ เผื่อเป็นข้อมูล
เสร็จแล้วก็หาที่นอนครับ มีเพื่อนร่วมโรงแรมประมาณ เกือบๆ 30 คนครับ ดูจากรายชื่อที่ตำรวจให้เซ็น
คือนอนๆไปสักพักประมาณ เที่ยงคืน-ตี1 จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอตรวจ Passport ซักประวัติเล็กน้อย แล้วให้เราเซ็นชื่อนะครับ
อันนี้ก็ไม่ต้องกลัวไป คนไทยหน้าตาเรียบร้อยผ่านฉลุย ที่ผมสังเกต พี่มืดที่นอนอยู่ใกล้ๆ โดนซักนานมากกกกกก
เคยอ่านเจอว่าขอยืมผ้าห่มได้ แต่หาที่ยืมไม่เจอครับ สุดท้ายก็หาเจอจนได้ เดินไปทาง Lawson ชั้น 2 แล้วเลี้ยวขวาครับ ที่นี่ครับ
อาหารมื้อแรก จาก Lawson อร่อยครับ แค่นี้ก็ฟิน
ด้านหน้าจะมีคนนอนตรงนี้เยอะพิเศษครับ ผมไม่ได้นอนตรงนี้ ผมไปนอนอีกปีกนึงเลยครับ ตรงแถวๆตู้สูบบุหรี่ ตรงนั้นดูสงบดีครับ
สนามบิน KIX ไม่ใหญ่มากนะครับ ถ้าหา Lawson เจอทุกอย่างก็อยู่ไม่ไกลหมดครับ
เคล็ดลับในการนอน หาผ้าห่มให้ได้ครับ จะช่วยได้มาก เรื่องความกังวลกระเป๋า
ผมจับกระเป๋าตั้ง แล้วเอาขาพาดกระเป๋าครับ แล้วผมกอดกระเป๋ากล้องเอาไว้
พอห่มผ้าทุกอย่างก็อยู่ใต้ผ้าครับ คิดว่าคงไม่มีใครสามารถเอาอะไรจากเราไปได้แล้ว
จริงๆมี Locker เยอะนะครับ มีทั้งหมด 3 ขนาด แต่ผมไม่อยากเสียเงินครับ ถ้าจำไม่ผิด size ใหญ่สุดราวๆ 600-700¥ ครับ
หลับไป 5 ชม. ครับ+กับที่นอนบนเครื่องมา วันต่อมาก็พร้อมเที่ยวเลยครับ
ช่วงที่ผมไป ฤดูใบไม้เกือบเปลี่ยนสีพอดีครับ 555+ เปลี่ยนไม่หมดอ่ะครับ
- การต่อเครื่องที่มีเวลาน้อยที่ฮ่องกง ต้องตื่นตัวพอสมควรนะครับ
ขาไปผมเจอลงเครื่องแล้ว มีเจ้าหน้าที่มาถือป้ายรอ หน้า gate ต้องเดินไกลมาก มีขึ้นลงลิฟท์ด้วย แถมตรวจกระเป๋าอีกรอบ กว่าจะไปถึง gate ก็เหลือ 10-15 นาทีเท่านั้นครับ ผมไปฮ่องกงหลายครั้ง เจอครั้งนี้ งงทางเดินเลยครับ ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่มารับบอกได้เลยว่าเสี่ยงตกเครื่องมากครับ
- แต่ขากลับ ลงเครื่องมา ก็ไม่ไกลครับ อยู่แถวๆ gate เลย ชั้นเดียวกัน
*** ก่อนลงจากเครื่อง ให้ตั้งนาฬิกาใหม่เสมอนะครับ
ฮ่องกง-เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม
ญี่ปุ่น-เวลาเร็วกว่าไทย 2 ชม. อุณหภูมิเฉลี่ยพฤษจิกายน 9-19 องศาC
เอามาฝากอีก เขียนบนเครื่อง
ค่าใช้จ่ายวันแรก
Osaka Pass 2,700¥
Kyoto Bus Pass 500¥
ซื้ออาหาร Lawson 759¥ --> ทานไม่หมด กินได้ 2 มื้อด้วยสิ
รวม 3,959¥
แตกแบงค์ให้เรียบร้อย เก็บเหรียญ 100¥ เอาไว้ใช้กับ Locker ใน USJ
[CR] เที่ยวญี่ปุ่นเองแบบงกๆ Osaka+Kyoto+Fuji+Hakone+Tokyo ตอนที่ 1
ตอนที่ 2 Sunday 10/11/2013 Universal Studio (USJ) - Halloween Event http://ppantip.com/topic/31501877
ตอนที่ 3 Monday 11/11/2013 Kyoto http://ppantip.com/topic/31549215
Tuesday 12/11/2013 Osaka
Wednesday 13/11/2013 Osaka
Thursday 14/11/2013 Tokyo
Friday 15/11/2013 Kawaguchi(Fuji)
Saturday 16/11/2013 Hakone
Sunday 17/11/2013 Tokyo
Monday 18/11/2013 Tokyo – Odaiba
Tuesday 19/11/2013 Akihabara
ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่จะไปญี่ปุ่นด้วยตนเองนะครับ
ระยะเวลาการเที่ยว คือ 9-19 พย. 2013 -- 11 วัน
ทริปนี้ใช้ค่าจ่ายไปทั้งสิ้น 51,742.32 บาท/คน
เงินสด Rate 0.3195 และใช้บัตรเครดิตร่วมด้วยที่ rate 0.32xx แบ่งออกเป็น
- ค่าตั๋วเครื่องบิน = 16,500 บาท/คน
- ค่าโรงแรม 17,224.04 บาท (พักคู่) หาร 2 = 8,612.02 บาท/คน
- ค่ารถ Bus นอน Osaka → Tokyo = 1,597.93 บาท/คน
- ค่าเดินทาง+Pass ทั้งหลาย+ค่าเข้าสถานที่ต่างๆ = 10,266 บาท บาท/คน
- อื่นๆ ค่าอาหาร (มื้อที่แพงสุดคือ 4,000¥/คน), ทำบุญเล็กน้อยตามวัด,ซื้อของจุกจิก
มีเที่ยวบินไปลง 1ทุ่มกับ 3 ทุ่มคิดไปคิดมา เลยเลือกให้ลง 3 ทุ่มดีกว่า นอนมันสนามบินซะเลย ประหยัดค่าที่พัก
ลง 1 ทุ่มเดี๋ยวจะนอนนานเกิน ไม่รู้จะทำอะไร
ขาไปลงสนามบิน KIX ที่ Osaka / ขากลับ กลับจาก สนามบิน Hanada ที่ Tokyo
ที่จองเที่ยวบินแบบนี้เพราะไม่อยากเดินทางย้อนไปมา เพื่อประหยัดค่าเดินทางครับ
จากความที่ไม่รู้อะไรเลย ตัดสินใจอยู่นานมากว่าจะซื้อ JR Pass หรือไม่
หลังจากทำแผนการเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจ ไม่ซื้อ JR Pass ครับ
วันที่ 1 -- Saturday 9/11/2013 KIX
11.50น. เครื่องบิน Cathay Pacific (333) ออกจาก สุวรรณภูมิ เที่ยวบิน CX750 BKK 11:50 → HKG 15:35
16.35น. เครื่องบิน Cathay Pacific (773) ออกจาก ฮ่องกง เที่ยวบิน CX502 HKG 16:35 → KIX 21:00
เครื่องคาเธย์นี่ ลำใหญ่ก็พอ ok นะครับ เคยนั่ง A380 มา เห็นอะไรเก่าไปหมดเลย
ลำเล็กนี่ อึดอัดเล็กน้อยสำหรับทริปที่นั่งนานๆ ผมจำไม่ได้ว่าอันไหนลำใหญ่ลำเล็ก
21.00น. ถึง Kansai Airport *** รีบลงจากเครื่องผ่าน ตม. ไป Travel Desk ให้ทันก่อน 21:30
21.30น. ถึง Kansai Tourist Deck (7:00-22:00) Terminal 1 ตึก 1F Cental Area หาข้อมูลท่องเที่ยว แผนที่ รถเมล์
มีเวลา 30 นาที ในการซื้อ Pass ต่างๆ
ซื้อ Kyoto city bus one-day pass 500¥
ซื้อ Osaka Unlimited Pass 2 day 2,700¥ ต้องโชว์ Passport ตอนซื้อ
(Osaka Unlimited Pass มี 2 แบบ 1 day 2,000¥ / 2 day 2,700¥)
Pass ต่างๆ ดูได้ที่ http://www.kaakix.co.jp/travel/travel_en.html
เจ้า pass ตัวนี้ เข้าฟรีหลายสถานที่มากๆ ผมนั่งเรือไป 3 ลำ นั่งกระเช้า เข้าปราสาท ขึ้นหอคอย คุ้มครับ ใครไปครั้งแรก ควรค่าแก่การซื้อมาก
เข้าที่ไหนได้บ้างดูจากใน web ครับ
สาเหตุที่ซื้อ 2 day นะครับ เพราะว่า เพิ่ม 700¥ ได้นั่ง subway ฟรีอีกวันครับ
ผมจะใช้เวลาใน Osaka 2 วัน ซึ่ง เผื่อว่าถ้าเที่ยวได้ไม่ตามแผน จะได้เปลี่ยนแผนใน 2 วันได้ครับ
หน้าตาตามรูปเลยครับ เริ่มใช้วันไหน นับวันนั้นครับ วันที่จะถูกพิมพ์ไว้หลังบัตรครับ
*สิ่งที่ต้องระวังมากๆคือ ถ้าคุณซื้อ Kansai pass และ Osaka pass ระวังหยิบผิดนะครับ
ตอนขึ้นรถไฟครั้งแรก มันใช้ขึ้นรถไฟได้ทั้งคู่ เพื่อนผมพลาดมาแล้ว ใช้ผิดวัน เสียเจ้า osaka pass ไปฟรีๆ
Osaka Unlimited Pass+คูปอง เวลาใช้ต้องใช้คู่กันเสมอ http://www.osaka-info.jp/osp/en/
สามารถเข้าสถานที่ฟรี 28 ที่ (บางสถานที่จะเปลี่ยนไปแล้วแต่ปี) ขึ้น subway ทุกสายฟรี (ไม่รวม JR) และยังมีส่วนลดร้านอาหารอื่นๆตามเอกสาร
ตรงข้าม Travel Deck จะมีโต๊ะ ให้ชาร์จแบต และแผนที่ข้อมูลต่างๆให้เราหยิบได้ตามใจชอบ
ผมก็ไปนั่งตรงโต๊ะบาร์สีขาว ที่มีแผ่นพับแจกข้างหน้าครับ นักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาก็เดินมาถามทาง ถามรถไฟตลอด
ผมก็งง หน้าตาผมอาจจะเหมือนจิตอาสามาก
เลยลองเปลี่ยนมุมกลับ ปรับมุมมอง อ้าว... Tourist Information งี้นี่เอง เค้านึกว่าเราเป็นพนักงานชาวญี่ปุ่นสินะ ๕๕๕++
ถ่ายรูปไป 1 แชะ ให้กับความบังเอิญ ที่ช่วยเพื่อนร่วมโลกไปหลายคน (รึเปล่า)
Tralvel Deck ปิด 22:00น. ผมไม่ได้ดูข้อมูลมาก่อนจองตั๋ว ทำให้มีโจทย์แรก ก็คือ ผมต้องไปถึง Travel Deck ให้ได้ภายใน 30 นาที นับจากเวลาเครื่องลง
ซึ่งจะเป็นไปได้นั้น ก็ต้องไม่โหลดกระเป๋าครับ ซึ่งผมก็ตั้งใจไม่โหลดอยู่แล้ว เครื่องลงปุ๊บแทบวิ่งเลยครับ
จองที่นั่งค่อนไปทางหน้าเครื่อง (ประตูทางออก) ริมทางเดิน เพื่อความสะดวกและรวดเเร็ว
โดยพากระเป๋าไป 2 ใบครับ กระเป๋า 22 นิ้ว size ใหญ่ที่สุดที่ลากขึ้นเครื่องได้ และ กระเป๋ากล้องอีกใบ
โดยใส่กระเป๋ากีฬา (ใส่ของ load กลับ) และเป้แบบพับได้(ใส่เสื้อผ้าไป Fuji-Hakone) ไว้ข้างในกระเป๋าเดินทางอีก
กระเป๋า size นี้จะเป็น Size ที่สามารถ load ขึ้นรถ bus ที่ไป Tokyo ได้ด้วย ส่วนกระเป๋ากล้องก็เป็นขนาดพอดีกับ Carry on รถ bus ครับ
สำหรับผมเป็นกระเป๋าลากคู่ใจเลย ช่วยทำเวลาได้ดีมาก และไม่หนักเกินไปสำหรับการยกขึ้นลงบันได Subway ครับ
หากคิดจะใช้บริการรถ bus ขนาดกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญครับ
การจัดกระเป๋า ก็จัดให้เหลือที่ว่างครับ ไปหลวมๆ ขากลับเกินกระเป๋าแน่นอน
ผมใช้เวลากับ Travel Deck ไปครึ่งชั่วโมงครับ ในการรอคิวและซื้อ Pass ทั้ง 2 ใบ เค้าปิดพอดี
*Osaka 1 Day Pass + Nankai special express trains = 2,300¥ (ถ้าต้องการราคานี้ ต้องซื้อที่นายสถานีรถ Nankai)
ตามภาพเลยครับ ต้องเดินไปให้ถึงสถานี จะอยู่ตรงหน้าทางเข้าครับ แต่ผมใช้ 2day เลยซื้อที่ Travel Deck ครับ
ระหว่างที่สำรวจ สถานี Nankai ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ครับ เผื่อเป็นข้อมูล
เสร็จแล้วก็หาที่นอนครับ มีเพื่อนร่วมโรงแรมประมาณ เกือบๆ 30 คนครับ ดูจากรายชื่อที่ตำรวจให้เซ็น
คือนอนๆไปสักพักประมาณ เที่ยงคืน-ตี1 จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอตรวจ Passport ซักประวัติเล็กน้อย แล้วให้เราเซ็นชื่อนะครับ
อันนี้ก็ไม่ต้องกลัวไป คนไทยหน้าตาเรียบร้อยผ่านฉลุย ที่ผมสังเกต พี่มืดที่นอนอยู่ใกล้ๆ โดนซักนานมากกกกกก
เคยอ่านเจอว่าขอยืมผ้าห่มได้ แต่หาที่ยืมไม่เจอครับ สุดท้ายก็หาเจอจนได้ เดินไปทาง Lawson ชั้น 2 แล้วเลี้ยวขวาครับ ที่นี่ครับ
อาหารมื้อแรก จาก Lawson อร่อยครับ แค่นี้ก็ฟิน
ด้านหน้าจะมีคนนอนตรงนี้เยอะพิเศษครับ ผมไม่ได้นอนตรงนี้ ผมไปนอนอีกปีกนึงเลยครับ ตรงแถวๆตู้สูบบุหรี่ ตรงนั้นดูสงบดีครับ
สนามบิน KIX ไม่ใหญ่มากนะครับ ถ้าหา Lawson เจอทุกอย่างก็อยู่ไม่ไกลหมดครับ
เคล็ดลับในการนอน หาผ้าห่มให้ได้ครับ จะช่วยได้มาก เรื่องความกังวลกระเป๋า
ผมจับกระเป๋าตั้ง แล้วเอาขาพาดกระเป๋าครับ แล้วผมกอดกระเป๋ากล้องเอาไว้
พอห่มผ้าทุกอย่างก็อยู่ใต้ผ้าครับ คิดว่าคงไม่มีใครสามารถเอาอะไรจากเราไปได้แล้ว
จริงๆมี Locker เยอะนะครับ มีทั้งหมด 3 ขนาด แต่ผมไม่อยากเสียเงินครับ ถ้าจำไม่ผิด size ใหญ่สุดราวๆ 600-700¥ ครับ
หลับไป 5 ชม. ครับ+กับที่นอนบนเครื่องมา วันต่อมาก็พร้อมเที่ยวเลยครับ
ช่วงที่ผมไป ฤดูใบไม้เกือบเปลี่ยนสีพอดีครับ 555+ เปลี่ยนไม่หมดอ่ะครับ
- การต่อเครื่องที่มีเวลาน้อยที่ฮ่องกง ต้องตื่นตัวพอสมควรนะครับ
ขาไปผมเจอลงเครื่องแล้ว มีเจ้าหน้าที่มาถือป้ายรอ หน้า gate ต้องเดินไกลมาก มีขึ้นลงลิฟท์ด้วย แถมตรวจกระเป๋าอีกรอบ กว่าจะไปถึง gate ก็เหลือ 10-15 นาทีเท่านั้นครับ ผมไปฮ่องกงหลายครั้ง เจอครั้งนี้ งงทางเดินเลยครับ ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่มารับบอกได้เลยว่าเสี่ยงตกเครื่องมากครับ
- แต่ขากลับ ลงเครื่องมา ก็ไม่ไกลครับ อยู่แถวๆ gate เลย ชั้นเดียวกัน
*** ก่อนลงจากเครื่อง ให้ตั้งนาฬิกาใหม่เสมอนะครับ
ฮ่องกง-เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม
ญี่ปุ่น-เวลาเร็วกว่าไทย 2 ชม. อุณหภูมิเฉลี่ยพฤษจิกายน 9-19 องศาC
เอามาฝากอีก เขียนบนเครื่อง
ค่าใช้จ่ายวันแรก
Osaka Pass 2,700¥
Kyoto Bus Pass 500¥
ซื้ออาหาร Lawson 759¥ --> ทานไม่หมด กินได้ 2 มื้อด้วยสิ
รวม 3,959¥
แตกแบงค์ให้เรียบร้อย เก็บเหรียญ 100¥ เอาไว้ใช้กับ Locker ใน USJ