พอดีผมอ่านๆ ก็เลยลองทำดู เนื้อหาใจความประมาณนี้
TRADE CHECKLIST
เพื่อป้องกันการเทรดแบบมั่วๆ เราจึงต้องทำมันขึ้นมา
ซึ่งแน่นอน มันไม่ได้การันตีว่า เราจะทำกำไรได้ หากมีมัน
แต่การมีมันก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไร
อย่างน้อยมันก็มีแผน หรือวิธีการอะไรสักอย่างที่เราคิดว่า
เล่นแบบนี้ แล้วน่าจะได้เปรียบอยู่ในนั้นด้วย
เพื่อนๆลองทำ แล้วมาแบ่งปันกันได้นะครับ
ตัวอย่างของผมเนี่ย...
(1) บรรทัดแรกสุด
ผมดูกราฟสัปดาห์ (WEEK) ก่อนว่า เป็นแนวโน้มอะไร ขึ้น (ลูกศรเขียว) ลง (ลูกศรแดง) ไม่มีทิศทาง (ลูกศรเหลือง)
กราฟวัน (DAY) เช่นเดียวกัน
กราฟ 240 นาที เช่นเดียวกัน
กราฟ 60 นาที เช่นเดียวกัน
กราฟ 15 นาที เช่นเดียว
โดยถ้ามันเป็นแบบไหน ผมก็จะกากบาทลงไป
---------------
(2) สัญญาณการเข้าสถานะเกิดขึ้นที่ กราฟไหน
โดยผมแทนเป็นรูปดาว
เช่น หากเกิดขึ้นที่กราฟวัน ผมก็จะติ๊กดาว กราฟวัน
--------------
(3) แทบสถานะ
(3.1) ถ้าเข้าสถานะ LONG ก็จะติ๊กถูก
(3.2) ถ้าเข้าสถานะ SHORT ก็จะติ๊กถูก
(3.3) เป้าหมายการทำกำไร ระบุเป็นตัวเลข หรือเปอร์เซ็นต์
(3.4) เป้าหมายการขาดทุน ระบุเป็นตัวเลข หรือเปอร์เซ็นต์
หมายเหตุ เปอร์เซ็นต์ขึ้นและลงไม่เท่ากัน เป็นเรื่องของ LINEAR และ LOG โปรดระมัดระวัง
(3.5) คำนวณหาผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (RRx - REWARD - RISK (เท่า))
โดยนำเป้าหมายกำไรตั้ง หารด้วย เป้าหมายขาดทุน
ในที่นี้ ผมเขียนเลข 2 ตัวเล็กๆด้านในเพื่อเตือนตัวเองว่า มันควรเริ่มต้นที่ 2 เท่า
(3.6) การวางเงินลงไปเล่น เป็นกี่เท่าของพอร์ท (LEVERAGE - LEV เท่า)
เพราะบางครั้ง ดอกที่ขาดทุน วางเงินเล็กเยอะ ทำให้สุดท้ายพอร์ทไม่โต
และดอกที่กำไร วางเงินเล็กน้อย ทำให้สุดท้ายพอร์ทไม่โตเหมือนกัน
สมมติว่า พอร์ท 100,000 LEV 1 X ก็คือแทงหมด 100,000 เลย
ถ้า LEV 0.5 ก็คือแทงเพียง 50,000 เป็นต้น
ตรงนี้คนที่สอนผมว่า บุญคุณมาก แม้ผมจะเข้าใจผิดถูกก็ตาม
คนนั้นคือ พี่ส. ขอบคุณท่านผ่านเพจอีกครั้งครับ
---------------
(4) เรื่อง CONFLUENCE เป็นแนวคิดใหม่ที่ผมเรียนรู้จาก Nial Fuller ที่บอกว่า การเข้าสถานะใดควรเกิดความได้เปรียบ นั้นคือ ควรมีจุดที่สนับสนุนว่า เราจะชนะ มากกว่าแพ้นั้นเอง โดยผมแบ่งออกเป็น 4 อย่าง
(4.1) แนวโน้มตลาด (TRENDING)
(4.1.1) กระทิง แล้วใส่คะแนน 1-10
10 แปลว่า โคตรบูล /// 1 แปลว่า บูลอ่อน
(4.1.2) หมี แล้วใส่คะแนน 1-10
10 แปลว่า โคตรหมี /// 1 แปลว่า หมีอ่อน
(4.2) รูปแบบกราฟ
(4.2.1) รูปแบบกราฟบูลแบบไหน
- แบบสามเหลี่ยม (สมมาส / ปากแตร / ฐานตัด / หัวตัด)
- แบบสี่เหลี่ยม (สมมาส / เฉียงลง)
- หัวไหล่ตูด INVERTED Head and Shoulder
(4.2.2) รูปแบบกราฟ หมีแบบไหน
- แบบสามเหลี่ยม (สมมาส / ปากแตร / ฐานตัด / หัวตัด)
- แบบสี่เหลี่ยม (สมมาส / เฉียงขึ้น)
- หัวไหล่ตูด Head and Shoulder Original
(4.3) รูปแบบแท่งเทียน
โดยผมอ้างอิงจาก NIAL FULLER ตามความเข้าใจของผม ก็มีแค่ สามแบบ
(4.3.1) กลุ่มแท่งเทียน 1 แท่ง = PIN / BAR
Bull Pin bar
Bull bar
(4.3.2) กลุ่มแท่งเทียน 2 แท่ง = Inside Bar
- Original
- Both Pin
- Pin Mother
- Pin Children
(4.3.3) กลุ่มแท่งเทียน 3 แท่ง = FAKEY
- FAKEY BREAKOUT หมายถึง
เป็นกลุ่ม INSIDE BAR มาก่อน
แล้ว BREAKOUT หลอกๆ
แล้วย้อนกลับอีกด้านหนึ่ง
- FAKEY PIN + PIERCING PATTERN
ตัวแท่งเทียนเป็น piercing ก่อน
แล้ว BREAKOUT หลอก จนกลายเป็น FAKEY PIN
สุดท้ายวิ่งย้อนศร อีกทิศทางหนึ่ง
(4.4) เรื่องแนวรับแบบต่างๆ
- HORIZONTAL แนวรับเส้นขอบฟ้า (เส้นแนวนอน)
- UPTREND LINE แนวรับเส้นอัพเทรน
- EMA แนวรับเส้น EMA วันต่างๆ
- B-CO = Become แนวต้าน กลายเป็น แนวรับ
------------------------
5. สำหรับตลาดที่ไม่มีทิศทางครับ
ผมก็จะแทนว่า NON-TREND
โดยเราก็มีหน้าที่ติ๊กว่ามันเป็นแบบไหน
5.1 Normal Sideways รึเปล่า
5.2 Bull Accumulation คือเป็นขาขึ้นมาก่อน
แล้วก็มาพักตัว SIDEWAYS แบบไม่มีทิศทาง
กลยุทธ์ เราจึงกำหนดได้ถูกต้อง
5.3 Bear Distribution คือเป็นขาลงมาก่อน
แล้วก็มาพักตัว SIDEWAYS แบบไม่มีทิศทาง
กลยุทธ์ เราจึงกำหนดได้ถูกต้อง
---------
6. เป็นตัวเชคแนวรับ/แนวต้านโดยใช้เส้นค่าเฉลี่ย
มาตรฐานของวงการโบรกเกอร์ไทยได้แก่
เส้น SMA 10:25:75:200
เส้น EMA: 10:25:75:200
โดยผมก็จะใส่เส้นช่องให้ติ๊กว่า
มันเป็น S= SUPPORT
R= RESISTANCE
N = NOTHING
เพื่อบางทีเรากำลังคิดจะมี SHORT อยู่
แต่มันอยู่ตรงเส้นแนวรับ S พอดี
เราจะได้เอ๊ะใจเป้นต้น
----------
เพิ่มข้อ 6 คือเอาทุกอย่างมาผสมรวมกันว่า
มันสอดคล้องกันหรือไม่
---------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล. ผมลาออกจากโบรกมานานแล้วนะ ไม่ต้องมาหาว่า หาลูกค้า ตอนนี้แค่อยากหาเพื่อนเทรด แบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน
และหาอาจารย์สอนเทรด ผมพร้อมเป็นลูกศิษย์
ตอนนี้อยากได้ความรู้สำหรับคนที่ TAKE COURSE ของ NIAL FULLER นะ แชร์ให้ผมฟังหน่อย https://www.facebook.com/DWPROFIT/
TRADE CHECKLIST มันคือแบบนี้เปล่าหวะ?
TRADE CHECKLIST
เพื่อป้องกันการเทรดแบบมั่วๆ เราจึงต้องทำมันขึ้นมา
ซึ่งแน่นอน มันไม่ได้การันตีว่า เราจะทำกำไรได้ หากมีมัน
แต่การมีมันก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไร
อย่างน้อยมันก็มีแผน หรือวิธีการอะไรสักอย่างที่เราคิดว่า
เล่นแบบนี้ แล้วน่าจะได้เปรียบอยู่ในนั้นด้วย
เพื่อนๆลองทำ แล้วมาแบ่งปันกันได้นะครับ
ตัวอย่างของผมเนี่ย...
(1) บรรทัดแรกสุด
ผมดูกราฟสัปดาห์ (WEEK) ก่อนว่า เป็นแนวโน้มอะไร ขึ้น (ลูกศรเขียว) ลง (ลูกศรแดง) ไม่มีทิศทาง (ลูกศรเหลือง)
กราฟวัน (DAY) เช่นเดียวกัน
กราฟ 240 นาที เช่นเดียวกัน
กราฟ 60 นาที เช่นเดียวกัน
กราฟ 15 นาที เช่นเดียว
โดยถ้ามันเป็นแบบไหน ผมก็จะกากบาทลงไป
---------------
(2) สัญญาณการเข้าสถานะเกิดขึ้นที่ กราฟไหน
โดยผมแทนเป็นรูปดาว
เช่น หากเกิดขึ้นที่กราฟวัน ผมก็จะติ๊กดาว กราฟวัน
--------------
(3) แทบสถานะ
(3.1) ถ้าเข้าสถานะ LONG ก็จะติ๊กถูก
(3.2) ถ้าเข้าสถานะ SHORT ก็จะติ๊กถูก
(3.3) เป้าหมายการทำกำไร ระบุเป็นตัวเลข หรือเปอร์เซ็นต์
(3.4) เป้าหมายการขาดทุน ระบุเป็นตัวเลข หรือเปอร์เซ็นต์
หมายเหตุ เปอร์เซ็นต์ขึ้นและลงไม่เท่ากัน เป็นเรื่องของ LINEAR และ LOG โปรดระมัดระวัง
(3.5) คำนวณหาผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (RRx - REWARD - RISK (เท่า))
โดยนำเป้าหมายกำไรตั้ง หารด้วย เป้าหมายขาดทุน
ในที่นี้ ผมเขียนเลข 2 ตัวเล็กๆด้านในเพื่อเตือนตัวเองว่า มันควรเริ่มต้นที่ 2 เท่า
(3.6) การวางเงินลงไปเล่น เป็นกี่เท่าของพอร์ท (LEVERAGE - LEV เท่า)
เพราะบางครั้ง ดอกที่ขาดทุน วางเงินเล็กเยอะ ทำให้สุดท้ายพอร์ทไม่โต
และดอกที่กำไร วางเงินเล็กน้อย ทำให้สุดท้ายพอร์ทไม่โตเหมือนกัน
สมมติว่า พอร์ท 100,000 LEV 1 X ก็คือแทงหมด 100,000 เลย
ถ้า LEV 0.5 ก็คือแทงเพียง 50,000 เป็นต้น
ตรงนี้คนที่สอนผมว่า บุญคุณมาก แม้ผมจะเข้าใจผิดถูกก็ตาม
คนนั้นคือ พี่ส. ขอบคุณท่านผ่านเพจอีกครั้งครับ
---------------
(4) เรื่อง CONFLUENCE เป็นแนวคิดใหม่ที่ผมเรียนรู้จาก Nial Fuller ที่บอกว่า การเข้าสถานะใดควรเกิดความได้เปรียบ นั้นคือ ควรมีจุดที่สนับสนุนว่า เราจะชนะ มากกว่าแพ้นั้นเอง โดยผมแบ่งออกเป็น 4 อย่าง
(4.1) แนวโน้มตลาด (TRENDING)
(4.1.1) กระทิง แล้วใส่คะแนน 1-10
10 แปลว่า โคตรบูล /// 1 แปลว่า บูลอ่อน
(4.1.2) หมี แล้วใส่คะแนน 1-10
10 แปลว่า โคตรหมี /// 1 แปลว่า หมีอ่อน
(4.2) รูปแบบกราฟ
(4.2.1) รูปแบบกราฟบูลแบบไหน
- แบบสามเหลี่ยม (สมมาส / ปากแตร / ฐานตัด / หัวตัด)
- แบบสี่เหลี่ยม (สมมาส / เฉียงลง)
- หัวไหล่ตูด INVERTED Head and Shoulder
(4.2.2) รูปแบบกราฟ หมีแบบไหน
- แบบสามเหลี่ยม (สมมาส / ปากแตร / ฐานตัด / หัวตัด)
- แบบสี่เหลี่ยม (สมมาส / เฉียงขึ้น)
- หัวไหล่ตูด Head and Shoulder Original
(4.3) รูปแบบแท่งเทียน
โดยผมอ้างอิงจาก NIAL FULLER ตามความเข้าใจของผม ก็มีแค่ สามแบบ
(4.3.1) กลุ่มแท่งเทียน 1 แท่ง = PIN / BAR
Bull Pin bar
Bull bar
(4.3.2) กลุ่มแท่งเทียน 2 แท่ง = Inside Bar
- Original
- Both Pin
- Pin Mother
- Pin Children
(4.3.3) กลุ่มแท่งเทียน 3 แท่ง = FAKEY
- FAKEY BREAKOUT หมายถึง
เป็นกลุ่ม INSIDE BAR มาก่อน
แล้ว BREAKOUT หลอกๆ
แล้วย้อนกลับอีกด้านหนึ่ง
- FAKEY PIN + PIERCING PATTERN
ตัวแท่งเทียนเป็น piercing ก่อน
แล้ว BREAKOUT หลอก จนกลายเป็น FAKEY PIN
สุดท้ายวิ่งย้อนศร อีกทิศทางหนึ่ง
(4.4) เรื่องแนวรับแบบต่างๆ
- HORIZONTAL แนวรับเส้นขอบฟ้า (เส้นแนวนอน)
- UPTREND LINE แนวรับเส้นอัพเทรน
- EMA แนวรับเส้น EMA วันต่างๆ
- B-CO = Become แนวต้าน กลายเป็น แนวรับ
------------------------
5. สำหรับตลาดที่ไม่มีทิศทางครับ
ผมก็จะแทนว่า NON-TREND
โดยเราก็มีหน้าที่ติ๊กว่ามันเป็นแบบไหน
5.1 Normal Sideways รึเปล่า
5.2 Bull Accumulation คือเป็นขาขึ้นมาก่อน
แล้วก็มาพักตัว SIDEWAYS แบบไม่มีทิศทาง
กลยุทธ์ เราจึงกำหนดได้ถูกต้อง
5.3 Bear Distribution คือเป็นขาลงมาก่อน
แล้วก็มาพักตัว SIDEWAYS แบบไม่มีทิศทาง
กลยุทธ์ เราจึงกำหนดได้ถูกต้อง
---------
6. เป็นตัวเชคแนวรับ/แนวต้านโดยใช้เส้นค่าเฉลี่ย
มาตรฐานของวงการโบรกเกอร์ไทยได้แก่
เส้น SMA 10:25:75:200
เส้น EMA: 10:25:75:200
โดยผมก็จะใส่เส้นช่องให้ติ๊กว่า
มันเป็น S= SUPPORT
R= RESISTANCE
N = NOTHING
เพื่อบางทีเรากำลังคิดจะมี SHORT อยู่
แต่มันอยู่ตรงเส้นแนวรับ S พอดี
เราจะได้เอ๊ะใจเป้นต้น
----------
เพิ่มข้อ 6 คือเอาทุกอย่างมาผสมรวมกันว่า
มันสอดคล้องกันหรือไม่
---------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้