กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้อง...ขอไม่พูดพร่ำทำเพลง รีวิวเลยละกัน เฮ้!!
ภารกิจนี้ขอตั้งชื่อว่า "ภารกิจพิชิตทัชมาฮาล หน้าหมอก ออกๆๆๆ" ดูเว่อวังอลังการ555
ฉบับนี้ รีบไปรีบกลับจริง เพราะก่อนไปยังไม่มีใครรู้เลย จนเพื่อนมาโพสในเฟสว่า "โอ๊ยยคุณพระ!! ไม่คิดว่านางจะไปจริงๆ" ทริปนี้ไปกันกระทันหันมาก ได้ตั๋วเกือบห้าทุ่ม เครื่องออกตี2 ของยังไม่เก็บ หน้ายังไม่แต่ง...เฮ้! โดยสมาชิกทั้งหมด 4 คน กับภาระกิจพิชิตทัชมาฮาลหน้าหมอกกก ออกๆๆๆๆๆๆๆๆ
เราใช้บริการสายการบิน Low cost สีน้ำเงิน เจ้าใหญ่ประจำอินเดีย เราจะบินไปลงเมืองกัลกาต้า กำหนดเวลาออกเดิม 02.05น. แต่เครื่องดีเลย์เนื่องจากสภาพอากาศ (ติดหมอก) เลยได้ออกกันประมาณตี3กว่าๆ ยืนรอ นั่งรอ ถ่างตารอไปค่ะ!
ถึงสนามบินนานาชาติกัลกาต้า เวลาตี5 กว่าๆ สนามบินนี้ครึกครื้นกันแต่เช้า
*ขอพูดถึงเรื่องเอกสารที่ใช้เข้าอินเดียกันนิดนึง
เนื่องจากเราถือหนังสือเดินทางไทย จึงจำเป็นต้องขอวีซ่าเข้าอินเดีย การขอวีซ่าจะมีอยู่สองแบบ คือเราสามารถไปยื่นเรื่องขอได้ที่สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย เค้าจะประทับวีซ่าไว้ในพาสปอต หรือเข้าไปขอในเว็บไซต์ ก็จะได้มาเป็นแผ่นกระดาษ ที่เราเรียกว่า Electronic Visa (eTV) กรอกเอกสารผ่านเว็บไซต์ ชำระเงิน 2 วันได้วีซ่า เริ่ดจะตาย! แต่วีซ่าที่จะได้จะเป็น Tourist Single ใช้ได้ครั้งเดียว เอกสารเพิ่มเติม ต้องมีตั๋วกลับหรือตั๋วออกจากอินเดีย เอกสารการจองที่พักในอินเดีย จบ!! เลทโก้!!
ถึงกัลกาต้าแล้ว จากนั้นเราต้องไปหาเคาน์เตอร์เช็คอินภายในประเทศ เพราะเราจะต้องต่อเครื่องไปลงเมืองจัยปูร์ โดยสายการบินเดิม...
และแล้วเหตุการณ์อันแสนจะเลวร้ายก็เกิดขึ้น ตกเครื่องเที่ยวแรก...เพราะจากกรุงเทพเครื่องดีเลย์เป็นชั่วโมง กว่าจะมาถึง กว่าจะผ่านตม. กว่าจะรับกระเป๋า อิแม่!! ร้องไห้หนักมาก เครื่องก็เต็ม ไฟล์ทก็พากันดีเลย์ ทำได้อย่างเดียว บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกที่ในสากลโลก...สุดท้ายได้ไปรอบบ่ายสองกว่า นั่งนอนกันในสนามบินนั้นละ เสียเวลากันไป1วัน ตามแก้บนชุดใหญ่จ้า!
นี่ถือเป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งของสนามบินนี้ คือเพดานที่เป็นเหมือนภาษาอินเดียมะ เดินไปตรงไหน ทุกที่เพดานต้องเป็นแบบนี้ สวยดี
ตั้งตระหง่านตามาก สวยแบบแปลกๆ หรือเค้าถือเป็นฮวงจุ้ย!
อาหารเช้าของเรา แซนวิซอินตะระเดีย เครื่องเทศมาเต็ม พิกัดร้านฝั่งภายในประเทศ เดินไปจนสุดอาคารมีร้านเดียว บ้าบอ!! กาฟงกาแฟอะไร แม่เจ้า!!
ที่นี่ไม่มีแบงค์1000 กับ500 แล้ว แต่ออกแบงค์2000มาใหม่เอี่ยมอ่อง...
เวลาแลกเงินจากไทยแลกเป็นดอลลาร์ไปแล้วค่อยไปแลกเป็นเงินรูปีที่นู้นเอา ที่เคาน์เตอร์แลกเงินที่อินเดียให้เราแลกกันแค่คนละ 80$ ได้มา4พันกว่ารูปี เวลาคิดเงินไทยกับรูปี คิดง่ายๆเงินไทยจะได้ครึ่งนึงของเงินรูปี 2000รูปี ก็ 1000บาท ง่ายเนอะ!!
**แนะนำ เน้นๆ** เวลาแลกรูปี ให้แลกแบงค์ย่อยเยอะๆ แบงค์2000 เอามาทำไม บ้าบอ! ซื้ออะไรตรงไหนก็ยาก
เจ้าเดิม ❤️ เวลาบ่ายสอง เราจะต้องนั่งเครื่องเพื่อไปลงเมืองจัยปูร์ต่อ
ถึงสนามบินจัยปูร์ประมาณ 5โมงเย็น นัดพลขับไว้แต่เช้า 555
สนามบินนี้สวยนะ เมืองก็น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก งานดีๆเพียบ 555
เราเหมารถกันไปเมืองอากรากันประมาณ 7000บาท ติดต่อกันไว้ตั้งแต่ที่ไทย ราคานี้แพลนเดิมคือเหมาเที่ยว2วัน อากรา1วัน จัยปูร์1วัน ถือว่าคุ้มมากเพราะหาร4คน...แต่แพลนดันมาเปลี่ยนเพราะตกเครื่องเที่ยวเช้าเนี้ยแหละ 555 เกือบโดนอินตะระเดีย ชักดาบ ไปรบกับบางระจันแล้วเนี้ย!!
รถคันใหญ่ นั่งสบาย ใครใคร่ยืดขายืด ใครใคร่นอนๆ แอร์เย็นเจี๊ยบ คิดว่าอยู่แอตแลนติก!!ปั๊ดโถ่!
ก่อนออกเดินทางไปอากรา เราต้องหาอะไรลงท้อง ไม่ลองท้องนะ ลงท้องเลย เพราะทั้งวันติดอยู่สนามบิน กินแต่แซนด์วิช พลขับเลยพามาGT Bazaar เป็นห้างเล็กๆใจกลางเมืองจัยปูร์ ย่านนี้จะมีอาหาร ร้านค้าขายกันแบบนี้ แล้วก็มีโต๊ะยืนกินกันแบบนี้เลย โต๊ะเรียงรายกัน คนตัวเล็กๆก็ต้องเขย่งหน่อย...
อาหารมื้อแรกที่เรียกว่าอาหาร เมนูพาสต้า เกี๊ยวซ่า ที่เค้าเรียกว่า Momo ทั้งทอดและไม่ทอด ค่าเสียหายทั้งหมด 600รูปี อร่อยมาก! 3ผ่าน!
อันนี้ไม่รู้จริงๆเรียกว่าอะไร เห็นคนยืนกินหน้าร้านกันเยอะแยะ อ่ะ!! ลองซะหน่อย 5ลูก 10รูปี 10ลูก 20รูปี
มันจะเป็นแป้งทอดบางๆ ตรงกลางมีรู ข้างในเค้าจะใส่มันบด แล้วก็ราดน้ำสีเขียวๆ ใจดีสู้เสือ! อ่ะ! กินก็กิน รสชาติเปรี้ยวๆ แปลกๆ คำแรกคายไม่ทัน พอกินลูกที่2 ที่3 เอออร่อยแปลกๆ เค้าบอกน้ำเขียวๆมันมีส่วนผสมของผักชี สะระแหน่ แนะนำ! ทำใจก่อนกิน อยากลอง ก็หาร้านสะอาดๆหน่อย เพราะพี่ลุงแก ก็เล่นหยิบด้วยมือแบบนั้น
อิ่มแล้วก็ไปกันต่อ เพราะเราต้องใช้เวลาเดินทางกันอีกประมาณ 5-6ชั่วโมง ความไกลไม่เท่าไร ระหว่างทางเจอหมอกหนามาก หนาแบบมองไม่เห็นทางเลย นับถือจริงๆ คนที่นี่ขับรถกันเก่งมากก ก.ไก่ล้านตัว แต่ที่น่ารำคาญมีเรื่องเดียว เสียงแตร!! หนวกหูจนจะเป็นโรคประสาท
จนเรามาถึงโรงแรมที่อากราประมาณตี1 (ขอค่าโรงแรมคืนได้ม๊ายย TT)
โรงแรมที่ชื่อ Aura Mumtaz Mahal , Agra ห่างจาก Tajmahal ประมาณ1กิโลเมตรเท่านั้น...วันรุ่งขึ้นพลขับนัดเราไว้ตอน 9โมงเช้าเพื่อพาทัชมาฮาล ตอนแรกตั้งใจจะตื่นแต่เช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นตอน 06.50น. ตื่นมาเจอหมอกเข้าไป อากาศประมาณ9-11องศา อึ้งครับ แล้วนอนต่อ!! คร่อกกกzzZZ
อาหารเช้าที่โรงแรม เป็นบุฟเฟ่...สำหรับใครกินเครื่องเทศ เครื่องแกงไม่ได้ ขอให้ผ่าน และแวะไปหยิบไข่ต้มมากินแทนซะ!
เพราะที่นี่เครื่องเทศเค้าแรงม๊ากกก ก.ไก่ล้านตัว สำหรับเรา เอ่ออ อร่อย! ตักไป2รอบ โรตีกับแกงอีก6แผ่น อิ่มยันลูกออกผนวช!
ถึงเวลาพลขับมารับตรงเวลาเป๊ะ พร้อมไกด์ อินิก็งง! ไหนว่าไม่มีไกด์ แต่ดีเค้าบอกรวมกับแพคเกจค่ารถไปแล้ว ให้แค่ค่าเสียเวลาพอ...ซื้อตั๋วเข้าทัชมาฮาล ราคานักท่องเที่ยวต่างชาติ 2000รูปี แต่สำหรับเราพาสปอตไทยโดนไปแค่คนละ 520รูปี เก๋ๆ ก่อนไปหาข้อมูลมาว่าถ้าถือพาสปอตไทยราคาเข้าจะลดแทบจะเท่าราคาคนอินเดียเลย นอกจากตั๋วสิ่งที่ได้เพิ่มเติมคือ น้ำดื่ม1ขวดและถุงผ้าใช้คลุมรองเท้าเวลาเราเข้าไปข้างในทัชมาฮาล
**สิ่งที่อนุญาตให้นำเข้ามีแค่ น้ำดื่ม กล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือ แค่นี้จริงๆ ขนาดหมากฝรั่งยังโดนยึด! กระเป๋าสะพาย ห้ามนำเข้า เพราะก่อนเข้าเค้าจะมีการตรวจอย่างละเอียด**
Tajmahal แก๊!! หมอกหนักจริง ไหนๆไหนทัชมาฮาล ผิดที่ปะเนี้ย! ก่อนมาวางแผนว่าฉันจะดูทัชมาฮาลตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่ไหงเป็นงี้!!
จนผ่านไปครึ่งชั่วโมงแดดเริ่มออก เริ่มจะเห็นแล้วววว เย้!!
อันนี้คือ Baby Taj
เราต้องใส่ถุงสวมรองเท้าเราไว้เมื่อขึ้นไปข้างบนทัชมาฮาล ส่วนความเป็นมา ไปหาตามอากู๋เลยนาจา คึคึ..ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณชั่วโมงนึง แล้วเราก็ต้องกลับจัยปูร์ เพราะเราต้องต่อเครื่องจากจัยปูร์กลับกัลกาต้าตอน2ทุ่ม หลายคนถามทำไมต่องไปจัยปูร์เพราะว่า มีแค่2เมืองที่เดินทางมาอากราได้ง่ายก็คือ เดลลีและจัยปูร์ แต่เดลลีหมอกหนักกว่า เครื่องดีเลย์ แคนเซิลกันระนาว เลยขอเลี่ยง โหะๆๆ
*ถ้ามีกลุ่มเด็กนักเรียนมาขอถ่ายรูป เซลฟี่บ้าง ไม่ต้องตกใจนะ ถือเป็นเรื่องปกติมาก555
กว่าจะถึงจัยปูร์ก็พระอาทิตย์ตกซะละ เลยได้แวะที่
Pink City เป็นเมืองที่สิ่งก่อสร้างเป็นสีชมพู ถ้าตอนกลางวันน่าจะสวยกว่านี้ เสร็จแล้วก็ไปสนามบิน
ถึงกัลกาต้าเกือบห้าทุ่ม ตึ๊ง! เหมือนเสียค่าโรงแรมฟรี โรงแรมชื่อCelesta Kolkataใกล้สนามบิน เหมาtaxi แบบ Prepaid จากสนามบินไปกัน150รูปี
อาหารเช้าที่โรงแรม เหมือนเดิม!! โรตี!!
วันสุดท้ายเหลือเที่ยวที่กัลกาต้า ที่แรกที่ไปคือ
Victoria Memorial(ความเป็นมาถามอากู๋) เหมาtaxi จากโรงแรมมา250รุปี ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวจะปิดวันจันทร์
ที่สุดท้าย
New Market แหล่งshopping เหมือนจตุจักรบ้านเราเลย ใครอยากหาซื้อครีม Himaraya ที่นี่มีร้านขายยาชื่อ Blueprint ขายถูก ต่อรองราคากันมันส์ ผ้าพันคอผืนละ150รูปี กระเป๋า รองเท้า ถูกมากกกกกก
*เห็นคนเยอะแบบนี้ คนอินเดียไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดนาจา
รถไฟราง หอนาฬิกาและtaxi สีเหลือง เอกลักษณ์แห่งเมืองกัลกาต้า ถึงเวลาต้องลาอินตะระเดียที่รักแล้ว เลทโกทูแอร์พอร์ต รอเครื่องออกตอนสองทุ่ม โดยผู้สนับสนุนสายการบินเดิม ✈️
จบปิ๊ง! ขอบคุณทุกท่านนะคะ🙏🏻
[CR] อินตะระเดีย ไปมาล่ะ! 3วัน 3เมือง กัลกาต้า-จัยปูร์-อากรา ฉบับรีบไปรีบกลับ ********กับภารกิจ พิชิตทัชมาฮาลหน้าหมอกก ออกๆๆๆ
กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้อง...ขอไม่พูดพร่ำทำเพลง รีวิวเลยละกัน เฮ้!!
ภารกิจนี้ขอตั้งชื่อว่า "ภารกิจพิชิตทัชมาฮาล หน้าหมอก ออกๆๆๆ" ดูเว่อวังอลังการ555
ฉบับนี้ รีบไปรีบกลับจริง เพราะก่อนไปยังไม่มีใครรู้เลย จนเพื่อนมาโพสในเฟสว่า "โอ๊ยยคุณพระ!! ไม่คิดว่านางจะไปจริงๆ" ทริปนี้ไปกันกระทันหันมาก ได้ตั๋วเกือบห้าทุ่ม เครื่องออกตี2 ของยังไม่เก็บ หน้ายังไม่แต่ง...เฮ้! โดยสมาชิกทั้งหมด 4 คน กับภาระกิจพิชิตทัชมาฮาลหน้าหมอกกก ออกๆๆๆๆๆๆๆๆ
เราใช้บริการสายการบิน Low cost สีน้ำเงิน เจ้าใหญ่ประจำอินเดีย เราจะบินไปลงเมืองกัลกาต้า กำหนดเวลาออกเดิม 02.05น. แต่เครื่องดีเลย์เนื่องจากสภาพอากาศ (ติดหมอก) เลยได้ออกกันประมาณตี3กว่าๆ ยืนรอ นั่งรอ ถ่างตารอไปค่ะ!
ถึงสนามบินนานาชาติกัลกาต้า เวลาตี5 กว่าๆ สนามบินนี้ครึกครื้นกันแต่เช้า
*ขอพูดถึงเรื่องเอกสารที่ใช้เข้าอินเดียกันนิดนึง
เนื่องจากเราถือหนังสือเดินทางไทย จึงจำเป็นต้องขอวีซ่าเข้าอินเดีย การขอวีซ่าจะมีอยู่สองแบบ คือเราสามารถไปยื่นเรื่องขอได้ที่สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย เค้าจะประทับวีซ่าไว้ในพาสปอต หรือเข้าไปขอในเว็บไซต์ ก็จะได้มาเป็นแผ่นกระดาษ ที่เราเรียกว่า Electronic Visa (eTV) กรอกเอกสารผ่านเว็บไซต์ ชำระเงิน 2 วันได้วีซ่า เริ่ดจะตาย! แต่วีซ่าที่จะได้จะเป็น Tourist Single ใช้ได้ครั้งเดียว เอกสารเพิ่มเติม ต้องมีตั๋วกลับหรือตั๋วออกจากอินเดีย เอกสารการจองที่พักในอินเดีย จบ!! เลทโก้!!
ถึงกัลกาต้าแล้ว จากนั้นเราต้องไปหาเคาน์เตอร์เช็คอินภายในประเทศ เพราะเราจะต้องต่อเครื่องไปลงเมืองจัยปูร์ โดยสายการบินเดิม...
และแล้วเหตุการณ์อันแสนจะเลวร้ายก็เกิดขึ้น ตกเครื่องเที่ยวแรก...เพราะจากกรุงเทพเครื่องดีเลย์เป็นชั่วโมง กว่าจะมาถึง กว่าจะผ่านตม. กว่าจะรับกระเป๋า อิแม่!! ร้องไห้หนักมาก เครื่องก็เต็ม ไฟล์ทก็พากันดีเลย์ ทำได้อย่างเดียว บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกที่ในสากลโลก...สุดท้ายได้ไปรอบบ่ายสองกว่า นั่งนอนกันในสนามบินนั้นละ เสียเวลากันไป1วัน ตามแก้บนชุดใหญ่จ้า!
นี่ถือเป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งของสนามบินนี้ คือเพดานที่เป็นเหมือนภาษาอินเดียมะ เดินไปตรงไหน ทุกที่เพดานต้องเป็นแบบนี้ สวยดี
ตั้งตระหง่านตามาก สวยแบบแปลกๆ หรือเค้าถือเป็นฮวงจุ้ย!
อาหารเช้าของเรา แซนวิซอินตะระเดีย เครื่องเทศมาเต็ม พิกัดร้านฝั่งภายในประเทศ เดินไปจนสุดอาคารมีร้านเดียว บ้าบอ!! กาฟงกาแฟอะไร แม่เจ้า!!
ที่นี่ไม่มีแบงค์1000 กับ500 แล้ว แต่ออกแบงค์2000มาใหม่เอี่ยมอ่อง...
เวลาแลกเงินจากไทยแลกเป็นดอลลาร์ไปแล้วค่อยไปแลกเป็นเงินรูปีที่นู้นเอา ที่เคาน์เตอร์แลกเงินที่อินเดียให้เราแลกกันแค่คนละ 80$ ได้มา4พันกว่ารูปี เวลาคิดเงินไทยกับรูปี คิดง่ายๆเงินไทยจะได้ครึ่งนึงของเงินรูปี 2000รูปี ก็ 1000บาท ง่ายเนอะ!!
**แนะนำ เน้นๆ** เวลาแลกรูปี ให้แลกแบงค์ย่อยเยอะๆ แบงค์2000 เอามาทำไม บ้าบอ! ซื้ออะไรตรงไหนก็ยาก
เจ้าเดิม ❤️ เวลาบ่ายสอง เราจะต้องนั่งเครื่องเพื่อไปลงเมืองจัยปูร์ต่อ
ถึงสนามบินจัยปูร์ประมาณ 5โมงเย็น นัดพลขับไว้แต่เช้า 555
สนามบินนี้สวยนะ เมืองก็น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก งานดีๆเพียบ 555
เราเหมารถกันไปเมืองอากรากันประมาณ 7000บาท ติดต่อกันไว้ตั้งแต่ที่ไทย ราคานี้แพลนเดิมคือเหมาเที่ยว2วัน อากรา1วัน จัยปูร์1วัน ถือว่าคุ้มมากเพราะหาร4คน...แต่แพลนดันมาเปลี่ยนเพราะตกเครื่องเที่ยวเช้าเนี้ยแหละ 555 เกือบโดนอินตะระเดีย ชักดาบ ไปรบกับบางระจันแล้วเนี้ย!!
รถคันใหญ่ นั่งสบาย ใครใคร่ยืดขายืด ใครใคร่นอนๆ แอร์เย็นเจี๊ยบ คิดว่าอยู่แอตแลนติก!!ปั๊ดโถ่!
ก่อนออกเดินทางไปอากรา เราต้องหาอะไรลงท้อง ไม่ลองท้องนะ ลงท้องเลย เพราะทั้งวันติดอยู่สนามบิน กินแต่แซนด์วิช พลขับเลยพามาGT Bazaar เป็นห้างเล็กๆใจกลางเมืองจัยปูร์ ย่านนี้จะมีอาหาร ร้านค้าขายกันแบบนี้ แล้วก็มีโต๊ะยืนกินกันแบบนี้เลย โต๊ะเรียงรายกัน คนตัวเล็กๆก็ต้องเขย่งหน่อย...
อาหารมื้อแรกที่เรียกว่าอาหาร เมนูพาสต้า เกี๊ยวซ่า ที่เค้าเรียกว่า Momo ทั้งทอดและไม่ทอด ค่าเสียหายทั้งหมด 600รูปี อร่อยมาก! 3ผ่าน!
อันนี้ไม่รู้จริงๆเรียกว่าอะไร เห็นคนยืนกินหน้าร้านกันเยอะแยะ อ่ะ!! ลองซะหน่อย 5ลูก 10รูปี 10ลูก 20รูปี
มันจะเป็นแป้งทอดบางๆ ตรงกลางมีรู ข้างในเค้าจะใส่มันบด แล้วก็ราดน้ำสีเขียวๆ ใจดีสู้เสือ! อ่ะ! กินก็กิน รสชาติเปรี้ยวๆ แปลกๆ คำแรกคายไม่ทัน พอกินลูกที่2 ที่3 เอออร่อยแปลกๆ เค้าบอกน้ำเขียวๆมันมีส่วนผสมของผักชี สะระแหน่ แนะนำ! ทำใจก่อนกิน อยากลอง ก็หาร้านสะอาดๆหน่อย เพราะพี่ลุงแก ก็เล่นหยิบด้วยมือแบบนั้น
อิ่มแล้วก็ไปกันต่อ เพราะเราต้องใช้เวลาเดินทางกันอีกประมาณ 5-6ชั่วโมง ความไกลไม่เท่าไร ระหว่างทางเจอหมอกหนามาก หนาแบบมองไม่เห็นทางเลย นับถือจริงๆ คนที่นี่ขับรถกันเก่งมากก ก.ไก่ล้านตัว แต่ที่น่ารำคาญมีเรื่องเดียว เสียงแตร!! หนวกหูจนจะเป็นโรคประสาท
จนเรามาถึงโรงแรมที่อากราประมาณตี1 (ขอค่าโรงแรมคืนได้ม๊ายย TT)
โรงแรมที่ชื่อ Aura Mumtaz Mahal , Agra ห่างจาก Tajmahal ประมาณ1กิโลเมตรเท่านั้น...วันรุ่งขึ้นพลขับนัดเราไว้ตอน 9โมงเช้าเพื่อพาทัชมาฮาล ตอนแรกตั้งใจจะตื่นแต่เช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นตอน 06.50น. ตื่นมาเจอหมอกเข้าไป อากาศประมาณ9-11องศา อึ้งครับ แล้วนอนต่อ!! คร่อกกกzzZZ
อาหารเช้าที่โรงแรม เป็นบุฟเฟ่...สำหรับใครกินเครื่องเทศ เครื่องแกงไม่ได้ ขอให้ผ่าน และแวะไปหยิบไข่ต้มมากินแทนซะ!
เพราะที่นี่เครื่องเทศเค้าแรงม๊ากกก ก.ไก่ล้านตัว สำหรับเรา เอ่ออ อร่อย! ตักไป2รอบ โรตีกับแกงอีก6แผ่น อิ่มยันลูกออกผนวช!
ถึงเวลาพลขับมารับตรงเวลาเป๊ะ พร้อมไกด์ อินิก็งง! ไหนว่าไม่มีไกด์ แต่ดีเค้าบอกรวมกับแพคเกจค่ารถไปแล้ว ให้แค่ค่าเสียเวลาพอ...ซื้อตั๋วเข้าทัชมาฮาล ราคานักท่องเที่ยวต่างชาติ 2000รูปี แต่สำหรับเราพาสปอตไทยโดนไปแค่คนละ 520รูปี เก๋ๆ ก่อนไปหาข้อมูลมาว่าถ้าถือพาสปอตไทยราคาเข้าจะลดแทบจะเท่าราคาคนอินเดียเลย นอกจากตั๋วสิ่งที่ได้เพิ่มเติมคือ น้ำดื่ม1ขวดและถุงผ้าใช้คลุมรองเท้าเวลาเราเข้าไปข้างในทัชมาฮาล
**สิ่งที่อนุญาตให้นำเข้ามีแค่ น้ำดื่ม กล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือ แค่นี้จริงๆ ขนาดหมากฝรั่งยังโดนยึด! กระเป๋าสะพาย ห้ามนำเข้า เพราะก่อนเข้าเค้าจะมีการตรวจอย่างละเอียด**
Tajmahal แก๊!! หมอกหนักจริง ไหนๆไหนทัชมาฮาล ผิดที่ปะเนี้ย! ก่อนมาวางแผนว่าฉันจะดูทัชมาฮาลตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตก แต่ไหงเป็นงี้!!
จนผ่านไปครึ่งชั่วโมงแดดเริ่มออก เริ่มจะเห็นแล้วววว เย้!!
อันนี้คือ Baby Taj
เราต้องใส่ถุงสวมรองเท้าเราไว้เมื่อขึ้นไปข้างบนทัชมาฮาล ส่วนความเป็นมา ไปหาตามอากู๋เลยนาจา คึคึ..ใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณชั่วโมงนึง แล้วเราก็ต้องกลับจัยปูร์ เพราะเราต้องต่อเครื่องจากจัยปูร์กลับกัลกาต้าตอน2ทุ่ม หลายคนถามทำไมต่องไปจัยปูร์เพราะว่า มีแค่2เมืองที่เดินทางมาอากราได้ง่ายก็คือ เดลลีและจัยปูร์ แต่เดลลีหมอกหนักกว่า เครื่องดีเลย์ แคนเซิลกันระนาว เลยขอเลี่ยง โหะๆๆ
*ถ้ามีกลุ่มเด็กนักเรียนมาขอถ่ายรูป เซลฟี่บ้าง ไม่ต้องตกใจนะ ถือเป็นเรื่องปกติมาก555
กว่าจะถึงจัยปูร์ก็พระอาทิตย์ตกซะละ เลยได้แวะที่ Pink City เป็นเมืองที่สิ่งก่อสร้างเป็นสีชมพู ถ้าตอนกลางวันน่าจะสวยกว่านี้ เสร็จแล้วก็ไปสนามบิน
ถึงกัลกาต้าเกือบห้าทุ่ม ตึ๊ง! เหมือนเสียค่าโรงแรมฟรี โรงแรมชื่อCelesta Kolkataใกล้สนามบิน เหมาtaxi แบบ Prepaid จากสนามบินไปกัน150รูปี
อาหารเช้าที่โรงแรม เหมือนเดิม!! โรตี!!
วันสุดท้ายเหลือเที่ยวที่กัลกาต้า ที่แรกที่ไปคือ Victoria Memorial(ความเป็นมาถามอากู๋) เหมาtaxi จากโรงแรมมา250รุปี ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวจะปิดวันจันทร์
ที่สุดท้าย New Market แหล่งshopping เหมือนจตุจักรบ้านเราเลย ใครอยากหาซื้อครีม Himaraya ที่นี่มีร้านขายยาชื่อ Blueprint ขายถูก ต่อรองราคากันมันส์ ผ้าพันคอผืนละ150รูปี กระเป๋า รองเท้า ถูกมากกกกกก
*เห็นคนเยอะแบบนี้ คนอินเดียไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดนาจา
รถไฟราง หอนาฬิกาและtaxi สีเหลือง เอกลักษณ์แห่งเมืองกัลกาต้า ถึงเวลาต้องลาอินตะระเดียที่รักแล้ว เลทโกทูแอร์พอร์ต รอเครื่องออกตอนสองทุ่ม โดยผู้สนับสนุนสายการบินเดิม ✈️
จบปิ๊ง! ขอบคุณทุกท่านนะคะ🙏🏻