เราจะเป็นคนมองโลกในแง่ดีได้ยังไง ในเมื่อสังคมไทยมันโหดร้าย ?

ตามหัวกระทู้เลยครับ ตอนเด็กๆผมเป็นคนที่ซื่อมากๆ ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี
พอรู้ว่าเนื้อสัตว์ที่กินทุกวัน เราต้องฆ่ามันมา ผมก็เลิกกินเนื้อสัตว์ไปเป็นปี ไม่กินจริงๆ
จนหนังหุ้มกระดูก เหมือนเด็กขาดสารอาหาร จึงเริ่มกลับมากินอีกครั้ง
สมัยนั้นเรามองโลกในแง่ดีมากๆ คือใครยืมเงินหรือยืมของเราก็ให้ตลอด
ไม่เคยท้วงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ข้อสอบก็ไม่เคยลอกใคร ไม่เคยกลันแกล้งใคร
เราคิดว่าคนทั่วไปยืมอะไรไปแล้วต้องคืน ไม่ชอบต่อยตี ไม่ชอบทะเลาะวิวาท
แต่พอโตขึ้น ก็เริ่มรู้ว่า มันไม่ใช่ คนอื่นเค้าไม่ได้คิดเหมือนเรา อะไรที่เอาเปรียบได้
ก็จ้องจะเอาเปรียบ อะไรที่โกงได้ก็จ้องจะโกง แม้แต่เพื่อนร่วมงานก็ไว้ใจไม่ได้
จ้องจะแทงข้างหลังเราตลอด ทำให้ผมกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปในที่สุด
คือเราพยายามจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่มันทำไม่ได้ เราระแวงคนรอบตัวไปหมด
ต้องวางแผนสำรองเผื่อเกิดเรื่องฉุกเฉินตลอด หัดยิงปืน หัดต่อสู้มือเปล่า ไปไหนมาไหนก็ต้องมีอาวุธติดตัว
คบหากับคนที่เค้าคุ้มครองเราได้ พยายามสร้างคอนเนคชั่นกับคนดัง นามสกุลดัง  แต่ก็ไม่ไว้ใจใครเลย
ผมอยากจะถามครับว่า คุณมองโลกในแง่ดีได้ยังไง ในเมื่อสังคมของเรามันไม่เอื้อให้เป็นแบบนั้น
คนดีจริงๆก็มีแต่ถูกรังแก ถูกทำร้าย หรือแม้แต่ถูกฆ่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่