เริ่มต้นการเดินทาง ตามรอยความคลาสสิคสไตล์ยุโรป ประเทศอิตาลี [Milano-Venezia-Firenze-Pisa-Roma]
l ค่าใช้จ่ายในการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า l
1.ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ เส้นทางยุโรป จะราคาถูกหน่อยก็จะเป็นตั๋วเดินทางเเบบ Multicity (หลักๆผมใช่สามเวบไซต์นี้ ในการหาโปรโมชั่น)
ผมได้โปรโมชั่น ไป-กลับ ขาไปขึ้นเครื่องที่ฮ่องกง ขากลับลงกรุงเทพ ราคารวม 11,295 บาท
http://www.changtrixget.com/
http://www.friendtellpro.com/
http://www.tidpro.co/
2.โรงแรม ส่วนใหญ่ที่หาจะเป็นโรงเเรมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ (ค้นหาเส้นทางผ่าน Google Maps จะชัวร์สุด)เพื่อง่ายต่อการเดินทางเเละ
ลากกระเป๋าเดินทาง ระยะการเดินจากสถานี 5-10 นาที ไม่เกินนี้ /สะอาด/มีอาหารเช้า/ฝากกระเป๋าได้ แนะนำสามเวบไซต์นี้ ในการจองล่วง
หน้า Agoda,Booking,Traveloka ส่วน Trip Adviser ใช้เข้าไปดูรีวิวในเเต่ละโรงเเรม โรงเเรมที่ผมพักมี Breakfast (อย่างดี)พร้อมเสิร์ฟทุก
โรงเเรมเป็นการประหยัดมื้อเช้าไปในตัว
Milan :
http://www.hotelnewyorkspa.com (ราคา 1,500 - 2,500 บาท )
Venice :
http://www.hotelcanal.com (ราคา 1,500 - 2,000 บาท )
Florence :
www.hotelangelicafirenze.com (ราคา 1,500 - 2,500 บาท )
Rome :
www.welcomepiramhotel.com (ราคา 2,500 - 3,500 บาท )
3. การทำ VISA ราคาประมาณ 2,335 บาท ส่วนใหญ่จะได้จำนวนวันใกล้เคียงกับเเผนการเดินทาง จะไม่ค่อยให้เผื่อมากเท่าไหร่
www.vfsglobal.com
4.การสำรองตั๋วรถไฟข้ามเมืองขอแนะนำให้จองล่วงหน้ากับบริษัท Trainitalia สามารถพิมพ์เอกสารไปใช้หน้างานได้เลย หากไปซื้อหน้างาน
จะต้องทำการ Validate ตั๋วที่ตู้ก่อนขึ้นรถไฟด้วย ส่วนรถไฟใต้ดิน (Metro Subway) ให้ไปซื้อที่ตู้ราคา 1.5 Euro ใช้ได้ 100 นาที
จะขึ้น-ลงสถานีไหนก็ได้เเต่บัตรมีระยะเวลาการใช้งานเริ่มนับหลังจากเข้าสถานีเเรก ไม่เเนะนำให้ซื้อตั๋วเหมาวัน ไม่คุ้ม
www.trenitalia.com
5.ตั๋วเข้าชมสถานีที่ท่องเที่ยว อาทิ Vatican Museum แนะนำจองออนไลน์ล่วงหน้า เพราะถ้าไปซื้อหน้างานจะเสียเวลาต่อเเถวซื้อนานมาก
เสียเวลาไปเปล่าๆ เเต่ละสถานีท่องเที่ยวใหญ่ๆจะมี Audio Guide ให้บริการเป็น Tablet พร้อมหูฟังบรรยายขณะเดินชมเเต่ละสถานที่ ฝึกฟัง
ภาษาระหว่างเดินชมสถาปัตยกรรม
6. Internet WIFI ในสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ จะมีบริการฟรี เเต่ต้องกดเข้าไป Log in ผ่านหน้าเวบไซต์หน่อย เเต่เเนะนำให้ซื้อซิมการ์ด
Vodafone ราคาประมาณ 20 Euro เล่นเนตได้ 4 GB. โทรศัพท์ใช้ได้ 1 เดือน หาซื้อได้ที่สถานีรถไฟหลักๆ พนักงานขายจะช่วยลงทะเบียน
ให้เรียบร้อย ช่วยเราไม่ให้หลงทาง เราสามารถใช้เนต ในการค้นหาเส้นทางเเละดูว่าถึงสถานีรถไฟที่เราจะลงหรือไม่ ขอเเนะนำว่าให้ซื้อซิ
มการ์ดใช้ขณะที่ท่องเที่ยวในอิตาลี จะสะดวกเเละไม่ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
โดยรวมเเล้วที่เเนะนำด้านบนเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆในการวางเเผนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี ไม่รวมค่าอาหารในเเต่ละมื้อนะครับ
DAY I : เริ่มต้นเส้นทางการท่องเที่ยวครั้งนี้จากเมืองมิลานเป็นเมืองเเรก เมืองเเห่งแฟชั่นระดับโลก แบรนด์ดังๆอยู่ที่เมืองนี้
--------------------------------------------------------------
MILANO-------------------------------------------------------------------------
สำหรับเส้นทางบินในครั้งนี้เริ่มต้นที่ฮ่องกง บินสายการบิน Austrian (สายการบินเเห่งชาติของประเทศออสเตรีย) เเล้วมาลงที่กรุงเวียนนา เพื่อต่อเครื่องไปยังมิลานอีกที โดยภาพรวมสายการบินนี้อาหาร Economy ถือว่าคุณภาพดีเลยทีเดียว อาหารมีเสิร์ฟสองรอบขณะทำการบิน หลังจากเครื่องลงที่เวียนนาเเล้ว ก็จะมีการตรวจคนเข้าเมืองของแถบประเทศเชงเก้นเป็นประเทศเเรก ฉะนั้นหลังจากที่ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองในสหภาพยุโรปที่เวียนนาเเล้ว พอบินต่อมาที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เลยไม่ต้องผ่านการตรวจ Passport อีกรอบ ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางเข้าเมือง มารอรับกระเป๋าได้เลย
สำหรับสนามบินเมืองมิลานมีชื่อว่า ท่าอากาศยานมิลาน มัลเปนซา (MXP) อยู่ห่างจากเมืองมิลานไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 45 กม.
หลังจากเครื่องลงเเล้วรับกระเป๋าเเล้วสามารถเดินลงไปยังชั้นใต้ดินเพื่อต่อรถไฟเข้าเมืองไปยังสถานี Milano Centrale (มิลาโน เซนตาเร่)
ตั๋วรถไฟที่ซื้อผ่านทางเวบไซต์ Trainitalia เเล้ว สามารถพิมพ์ Boarding Pass มาใช้ได้เลย ไม่ต้องทำการ Validate ลืมบอกไปว่าถึงเเม้เราจองรอบเวลามาเเล้ว เเต่อยากเข้าเมืองก่อนก็สามารถขึ้นรถไฟไปได้เลย ไม่มีปัญหา หากเครื่องบินดีเลย์มาถึงช้า ตั๋วที่เราจองรอบมาสามารถขยายเวลาใช้ได้ภายในระยะเวลา 4 ชั่วโมง นับจากที่เวลาที่เราจองรอบนั้นมา ถือว่าเป็นการบริการที่ยืดหยุ่นให้กับนักท่องเที่ยวที่ดีเลย เอกสาร
จะต้องเก็บไว้กับตัว เพราะจะมีเจ้าหน้าที่รถไฟเดินมาสุ่มตรวจ ค่าปรับเเพงมากหากไม่ได้จองตั๋วมาเเต่แอบขึ้นรถไฟเข้าเมือง
----------------------------------------------
VIDEO : Short Beginning in Milan , 2016-------------------------------------------------
DAY I : ประเดิมเส้นทางแรกจากสถานี Milano Centrale ไปยังสถานีรถไฟชานเมือง ชื่อ Varenna Esino เพื่อไปยัง Lake Como และ
Bellagio นั่งรถไฟเราใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็จะถึงปลายทางที่สถานี Varenna Esino เป็นสถานีชนบทนอกเมือง บรรยากาศดี ติด
ภูเขา มีลำธารข้างๆ เมืองนี้ชื่อเมืองว่า Varenna เป็นเมืองที่ใช้เป็นท่าเรือไปยังเกาะ Bellagio และ Lake Como
[ปักหมุด] :
https://www.google.it/maps/dir/Milano+Centrale,+Piazza+Duca+d'Aosta,+1,+20124+Milano/Varenna+Esino,+Perledo,+LC/@45.7501878,8.758504,9z/data=!4m14!4m13!1m5!1m1!1s0x4786c6c54ff75843:0x2226b1141a97cf2a!2m2!1d9.2042827!2d45.4858877!1m5!1m1!1s0x478417cf35854087:0x5058579a6ea05aec!2m2!1d9.28621!2d46.014914!3e3
[ปักหมุด] : เส้นทางจากสถานีรถไฟเดินไปยังท่าเรือ Varenna ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็ถึง เพื่อรอขึ้นเรือไปยังเกาะ Bellagio ค่าตั๋วขึ้นเรือคนละ 3 Euro ในการไป-กลับ เกาะ Bellagio (Round Trip)
ระหว่างทางที่เราจะไปยังท่าเรือเพื่อขึ้นเรือไปยัง Bellagio ก็จะเจอบรรยากาศสวยงาม อากาศดีมากๆ เป็นเมืองพักตากอากาศ
วันที่มาอากาศค่อนข้างเย็น แต่ก็ไม่หนาวมากถึงขั้นหิมะตก เเต่แนะนำหากออกมานอกเมืองส่วนใหญ่อากาศจะเย็นกว่าในเมือง ควรพกถุงมือเเละผ้าพันคอมาด้วย
ถึงท่าเรือเเล้ว อย่าลืมเดินไปซื้อตั๋วก่อนนะครับ จะมีเป็นรอบๆ ห่างกันรอบละ 30-45 นาที สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมได้
หลังจากนั่งเรือออกมาก็จะเจอวิวสวยมองเห็น ภูเขา Lake Como และเมือง Varenna เเนะนำว่าต้องนั่งเรือเเล้วถ่ายรูปจะเห็นมุมมองที่สวยกว่า
[ปักหมุด] :ตามรอยความคลาสสิคสไตล์ยุโรป"อิตาลี" [Milano-Venezia-Firenze-Roma] >>>Hunter_Takeoff
เริ่มต้นการเดินทาง ตามรอยความคลาสสิคสไตล์ยุโรป ประเทศอิตาลี [Milano-Venezia-Firenze-Pisa-Roma]
l ค่าใช้จ่ายในการวางแผนการเดินทางล่วงหน้า l
1.ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ เส้นทางยุโรป จะราคาถูกหน่อยก็จะเป็นตั๋วเดินทางเเบบ Multicity (หลักๆผมใช่สามเวบไซต์นี้ ในการหาโปรโมชั่น)
ผมได้โปรโมชั่น ไป-กลับ ขาไปขึ้นเครื่องที่ฮ่องกง ขากลับลงกรุงเทพ ราคารวม 11,295 บาท
http://www.changtrixget.com/
http://www.friendtellpro.com/
http://www.tidpro.co/
2.โรงแรม ส่วนใหญ่ที่หาจะเป็นโรงเเรมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ (ค้นหาเส้นทางผ่าน Google Maps จะชัวร์สุด)เพื่อง่ายต่อการเดินทางเเละ
ลากกระเป๋าเดินทาง ระยะการเดินจากสถานี 5-10 นาที ไม่เกินนี้ /สะอาด/มีอาหารเช้า/ฝากกระเป๋าได้ แนะนำสามเวบไซต์นี้ ในการจองล่วง
หน้า Agoda,Booking,Traveloka ส่วน Trip Adviser ใช้เข้าไปดูรีวิวในเเต่ละโรงเเรม โรงเเรมที่ผมพักมี Breakfast (อย่างดี)พร้อมเสิร์ฟทุก
โรงเเรมเป็นการประหยัดมื้อเช้าไปในตัว
Milan : http://www.hotelnewyorkspa.com (ราคา 1,500 - 2,500 บาท )
Venice :http://www.hotelcanal.com (ราคา 1,500 - 2,000 บาท )
Florence :www.hotelangelicafirenze.com (ราคา 1,500 - 2,500 บาท )
Rome : www.welcomepiramhotel.com (ราคา 2,500 - 3,500 บาท )
3. การทำ VISA ราคาประมาณ 2,335 บาท ส่วนใหญ่จะได้จำนวนวันใกล้เคียงกับเเผนการเดินทาง จะไม่ค่อยให้เผื่อมากเท่าไหร่
www.vfsglobal.com
4.การสำรองตั๋วรถไฟข้ามเมืองขอแนะนำให้จองล่วงหน้ากับบริษัท Trainitalia สามารถพิมพ์เอกสารไปใช้หน้างานได้เลย หากไปซื้อหน้างาน
จะต้องทำการ Validate ตั๋วที่ตู้ก่อนขึ้นรถไฟด้วย ส่วนรถไฟใต้ดิน (Metro Subway) ให้ไปซื้อที่ตู้ราคา 1.5 Euro ใช้ได้ 100 นาที
จะขึ้น-ลงสถานีไหนก็ได้เเต่บัตรมีระยะเวลาการใช้งานเริ่มนับหลังจากเข้าสถานีเเรก ไม่เเนะนำให้ซื้อตั๋วเหมาวัน ไม่คุ้ม
www.trenitalia.com
5.ตั๋วเข้าชมสถานีที่ท่องเที่ยว อาทิ Vatican Museum แนะนำจองออนไลน์ล่วงหน้า เพราะถ้าไปซื้อหน้างานจะเสียเวลาต่อเเถวซื้อนานมาก
เสียเวลาไปเปล่าๆ เเต่ละสถานีท่องเที่ยวใหญ่ๆจะมี Audio Guide ให้บริการเป็น Tablet พร้อมหูฟังบรรยายขณะเดินชมเเต่ละสถานที่ ฝึกฟัง
ภาษาระหว่างเดินชมสถาปัตยกรรม
6. Internet WIFI ในสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ จะมีบริการฟรี เเต่ต้องกดเข้าไป Log in ผ่านหน้าเวบไซต์หน่อย เเต่เเนะนำให้ซื้อซิมการ์ด
Vodafone ราคาประมาณ 20 Euro เล่นเนตได้ 4 GB. โทรศัพท์ใช้ได้ 1 เดือน หาซื้อได้ที่สถานีรถไฟหลักๆ พนักงานขายจะช่วยลงทะเบียน
ให้เรียบร้อย ช่วยเราไม่ให้หลงทาง เราสามารถใช้เนต ในการค้นหาเส้นทางเเละดูว่าถึงสถานีรถไฟที่เราจะลงหรือไม่ ขอเเนะนำว่าให้ซื้อซิ
มการ์ดใช้ขณะที่ท่องเที่ยวในอิตาลี จะสะดวกเเละไม่ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
โดยรวมเเล้วที่เเนะนำด้านบนเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆในการวางเเผนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี ไม่รวมค่าอาหารในเเต่ละมื้อนะครับ
DAY I : เริ่มต้นเส้นทางการท่องเที่ยวครั้งนี้จากเมืองมิลานเป็นเมืองเเรก เมืองเเห่งแฟชั่นระดับโลก แบรนด์ดังๆอยู่ที่เมืองนี้
--------------------------------------------------------------MILANO-------------------------------------------------------------------------
สำหรับเส้นทางบินในครั้งนี้เริ่มต้นที่ฮ่องกง บินสายการบิน Austrian (สายการบินเเห่งชาติของประเทศออสเตรีย) เเล้วมาลงที่กรุงเวียนนา เพื่อต่อเครื่องไปยังมิลานอีกที โดยภาพรวมสายการบินนี้อาหาร Economy ถือว่าคุณภาพดีเลยทีเดียว อาหารมีเสิร์ฟสองรอบขณะทำการบิน หลังจากเครื่องลงที่เวียนนาเเล้ว ก็จะมีการตรวจคนเข้าเมืองของแถบประเทศเชงเก้นเป็นประเทศเเรก ฉะนั้นหลังจากที่ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองในสหภาพยุโรปที่เวียนนาเเล้ว พอบินต่อมาที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เลยไม่ต้องผ่านการตรวจ Passport อีกรอบ ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางเข้าเมือง มารอรับกระเป๋าได้เลย
สำหรับสนามบินเมืองมิลานมีชื่อว่า ท่าอากาศยานมิลาน มัลเปนซา (MXP) อยู่ห่างจากเมืองมิลานไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 45 กม.
หลังจากเครื่องลงเเล้วรับกระเป๋าเเล้วสามารถเดินลงไปยังชั้นใต้ดินเพื่อต่อรถไฟเข้าเมืองไปยังสถานี Milano Centrale (มิลาโน เซนตาเร่)
ตั๋วรถไฟที่ซื้อผ่านทางเวบไซต์ Trainitalia เเล้ว สามารถพิมพ์ Boarding Pass มาใช้ได้เลย ไม่ต้องทำการ Validate ลืมบอกไปว่าถึงเเม้เราจองรอบเวลามาเเล้ว เเต่อยากเข้าเมืองก่อนก็สามารถขึ้นรถไฟไปได้เลย ไม่มีปัญหา หากเครื่องบินดีเลย์มาถึงช้า ตั๋วที่เราจองรอบมาสามารถขยายเวลาใช้ได้ภายในระยะเวลา 4 ชั่วโมง นับจากที่เวลาที่เราจองรอบนั้นมา ถือว่าเป็นการบริการที่ยืดหยุ่นให้กับนักท่องเที่ยวที่ดีเลย เอกสาร
จะต้องเก็บไว้กับตัว เพราะจะมีเจ้าหน้าที่รถไฟเดินมาสุ่มตรวจ ค่าปรับเเพงมากหากไม่ได้จองตั๋วมาเเต่แอบขึ้นรถไฟเข้าเมือง
---------------------------------------------- VIDEO : Short Beginning in Milan , 2016-------------------------------------------------
DAY I : ประเดิมเส้นทางแรกจากสถานี Milano Centrale ไปยังสถานีรถไฟชานเมือง ชื่อ Varenna Esino เพื่อไปยัง Lake Como และ
Bellagio นั่งรถไฟเราใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็จะถึงปลายทางที่สถานี Varenna Esino เป็นสถานีชนบทนอกเมือง บรรยากาศดี ติด
ภูเขา มีลำธารข้างๆ เมืองนี้ชื่อเมืองว่า Varenna เป็นเมืองที่ใช้เป็นท่าเรือไปยังเกาะ Bellagio และ Lake Como
[ปักหมุด] :https://www.google.it/maps/dir/Milano+Centrale,+Piazza+Duca+d'Aosta,+1,+20124+Milano/Varenna+Esino,+Perledo,+LC/@45.7501878,8.758504,9z/data=!4m14!4m13!1m5!1m1!1s0x4786c6c54ff75843:0x2226b1141a97cf2a!2m2!1d9.2042827!2d45.4858877!1m5!1m1!1s0x478417cf35854087:0x5058579a6ea05aec!2m2!1d9.28621!2d46.014914!3e3
[ปักหมุด] : เส้นทางจากสถานีรถไฟเดินไปยังท่าเรือ Varenna ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็ถึง เพื่อรอขึ้นเรือไปยังเกาะ Bellagio ค่าตั๋วขึ้นเรือคนละ 3 Euro ในการไป-กลับ เกาะ Bellagio (Round Trip)
https://www.google.it/maps/dir/Varenna+Esino/46.0136923,9.2830075/@46.014305,9.2834414,18z/am=t/data=!3m1!4b1!4m9!4m8!1m5!1m1!1s0x478417cf35854087:0x5058579a6ea05aec!2m2!1d9.28621!2d46.014914!1m0!3e3
ระหว่างทางที่เราจะไปยังท่าเรือเพื่อขึ้นเรือไปยัง Bellagio ก็จะเจอบรรยากาศสวยงาม อากาศดีมากๆ เป็นเมืองพักตากอากาศ
วันที่มาอากาศค่อนข้างเย็น แต่ก็ไม่หนาวมากถึงขั้นหิมะตก เเต่แนะนำหากออกมานอกเมืองส่วนใหญ่อากาศจะเย็นกว่าในเมือง ควรพกถุงมือเเละผ้าพันคอมาด้วย
ช่วงที่มายังเป็นช่วงหน้าหนาว ทำให้ยังคงได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีได้โดยทั่วไป
ถึงท่าเรือเเล้ว อย่าลืมเดินไปซื้อตั๋วก่อนนะครับ จะมีเป็นรอบๆ ห่างกันรอบละ 30-45 นาที สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมได้
หลังจากนั่งเรือออกมาก็จะเจอวิวสวยมองเห็น ภูเขา Lake Como และเมือง Varenna เเนะนำว่าต้องนั่งเรือเเล้วถ่ายรูปจะเห็นมุมมองที่สวยกว่า