ตกลงแล้ว..นี่เราด่าชาวธรรมกายเพราะอะไร

ขอให้คนที่กำลังก่นด่าคนชาววัดพระธรรมกาย
โปรดวางถุงกาวแล้วหยุดคิดสักนิดหนึ่งเถิด
๑. เจ้าอาวาสรับบริจาคอย่างเปิดเผยต่อหน้าคนเรือนแสน
และรับบริจาคมาเป็นเช็ค ซึ่งสามารถตรวจสอบ
เส้นทางการเงินได้ หากจะสมคบกันฟอกเงินจริงๆ
ตามข้อกล่าวหาทำไมไม่ใช้วิธีอื่น

๒. เงินที่ท่านเจ้าอาวาสรับบริจาคไปนั้น พวกลูกศิษย์ก็เคยนำหลักฐานเส้นทางการเงินมาแสดงแล้วว่า
ท่านไม่เคยเบิกไปใช้เป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่บาทเดียว
ซึ่งของมูลนี้สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด

๓. เท่าที่ทราบปัจจุบันท่านเจ้าอาวาส อายุ ๗๓ ปี มีอาการอาพาธเรื้อรัง
ซึ่งตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาท่านทำคุณประโยชน์
ต่อชาติ ต่อพระศาสนามาอย่างมากมาย
มันเหมาะสมแล้วหรือ ที่จะยกกองกำลังตรวจทหาร
มา ๖ - ๗ กองร้อย แถมจะนำฮิลิคอปเตอร์
และสุนัขตำรวจมาไล่จับพระอีก
---
หากคนในสังคม หยุด แล้วตั้งสติ ใช้ปัญญาพิจารณา
ดูว่าที่พากันด่า ๆ ๆ ๆ พวกชาววัดพระธรรมกายไปนี้
ด่าเพราะอะไร เพราะอ่านพาดหัวข่าวแบบฉาบฉวย
หรือตัวเองได้ไปสัมผัส ได้รู้ ได้เห็นข้อมูลจริงๆ แล้วจึงด่า
---
เอาเถอะอย่างไรก็จะด่าอยู่แล้ว  ใครจะนำข้อมูลอะไรมาไม่สนทั้งนั้น
ถ้าอย่างนั้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการด่าให้มันยิ่งขึ้น
ลองตั้งข้อสงสัยต่อไปว่าพฤติการณ์
ที่ทำให้วัดพระธรรมกาย
ตกเป็น "จำเลยสังคม" ด้วยข้ออ้างด้านกฎหมาย
ด้านศาสนา ด้านการเมือง ด้านการก่อความวุ่นวาย
แท้จริงแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐทำไปด้วยเป้าประสงค์ใดกันแน่
- ถ้าคิดว่าทำเพื่อสมาชิกสหกรณ์คลองจั่น
ข้อนี้ไม่น่าใช้ เพราะเงินที่สั่งจ่ายมายังวัด
คิดเป็น ๓ % เอง จากเงินที่เสียหายไปทั้งหมด
เงินจากแหล่งอื่นไม่เห็นพวกเขาไปติดตาม
- ทำไมฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการนำธงไปปัก (พวกที่ออกมาชงเรื่อง)
ให้ทำลายวัดพระธรรมกายจึงกระตือรือร้นเหลือเกิน ?
มีอะไรผลักดัน ?
หรือมีอะไรเป็นแรงจูงใจ ?
กระตือรือร้นจนลืมว่า พวกเขาควรปฏิบัติต่อวัด และพระในพระพุทธศาสนาอย่างไร ?
หากพวกเขาไม่ใช่พุทธก็ควรมีมารยาทต่อพุทธ
หรือหากเป็นพุทธแล้วทำไมจึงกล้าทำร้ายกับบุคคลากรในพระพุทธศาสนาอย่างนี้
เพราะการกระทำเช่นนี้ผิดกับหลักมนุษยชน ผิดต่อหลักกฎหมายทั้งสิ้น (ให้คิดว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์เสมอ)
ถ้าคิดจะด่า เพื่อทวงความเป็นธรรมล่ะก็นะ
สิ่งเหล่านี้สิ คือสิ่งที่คนในสังคมผู้รักความยุติธรรมควรตั้งข้อสังเกตุ ก่อนที่จะก่นดาชาวธรรมกาย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
วิเคราะห์ลักษณะนิสัยคนไทย อย่างเจ้าของกระทู้ว่า เมื่อมีคนที่ถูกพิพากษาจากสังคม แม้จะผิดหรือไม่ผิดก็ตามแต่ สิ่งที่จะทำก็คือ โหมโรง ขอร่วมด้วยช่วยด่าไว้ก่อน และเมื่อยิ่งไม่ชอบเป็นทุนเดิมแล้ว การจะด่าเพื่อเป็นส่วนร่วมนั้น ทำได้ง่าย ขอแค่ระบาย ขอแค่สะใจ ใครมาพูดอะไรที่เป็นฝ่ายเดียวกะเราก็เชื่อเค้าไปหมด ด้วยความที่อคติบังตาอยู่ อยากให้เขาได้เจ็บปวด อยากเห็นความวินาศในชีวิตของเขา โดยไม่ได้พิจารณาถึงความจริงหรอก ว่ามันเป็นยังไง หลายๆกรณีในสังคม ก็เกิดมาจากเหตุการณ์แบบนี้

เช่น น็อต กราบรถกู เมื่อเจอคลิป ทุกคนเข้าไปรุมด่าๆ รุมแต่งเพลง แต่งภาพ เอาให้จมดิน กระแสสังคมโหมจนชีวิตมืด 8 ด้าน ทั้งงานทั้งชื่อเสียง สุดท้ายแล้ว จบดื้อๆ มาตั้งกระทู้อีกว่า นี่ทำกับเค้ารุนแรงไปไหม กระแสสังคมควรจะให้อภัยน็อตหรือยัง (เอ๊ะ ได้ข่าวว่ากระทู้ด่าวัดแรกๆที่เมิงตัวตั้งตัวตีเลยน่ะ) เออ งงๆ สุดท้ายเฉลย มอไซด์ผิดก่อน เพราะหนี น็อตผิดที่บันดาลโทสะ

คนที่รองเท้าขาดในรถไฟฟ้า คนถ่ายรูปเขา บอกว่าเป็นพวกโรคจิต เขาโดนรุมด่า ออกจากงาน จนหมดอนาคต สุดท้ายแล้ว คือเรื่องเข้าใจผิด มนุษย์กล้องต้นเรื่องไม่ได้มารู้สึกด้วย ไม่ได้มารับผิดชอบ ถูกตราหน้าในสังคมว่าเป็นคนผิด จนชีวิตพัง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
พอแล้วหรือยังกับ social bullying ขอร้องพิจารณาก่อนว่าเถอะ ค่อยๆเปิดใจและรับฟังกัน ไม่งั้นคนธรรมกายเค้าไม่ออกมาปกป้องหลวงพ่อท่านหรอก ถ้าเขาไม่รู้ความจริง
ความคิดเห็นที่ 3
1. หมดสิ้นความเป็นพระตามลิขิตสมเด็จพระสังฆราช
2. บิดเบือนคำสอนของศาสดา อวดอุตริ เป็นภาคปราบ ใช้คัมภีร์นอกพระไตรแอบอ้างเป็นเถรวาท
3. เป็นผู้ต้องหาหลบเลี่ยงคดี ไม่เข้าสู่กระบวรการยุติธรรม
ความคิดเห็นที่ 21

กรณีสหกรณ์ก็ยังต้องอธิบายอยู่ดีนะคะถึงความไม่ปกติ
จะเข้าใจไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร แต่สงสัยบ้างก็ยังดีค่ะ ว่าจะมาตามบี้วัดแล้วจะได้อะไรขึ้นมา
ความคิดเห็นที่ 2
ผมสงสัย
เรื่อง นิพานเป็น อัตตา  
กับเรื่อง  รวยๆๆๆๆ  
กับเรื่อง  ปัดระเบิดนิวเคลียร์  

ไม่ได้ด่า ผมไม่ได้ดมกาว ท่านไม่สงสัยหรือ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่