สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
อันนี้ตอบได้หลายมุมครับ
1. ในไบเบิ้ลที่เราอ่านๆกันทุกวันนี้ แปลจากต้นฉบับซึ่งถูกเขียนไว้ในภาษากรีกกับฮิบรู ในส่วนของ creation นั้น จะอยู่ในเล่ม Genesis ซึ่งถูกเขียนไว้ด้วยภาษาต้นฉบับคือ ฮิบรู ที่เราเคยได้ยินว่า พระเจ้าสร้างโลกใน 6 วันนั้น คำว่า "วัน" ในภาษาฮิบรูนั้น คือ yown (แต่เป็นตัวอักษรฮิบรู) คำว่า yown นี้ถูกใช้ 2,000 กว่าคร้ังตลอดเล่มของไบเบิ้ลบางครั้งแปลว่า วัน (24 ชม) , ช่วงกลางวัน, ปี, ช่วงเวลา, ยุคสมัย, ช่วงชีวิต เป็นต้น (ลองนึกถึงคำไทย เข่นคำว่า "ขัน" ก็มีหลายความหมายเช่น ขันน้ำ , ไก่ขัน, ขันน๊อต เป็นต้น) ดังนั้นบอกฟันธงไม่ได้ครับว่าจริงๆแล้วโลกมีอายุกี่ปีตามหลักศาสนาคริสต์
2. ชาวคริสต์เองจึงมีทั้งกลุ่มที่เชื่อในโลกอายุน้อย และกลุ่มที่เชื่อว่าโลกเก่าแก่เช่นกัน
3. ชาวคริสต์ที่เชื่อว่าโลกมีอายุน้อย เพราะพระเจ้าสร้างโลกใน 6 วัน (24 ชม) ก็จะมีการอธิบาย ด้วยข้อจำกัดของ วิทยาศาสตร์ ผมเองสมัยเรียนปริญญาตรีจบคณะวิทยาศาสตร์และเข้าจะว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์เองเริ่มต้นที่การสังเกตุและตั้งสมมุติฐาน แต่มนุษย์เรามีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 100 ปี การสังเกตุการเริ่มต้นของโลกจึงเป็นไปไม่ได้ สมมุติฐานจึงเข้ามาเป็นบทบาทหลัก วิทยาศาสตร์ใช้ carbon 14 ในการหาอายุวัตถุโบราณ โดยใช้ค่าการเสื่อมสลายของ carbon 14 ที่พบใน objects. แต่นั่นตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่าอัตราการเสื่อมสลายของ Carbon 14 นั้นคงที่ และ เป็น rate เดียวกันกับพันปีที่แล้ว(หรือเวลาที่ยาวนานกว่านั้น) อัตราค่าความแม่นยำของการให้อายุก็จะลดลงในกรณีที่ Carbon 14 เสื่อมสลายจนหมดเช่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานล้วนๆครับ เพราะไม่มีใครอายุยืนนานที่จะยืนยันอัตราคงที่นี้ได้ อันนี้แนะนำให้ศึกษาข้อจำกัดของ Carbon 14 เพิ่มเติมเอานะครับ
4. ข้อต่อไปผมกับเพื่อนอเมริกันเคยคุยกันและขอเรียกว่า Wine theory, ใบไบเบิ้ลกล่าวถึงพระเยซูแสดงปาฏิหาริย์เปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ โดยปกติไวน์จะถูกหมักเป็นปีๆ สมมุติว่าไวน์อย่างดีถูกหมักไว้ 10 ปี การที่พระเยซูเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ในช่วงเสี้ยววินาที คนดื่มก็รับรู้แค่ไวน์ที่ถูกหมักเป็นสิบปี ไม่ใช่ไวน์1วินาที ดังนั้นชาวคริสต์ที่เชื่อใน wine theory นั้น เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกที่ดูเหมือนโลกเก่าที่มีอายุยาวนาน (พระเจ้าสร้างอดัมก็ไม่จำเป็นต้องสร้างทารกอดัม แต่สร้างเป็นผู้ใหญ่เลย) ไบเบิ้ลกล่าวแค่พระเจ้าสร้างโลก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าโลกที่พระเจ้าสร้างนั้นเก่าหรือใหม่
5. ชาวคริสต์ที่เชื่อว่าโลกเราเป็นโลกเก่าแก่นั้นก็จะยอมรับบางส่วนของ Evolution เพราะไบเบิ้ลเองสามารถแปลได้ว่าพระเจ้าสร้างโลกใน 6 ช่วงเวลาได้เช่นกัน ไบเบิ้ลแค่กล่าวว่าพระเจ้าเป็นคนสร้าง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าใช้กระบวนการอะไร ชาวคริสต์หลายคนจึงเชื่อว่าพระเจ้าอาจสร้างโลกโดยใช้กระบวนการวิวัฒนาการได้เช่นกัน ประเด็นคือจุดไหนถึงจะตีความความเป็นมนุษย์และเรียกมนุษย์คู่แรกว่าอดัมกับอีฟ และ evolution theory เองก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มากมายเช่นกัน
หวังว่าคงช่วยอธิบายให้หายข้องใจได้นะครับ
1. ในไบเบิ้ลที่เราอ่านๆกันทุกวันนี้ แปลจากต้นฉบับซึ่งถูกเขียนไว้ในภาษากรีกกับฮิบรู ในส่วนของ creation นั้น จะอยู่ในเล่ม Genesis ซึ่งถูกเขียนไว้ด้วยภาษาต้นฉบับคือ ฮิบรู ที่เราเคยได้ยินว่า พระเจ้าสร้างโลกใน 6 วันนั้น คำว่า "วัน" ในภาษาฮิบรูนั้น คือ yown (แต่เป็นตัวอักษรฮิบรู) คำว่า yown นี้ถูกใช้ 2,000 กว่าคร้ังตลอดเล่มของไบเบิ้ลบางครั้งแปลว่า วัน (24 ชม) , ช่วงกลางวัน, ปี, ช่วงเวลา, ยุคสมัย, ช่วงชีวิต เป็นต้น (ลองนึกถึงคำไทย เข่นคำว่า "ขัน" ก็มีหลายความหมายเช่น ขันน้ำ , ไก่ขัน, ขันน๊อต เป็นต้น) ดังนั้นบอกฟันธงไม่ได้ครับว่าจริงๆแล้วโลกมีอายุกี่ปีตามหลักศาสนาคริสต์
2. ชาวคริสต์เองจึงมีทั้งกลุ่มที่เชื่อในโลกอายุน้อย และกลุ่มที่เชื่อว่าโลกเก่าแก่เช่นกัน
3. ชาวคริสต์ที่เชื่อว่าโลกมีอายุน้อย เพราะพระเจ้าสร้างโลกใน 6 วัน (24 ชม) ก็จะมีการอธิบาย ด้วยข้อจำกัดของ วิทยาศาสตร์ ผมเองสมัยเรียนปริญญาตรีจบคณะวิทยาศาสตร์และเข้าจะว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์เองเริ่มต้นที่การสังเกตุและตั้งสมมุติฐาน แต่มนุษย์เรามีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 100 ปี การสังเกตุการเริ่มต้นของโลกจึงเป็นไปไม่ได้ สมมุติฐานจึงเข้ามาเป็นบทบาทหลัก วิทยาศาสตร์ใช้ carbon 14 ในการหาอายุวัตถุโบราณ โดยใช้ค่าการเสื่อมสลายของ carbon 14 ที่พบใน objects. แต่นั่นตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่าอัตราการเสื่อมสลายของ Carbon 14 นั้นคงที่ และ เป็น rate เดียวกันกับพันปีที่แล้ว(หรือเวลาที่ยาวนานกว่านั้น) อัตราค่าความแม่นยำของการให้อายุก็จะลดลงในกรณีที่ Carbon 14 เสื่อมสลายจนหมดเช่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานล้วนๆครับ เพราะไม่มีใครอายุยืนนานที่จะยืนยันอัตราคงที่นี้ได้ อันนี้แนะนำให้ศึกษาข้อจำกัดของ Carbon 14 เพิ่มเติมเอานะครับ
4. ข้อต่อไปผมกับเพื่อนอเมริกันเคยคุยกันและขอเรียกว่า Wine theory, ใบไบเบิ้ลกล่าวถึงพระเยซูแสดงปาฏิหาริย์เปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ โดยปกติไวน์จะถูกหมักเป็นปีๆ สมมุติว่าไวน์อย่างดีถูกหมักไว้ 10 ปี การที่พระเยซูเปลี่ยนน้ำเป็นไวน์ในช่วงเสี้ยววินาที คนดื่มก็รับรู้แค่ไวน์ที่ถูกหมักเป็นสิบปี ไม่ใช่ไวน์1วินาที ดังนั้นชาวคริสต์ที่เชื่อใน wine theory นั้น เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกที่ดูเหมือนโลกเก่าที่มีอายุยาวนาน (พระเจ้าสร้างอดัมก็ไม่จำเป็นต้องสร้างทารกอดัม แต่สร้างเป็นผู้ใหญ่เลย) ไบเบิ้ลกล่าวแค่พระเจ้าสร้างโลก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าโลกที่พระเจ้าสร้างนั้นเก่าหรือใหม่
5. ชาวคริสต์ที่เชื่อว่าโลกเราเป็นโลกเก่าแก่นั้นก็จะยอมรับบางส่วนของ Evolution เพราะไบเบิ้ลเองสามารถแปลได้ว่าพระเจ้าสร้างโลกใน 6 ช่วงเวลาได้เช่นกัน ไบเบิ้ลแค่กล่าวว่าพระเจ้าเป็นคนสร้าง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าใช้กระบวนการอะไร ชาวคริสต์หลายคนจึงเชื่อว่าพระเจ้าอาจสร้างโลกโดยใช้กระบวนการวิวัฒนาการได้เช่นกัน ประเด็นคือจุดไหนถึงจะตีความความเป็นมนุษย์และเรียกมนุษย์คู่แรกว่าอดัมกับอีฟ และ evolution theory เองก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มากมายเช่นกัน
หวังว่าคงช่วยอธิบายให้หายข้องใจได้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
ศาสนาที่บอกว่าโลกนี้มีอายุไม่กี่พันปีจะอธิบายอย่างไรครับ
ปล.ไม่ได้มีเจตนาให้ทะเลาะกันนะครับ