ใครว่าแอบรักรุ่นน้องไม่ฟิน? กระทู้แก้ตัวหลังจากที่ให้คนอ่านรอมาเป็นปีค่ะ 5555

ฮัลโหลลลลล สวัสดีค่าา ต้องขอโทษคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้เมื่อปีที่แล้วจริงๆนะคะ นี่เป็นกระทู้ที่สองเพราะกระทู้แรกปลิวไปแล้วเนื่องจากลืมรหัสและอีเมลที่สมัคร 55555  จึงมีการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนเพื่ออรรถรสมากขึ้น ถ้าผิดพลาดยังไงขอโทษล่วงหน้าเลยนะคะ ก่อนที่จะมาตั้งกระทู้นี้เคยเล่าเรื่องการแอบรักของตัวเองให้เพื่อนให้พี่ ล่าสุดเล่าให้น้องฟัง น้องเลยบอกว่า เห้ยพี่ เรื่องนี้ฟินเฟร่อ (ขอใช้ภาษาไม่เป็นทางการเพื่ออรรถรสในการเล่า) น่าจะลองไปลงกระทู้พันธิปดู บวกกับการที่อยู่ว่างๆก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้เอง และขอบอกเลยนะว่าเรื่องนี้เป็นจริงแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ และเป็นเรื่องที่ถ้าเพื่อนที่สนิทๆกันรู้ และถ้าพวกมันรู้ว่าเราเอามาเล่ามันต้องล้อยันลูกบวชแน่ๆ 555555 เอาล่ะ ! เลิกเวิ่นเว้อแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า
    
ตอนนั้นเราอยู่ม.3 ในโรงเรียนแห่งนึงในภาคเหนือ (ปัจจุบันปี4) ขอเรียกตัวเองว่า ฝ. ละกันนะคะ ตอนนั้นบอกได้เลยว่าใสมากๆ ความรักคืออะไรเหรอ?? เดี๊ยนไม่รู้จักกกก 55555 มีคนเข้ามาจีบบ้างแต่เราก็คิดแต่ว่ายังไม่พร้อมเพราะตอนนั้นเพิ่ง15เอง เพิ่งทำบัตรประชาชนเองนะ! ถึงแม้ว่าหน้าตาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร หมวยๆ ขาวๆ ผมยาว อวบๆ(ค่อนไปทางอ้วน)  แต่ก็นั่นแหละค่ะ เพราะเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณเลยคิดว่าเด็กเกินไปที่จะมีแฟน เลยปฏิเสธคนมี่เข้ามาจีบหมด  
จนมีอยู่วันนึงค่ะ มีรุ่นพี่จากโรงเรียนอื่นเขามาแนะแนวเกี่ยวกับการย้ายไปต่อม.4 (เพราะโรงเรียนของเราไม่มีม.4-ม.6) เราก็นั่งฟังเขาพูดไปเพลินๆค่ะ สังเกตุเห็นน้องผู้ชายคนนึงยืนนิ่งๆอยู่บนเวที ตัวสูงๆผอมๆ หน้าตาธรรมดายืนคู่กับผู้หญิงคนนึง แล้วรุ่นพี่เขาก็แนะนำค่ะ ประมาณว่าเข้าโรงเรียนพี่ดีนะ มัน..บลาๆๆๆ ไอ้เราก็ไม่ได้สนใจที่เขาพูดเลย สายตาจ้องไปที่น้องผู้ชายคนนั้น ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรค่ะ คิดเพียงแค่ว่า น้องคนนี้มายืนทำอะไรฟะ ไม่เห็นพูดอะไรเลย จู่ๆเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆก็สะกิดยิกๆ เราหันไปหาเอ (ขอเรียกว่าเอแล้วกันนะคะ)
เอ: แกๆ เห็นน้องผู้ชายตัวสูงๆผอมๆนั่นป่ะ
เรา: เห็นๆ ทำไมอ่ะ
เอ: เค้าว่าเป็นตุ๊ดแน่อ่ะ เห็นท่ายืนป่ะ ไม่มีความแมนเลยแก
พอเพื่อนพูดแบบนั้นเราก็หันไปเจอน้องเขากำลังเอามือไขว้หลัง เราแอบขำทันที เห็นหัวเกรียนๆแล้วตลกอ่ะ ท่ายืนไม่แมนจริงๆด้วย ตอนนั้นปักใจแล้วว่าน้องคนนี้น่าจะไม่แมนชัวร์ๆ จนกระทั่งพี่ๆที่มาแนะแนว แนะนำให้รู้จักน้องคนนั้น ชื่อ ก. (นามสมมุติ) และผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้างๆว่าเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เรานี่แบบ โอ้โห ชัดเลยยยยยย ใช่แน่ๆ ไม่ใช่ผู้ชายแน่ๆ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยชอบเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ส่วนมากจะเป็นพวกนักกีฬามากกว่า (ในความคิดตอนนั้นนะคะ)ไอ้เอก็หันมาหัวเราะคิกคัก จนพี่เขาให้สองคนเต้นท่าเชียร์ลีดเดอร์ให้ดู เราจำได้เลยตอนนั้นจ้องน้องคนนั้นตาไม่กระพริบ ทั้งๆที่รู้ว่าน้องเขาไม่แมนแน่ๆแต่ทำไม๊ ทำไมมันถึงละสายตาไม่ได้ตอนน้องคนนั้นแสดงท่าลีดให้ดู พอเต้นจบ น้องเขาเหมือนจะเห็นว่าเราจ้องอยู่ น้องแกหันมาสบตาพลางยิ้มให้ ตอนนั้นบอกเลย ปัง ปังมากกกกก แทบหงายหลังตกเก้าอี้เหมือนโดนอะไรแอคแทค จู่ๆหัวใจก็เต้นแรงตึกๆๆๆๆ จนน่ากลัว รู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่ได้บอกเพื่อน นารีผู้ไม่เคยมีความรักก็เลยไม่รู้ว่าอาการแบบนี้มันคืออะไร หลังจากนั้นเราก็รู้สึกแปลกๆ กลับบ้านไปก็เห็นแต่ยิ้มแบบนั้นลอยไปลอยมาในหัว เพ้อหนักถึงขั้นเก็บไปฝันว่าแม่ทอดปลาทูให้กิน แต่พอเรามองปลาทูแล้วเห็นหน้าปลาทูเป็นหน้าน้อง ก. ยิ้มให้ เล่นเอาเราสะดุ้งตื่น มานึกๆแล้วทุเรศตัวเองอ่ะ555555 ฝันบ้าอะไรของตรู แต่เราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครเลยค่ะ ได้แต่เงียบไว้จนวันที่เราเรียนจบชั้นม.3 เพราะยังคิดว่าคงเป็นอาการเพ้อบ้าบอ บวกกับนิสัยเป็นคนติงต๊องด้วยเลยเลิกสนใจไป
จนกระทั่งเข้าต่อม.4ค่ะ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งบังเอิญว่าเป็นโรงเรียนเดียวกับน้อง ก. ขอบอกไว้เลยว่าไม่ได้เรียนตามผู้ชายแต่อย่างใด 5555555 เราเป็นคนค่อนข้างตามใจพ่อกับแม่ค่ะ แม่เป็นคนบอกว่าอยากให้เรียนที่นี่ เราก็เรียนค่ะ แล้วก็มานึกออกทีหลังว่าเห้ย น้อง ก.เรียนโรงเรียนนี้นี่ ตอนนั้นดีใจแบบแปลกๆ จะได้เจอน้องเขาทุกวันสิ 555555 และวันแรกที่เจอน้องเขาก็คือวันที่เปิดเทอมได้ประมาณอาทิตย์นึง ด้วยความที่เราขี่มอไซค์ไม่เป็นและบ้านค่อนข้างไกลจากโรงเรียนเราจึงขึ้นรถรับส่งนักเรียน (ขึ้นตั้งแต่ป.5-ม.6)ทำให้เรามักไปถึงโรงเรียนก่อนเพื่อนสนิททุกที(เอก็ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันค่ะ)
เราจำได้ว่าเรานั่งอยู่ตรงใต้ถุนอาคารเห็นน้องเขาเดินเข้าโรงเรียนมา ตอนนั้นใจเต้นแรงเหมือนเจอคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทั้งๆที่น้องเขาไม่รู้จักเราเลยค่ะ ได้แต่มองน้องเขาเดินผ่านไป น้องแต่งตัวเรียบร้อยค่ะ เสื้อเข้าในกางเกง กระเป๋าโรงเรียน ทรงผมเกรียน(แบบถูกระเบียบ) บอกได้เลยว่าดูเรียบร้อยสุดๆแม้กระทั่งท่าเดิน เราแอบมองจนน้องเขาจนน้องเขาเดินขึ้นห้องเรียนอีกอาคารนึง เราก้มมองนาฬิกาทันที ตอนนั้นเจ็ดโมงนิดๆ มันกลายเป็นเวลาที่เราจะมานั่งใต้อาคารทุกวันเพื่อมองน้องเขาขึ้นห้องเรียนไป ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงความรักหรือการแอบชอบค่ะ คิดแค่ว่าน้องเขาน่ารักดี เราชอบมอง ยิ่งตอนน้องเขายิ้มหัวเราะกับเพื่อนตอนเข้าแถวเคารพธงชาติทำเอาเราเพ้อทุกวัน (เหมือนโรคจิต) จนเพื่อนสนิทอย่างเอจับได้ว่าเรามีอะไรผิดปกติ ชอบมองไปรอบๆเหมือนมองใครอยู่ ความแตกค่ะ ตอนนั้นเรามีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาเป็น บี ซี ดี ที่เพิ่งเจอกันที่โรงเรียนใหม่ค่ะ พวกนั้นช่วยกันจับผิดและรู้ว่าเราแอบมองน้อง ก. ล้อกันใหญ่เลยค่ะ หาว่าเราชอบเกย์ ตอนนั้นอายมากแต่ก็ไม่เถียงค่ะเพราะเหมือนจะชอบจริงๆ(เขินนนน)  จนหลังๆไอ้ดี(สายข่าวประจำกลุ่ม) มันไปสืบเรื่องน้องเขามา (ซึ่งเราไม่ได้ขอเล้ยย) บอกว่าน้องเขาอยู่ม.2 (เด็กไปม้ายยย) คุณหนูมาก บ้านรวย แถมมีคนขับรถไปรับไปส่ง นิสัยดี เฟรนลี่มากและที่สำคัญแมนร้อยเปอร์เซ็น! เราได้ยินแทบกรี๊ดค่ะ รู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่ง อย่างน้อยน้องเขาก็ชอบผู้หญิง 55555555 พักหลังๆพอเพื่อนรู้เพื่อนก็ล้อค่ะ เวลาน้องเดินผ่านเราพยายามนิ่งๆแต่เพื่อนก็จะล้อตลอด จนเราคิดว่าน้องเขาต้องรู้แน่ๆ พักหลังๆเรารู้สึกว่าเวลาเราแอบมองน้องเขาจะเห็นน้องเขามองมาก่อนตลอด เขินมาก พยายามห้ามตัวเองไม่ให้มอง สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเองหันไปมองตลอด จะว่ายังไงดีอ่ะ คือยิ่งมองยิ่งน่ารักขึ้นๆ บางทีน้องเขาอาจจะคิดว่าอีนี่เป็นใคร โรคจิตรึเปล่ามองกูอยู่ได้ไรงี้ 555555 แต่ไม่สนค่ะ เราชอบมอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่