สิ่งหนึ่งที่ทำให้มีความสุขในการใช้ชีวิต คือ การได้เดินป่า ปีนเขา ตาม Trail ต่างๆ ที่ซุกซ่อนอยู่มากมายตามยอดเขา และตามริมฝั่งมหาสมุทร  มีหลายแบบ หลายระดับ แล้วแต่ใครลุยมาก ลุยน้อย ชอบแบบเดินชิวๆ หรือแบบสมบุกสมบัน  ก็เลือกเอาตามสังขารของแต่ละคน การเดินตาม Trail และ Hiking ก็เลยเป็นที่นิยมของฝรั่งที่อเมริกา และมีให้เห็นตั้งแต่เด็กยันแก่ อยู่ที่ว่าใครจะเสาะหา สรรหาไป ก็ถือเป็นกำไรชีวิต ที่ไม่ต้องลงทุน เป็นรางวัลที่ธรรมชาติเขาจัดเตรียมไว้ให้แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะออกไปค้นหาก็แค่นั้นเอง







อย่าง Point Buchon Trail ก็เป็นเส้นทางที่น้อยคนนักจะรู้จักเพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของโรงงานผลิตไฟฟ้า PG&E ที่อยู่ด้านในสุดของวนอุทยาน Montana de Oro State Park เมือง Los Osos รัฐ California ที่เขาใจดีเปิดให้นักท่องเที่ยว มาเดินทางไกลชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของขุนเขาและความงดงามของ มหาสมุทรแปซิฟิค เมื่อปี 2007 ที่ผ่านมานี่เอง ที่นี่จึงต้องมีการลงชื่อ และบันทึกเวลาเข้าออกด้วย และเที่ยวได้แบบเช้ากลับเย็น เขาจึงต้องมีกฎเข้มงวดหลายอย่างและเพื่อความปลอดภัย และเป็นการรักษาสภาพธรรมชาติให้คงความสวยงาม โดยกำหนดคนเข้าวันละไม่เกิน 275 คนเท่านั้น แถมมีห้องน้ำไว้คอยอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางอีกด้วย








สำหรับเส้นทางเดินของที่นี่ก็ประมาณ 3.2 ไมล์ ถ้านับรวมขากลับที่ต้องกลับทางเดิมนั้นก็บวกเข้าไปอีก 3.2 ไมล์ สิริรวมก็ 6.4 ไมล์ ถ้าจะนับเป็นกิโลเมตรก็คูณ 1.6 ก็ลองคำนวนดูกันเอาเองว่าจะใช้เวลาเดินกันกี่ ชม.ซึ่งเขาจะมีให้แผนที่และบอกรายละเอียดจุดชมวิวต่างๆ ไว้ให้อย่างครบถ้วน






จุดแรกคือ ชายหาดอันเงียบสงบ "Coon Creek Beach" แต่เต็มไปด้วยกองสาหร่ายยักษ์ แปลกตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ เหมือนอยู่ในเกาะร้าง จูราสิค พาร์ค ยังไงอย่างงั้นเลย แถมยังมี "Sinkhole" หรือหลุมยุบ ที่เกิดจากกระแสน้ำและคลื่นลม ทำให้พื้นผิวพังทลาย เป็นหลุมขนาดยักษ์ กลายเป็นถ้ำใต้ดิน ยามที่คลื่นกระทบโขดหินจะเกิดเสียงดังกึกก้องคำรามไปทั่ว เสียดายที่วันนั้นคลื่นลมสงบเลยอดซะงั้น








เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเป็น "Disney Point" ซึ่งเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Pete's Dragon ของ วอลล์ ดิสนีย์ จึงเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว จุดสุดท้ายคือ "Windy point" จุดนี้เหมือนอยู่บนยอดเขา ลมจึงแรง เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เพราะจะมองเห็นวิวของทุ่งหญ้าเขียวขจีและโรงไฟฟ้าเรียบชายฝั่งทะเล Diablo Canyon Power Plant








Trail ที่นี่เดินง่าย เหมือนเดินท่ามกลางทุ่งหญ้า บนหน้าผาสูงชัน ซ้ายก็ภูเขา ขวาก็ทะเล เป็นวิวที่สวยงามแบบพาโนราม่าสุดลูกหูลูกตา ได้เห็นนกน้ำนานาชนิด สัตว์ทะเล บางวันอาจมีฝูงปลาโลมา และปลาวาฬมาพ่นน้ำให้เห็นเป็นบุญตาอีกด้วย แถมมีโขดหินผา รูปทรงแปลกตาตามแต่จะจินตนาการ  บวกกับเสียงลมและเกลียวคลื่นลูกน้อยใหญ่สีเขียวสดใสกลายเป็นฟองคลื่นที่ขาวสะอาดยามกระทบฝั่งมันเป็นภาพที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แต่ต้องออกมาเห็นกับตาตัวเองเท่านั้นจริง ๆ









ปิดท้ายมิวสิควิดิโอชิวๆ ของที่นี่กันจ้า
https://youtu.be/w1t7jiurIy4