แฟนขี้โมโห เจ้าอารมณ์ เครียดมากมีวิธีแก้ไขอย่างไรดี???

ผมอายุ 33 ปี แฟนอายุ 29 ปี ผมทำธุรกิจส่วนตัวและทำงานบริษัทเอกชน แฟนผมรับราชการ เราอยู่กันคนละจังหวัดกัน ผมอยู่กรุงเทพ แฟนอยู่สระบุรี เรายังไม่ได้แต่งงานกัน จะเจอกันเดือนละ 2-3 ครั้ง คือผมไปหาวันเสาร์-อาทิตย์แล้วไปนอนค้าง กลับวันจันทร์ตี 4 เพื่อมาให้ทันทำงานตอนเช้า เราคบกันมา 3 ปี ผมไม่เคยนอกใจ ไม่เคยจีบใคร ไม่เคยคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนแม้กระทั่งเพื่อนผู้หญิงถ้าไม่จำเป็นผมก็จะไม่โทรคุยกันเลย ที่ผมจะเล่าก็คือ แฟนผมเป็นประเภทโกรธง่าย โมโหง่ายมากถึงมากที่สุด ประมาณว่าถ้าพูดอะไรผิดหูคำเดียวคือด่ากลับเป็นชุดใส่อารมณ์เต็มที่ ตะคอกใส่ผม ด่าผมแว้ดๆ บางทีผมรู้สึกว่าพูดจากับแฟนแบบนี้มันแรงไป จนบางทีผมทนไม่ไหวก็ขึ้นเสียงใส่กลับไปบ้าง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ด่าแรงว่าเดิม ดังกว่าเดิม ปกติถ้าผมโมโหหรือผมไม่พอใจเค้าผมจะใช้น้ำเสียงไม่พอใจแค่นั้นแต่ไม่เคยตะคอก หรือใส่อารมณ์รุนแรงซักเท่าไหร่ ทุกวันนี้เพื่อนๆผมมองว่าผมกลัวแฟนหัวหด ไม่แปลกที่คนรอบข้างจะมองผมแบบนั้น แฟนผมเคยพูดกับผมแบบน้อยใจ ว่า "อยู่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เที่ยงก็ไม่ค่อยโทรหา เย็นเลิกงานก็ต้องไปทำธุรกิจอีก ธุรกิจมันยุ่งจริงๆ ยิ้มเอาเวลาของเค้าไปหมดเลย แทนที่เลิกงานแล้วจะได้คุยกัน ขอเวลาคุยกันวันละแค่ 3 ชม.ให้กันไม่ได้หรอไง" (จริงๆ ผมก็โทรหานะ แต่ส่วนใหญ่ผมจะคุยได้ไม่นาน) ผมนี่อึ้งไปเลยครับขอคุยโทรศัพท์แค่วันละ 3 ชม เรามีปัญหากันอย่างง่ายดายมาก ผมยกตัวอย่าง เช่น เรื่องโทรศัพท์ ถ้าโทรศัพท์มาหาผมแล้วผมเกิดไม่ได้ยิน หรือทำธุระอยู่เลยไม่ได้รับ ก็จะอารมณ์เสียใส่ พูดคำแรก คือ "ทำไมไม่รับโทรศัพท์" (แบบตะคอกใส่) ถ้าผมตอบไปว่า "พอดีไม่ได้ยินอะจ่ะ ที่นี่เสียงมันดัง" ก็จะโดนด่าต่อทันทีด้วยประโยคที่ว่า "ถ้าโทรมาแล้วไม่ได้ยินก็ทิ้งยิ้มไปเลยไปโทรศัพท์อะ" หรือถ้าผมตอบไปว่า "คุยธุระกับเพื่อนอยู่อะจ่ะ" คำตอบที่ได้ก็คือ "ธุระสำคัญมากหรือไง เพื่อนมันสำคัญมากรึไงถึงรับโทรศัพท์ก่อนไม่ได้" หรือแบบนี้ "ก็ไปคุยกับเพื่อนเลยไป ต่อไปนี้กูจะไม่โทรหาแล้ว กูจะไม่สนใจอีกต่อไป จะทำอะไรก็เรื่องของ กูไม่สน มันไม่เคยเห็นความสำคัญของกู มีแต่กูที่คอยโทรหา แต่ไม่เคยคิดจะโทรหากู วันๆกูเห็นยุ่งตลอดจะยุ่งอะไรกันนักหนา ยุ่งจนไม่มีเวลาว่างหยิบโทรศัพท์โทรหากูเลยรึไง" ในกรณีเดียวกันถ้าผมรับโทรศัพท์ตอนผมคุยธุระกับเพื่อนอยู่ แล้วผมจำเป็นต้องวางสายก่อนเพราะคุยค้างกันอยู่ "ที่รักเค้าคุยธุระกับเพื่อนก่อนเดี๋ยวโทรกลับนะ" สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ "ก็ได้อยากวางก็วางไปเลย แล้วไม่ต้องโทรหากูอีกนะ วันๆได้คุยกันแค่นิดเดียว ไม่เคยจะแบ่งเวลาให้กันบ้างเลย อะไรก็เพื่อนๆ กูจะไปด่ายิ้มให้หมดเลย คอยดู" ผมทำธุรกิจร่วมกันกับเพื่อนครับ เพราะฉะนั้นหลังเลิกงานประจำ ส่วนใหญ่จึงต้องเข้าไปที่โรงงานต่อ ปล.ต้องคุยโทรศัพท์ทุกวัน ทุกวันนี้ผมคุยโทรศัพท์กันทุกวันไม่เคยเว้น มาเป็นเวลา 3 ปี แล้วครับ ยังมีอีกครับ เหตุการ์ณที่จะเล่าต่อไปพึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันนี้ครับ คือผมต้องไปงานแต่งงานเพื่อนที่ต่างจังหวัด (ตอนนี้ผมเช่าร้านทำธุรกิจอยู่ครับ) ผมจึงจะปิดร้านไปงานแต่งเพื่อน 2 วัน สิ่งที่แฟนผมพูดกับผมคือ "ไม่ต้องไปก็ได้มั้งเดี๋ยวใส่ซองเอาก็ได้ไปไม่ได้หรอไง ไปก็ต้องปิดร้าน ไม่ต้องไปหรอก" ผมบอกไปว่า "ต้องไปสิเพื่อนสนิทกันนะคบกันมาเป็น 20 ปี จะได้ไปช่วยงานด้วย พ่อแม่เพื่อนก็สนิทกันด้วย" สิ่งที่แฟนผมพูดกลับมาคือ "ถ้าสนิทกับพ่อแม่เพื่อนไม่เคยเห็นไปเยี่ยมเค้าละเอากระเช้าไปเยี่ยมเค้าสิ ถ้างั้นค่อยเอากระเช้าไปให้ตอนปีใหม่ละกัน" ผมก็ยังยืนยันว่าจะไปงานแต่งเพื่อนคนนี้ สุดท้ายก็ต้องทะเลาะกันใหญ่โต หลังจากที่ผมไปถึงงานแต่งเพื่อนแล้วหลังจากเสร็จพิธีไปตอนบ่ายๆ ตอนเย็นๆเพื่อนๆที่ทำงานของเจ้าบ่าว(ที่เป็นเพื่อนผม) ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้จักกับเพื่อนที่ทำงานของเจ้าบ่าว ได้มาชวนผมไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารด้วยกัน เนื่องจากผมไม่รู้จักใครเลย และคงเพราะเพื่อนผมคงฝากผมไว้กับเพื่อนๆเค้า ผมเลยไปกินข้าวเย็นกับพวกนั้นด้วย ผมโทรบอกแฟนว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อนๆของเจ้าบ่าวนะ "แฟนผมก็ไม่พอใจทันทีว่า จะไปทำไมรู้จักก็ไม่รู้จัก" ผมตอบไปว่า "ไม่เป็นไรหรอกพวกเค้าอุสาห์มาชวน ไหนขากลับกรุงเทพก็จะติดรถบัสพวกเค้ากลับอยู่แล้ว" นี่คือจุดเริ่มต้นของความไม่พอใจ หลังจากนั้นหลังจากทานอาหารไปได้นิดหน่อย เวลา 1 ทุ่มผมก็ขอตัวออกไปโทรศัพท์หาแฟนเพื่อบอกว่าผมอยู่ที่ร้านไหน เพื่อคุยกันตามปกติ หลังจากที่คุยโทรศัพท์กันไปพักใหญ่ผมก็กลับมานั่งที่โต๊ะ แล้วก็ดื่มเหล้าคุยกับเพื่อนของเจ้าบ่าวตามปกติ ผ่านไป 2 ชม. ตอนนั้น 3 ทุ่ม ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าจะโทรหาแฟนอีกรอบ ปรากฏว่าแบตหมดเนื่องจากไปงานแต่งตั้งแต่เช้า ผมจึงรีบหาที่ชาร์ตมาชาร์ต โดยไปยืมพาวเวอร์แบ๊งค์จากเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นแหละ เพราะผมเห็นเค้ากำลังใช้ชาร์ตอยู่พอดี เค้าก็ใจดีให้ยืม ด้วยความเกรงใจผมจึงชาร์ตแค่พอติดต่อแฟนกลับไปได้ คือ ประมาณ 10% จากนั้นจึงคืนเจ้าของไปให้เค้าชาร์ตต่อ ผมรีบโทรหาแฟนทันที เพราะรู้ว่าเค้าจะต้องโกรธแน่ๆ จริงครับเค้าโกรธผมมาก ด่าผมเป็นชุด ใส่อารมณ์เต็มที่ ซึ่งผมก็พยายามอธิบายไปว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่เป็นผล แฟนผมโกรธมากสั่งให้ผมกลับโรงแรมเดี๋ยวนี้ ซึ่งในความเป็นจริงผมทำไม่ได้ เนื่องจากเราติดรถเค้าไป จะกลับก่อนได้ยังไง ก็ต้องรอกลับพร้อมกันเท่านั้น แฟนผมก็ยิ่งโกรธใหญ่ ด่าผมเป็นชุด หาว่า "ผมอยากไปคุยกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ไม่รู้จักเค้ายังจะหน้าด้านไปอีก เกลียดคนนิสัยแบบผมชอบสนิทกับคนอื่นไปหมด" ซึ่งจริงๆผมแทบไม่ได้คุยกับใครเลย ใครพูดด้วยผมก็พูดด้วย ถามผมผมก็ตอบ แค่นั้นจริงๆ หลังจากด่าผมเสร็จก็วางหูไป ผมกลับมานั่งต่อไปอีกประมาณครึ่งชม. แบตที่ชาร์ตไว้ก็หมดรอบนี้ผมจำเป็นต้องขอตัวกลับก่อน เพราะถ้ายังอยู่ต่อก็คงจะโดนด่าอีกแน่นอน ผมจึงเดินไปหาพนักงานร้านให้เค้าหารถให้ผมกลับโรงแรมก่อน ตอน 4 ทุ่มผมกลับถึงโรงแรมรีบชาร์ตแบตโทรหาแฟนทันที เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันอีก เค้าไม่ยอมรับโทรศัพท์ผม เช้าวันต่อมาผมติดรถบัสกลับด้วย ระหว่างทางก็จอดพักกินอาหารเที่ยงกัน ผมโทรหาแฟน แฟนผมก็ไม่รับอีก หลังจากกินข้าวเสร็จก็แวะถ่ายรูปกัน ด้วยความที่ผมไม่ได้เป์นเพื่อนกับพวกเค้า เค้าจึงวานให้ผมถ่ายรูปหมู่คณะเพื่อนๆเค้าให้หน่อย ผมกำลังถ่ายรูปให้ แฟนผมโทรมา ผมตัดสินใจรับ เพราะถ้าไม่รับก็คงเป็นเรื่องใหญ่อีก คราวนี้ผมคิดผิดครับ เพราะผมรับโทรศัพท์แล้วผมบอกว่า "รอแป๊ปนะจ๊ะ กำลังถ่ายรูปให้เค้าอยู่" แฟนผมโกรธมากขึ้นมาอีก บอกว่า "สนิทกันจังเลยนะ เจอกันแค่วันเดียวก็ไปถ่ายรูปให้เค้าแล้ว คงจะมีความสุขกันมากละสิ" แล้วก็วางหูใส่ผมไป ผมเครียดกับนิสัยแฟนผมมากเลย เค้าไม่รู้สึกว่าเค้าผิดเลยแม้แต่น้อย เค้าคิดว่าจากสิ่งที่ผมทำสมควรทำให้เค้าโกรธผมอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ผมรู้จะทำยังไง ไม่อยากไปเล่าให้ใครฟังกลัวคนอื่นมองแฟนเราไม่ดี นอกจากเรื่องความขี้โมโหของเค้าแล้ว แฟนผมเป็นคนที่ดีเลยทีเดียว เป็นคนรักครอบครัว ดูแลครอบครัวอยางดี ดูแลผมอย่างดี เป็นห่วงผมตลอดเวลา เป็นคนทำความสะอาดบ้านทุกอย่าง หาข้าวให้ที่บ้านกิน รักสัตว์เลี้ยงหมาแมวหลายตัว ชอบทำบุญทำทาน ตัวผมก็รักแฟนผมมากเหมือนกัน ผมไม่อยากเลิกกับเค้า ผมอยากจะแต่งงานกับเค้า แต่ถ้าอารมณ์เค้ายังเป็นแบบนี้ ผมอยู่ด้วยแล้วผมคงจะเครียดจนเป็นบ้าเอาได้ ตอนนี้ผมใกล้หมดความอดทนกับนิสัยเจ้าอารมณ์ของแฟนผมแล้วครับ  (ผมเคยขอร้องแฟนให้ไปปรึกษาจิตแพทย์แล้วนะครับ แต่ก็ดีขึ้นได้แป๊ปเดียว ไม่นานก็กลับไปเป็นเหมือนเก่าอีก ตอนนี้ตัวผมเองรู้สึกว่าตัวเองเครียดมากจนผมเองต้องไปพบนักจิตวิทยาเพื่อบำบัดความเครียดแล้วครับ ตอนนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่) ใครมีวิธีช่วยผมได้บ้างครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 26
คนเป็นแฟนมันจะมีความคาดหวังแบบสุดโต่งหน่อยนะคะ คุณสองคนคงอายุยังไม่มาก คิดว่าถ้าอายุมากขึ้นน่าจะช่วยให้เย็นลงได้

ถามนิดนึง ปัญหาอารมณ์ร้อนขี้หงุดหงิดของแฟนนี่จะเป็นเฉพาะเวลาอยู่ห่างกันใช่มั้ยคะ เวลาคุณอยู่กับเค้าทุกอย่างดีใช่มั้ย?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่