[CR] CR: The Quarter Bangkok Poshtel and Co-Working space แห่งใหม่ย่านบีทีเอสราชเทวี


          วันนี้เจ้าของกระทู้ขออนุญาตินำเสนอรีวิวร้านขายอาหารเครื่องดื่มแนว Co-Working space และมีที่พักแบบด้วย เพื่อจะได้เป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาที่อ่านหนังสือ นั่งทำงาน หรือนั่งประชุมกัน และที่พักสำหรับแนวแบ็คแพ็คเกอร์ครับ

     จุดประสงค์ในการทำรีวิวนี้เนื่องจากว่าตัวเจ้าของกระทู้กำลังศึกษาต่อปริญญาโทคือเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย บ่อยครั้งที่อาจารย์จะจ่ายงานกลุ่มให้มาทำ ปัญหาที่เจอบ่อยๆคือไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับนัดทำงานกลุ่มกัน เพราะด้วยความที่แต่ละคนทำงานหมด กว่าจะว่างได้มาเจอกันก็ต้องเป็นหลังเลิกงานซึ่งบางทีก็เย็นหรือค่ำแล้วซึ่งไม่สามารถไปใช้ห้องสมุดของคณะได้ ในบางครั้งก็นัดเจอกันที่ร้านกาแฟแต่ก็มีความรู้สึกกันว่าจะนั่งแช่นานๆก็เกรงใจ บางร้านสถานที่ก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการที่จะทำ Group discussion กันเพราะไม่มีไวท์บอร์ด โปรเจ็คเตอร์ หรือทีวีที่จะต่อคอมพ์พิวเตอร์ได้

         Co-Working space เลยเป็นสถานที่ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับคนที่ไม่ต้องการเสียค่าเช่าห้องประชุมแพงๆ หรือคนที่ทำงานฟลีแลนซ์ที่ไม่การออฟฟิศเป็นเรื่องเป็นราวครับ สถานที่ที่จะรีวิววันนี้ชื่อว่า The Quarter Bangkok อยู่ใกล้กับบีทีเอสราชเทวี เดินออกมาจาก BTS ราชเทวีทางออก4 แค่50เมตรข้ามถนนมาก็ถึงเลยครับ เจ้าของกระทู้เห็นป้ายชื่อร้านและอยู่ตรงหัวมุมพอดีเลยลองเดินเข้ามาเพราะเห็นว่าคนไม่เยอะ พอดีจังหวะเจอเจ้าของร้านเลยได้ทราบว่าพึ่งเปิดมาไม่ถึงเดือน เจ้าร้านใจดีมากพาเดินทั่วทั้งตึกเลย เลยได้มีโอกาสเก็บรูปมาฝากเพื่อนๆครับ



        The Quarter Bangkok เป็นอาคารเก่าที่ที่นำมาที่นำมารีโนเวทใหม่มีทั้งหมด4ชั้น มีส่วนของร้านอาหารเล็กๆ ขายเครื่องดื่มประเภทชากาแฟ, co-working spaceและมีส่วนของห้องพักด้วย  ก่อนข้ามไปช็อทต่อไปหลายคนคงสงสัยว่าPoshtelมันอันเดียวกับ Hostel หรือเปล่า  เอาตรงๆเจ้าของกระทู้เองก็พึ่งมารู้ทีหลังจากการบอกของเจ้าของร้านครับ  Hostel คือที่พักราคาประหยัดที่ผู้เข้าพักต้องแชร์Facilityกัน ค่าใช้จ่ายก็คิดเตียงใครเตียงมัน ถ้าที่ไหนรวมอาหารเช้าด้วย คนทำก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เจ้าของนั่นแหละครับมาทำให้กิน สิ่งที่ได้คือราคาถูกมาก แต่สิ่งที่หายไปคือความสะดวกสบายนั่นเองเพราะเราต้องนอนห้องเดียวกับคนที่ไม่รู้จัก บางทีถ้าซวยเจอคนนอนดิ้นกรนก็ต้องอดทนกันไป

          ย้อนกลับมาที่ Poshtel บ้าง  ข้อแตกต่างก็คือมันคือการอัพเกรดจากHostel ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งมีความพร้อมแบบโรงแรมแต่ราคายังสบายกระเป๋าแบบ Hostel นั่นเอง

          ชั้นแรกจะเป็นส่วนของ reception สำหรับการมาติดต่อจองห้อง มีมุมขายอาหารเครื่องดื่มด้วย ก้าวแรกที่เดินเข้ามาจะรู้สึกถึงโทนสีที่เย็นตา บรรยากาศที่เหมือนอยู่บ้านตัวเอง การตกแต่งไม่ได้ใช้ของแพงอลังการแต่เน้นของทั่วไปที่เอามาประยุกต์ใช้มากกว่าเช่นกรงนกที่เอามาทำเป็นโคมไฟตรงล้อบบี้ครับ โดยส่วนตัวชอบโทนสีน้ำเงินขาวที่ผนังที่ดูเย็นตา ถ้าเดินทาจากข้างนอกแดดร้อนๆพร้อมกับเสียงการจราจรข้างนอกเข้ามาจะรู้สึกผ่อนคลายมาก แต่ถึงปิดประตูแล้วก็ยังคงได้ยินเสียงรถราบ้าง อาจเป็นเพราะอยู่ย่านชุมชน ถ้าใครชอบเงียบๆเพื่ออ่านหนังสือจริงๆชั้นล่างอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่


                                                                    บริเวณล๊อบบี้และส่วนรับลูกค้า
                                                    
         ส่วนการเข้ามารับบริการไม่ยากเลยครับ จะมีน้องพนักงานคอยให้คำแนะนำอยู่แต่ถ้าจะมาใช้บริการ co-working space แนะนำให้โทรมาจองก่อน จะได้ไม่เสียเวลา


                            ราคาค่าบริการทั้งหมดครับ รายละเอียดเพิ่มเติมดูในเวปของร้าน www.thequarterbangkok.com ได้ครับ

          เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะเป็นการใช้ co-working space หรือบริการห้องพัก เราจะได้คีย์การ์ดแบบนี้มาอันนึงครับ ใช้สำหรับแตะบัตรเข้าห้องพักหรือห้องที่เราจองไว้ เวลาจะกลับก็คืนบัตรให้กับพนักงานอีกที ถ้าไม่มีคีย์การ์ดนี้จะไม่สามารถเข้าใช้บริการห้องพักกับco-working  รูปแบบการใช้บริการไม่มีอะไรซับซ้อนครับ  ทางร้านทำinfo graphic อธิบายให้เรียบร้อย  แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือมีแต่ภาษาอังกฤษครับ  คนที่อ่านอังกฤษไม่ได้อาจจะต้องถามน้องพนักงานเอา

                                                            
          ขยับขึ้นมาชั้นสองกันบ้าง ชั้นนี้ดูแล้วน่าจะเป็นชั้นลอย ชั้นนี้เป็นส่วนบริการสำหรับแขกโรงแรมเจ้าของร้านเลยดัดแปลงให้เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนนั่งคุยกัน มีเบาะเล็กๆให้นั่ง มีทีวีเพราะเคเบิลของทรูให้ดูฟรีด้วย การตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่เฉลียงบ้าน ถ้าใครมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดจะพอนึกออกครับ เพราะเฉลียงบ้านตามต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะเปิดโล่งและมีม้านั่งยาวๆให้นั่งพักผ่อน

                                          

                                                   มุมนี้จำลองเหมือนหน้าต่างบ้าน แต่แขวนรูปไว้แทน

        มาชั้นสองกันบ้างหลังจากที่เราลงทะเบียนและจ่ายตังค์แล้ว  เราจะได้คีย์การ์ดแบบนี้มาอันหนึ่งครับ ใช้สำหรับการเปิดเข้าออกห้องในส่วนที่เป็น co-working space  หลังจากเดินเข้าไปแล้วจะเห็นเป็น2ส่วน  คือส่วนที่เป็นโต๊ะอ่านหนังสือกับส่วนที่เป็นห้องประชุม  ในนี้ถือว่ามีความพร้อมหมดทุกอย่างสำหรับการนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานครับ เพราะเสียงเงียบใช้ได้ อาจะเป็นเพราะเจ้าของเลือกใช้กระจกที่ค่อนข้างหนานิดนึง ทุกโต๊ะมีปลั๊กไฟและสัญญาณWifiแรงทั่วถึงเลยที่เดียว แสงสว่างก็เพียงพอสำหรับการนั่งอ่านหนังสือครับ

                                                  

                                                       เข้าออกต้องเอาคีย์การ์ดแตะก่อนนะครับ

                       ภาพมุมกว้างจะเห็นว่ามีเจ้าขอติดโคมไฟเหนือโต๊ะทุกตัวครับ เพราะฉะนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องของแสงไม่พอแน่นอน

        สำหรับคนที่มาเป็นหมู่คณะแล้วต้องการใช้ห้องประชุมจะต้องเสียงเงินเช่าห้องอีกห้องที่อยู่ด้านในครับ เพราะว่าถ้ามีการdiscussion กันอาจจะไปรบกวนคนข้างๆได้ แต่ถือว่าเจ้าของออกแบบห้องได้ตอบโจทย์คนที่อยากใช้ห้องประชุมจริงๆจังๆเลยทีเดียวเพราะมีครบทั้งไวท์บอร์ด ทีวีแอลอีดี ซึ่งหอบคอมพ์มานั่งประชุมได้เลย

                                                        
             ในส่วนของชั้นสองจะมีห้องพักหนึ่งห้องสำหรับพักสี่คนครับ มีเตียงใหญ่หนึ่งเตียงและเตียงสองชั้นอีกสองเตียงส่วนที่เป็นเตียงสองชั้นโครงสร้างทำจากเหล็กที่หนามาก เจ้าของกระทู้ลองไปเขย่าแรงๆดูไม่เสียงเอียดอ๊าดเลย เพราะฉะนั้นถ้าคนตัวใหญ่นอนดิ้นนอนข้างบนไม่น่าจะมีปัญหาครับ  สิ่งที่เจ้าของกระทู้ชอบคือ หัวเตียงแตะละเตียงมีโคมไฟส่วนตัวและใต้เตียงมีที่เก็บของกรณีที่เราพักหลายคืนครับ ส่วนห้องน้ำก็ถือว่าใช้ได้ ใช้ชักโครงที่มีคุณภาพพอควร

       เจ้าของกระทู้สงสัยอย่างหนึ่งเลยถามเจ้าของร้านไปว่า ถ้าเรามาพักหลายคืน เราจะได้นอนเตียงเดียวกันไปตลอดไหม ก็ได้รับคำตอบว่า กรณีที่ลูกค้าแจ้งล่วงหน้า ทางร้านจะล็อคเตียงนั้ให้เป็นของเราตลอด จะไม่มีการย้ายเตียงถ้าไม่จำเป็นจริงๆเว้นแต่ลูกค้าขอย้ายเตียงเอง เจ้าของร้านบอกว่า ลูกค้าบางคนต้องการความเป็นส่วนตัว บางทีมากันแค่สองคนแต่ขอจ่ายเหมาทั้งห้องเลยก็มีครับ



                                      โคมไฟที่หัวเตียง มีปลั๊กไฟให้ซึ่งแน่นอนต้องเอาคีย์การ์ดเสียบก่อนจึงจะใช้ได้ครับ


                                      ใต้เตียงใหญ่มีที่เก็บกระเป๋าเดินทางอยู่ แต่ว่าลูกค้าต้องเอากุญแจมาล็อคเองนะครับ


                                           ห้องน้ำมีห้องเดียว ถ้ามากันสี่คน อาจจะต้องรอกันหน่อย

               มาถึงชั้นสามกันบ้าง ชั้นนี้มีห้องพักสองส่วนใหญ่ๆครับ  แต่เผอิญอีกห้องหนึ่งมีลูกค้าพักอยู่ เจ้าของกระทู้เลยเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ เลยได้เข้าไปถ่ายรูปห้องสำหรับหกคนแทน  ห้องนี้อยู่ชั้นสูงซึ่งอยู่ระดับเดียวกับทางด่วนเลย เจ้าของร้านใช้กระจกสองชั้นเพื่อกันเสียงรถ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียงเข้ามานิดหน่อยครับ คนที่เป็นคนตื่นง่ายอาจจะไม่เหมาะกับห้องนี้เท่าไหร่นักครับ


                                   ส่วนของอ่างล้างหน้า มีสองอ่างครับ ตรงนี้ถ้าพักกันหกคนก็คงไม่ต้องรอกันมาก

             ที่ร้านนี้ห้ามสูบหรี่ทุกกรณีครับ ถ้าจะสูบบุหรี่ต้องขึ้นมาที่ดาดฟ้าครับ แต่เจ้าของก็ยังใจดีโดยออกแบบดาดฟ้าไม่ให้เป็นดาดฟ้าทั่วไปที่ขึ้นไปเจอแท้งน้ำเก่าๆกับโครงเหล็กโครงหลังคาที่มีแต่สนิม บนดาดฟ้ามีสวนเล็กๆให้เย็นตาหน่อยแล้วก็เปลให้นอนเล่นครับป แต่ขึ้นมาดาดฟ้าต้องทำใจนิดนึงครับเพราะเสียงรถและเสียงชุมชนค่อนข้างจะดังพอควร คงเหมาะกับการมานั่งพักสูบบุหรี่ไม่นานครับ


        ใกล้จบรีวิวแล้ว เจ้าของกระทู้ขอสรุปจุดเด่น จุดต้องพึงคำนึง

    จุดเด่น
    1. ทำเลดี เดินทางมาถึงด้วยรถไฟฟ้าได้เลย หากจะไปสนามบินก็ง่ายมากเพราะอยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อกับแอร์พอร์ทลิ้ง
    2. วัสดุตกแต่งภายในใช้ของคุณภาพสูง การตกแต่งภายในเหมือนโรงแรม เตียงสองชั้นไม่กะโหลกกะลา เหล็กหนามาก
    3. พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้และมีเรื่องของ service mind (อันนี้สำคัญมากๆสำหรับเจ้าของกระทู้)
    4. มีบริการห้องพักและห้องทำงานบวกห้องประชุม หากใครมาทำงานดึกๆสามารถพักที่นี่ได้เลยในราคาที่ถูกว่าเช่าโรงแรม
    5. รูปแบบการใช้บริการชัดเจน มีแพ็คเกจให้เลือกเหมาะสม ไม่มีเซอร์วิชชาร์จเพิ่ม

    จุดต้องคำนึง
    1. เนื่องจากเป็นตึกอนุรักษ์เลยสร้างลิพฟ์ไม่ได้ ถ้าของเยอะอาจต้องออกแรงหน่อย
    2. ห้องพักชั้นสี่จะติดจะอยู่ระดับเดียวกับทางด่วนอาจจะมีเสียงรถทะลุเข้ามาในห้องบ้าง แต่ถ้าปิดม่านก็ลดเสียงได้ลง
    3. ไม่ขายเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอร์  
    4. ไม่มีที่จอดรถ หากใครนำรถมาต้องไปจอดรถมาต้องไปจอดที่อื่น
    5. ทำเลที่ตั้งเป็นย่านชุมชน คนที่ชอบความสงบเงียบ อาจจะไม่ใช่คำตอบครับ
ชื่อสินค้า:   Co-Working space, Poshtel
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่