อย่างแรกนะครับ ไม่ควรใช้คำว่า "ตั๋วทนาย" นะ (ผมเกือบตกเพราะพูดคำนี้ละ) แต่ให้ใช้คำว่า "ใบอนุญาตว่าความ" จะดีกว่านะครับ

การสอบจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือแบบปี กับแบบรุ่น คืออะไร

แบบปีคือคุณทำงานในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี (ตั๋วปี) แล้วจึงจะไปสมัครสอบครับ ไปขอแบบฟอร์มที่สภาฯ แล้วเขาจะให้คุณเอาไปให้ สำนักงานทนายที่คุณ (อ้าง) สังกัดเพื่อลงข้อมูล (ตรงนี้เท่าที่ทราบก็ใช้วิธีฝากชื่อกันก็เยอะ) การสอบจะไม่ต้องสอบสองสนามเหมือนแบบรุ่น คือสอบแบบปฏิบัติเลย แต่ขอบอกข้อสอบยากมาก ปีหนึ่งผ่านไม่กี่ร้อยคน

อีกแบบคือแบบรุ่น (หรือที่เรียก ตั๋วรุ่น นั้นละ) การสอบจะแบ่งเป็นสองสนามคือ สนามทฤษฎี และปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ทฤษฎีสอบในกระดาษคำตอบ ประเด็นไม่ยากมาก ส่วนปฏิบัติตอบในแบบฟอร์มศาล ประเด็นยากขึ้นอีกนิด (แต่โดยรวมยังง่ายกว่าเนติฯ เยอะ)  โดยหากสอบทฤษฎีได้ ต้องไปฝึกงานอีกราวๆ 3 เดือน ตรงนี้หลายๆ คนใช้วิธีไปขอฝากชื่อไว้ ไม่ต้องฝึกก็ได้ หรือจะฝึกในบริษัทก็ได้ ถ้ามีฝ่ายกฎหมาย ก็ให้หัวหน้าฝ่ายกฎหมายรับรอง (ผมฝึกผ่านบริษัท)

การสอบเตรียมตัวอย่างไร
ลองหาข้อสอบเก่ามาดูแนว แล้วฝึกเขียนเยอะๆ ครับ ความยากไม่ได้อยู่ที่หลักกฎหมายหรือประเด็น แต่อยู่ที่สำนวนการเขียน รูปแบบ ว่าคุณเขียนออกมาเหมือนพวกทนายเขาเขียนกันหรือไม่ ภาษาการใช้ ถ้าคุณฝึกบ่อยๆ จะชิน เช่น คำว่า "ประมาท" ต้องต่อด้วย "ปราศจากความระมัดระวังเช่นว่าตามวิสัยและพฤติการณ์ฯ ....." หรือคำว่า เจตนา ในคำฟ้องอาญา ก็ใช้คำว่า บังอาจ ไรประมาณนี้

หรือถ้าจนแล้วจนรอด ไม่ไหว ก็เรียนพิเศษเสริม อย่าไปบ้าจี้ตามชาวบ้าน คนหลายคน ย่อมมีพื้นต่างกัน มีเวลาต่างกัน ไม่ไหวก็ไปเรียนเอา เดี้ยวนี้มีเปิดสอนเยอะแยะ มันจะช่วยรนเวลาอ่านได้เยอะ

แนะนำ จะเก็บก็ขอให้รีบเก็บเพราะเท่าที่รู้ว่า ข้อสอบจะยากขึ้นทุกปี แล้วมีแนวโน้นจะยากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าคุณถามความเห็นของพวกสอบได้มานานแล้วส่วนมากจะแนะนำว่าอ่านเอง ชิวๆ ไม่มีอะไร บอกเลยอย่าไปเชื่อ ให้ไปถามคนที่พึ่งสอบได้ จะได้แนวที่ตรงกว่าแล้วจะสามารถประเมินกำลังตัวเองได้ดีกว่าว่า ไหวหรือไม่ มีแนวการเตรียมตัวอย่างไร (ไม่เชื่อไปดูแนวข้อสอบเก่าจะเข้าใจว่าปีหลังๆ หินจริงๆ)