คดีพลิก!
โผล่แล้ว พระชื่อดังเมืองขอนแก่น อ้างภาพคู่สีกาว่อนโซเชียลเป็นภาพตัดต่อ
โดย MGR Online
7 ธันวาคม 2559 17:25 น. (แก้ไขล่าสุด 7 ธันวาคม 2559 18:52 น.)
โผล่แล้ว พระชื่อดังเมืองขอนแก่น อ้างภาพคู่สีกาว่อนโซเชียลเป็นภาพตัดต่อ
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-โผล่แล้ว! อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน จังหวัดขอนแก่น ออกมาระบุภาพที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์ เป็นการตัดต่อภาพสร้างความเสียหายให้ตนเอง ยันไม่ทำให้ศาสนามัวหมอง ยอมลาสิกขาไปทำการค้าขายส่วนตัว พร้อมนำ 3 บัญชีวงเงินกว่า 1.8 ล้านบาท และรถยนต์ 3 คันคืนให้วัด
วันนี้ (7ธ.ค.59) ที่วัดศรีสว่างโนนทัน ถนนโพธิสาร บ้านโนนทัน หมู่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายสมหวัง ชาประวัง อายุ 50 ปี หรืออดีตพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน ได้เข้าพบกับนายเรือง สุระเสียง ไวยาวัจากรของวัดและพระลูกวัด เพื่อขอมอบกุญแจรถยนต์ของวัดจำนวน 3 คัน พร้อมสมุดบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ใช้ชื่อวัดศรีสว่างโนนทัน ที่มีเงินสดในบัญชี 1,716,714 บาท , สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ในชื่อของเงินบำรุงการศึกษาภิกษุ สามเณรของวัดศรีสว่างโนนทัน มีเงินสดในบัญชี 17,040 บาท , ธนาคารเกียรตินาคิน ในชื่อสรภัญญะของวัดศรีสว่างโนนทัน มีเงินสดในบัญชี 67,913 บาท
นายสมหวัง ชาประวัง หรืออดีตพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มาแถลงข่าวพร้อมด้วยคณะกรรมการวัด และพระในวัดศรีสว่างโนนทัน ว่าหลังจากที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ว่ามีภาพต่างๆเกี่ยวกับตนในโลกโซเชียล เกิดความไม่สบายใจ จึงขอชี้แจงให้สังคมรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน ไม่ต้องการให้พระศาสนา หรือเรื่องต่างๆที่ไม่ดีกับพระศาสนา ตนจึงตัดสินใจลาสิกขาบท เมื่อวันที่ 5ธ.ค.ที่ผ่านมา
“ผมไม่มีความผิด เป็นเรื่องของมนุษย์ทั่วไปที่อาจผิดพลาดขึ้นได้ โดยเฉพาะภาพตนกับผู้หญิงคนหนึ่ง ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นภาพเกิดขึ้นหลังตนสึกแล้ว เชื่อว่าภาพที่เห็นมาก่อนหน้านั้น อาจเป็นภาพที่ตัดต่อขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่กรุงเทพฯ และสถานที่อื่นๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในภาพ ตนรู้จักกับเธอที่วัดเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา มาทำบุญที่วัดตามปกติ แต่เมื่อมีข่าวออกไปได้มีสื่อไปว่า และประณามให้เธอเสียหาย โดยที่เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตนเอง แม้แต่นิดเดียว จึงอยากขอโทษกับผู้หญิงที่อยู่ในภาพ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย”นายสมหวัง กล่าวและว่า
ช่วงที่เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน ได้เป็นพระนักพัฒนา ที่เคร่งครัดพระธรรมวินัย เป็นพระผู้เสียสละ รูปหนึ่งในวงการสงฆ์ของจังหวัดขอนแก่น เมื่อมีเรื่องไม่ดีกับพุทธศาสนาพุทธ ตนเป็นลูกผู้ชายไม่ต้องการให้พระผู้ใหญ่หนักใจ วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ จึงตัดสินใจลาสิกขาบทให้เกิดภาพพจน์ที่ดีกับผู้หญิง ที่อยู่ในภาพกับตนในโลกโซเชียล
ตนขอชี้แจงกับสังคมให้รับทราบในการลาสิกขาบท ต้องขออภัยประชาชนที่ศรัทธาด้วย ผมขอลาพระทุกรูป คณะกรรมการวัดทุกคน เพื่อไปทำหน้าที่ของฆราวาส ซึ่งจะทำการค้าเหมือนคนทั่วไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจดีที่สุด ไม่ต้องการให้พระศาสนามั่วหมองเกี่ยวกับตน โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงที่มีภาพคู่กับตนในโลกโซเชียล
ด้านนายเรือง สุระเสียง ไวยาวัจกรณ์ของวัดศรีสว่างโนนทัน เปิดเผยว่า พระครูเมธีกิตติวรญาณ รองเจ้าคณะอำเภอเมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น คณะกรรมการวัด อุบาสกอุบาสิกา ได้ประชุมกันที่พระอุโบสถของวัด ได้ข้อสรุปว่า ช่วงที่พระครูโอภาสธรรมวิภัชได้ลาสิกขาบทเป็นฆราวาส ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง ที่ประชุมจึงได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อสุทัศน์ กิตตระโต อายุประมาณ 68 ปี พระลูกวัดที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสมาโดยตลอด รักษาการไปจนกว่าเจ้าคณะอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นจะได้แต่งตั้งให้พระรูปใดมาเป็นเจ้าอาวาส
พร้อมกับได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลทรัพย์สินของวัด และบริหารวัดให้คงอยู่ในสภาพเดิม และให้เจริญก้าวหน้าเหมือนที่เจ้าอาวาสองค์เดิมอยู่ และสำนักพุทธฯจะได้เข้ามาตรวจสอบทุกสัปดาห์จนกว่าจะมีเจ้าอาวาสรูปใหม่มาทำหน้าที่พัฒนาวัดศรีสว่างโนนทัน
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000122087
สึกพระนักเทศน์ชื่อดัง จ.ขอนแก่น หลังมีภาพใกล้ชิดสีกา
19:23น. 6 ธ.ค. 2559
พระนักเทศน์ชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น ขอลาสิกขาบท หลังผู้นำภาพสวมชุดฆราวาสถ่ายภาพใกล้ชิดกับสีกา มาเผยแพร่ในสังคมโซเซียล จนถูกวิพากษ์วิจารณ์
สึกพระนักเทศน์ชื่อดัง จ.ขอนแก่น หลังมีภาพใกล้ชิดสีกา
วันนี้ (6 ธ.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ขอนแก่น มีด่านบอกด้วย” แชร์ภาพชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพระนักเทศน์ชื่อดัง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองขอนแก่น ลักษณะการแต่งกายเป็นฆราวาสและกำลังโอบกอดแนบชิดกับหญิงสาว อายุประมาณ 30 – 40 ปี จนถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่า ชายในภาพ คือพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน อำเภอเมืองขอนแก่น พระนักเทศน์ชื่อดังหรือไม่
หลังตรวจสอบที่วัดศรีสว่างโนนทัน พบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เห็นภาพดังกล่าวเดินทางมาที่วัด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเช่นกัน โดยนายเรือง สุระเสียง ตำแหน่งมัคทายกวัดศรีสว่างโนนทัน ชี้แจงว่า ชายที่อยู่ในภาพคือพระครูโอภาสธรรมวิภัชจริง หลังเกิดเรื่อง พระครูโอภาสธรรมวิภัช ได้ขอลาสิกขาบท เพื่อรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อวานนี้
เบื้องต้นทราบว่าหญิงสาวที่อยู่ในภาพเป็นสีกาที่มักมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ ทางวัดก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ครองผ้าเหลือง ได้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมและพัฒนาวัดวาอารามให้เจริญรุ่งเรือง แต่ช่วงออกพรรษาที่ผ่านมามีพฤติกรรมแปลกๆ คือมักจะออกจากวัดช่วงกลางคืน และหายไปนานถึง 3 – 4 วัน จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น
สำหรับ พระครูโอภาสธรรมวิภัช หรือ นายสมหวัง ชาปะรัง เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน จบการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านคำขวาง ครองสมณเพศ เมื่อปี 2522 วัดโพธิใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พุทธศาสตร์บัณฑิต ปี 2543 นับเป็นพระนักพัฒนา อยู่ในพระธรรมวินัย และประกอบกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด
https://www.pptvthailand.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/41037
เงิน กับ ผู้หญิง ทำพระนักเทศน์-นักพัฒนา พระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน ดับอนาถไปอีกรูป
โผล่แล้ว พระชื่อดังเมืองขอนแก่น อ้างภาพคู่สีกาว่อนโซเชียลเป็นภาพตัดต่อ
โดย MGR Online
7 ธันวาคม 2559 17:25 น. (แก้ไขล่าสุด 7 ธันวาคม 2559 18:52 น.)
โผล่แล้ว พระชื่อดังเมืองขอนแก่น อ้างภาพคู่สีกาว่อนโซเชียลเป็นภาพตัดต่อ
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-โผล่แล้ว! อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน จังหวัดขอนแก่น ออกมาระบุภาพที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์ เป็นการตัดต่อภาพสร้างความเสียหายให้ตนเอง ยันไม่ทำให้ศาสนามัวหมอง ยอมลาสิกขาไปทำการค้าขายส่วนตัว พร้อมนำ 3 บัญชีวงเงินกว่า 1.8 ล้านบาท และรถยนต์ 3 คันคืนให้วัด
วันนี้ (7ธ.ค.59) ที่วัดศรีสว่างโนนทัน ถนนโพธิสาร บ้านโนนทัน หมู่ 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายสมหวัง ชาประวัง อายุ 50 ปี หรืออดีตพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน ได้เข้าพบกับนายเรือง สุระเสียง ไวยาวัจากรของวัดและพระลูกวัด เพื่อขอมอบกุญแจรถยนต์ของวัดจำนวน 3 คัน พร้อมสมุดบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ใช้ชื่อวัดศรีสว่างโนนทัน ที่มีเงินสดในบัญชี 1,716,714 บาท , สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ในชื่อของเงินบำรุงการศึกษาภิกษุ สามเณรของวัดศรีสว่างโนนทัน มีเงินสดในบัญชี 17,040 บาท , ธนาคารเกียรตินาคิน ในชื่อสรภัญญะของวัดศรีสว่างโนนทัน มีเงินสดในบัญชี 67,913 บาท
นายสมหวัง ชาประวัง หรืออดีตพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มาแถลงข่าวพร้อมด้วยคณะกรรมการวัด และพระในวัดศรีสว่างโนนทัน ว่าหลังจากที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ว่ามีภาพต่างๆเกี่ยวกับตนในโลกโซเชียล เกิดความไม่สบายใจ จึงขอชี้แจงให้สังคมรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน ไม่ต้องการให้พระศาสนา หรือเรื่องต่างๆที่ไม่ดีกับพระศาสนา ตนจึงตัดสินใจลาสิกขาบท เมื่อวันที่ 5ธ.ค.ที่ผ่านมา
“ผมไม่มีความผิด เป็นเรื่องของมนุษย์ทั่วไปที่อาจผิดพลาดขึ้นได้ โดยเฉพาะภาพตนกับผู้หญิงคนหนึ่ง ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นภาพเกิดขึ้นหลังตนสึกแล้ว เชื่อว่าภาพที่เห็นมาก่อนหน้านั้น อาจเป็นภาพที่ตัดต่อขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่กรุงเทพฯ และสถานที่อื่นๆ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในภาพ ตนรู้จักกับเธอที่วัดเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา มาทำบุญที่วัดตามปกติ แต่เมื่อมีข่าวออกไปได้มีสื่อไปว่า และประณามให้เธอเสียหาย โดยที่เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตนเอง แม้แต่นิดเดียว จึงอยากขอโทษกับผู้หญิงที่อยู่ในภาพ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย”นายสมหวัง กล่าวและว่า
ช่วงที่เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน ได้เป็นพระนักพัฒนา ที่เคร่งครัดพระธรรมวินัย เป็นพระผู้เสียสละ รูปหนึ่งในวงการสงฆ์ของจังหวัดขอนแก่น เมื่อมีเรื่องไม่ดีกับพุทธศาสนาพุทธ ตนเป็นลูกผู้ชายไม่ต้องการให้พระผู้ใหญ่หนักใจ วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ จึงตัดสินใจลาสิกขาบทให้เกิดภาพพจน์ที่ดีกับผู้หญิง ที่อยู่ในภาพกับตนในโลกโซเชียล
ตนขอชี้แจงกับสังคมให้รับทราบในการลาสิกขาบท ต้องขออภัยประชาชนที่ศรัทธาด้วย ผมขอลาพระทุกรูป คณะกรรมการวัดทุกคน เพื่อไปทำหน้าที่ของฆราวาส ซึ่งจะทำการค้าเหมือนคนทั่วไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจดีที่สุด ไม่ต้องการให้พระศาสนามั่วหมองเกี่ยวกับตน โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงที่มีภาพคู่กับตนในโลกโซเชียล
ด้านนายเรือง สุระเสียง ไวยาวัจกรณ์ของวัดศรีสว่างโนนทัน เปิดเผยว่า พระครูเมธีกิตติวรญาณ รองเจ้าคณะอำเภอเมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น คณะกรรมการวัด อุบาสกอุบาสิกา ได้ประชุมกันที่พระอุโบสถของวัด ได้ข้อสรุปว่า ช่วงที่พระครูโอภาสธรรมวิภัชได้ลาสิกขาบทเป็นฆราวาส ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง ที่ประชุมจึงได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อสุทัศน์ กิตตระโต อายุประมาณ 68 ปี พระลูกวัดที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสมาโดยตลอด รักษาการไปจนกว่าเจ้าคณะอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นจะได้แต่งตั้งให้พระรูปใดมาเป็นเจ้าอาวาส
พร้อมกับได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลทรัพย์สินของวัด และบริหารวัดให้คงอยู่ในสภาพเดิม และให้เจริญก้าวหน้าเหมือนที่เจ้าอาวาสองค์เดิมอยู่ และสำนักพุทธฯจะได้เข้ามาตรวจสอบทุกสัปดาห์จนกว่าจะมีเจ้าอาวาสรูปใหม่มาทำหน้าที่พัฒนาวัดศรีสว่างโนนทัน
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000122087
สึกพระนักเทศน์ชื่อดัง จ.ขอนแก่น หลังมีภาพใกล้ชิดสีกา
19:23น. 6 ธ.ค. 2559
พระนักเทศน์ชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น ขอลาสิกขาบท หลังผู้นำภาพสวมชุดฆราวาสถ่ายภาพใกล้ชิดกับสีกา มาเผยแพร่ในสังคมโซเซียล จนถูกวิพากษ์วิจารณ์
สึกพระนักเทศน์ชื่อดัง จ.ขอนแก่น หลังมีภาพใกล้ชิดสีกา
วันนี้ (6 ธ.ค. 59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ขอนแก่น มีด่านบอกด้วย” แชร์ภาพชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับพระนักเทศน์ชื่อดัง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองขอนแก่น ลักษณะการแต่งกายเป็นฆราวาสและกำลังโอบกอดแนบชิดกับหญิงสาว อายุประมาณ 30 – 40 ปี จนถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่า ชายในภาพ คือพระครูโอภาสธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน อำเภอเมืองขอนแก่น พระนักเทศน์ชื่อดังหรือไม่
หลังตรวจสอบที่วัดศรีสว่างโนนทัน พบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เห็นภาพดังกล่าวเดินทางมาที่วัด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเช่นกัน โดยนายเรือง สุระเสียง ตำแหน่งมัคทายกวัดศรีสว่างโนนทัน ชี้แจงว่า ชายที่อยู่ในภาพคือพระครูโอภาสธรรมวิภัชจริง หลังเกิดเรื่อง พระครูโอภาสธรรมวิภัช ได้ขอลาสิกขาบท เพื่อรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เมื่อวานนี้
เบื้องต้นทราบว่าหญิงสาวที่อยู่ในภาพเป็นสีกาที่มักมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ ทางวัดก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ครองผ้าเหลือง ได้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมและพัฒนาวัดวาอารามให้เจริญรุ่งเรือง แต่ช่วงออกพรรษาที่ผ่านมามีพฤติกรรมแปลกๆ คือมักจะออกจากวัดช่วงกลางคืน และหายไปนานถึง 3 – 4 วัน จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น
สำหรับ พระครูโอภาสธรรมวิภัช หรือ นายสมหวัง ชาปะรัง เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสว่างโนนทัน จบการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านคำขวาง ครองสมณเพศ เมื่อปี 2522 วัดโพธิใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พุทธศาสตร์บัณฑิต ปี 2543 นับเป็นพระนักพัฒนา อยู่ในพระธรรมวินัย และประกอบกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด
https://www.pptvthailand.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/41037