เมื่ออาทิตย์ก่อน แฟนผมได้เข้ารับการรักษา ผ่าไส้ติ่งอักเสบ ที่ รพ.รามคำแหง เนื่องจากเหตุผลว่าใกล้สถานที่อยู่อาศัยพอดี...ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 5 นาที (จขกท และ แฟน ไม่มีประกันสุขภาพนะครับ มีแต่ ประกันชีวิต ไม่ได้ทำเพราะยังวัยรุ่นอยู่)
รพ.นี้มีชื่ิอพอสมควรในหลายๆอย่าง แถมใกล้ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนอื่นเลยตอนไปนี่คือแฟนอาการแบบว่า จะต้องผ่าแล้วเพราะดูท่าจะไม่ไหว เลยยังไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรมากมาย (มารู้ทีหลังว่าแค่เฉพาะค่าผ่า บลาๆๆ ประมาณ 8x,xxx-9x,xxx สำหรับไส้ติ่ง)
***ก่อนหน้านี้ น้องสาวผมได้ผ่าไส้ติ่งมาเหมือนกัน ที่ รพ.เจ้าพระยา ตรงปิ่นเกล้า ค่าใช้จ่ายประมาณ 4x,xxx สำหรับการผ่าตัด ไม่รวมค่าหมอ และ อื่นๆ ซึ่งถือว่ายังรับได้ แต่ติดที่ค่าห้องเริ่มต้นนอนคืนละ 4,000
ทางตัวผมก็โอเคในเรื่องของค่าห้องพัก และ อื่นๆ ราคายังสมเหตุสมผล เช่น ห้องพัก ราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท และ อาหารอะไรก็ไม่ได้แพงมากจนเวอร์ไป
มันมาติดที่การบริการ และ การวินิจฉัย ซึ่งแปลกประหลาดผิดปรกติ
1. ตอนแรกตรวจในห้องคุณหมอ เพื่อวินิจฉัย หมอกดตรงจุดที่น่าจะตรวจพบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งโอกาสเป็นก็ 80-90% ชัวร์ๆ
2. พาไปเอ็กซ์้เรย์ บอกว่าไส้ติ่งบวม แน่นอน แต่ตอนหลังบอกว่าไม่แน่ใจ
3. พาไปทำ อัลตร้าซาวน์ ซ้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ สุดท้ายก็ยังบอกว่าไม่แน่ใจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบจริงไหม
4. ลากไปทำ CT สแกน ซ้ำอีกรอบให้หนำใจ
รวมแล้ว ค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะตรวจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ข้อ 2-4 ประมาณ 1x,xxx
ผมไม่รู้ว่าอีกหลายๆ รพ. เค้าบริการ และ วินิจฉัยกันยังไง แต่ว่าเคสน้องสาวผมเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน ไปถึงหมอตรวจวินิจฉัยว่าน่สจะไส้ติ่ง แถมแนะนำว่าทำ CT สแกนเลยไหม จะได้รู้เรื่องเลยทีเดียว พอผ่าตัดเสร็จ นอนไป 1 คืน วันรุ่นขึ้นสามารถทานอาหารเบาๆ อะไรได้ พอลุกเดินได้หน่อย ทางคุณหมอก็ให้กลับได้เลย แถมบริการอะไรอย่างดี ดูแลตลอด เช็ดตัว คอยถามว่าอยากทานอะไร มีให้เลือกตามใจ และ ความต้องการ ปัดกวาดเช็ดถู และ คุณหมอมาเยี่ยมทั้งช่วงเช้าเย็น เพื่อถามอาการ
แต่ที่ รพ.ราม นี้...หลังจากรับการผ่าตัดไป คุณหมอโผล่มาอีกที เช้าวันรุ่นขึ้น และสั่งห้ามดื่มน้ำ และ ทานอาหาร ได้แค่จิบน้ำ ซึ่งพอผมถามไปก็บอก รอดูอาการก่อน ทั้งๆที่แฟนผมเริ่มเดินได้อะไรได้ เข้าห้องน้ำเองได้ และในวันแรกหลังรับการผ่าตัด คุณหมอก็ไม่มาอีกเลย ถามพยาบาลไปว่าจะทานข้าวได้เมื่อไร ได้รับคำตอบแค่ "รอคุณหมออนุญาตินะคะ" และพอถามไปว่า "แล้วคุณหมอจะมาเมื่อไร" ก็ไม่ได้รับคำตอบแน่นอน
สรุป วันหลังรับการผ่าตัดคืนแรก ไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากจิบน้ำ กับ น้ำเกลือที่ห้อยเช้ายันเย็น
คืนที่สอง วันนี้คุณหมอมาตอนเช้าบอกว่ารอดูอาการเหมือนเดิม ถ้าทานข้าวได้อะไรได้ก็จะให้กลับบ้านได้วันพรุ่งนี้?! (อารมณ์มัดมือชกให้นอนต่อไปอีก) แต่พอถามไป ข้าวเช้าก็ยังไม่ให้กินเหมือนเดิม จนแฟนผมมีอาการจุก หิวข้าว และ ปวดหน้าอก จนนึกว่าเป็นโรคกระเพาะเสริมเข้าไปอีก และหมอก็ยังบอกอีกว่าไม่แน่ใจว่าจะเป็นโรคกระเพาะด้วยรึเปล่า ซึ่งหลังจากตรงนี้ ตั้งแต่เช้าผมพยายามขอให้แฟนได้ทานอาหารอ่อนๆตั้งแต่เช้า จรดเย็น ซึ่งก็ไม่ได้รับอาหารซักที จนกระทั่งสุดท้าย
***บิลค่ารักษาคร่าวๆมาประมาณ 79,xxx ไม่รวมค่าหมอ และ จิปาถะ***
พยาบาลนำยาก่อนอาหารมาให่ตอน 4 โมงตรง แต่.......อาหารมื้อแรกมาตอนเย็นประมาณ 6 โมงเย็น กะจะให้หิวตายกันไปเลยทีเดียว และ กินไปตั้งแต่ 4 โมง แถมอาหารมาในรูปแบบข้าวสวย ย่อยง่ายตรงไหน?!
***วันที่ 3 (5 ธันวา) วันสุดท้าย คุณหมอมาตอนเช้า บอกว่าถ้าโอเคแล้ววันนี้กลับได้เลย แต่พอผมถามพยาบาลว่าค่ารักษาทั้งหมดตอนนี้เท่าไร ก็ได้รับคำตอบว่า รอคุณหมอนะคะ ยังไม่ได้ระบุค่าผ่าตัดของคุณหมอค่ะ
อาหารมื้อที่ 2 ข้าวต้ม มาตอนเช้า 9.30น ของวันที่ 3
อาหารมื้อที่ 3 ข้าวต้ม มาตอน 11 โมง ของวันที่ 3
หลังจากนั้น ผมถามว่าค่ารักษายอดสุทธิ ออกมารึยังตอน 11 โมง ทานข้าวเสร็จจะได้ชำระแล้วออกเลย ก็ได้รับคำตอบว่า ยังเหลือค่ายา กับ ค่ารักษาของคุณหมอค่ะ ดำเนินการให้แล้วนะคะ รอซักครู่
รอ.....12.30น เซ็ง หงุดหงิด
รอ..........13.30น ออกไปถามอีกรอบ บอกส่งเรื่องแล้วค่ะ
รอ.................14.30น รอจนอารมณ์เสีย ง่วงเผลอหลับ
ตื่นมา 15.30 น.....เดินออกไปถามอีกรอบ บอกรอในห้องก่อนนะคะ
เวลา 16.40 ได้รับบิลค่ารักษา รวมค่ายา ราคา 1,200 บาทถ้วน แน่นอนว่ายาที่ได้มี ไทลินอล รวมอยู่ และ อื่นๆอีก 3 ถุงเล็กๆ เกี่ยวกับทางเดินอาหาร....
ชำระบิล ใช้เวลา 10 นาที และ ออกจาก รพ.ราม ตอนประมาณ 17.10น ของวันที่ 5 ธันวาคม
รวมค่ารักษา และ ทุกอย่าง ยอดสุทธิ 102,xxx บาท
ขอบคุณ รพ.รามคำแหง คิดว่าครั้งหน้าคงจะไม่ไปเหยียบอีกครับ...รักษาแพงไม่ว่า เพราะจำเป็น แต่รักษาแพง และ บริการห่วยแตกแบบนี้..ลาก่อนครับ
การบริการ + ค่ารักษา พยาบาล รพ.รามคำแหง
รพ.นี้มีชื่ิอพอสมควรในหลายๆอย่าง แถมใกล้ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนอื่นเลยตอนไปนี่คือแฟนอาการแบบว่า จะต้องผ่าแล้วเพราะดูท่าจะไม่ไหว เลยยังไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรมากมาย (มารู้ทีหลังว่าแค่เฉพาะค่าผ่า บลาๆๆ ประมาณ 8x,xxx-9x,xxx สำหรับไส้ติ่ง)
***ก่อนหน้านี้ น้องสาวผมได้ผ่าไส้ติ่งมาเหมือนกัน ที่ รพ.เจ้าพระยา ตรงปิ่นเกล้า ค่าใช้จ่ายประมาณ 4x,xxx สำหรับการผ่าตัด ไม่รวมค่าหมอ และ อื่นๆ ซึ่งถือว่ายังรับได้ แต่ติดที่ค่าห้องเริ่มต้นนอนคืนละ 4,000
ทางตัวผมก็โอเคในเรื่องของค่าห้องพัก และ อื่นๆ ราคายังสมเหตุสมผล เช่น ห้องพัก ราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท และ อาหารอะไรก็ไม่ได้แพงมากจนเวอร์ไป
มันมาติดที่การบริการ และ การวินิจฉัย ซึ่งแปลกประหลาดผิดปรกติ
1. ตอนแรกตรวจในห้องคุณหมอ เพื่อวินิจฉัย หมอกดตรงจุดที่น่าจะตรวจพบว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ซึ่งโอกาสเป็นก็ 80-90% ชัวร์ๆ
2. พาไปเอ็กซ์้เรย์ บอกว่าไส้ติ่งบวม แน่นอน แต่ตอนหลังบอกว่าไม่แน่ใจ
3. พาไปทำ อัลตร้าซาวน์ ซ้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ สุดท้ายก็ยังบอกว่าไม่แน่ใจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบจริงไหม
4. ลากไปทำ CT สแกน ซ้ำอีกรอบให้หนำใจ
รวมแล้ว ค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะตรวจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ ข้อ 2-4 ประมาณ 1x,xxx
ผมไม่รู้ว่าอีกหลายๆ รพ. เค้าบริการ และ วินิจฉัยกันยังไง แต่ว่าเคสน้องสาวผมเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน ไปถึงหมอตรวจวินิจฉัยว่าน่สจะไส้ติ่ง แถมแนะนำว่าทำ CT สแกนเลยไหม จะได้รู้เรื่องเลยทีเดียว พอผ่าตัดเสร็จ นอนไป 1 คืน วันรุ่นขึ้นสามารถทานอาหารเบาๆ อะไรได้ พอลุกเดินได้หน่อย ทางคุณหมอก็ให้กลับได้เลย แถมบริการอะไรอย่างดี ดูแลตลอด เช็ดตัว คอยถามว่าอยากทานอะไร มีให้เลือกตามใจ และ ความต้องการ ปัดกวาดเช็ดถู และ คุณหมอมาเยี่ยมทั้งช่วงเช้าเย็น เพื่อถามอาการ
แต่ที่ รพ.ราม นี้...หลังจากรับการผ่าตัดไป คุณหมอโผล่มาอีกที เช้าวันรุ่นขึ้น และสั่งห้ามดื่มน้ำ และ ทานอาหาร ได้แค่จิบน้ำ ซึ่งพอผมถามไปก็บอก รอดูอาการก่อน ทั้งๆที่แฟนผมเริ่มเดินได้อะไรได้ เข้าห้องน้ำเองได้ และในวันแรกหลังรับการผ่าตัด คุณหมอก็ไม่มาอีกเลย ถามพยาบาลไปว่าจะทานข้าวได้เมื่อไร ได้รับคำตอบแค่ "รอคุณหมออนุญาตินะคะ" และพอถามไปว่า "แล้วคุณหมอจะมาเมื่อไร" ก็ไม่ได้รับคำตอบแน่นอน
สรุป วันหลังรับการผ่าตัดคืนแรก ไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากจิบน้ำ กับ น้ำเกลือที่ห้อยเช้ายันเย็น
คืนที่สอง วันนี้คุณหมอมาตอนเช้าบอกว่ารอดูอาการเหมือนเดิม ถ้าทานข้าวได้อะไรได้ก็จะให้กลับบ้านได้วันพรุ่งนี้?! (อารมณ์มัดมือชกให้นอนต่อไปอีก) แต่พอถามไป ข้าวเช้าก็ยังไม่ให้กินเหมือนเดิม จนแฟนผมมีอาการจุก หิวข้าว และ ปวดหน้าอก จนนึกว่าเป็นโรคกระเพาะเสริมเข้าไปอีก และหมอก็ยังบอกอีกว่าไม่แน่ใจว่าจะเป็นโรคกระเพาะด้วยรึเปล่า ซึ่งหลังจากตรงนี้ ตั้งแต่เช้าผมพยายามขอให้แฟนได้ทานอาหารอ่อนๆตั้งแต่เช้า จรดเย็น ซึ่งก็ไม่ได้รับอาหารซักที จนกระทั่งสุดท้าย
***บิลค่ารักษาคร่าวๆมาประมาณ 79,xxx ไม่รวมค่าหมอ และ จิปาถะ***
พยาบาลนำยาก่อนอาหารมาให่ตอน 4 โมงตรง แต่.......อาหารมื้อแรกมาตอนเย็นประมาณ 6 โมงเย็น กะจะให้หิวตายกันไปเลยทีเดียว และ กินไปตั้งแต่ 4 โมง แถมอาหารมาในรูปแบบข้าวสวย ย่อยง่ายตรงไหน?!
***วันที่ 3 (5 ธันวา) วันสุดท้าย คุณหมอมาตอนเช้า บอกว่าถ้าโอเคแล้ววันนี้กลับได้เลย แต่พอผมถามพยาบาลว่าค่ารักษาทั้งหมดตอนนี้เท่าไร ก็ได้รับคำตอบว่า รอคุณหมอนะคะ ยังไม่ได้ระบุค่าผ่าตัดของคุณหมอค่ะ
อาหารมื้อที่ 2 ข้าวต้ม มาตอนเช้า 9.30น ของวันที่ 3
อาหารมื้อที่ 3 ข้าวต้ม มาตอน 11 โมง ของวันที่ 3
หลังจากนั้น ผมถามว่าค่ารักษายอดสุทธิ ออกมารึยังตอน 11 โมง ทานข้าวเสร็จจะได้ชำระแล้วออกเลย ก็ได้รับคำตอบว่า ยังเหลือค่ายา กับ ค่ารักษาของคุณหมอค่ะ ดำเนินการให้แล้วนะคะ รอซักครู่
รอ.....12.30น เซ็ง หงุดหงิด
รอ..........13.30น ออกไปถามอีกรอบ บอกส่งเรื่องแล้วค่ะ
รอ.................14.30น รอจนอารมณ์เสีย ง่วงเผลอหลับ
ตื่นมา 15.30 น.....เดินออกไปถามอีกรอบ บอกรอในห้องก่อนนะคะ
เวลา 16.40 ได้รับบิลค่ารักษา รวมค่ายา ราคา 1,200 บาทถ้วน แน่นอนว่ายาที่ได้มี ไทลินอล รวมอยู่ และ อื่นๆอีก 3 ถุงเล็กๆ เกี่ยวกับทางเดินอาหาร....
ชำระบิล ใช้เวลา 10 นาที และ ออกจาก รพ.ราม ตอนประมาณ 17.10น ของวันที่ 5 ธันวาคม
รวมค่ารักษา และ ทุกอย่าง ยอดสุทธิ 102,xxx บาท
ขอบคุณ รพ.รามคำแหง คิดว่าครั้งหน้าคงจะไม่ไปเหยียบอีกครับ...รักษาแพงไม่ว่า เพราะจำเป็น แต่รักษาแพง และ บริการห่วยแตกแบบนี้..ลาก่อนครับ