ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิตคู่จากเพื่อนๆชาวพันทิปค่ะ เราคิดมากจนสุขภาพจิตแย่ไปหมดแล้ว
นี่ภูมิหลังนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราเพิ่งแต่งงานมาได้ 1 ปี และใช้ชีวิตคู่แบบแยกกันอยู่ค่ะ แฟนอายุ 34 เราอายุ 29
คบกันมา 11 ปี ถึงได้แต่งงานกัน ตอนเป็นแฟนก็คบกันแบบทางไกลค่ะ
มีแค่สองปีแรกก่อนเรามาเรียนใน กทม. เท่านั้นที่ไปมาหาสู่กันได้ พอเรามาเรียนต่อ ก็ไปมาหากันบ้าง 1-2เดือน/ครั้ง
ช่วงที่คบกัน 4 ปีแรก มีปัญหาเรื่องผู้หญิงบ่อยมาก จนเลิกกันไปพักนึง จนเค้ากลับมาขอโอกาส หลังจากนั้น ไม่มีปัญหาเรื่องนี้อีกเลย
แต่ก็มีเรื่องให้ทะเลาะกันบ้าง เกือบเลิกก็หลายหน เพราะความห่างไกลและไม่เข้าใจกัน
พอเรียนจบ เราเข้าทำงานในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ส่วนแฟนทำธุรกิจค้าขายที่บ้าน ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือตอนล่าง
เราทำงานไปก็มีคนมาจีบบ้าง แต่ก็ไม่ได้คบใคร เพราะยังรักกับแฟนดี ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจกันก็ตาม
ข้ามมาถึงเรื่องแต่งงานเลยนะคะ ด้วยความที่แฟนพาแม่มาคุยกับญาติผู้ใหญ่ฝั่งเรา และทางผู้ใหญ่เห็นว่าคบกันมานานแล้ว แต่งงานเลยก็ดี
เราเองก็ไม่ขัดข้องอะไร แต่ก็ไม่ได้เต็มใจ 100% เพราะถึงจะรัก แต่ไม่แน่ใจว่าจะไปด้วยกันได้ยังไง
เพราะเราเองไม่คิดจะลาออกจากงานที่กำลังมั่นคงและรายได้พอเลี้ยงครอบครัวได้
(เราเป็นลูกคนโต เสาหลักครอบครัวค่ะ น้องยังเรียนอยู่มอปลาย แม่มีโรคประจำตัว ทำงานได้เดือนละ 6000 บ้านอยู่ภาคอีสาน)
ส่วนแฟนก็ค้าขายและทำร้านอินเตอร์เน็ต ไม่สามารถมาอยู่กับเราได้อยู่แล้ว แล้วจะใช้ชีวิตคู่ยังไง
ก่อนจะแต่งงานกันเดือนเดียว เราทะเลาะกัน เค้าว่าเรารังเกียจค้าขายของเค้า เพราะไปทีไรไม่เคยเข้าไปช่วยงานในตลาด
(เราเคยเรียนอยู่แถวนั้น ยายรู้จักคนที่นั่นเยอะ เราเลยไม่กล้าไปค่ะ เพราะอยากจะไว้หน้ายายบ้าง แต่เราช่วยงานที่ร้านเน็ตเต็มที่นะคะ)
เราบอกเค้าไปไม่ได้รังเกียจ หลังแต่งงานจะเข้าไปช่วยแน่นอน แต่เค้าก็ไม่ฟัง ด่าเราจนเราคิดว่า ไม่เอาแล้ว ไม่แต่งแล้ว
พอปรึกษากับแม่ แม่บอกปัญหาแค่นี้ทำไมทนไม่ได้ อยู่กันไปจะทนได้ยังไง
เราเห็นด้วยนะคะ แต่ในใจก็คิดว่า เลิกกันตอนนี้ ดีกว่ามีปัญหากันตอนแต่งงานแล้วไม่ดีกว่าเหรอ
แม่เตรียมงานไว้ค่อนข้างเยอะ และเราเองก็คิดว่าปัญหาคงไม่มีอะไรมาก แยกกันอยู่คงไม่กระทบกระทั่งกันหรอก
จนแต่งงานกันไปจนได้ ปลายปี 2558 เป็นงานแต่งเล็กๆ ใช้เวลาครึ่งวัน
ความรู้สึกในงานแต่งของเจ้าสาว เป็นความรู้สึกที่กระอักกระอ่วนมาก ไม่ดีใจ ไม่ซาบซึ้งอะไร แทบจะไม่ได้ยิ้มเลย ดูจากภาพถ่าย
เราเพิ่งแต่งงานมาได้ 1 ปี และใช้ชีวิตคู่แบบแยกกันอยู่ค่ะ แฟนอายุ 34 เราอายุ 29
คบกันมา 11 ปี ถึงได้แต่งงานกัน ตอนเป็นแฟนก็คบกันแบบทางไกลค่ะ
หลังงานแต่ง ได้อยู่ด้วยกัน 1 อาทิตย์ ก็ต้องแยกย้ายกัน เราทำงานที่ชลบุรี เค้าอยู่บ้านค้าขายและทำร้านเน็ต
ตั้งแต่แต่งงานกัน ช่วงแรกๆมาหาบ้าง จนกระทั่งตอนนี้ 8 เดือนแล้วค่ะที่ไม่มา และน่าจะเจอกันตอนปีใหม่ทีเดียว
ส่วนเรา นั่งรถทัวร์ไปหาเค้าทุกเดือนจนกระทั่งเดือนสิงหาค่ะ แต่ช่วงปลายปีค่าใช้จ่ายเยอะ เราเลยทำงานหนักหน่อย ไม่ได้ไปหาเลย
พอใครรู้ว่า แยกกันอยู่ และแทบจะไม่เจอกันเลย ก็ต่างแปลกใจและงงกับคู่เรามาก
เราเองตอนแรกไม่คิดว่าจะมีปัญหา คิดว่าตัวเองเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่เวลาเหนื่อยท้อ ก็อดน้อยใจไม่ได้
แต่งงานแล้ว แต่เหงายิ่งกว่าตอนเป็นแฟนกันอีก คู่คิด คนปรึกษาก็ไม่มี ให้มาหาบ้าง ก็ปล่อยร้านไม่ได้
อยากมีลูก ก็ไม่กล้ามี กลัวใจตัวเองตอนท้องแล้วต้องอยู่คนเดียว กลัวจะเครียดจนส่งผลถึงเด็ก
เราจะทำยังไงกับชีวิตดีคะ คิดจนสมองจะแตกละ วนเวียนๆอยู่กับเรื่องนี้
ปล. เราไม่สามารถลาออกจากงานได้จริงๆค่ะ ภาระเราเยอะมาก ทางบ้านแฟนก็แย่ ค้าขายไม่ค่อยจะได้กำไร
ส่วนร้านเน็ต เพิ่นลงทุนต่อเติมบ้านเป็นร้าน จากเดิมเคยเช่า ไปมากกว่า 200,000 เราทัดทานก็ไม่ฟัง
(ส่วนตัวเราคิดว่าธุรกิจประเภทนี้กำลังจะตายค่ะ ไม่ควรลงทุนอย่างยิ่ง)
ใครพอจะชี้ทางสว่างให้เราได้ ช่วยทีนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่อ่านเรื่องของเราจนจบ
ชีวิตคู่แบบแยกกันอยู่ มันเหงายิ่งกว่าตอนเป็นแฟนอีกนะคะ ช่วยชี้ทางสว่างให้เราทีค่ะ
นี่ภูมิหลังนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเพิ่งแต่งงานมาได้ 1 ปี และใช้ชีวิตคู่แบบแยกกันอยู่ค่ะ แฟนอายุ 34 เราอายุ 29
คบกันมา 11 ปี ถึงได้แต่งงานกัน ตอนเป็นแฟนก็คบกันแบบทางไกลค่ะ
หลังงานแต่ง ได้อยู่ด้วยกัน 1 อาทิตย์ ก็ต้องแยกย้ายกัน เราทำงานที่ชลบุรี เค้าอยู่บ้านค้าขายและทำร้านเน็ต
ตั้งแต่แต่งงานกัน ช่วงแรกๆมาหาบ้าง จนกระทั่งตอนนี้ 8 เดือนแล้วค่ะที่ไม่มา และน่าจะเจอกันตอนปีใหม่ทีเดียว
ส่วนเรา นั่งรถทัวร์ไปหาเค้าทุกเดือนจนกระทั่งเดือนสิงหาค่ะ แต่ช่วงปลายปีค่าใช้จ่ายเยอะ เราเลยทำงานหนักหน่อย ไม่ได้ไปหาเลย
พอใครรู้ว่า แยกกันอยู่ และแทบจะไม่เจอกันเลย ก็ต่างแปลกใจและงงกับคู่เรามาก
เราเองตอนแรกไม่คิดว่าจะมีปัญหา คิดว่าตัวเองเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่เวลาเหนื่อยท้อ ก็อดน้อยใจไม่ได้
แต่งงานแล้ว แต่เหงายิ่งกว่าตอนเป็นแฟนกันอีก คู่คิด คนปรึกษาก็ไม่มี ให้มาหาบ้าง ก็ปล่อยร้านไม่ได้
อยากมีลูก ก็ไม่กล้ามี กลัวใจตัวเองตอนท้องแล้วต้องอยู่คนเดียว กลัวจะเครียดจนส่งผลถึงเด็ก
เราจะทำยังไงกับชีวิตดีคะ คิดจนสมองจะแตกละ วนเวียนๆอยู่กับเรื่องนี้
ปล. เราไม่สามารถลาออกจากงานได้จริงๆค่ะ ภาระเราเยอะมาก ทางบ้านแฟนก็แย่ ค้าขายไม่ค่อยจะได้กำไร
ส่วนร้านเน็ต เพิ่นลงทุนต่อเติมบ้านเป็นร้าน จากเดิมเคยเช่า ไปมากกว่า 200,000 เราทัดทานก็ไม่ฟัง
(ส่วนตัวเราคิดว่าธุรกิจประเภทนี้กำลังจะตายค่ะ ไม่ควรลงทุนอย่างยิ่ง)
ใครพอจะชี้ทางสว่างให้เราได้ ช่วยทีนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่อ่านเรื่องของเราจนจบ