ไฮสปีดเทรน ไทย-ญี่ปุ่น
คมนาคมหวังญี่ปุ่นหนุนแผนลงทุนไฮสปีดเทรน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รอสรุปเลือกเส้นทางต้นปี 2560
" สำหรับกรอบการทำงานระหว่างไทยและญี่ปุ่นยังเป็นไปตามรูปแบบเดิม คือ คณะทำงานญี่ปุ่นจะเสนอรายงานเรื่องการขนส่งสินค้าและรถไฟความเร็วสูงขนส่งผู้โดยสารฉบับสมบูรณ์ต่อกระทรวงคมนาคม หลังจากนั้นจะขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย. 2560 โดยในเบื้องต้นโครงการความร่วมมือการก่อสร้างทางรถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ใช้วงเงินลงทุน 546,744 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนเส้นทางระยะแรกตั้งแต่ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก 380 กม. ใช้วงเงินลงทุน 277,406 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า
ทางกระทรวงคมนาคมต้องการให้ญี่ปุ่นร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เม็ดเงินลงทุนจำนวนมาก ถ้าหากญี่ปุ่นไม่ร่วมลงทุนอาจส่งผลให้โครงการเกิดขึ้นได้ยาก โดยในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะเดินทางมายังไทย ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี จะถือโอกาสหารือเพื่อยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลญี่ปุ่นร่วมลงทุนโครงการนี้ "
ลุ้นญี่ปุ่นลงทุนไฮสปีดเทรน กทม.-เชียงใหม่.... อ่านต่อได้ที่ :
http://www.posttoday.com/biz/gov/468656
ไฮสปีดเทรน ไทย-จีน
เจรจารถไฟไทย-จีน ไทยต่อรองปลดเงื่อนไข ลงทุนไม่เสียเปรียบจีน ได้ฤกษ์ตอกเข็ม มี.ค. 60
โครงการรถไฟไทย-จีนเจรจาสุดมาราธอน ไทยมุ่งมั่นถ้าจะลงทุนต้องไม่เสียเปรียบ ล่าสุดประชุมร่วมครั้งที่ 16 เห็นเค้าฝันเป็นจริง “อาคม” วางไทม์ไลน์ภายใน มี.ค. 60 ตอกเข็มช่วงแรก 3.5 กม. นำร่องโครงการ
ล่าสุดประชุมร่วมครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า มีการปรับแผนขยับตอกเข็มเริ่มก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) จาก ธ.ค. 59 ไปเป็น มี.ค. 2560 เนื่องจากประเด็นหลักเรื่องแบบก่อสร้าง ร่างสัญญา จ้างออกแบบ ควบคุมงาน ยังไม่เรียบร้อย แต่จะต้องยุติใน ธ.ค. 59 ให้ได้ เพราะยังมีขั้นตอนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเปิดประมูลใน ก.พ. 60
นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุมประจำปีของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC : Joint Committee on Trade, Investment and Economic Cooperation China-Thai) ณ กรุงปักกิ่ง ช่วงวันที่ 7-12 ธ.ค. 2559 ซึ่งในวันที่ 9 ธ.ค.นั้นจะมีการหารือถึงความก้าวหน้าความร่วมมือโครงการรถไฟไทย-จีน พร้อมกับมีการลงนามใน MOC หรือบันทึกความร่วมมือไทย-จีน ยืนยันเจตนารมณ์ว่าไทยจะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ-หนองคายเหมือนเดิม เรื่องนี้จีนกังวล รวมถึงนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวได้เคยหารือถึงประเด็นนี้เช่นกัน เพราเกรงว่าจะไม่สามารถต่อเชื่อมกับรถไฟจีน-ลาว กับไทยได้
“โครงการนี้เจรจากันมาครบ 2 ปีแล้ว ยืดเยื้อ เจรจาไปเรื่อยๆ ถูกวิจารณ์สารพัด เลื่อนตอกเข็มหลายรอบก็เพื่อไม่ให้จีนเอาเปรียบ ไทยคือศูนย์กลางอาเซียน นี่คือแต้มต่อ สำคัญ รถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการที่จะพัฒนายกระดับในหลายๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว คุณภาพชีวิต การค้าการลงทุน รัฐบาล คสช.ผลักดันรถไฟไทย-จีนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของคนไทย ประเทศไทยก่อน ตามเป้าหมายอีกไม่นานจะเห็นกันว่า 2 ปีที่ประชุมกันมาราธอนเพื่อประโยชน์สูงสุด
ที่มา
http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9590000121099
อัพเดทล่าสุด ไฮสปีดเทรน ไทย-ญี่ปุ่น / ไทย-จีน
คมนาคมหวังญี่ปุ่นหนุนแผนลงทุนไฮสปีดเทรน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รอสรุปเลือกเส้นทางต้นปี 2560
" สำหรับกรอบการทำงานระหว่างไทยและญี่ปุ่นยังเป็นไปตามรูปแบบเดิม คือ คณะทำงานญี่ปุ่นจะเสนอรายงานเรื่องการขนส่งสินค้าและรถไฟความเร็วสูงขนส่งผู้โดยสารฉบับสมบูรณ์ต่อกระทรวงคมนาคม หลังจากนั้นจะขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย. 2560 โดยในเบื้องต้นโครงการความร่วมมือการก่อสร้างทางรถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ใช้วงเงินลงทุน 546,744 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนเส้นทางระยะแรกตั้งแต่ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก 380 กม. ใช้วงเงินลงทุน 277,406 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ทางกระทรวงคมนาคมต้องการให้ญี่ปุ่นร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เม็ดเงินลงทุนจำนวนมาก ถ้าหากญี่ปุ่นไม่ร่วมลงทุนอาจส่งผลให้โครงการเกิดขึ้นได้ยาก โดยในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะเดินทางมายังไทย ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี จะถือโอกาสหารือเพื่อยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลญี่ปุ่นร่วมลงทุนโครงการนี้ "
ลุ้นญี่ปุ่นลงทุนไฮสปีดเทรน กทม.-เชียงใหม่.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/biz/gov/468656
ไฮสปีดเทรน ไทย-จีน
เจรจารถไฟไทย-จีน ไทยต่อรองปลดเงื่อนไข ลงทุนไม่เสียเปรียบจีน ได้ฤกษ์ตอกเข็ม มี.ค. 60
โครงการรถไฟไทย-จีนเจรจาสุดมาราธอน ไทยมุ่งมั่นถ้าจะลงทุนต้องไม่เสียเปรียบ ล่าสุดประชุมร่วมครั้งที่ 16 เห็นเค้าฝันเป็นจริง “อาคม” วางไทม์ไลน์ภายใน มี.ค. 60 ตอกเข็มช่วงแรก 3.5 กม. นำร่องโครงการ
ล่าสุดประชุมร่วมครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า มีการปรับแผนขยับตอกเข็มเริ่มก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 3.5 กม. (สถานีกลางดง-ปางอโศก) จาก ธ.ค. 59 ไปเป็น มี.ค. 2560 เนื่องจากประเด็นหลักเรื่องแบบก่อสร้าง ร่างสัญญา จ้างออกแบบ ควบคุมงาน ยังไม่เรียบร้อย แต่จะต้องยุติใน ธ.ค. 59 ให้ได้ เพราะยังมีขั้นตอนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเปิดประมูลใน ก.พ. 60
นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุมประจำปีของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC : Joint Committee on Trade, Investment and Economic Cooperation China-Thai) ณ กรุงปักกิ่ง ช่วงวันที่ 7-12 ธ.ค. 2559 ซึ่งในวันที่ 9 ธ.ค.นั้นจะมีการหารือถึงความก้าวหน้าความร่วมมือโครงการรถไฟไทย-จีน พร้อมกับมีการลงนามใน MOC หรือบันทึกความร่วมมือไทย-จีน ยืนยันเจตนารมณ์ว่าไทยจะก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ-หนองคายเหมือนเดิม เรื่องนี้จีนกังวล รวมถึงนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวได้เคยหารือถึงประเด็นนี้เช่นกัน เพราเกรงว่าจะไม่สามารถต่อเชื่อมกับรถไฟจีน-ลาว กับไทยได้
“โครงการนี้เจรจากันมาครบ 2 ปีแล้ว ยืดเยื้อ เจรจาไปเรื่อยๆ ถูกวิจารณ์สารพัด เลื่อนตอกเข็มหลายรอบก็เพื่อไม่ให้จีนเอาเปรียบ ไทยคือศูนย์กลางอาเซียน นี่คือแต้มต่อ สำคัญ รถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการที่จะพัฒนายกระดับในหลายๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว คุณภาพชีวิต การค้าการลงทุน รัฐบาล คสช.ผลักดันรถไฟไทย-จีนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของคนไทย ประเทศไทยก่อน ตามเป้าหมายอีกไม่นานจะเห็นกันว่า 2 ปีที่ประชุมกันมาราธอนเพื่อประโยชน์สูงสุด
ที่มา http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9590000121099