สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องราวมาแบ่งปันประสบการณ์ และมีคำถามที่ติดค้างอยู่ในใจค่ะ
นี่เป็นกระทู้แรก เขียนไม่เก่งเท่าไหร่
เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายคนหนึ่งค่ะ เราคบกันมาได้ 5 ปีแล้วค่ะ
มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุได้ 2 ขวบแล้ว
ช่วงแรกๆ ที่คบกัน ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ปัญหามาเกิดตอนช่วงตั้งครรภ์ค่ะ
ตอนเราตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เราอยากย้ายออกมาจากครอบครัวของเขา ประมาณแยกออกมาอยู่ส่วนตัว
พอแม่แฟนทราบเข้า ก็ไม่พอใจเรามากค่ะ ไล่เรา ด่าเรา เรียกได้ว่า ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา
ให้เราเลิกกับลูกชายของเขา เพราะเราทำให้ลูกชายเขาต้องลำบากค่ะ ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมากๆ
ซึ่งแน่นอนล่ะว่า ต้องมีผลกระทบต่อลูกในครรภ์ วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ลูกเราดิ้นในครรภ์ของเรา
เราจึงหยุดร้อง และตกลงกับแฟนว่าจะเอายังไง แฟนเราไม่ยอมเลิกค่ะ และเลือกที่ออกมาเช่าห้องอยู่กัน
ข้างนอก ช่วงเวลานั้นมีความสุขมากค่ะ คือเราไม่อึดอัดใจ เรามีสุขภาพจิตดีค่ะ (ตอนเราอยู่บ้านสามี
เราต้องทำงานบ้านทุกวันหยุด และต้องยอมลูกชายเขา และบ้านแฟนค่ะ) เราเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง
ช่วงครรภ์ 6 เดือน เราเริ่มมีอาการเสี่ยงแท้งลูกค่ะ มีเลือดไหลออกมา เราใจไม่ดี กลัวจะเสียลูกไป
เราต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่รพ.เดือนละ 1 สัปดาห์ ก่อนคลอดค่ะ และแน่นอน เราคลอดก่อนระยะเวลา
ที่กำหนด แต่ลูกเราก็แข็งแรง ครบ 32 ประการ และนั่นเป็นวันที่แม่สามีมาเยี่ยมหลานครั้งแรก
เรายอมรับว่า เราไม่สนิทใจ กับแม่สามี เรื่องที่เกิดขึ้นมันยากเกิดทำใจได้ค่ะ แต่เราก็ไม่อะไร
ยอมให้เยี่ยมได้ และสามีเราก็กล่อมให้เรากลับไปอยู่บ้านของเขา เราเห็นแก่ลูกค่ะ เราจึงกลับ
ช่วงแรกๆ เหนื่อยมากค่ะ เลี้ยงเด็กอ่อนไม่ง่ายเลย ซึ่งตอนนั้นแฟนเราก็ไม่ได้ช่วยเลี้ยงอะไร
มืดๆ ก็เริ่มนั่งกินเหล้ากับเพื่อน ทิ้งเราเลี้ยงลูกน้อยจนหลับไป ดึกๆ ถึงเข้าห้องนอนค่ะ
แรกๆ ก็ไม่อะไร พอทนได้ หลังๆ เริ่มถี่ เงินส่งเสียก็ไม่ให้ค่ะ เราใช้เงินเดือนของเรา แยกกระเป๋าเงินกันใช่
มีหนักๆ คือ เริ่มด่าว่าบุพการีของเรา เราคิดจะหนีกลับบ้านหลายครั้ง แต่เราก็สงสารลูก
เขามักขู่เสมอว่าถ้าไป ก็ไปคนเดียว ไม่ให้เอาลูกไปค่ะ พอลูกเริ่มโตขึ้นมานิดนึง เราจึงไปทำเรื่องซื้อบ้านอยู่ค่ะ
ซึ่งเราผ่อนคนละครึ่งกับแฟน เรา 2 คนเริ่มจากศูนย์ นับ 1 ใหม่ เราเริ่มทะเลาะกันมากขึ้น เพราะเขา
ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ทำงานมาเราไม่เคยได้ใช้เงินเขาสักบาทค่ะ นอกจากค่าข้าวตอนเย็น ซึ่งบางครั้ง
เขาออกบ้าง เราออกบ้าง ค่าใช้จ่ายในบ้าน เป็นเราออกเองซะส่วนใหญ่ เราเริ่มทนไม่ไหวค่ะ
เราจึงขอแยกกันอยู่กับแฟนค่ะ และเขาก็พูดว่า เขาจะไม่ส่งค่าบ้านแล้ว เพราะไม่ใช่ชื่อเขา
เขาจะออกแค่ค่าใช้จ่ายของลูก ซึ่งเราก็โอเค แต่เอาจริงๆ เขาก็ไม่ได้ส่งให้ลูกค่ะ ช่วงเวลานั้น เราได้พบ
กับผู้ชายอีกคน ซึ่งเราคุยกันในฐานะพี่น้อง เขาก็ดูแลเราและลูกดีค่ะ แต่เราปิดใจ กลัวการเริ่มต้นใหม่
จึงคงสถานะไว้แค่นั้น มองหน้าลูก แล้วคิดถึงแต่ลูก กลัวไปหมดทุกอย่าง และสุดท้ายก็ต้องกลับมาเลือก
พ่อของลูกค่ะ ถ้าถามว่าเรารักพ่อของลูกไหม เราตอบได้ว่าเราเคยรัก แต่ที่ทนอยู่ทุกวันนี้ เราทำเพื่อลูก
ถึงจะฝืนใจ ก็ดีกว่าปล่อยให้ลูกเป็นเด็กมีปัญหา และกลัวการเริ่มต้นใหม่ และก็ทนเพราะทุกวันนี้
ก็เหมือนเดิม หากินเอง เขาก็เห็นแก่ตัวเหมือนเดิม เราผิดไหมคะ ถ้าเราจะมีรักใหม่ เราผิดไหมคะที่คิดว่า
พ่อของลูกไม่ใช่คนที่ใช่ เราจะผิดไหมที่อยากตามความฝัน เราอยากแต่งงาน ใช้ชีวิตคู่ที่ดีกับใครสักคน
ที่ไม่ใช่พ่อของลูก (เราอยู่กับพ่อของลูกมา ไม่เคยมีงานแต่งงาน และไม่เคยมีสินสอดทองหมั้น พ่อของลูก
ไม่ชอบครอบครัวเรา ดูถูกคนอื่น และเห็นแก่ตัว)
เมื่อพ่อของลูกไม่ใช่คนที่ใช่
นี่เป็นกระทู้แรก เขียนไม่เก่งเท่าไหร่
เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายคนหนึ่งค่ะ เราคบกันมาได้ 5 ปีแล้วค่ะ
มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุได้ 2 ขวบแล้ว
ช่วงแรกๆ ที่คบกัน ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ปัญหามาเกิดตอนช่วงตั้งครรภ์ค่ะ
ตอนเราตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน เราอยากย้ายออกมาจากครอบครัวของเขา ประมาณแยกออกมาอยู่ส่วนตัว
พอแม่แฟนทราบเข้า ก็ไม่พอใจเรามากค่ะ ไล่เรา ด่าเรา เรียกได้ว่า ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา
ให้เราเลิกกับลูกชายของเขา เพราะเราทำให้ลูกชายเขาต้องลำบากค่ะ ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมากๆ
ซึ่งแน่นอนล่ะว่า ต้องมีผลกระทบต่อลูกในครรภ์ วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ลูกเราดิ้นในครรภ์ของเรา
เราจึงหยุดร้อง และตกลงกับแฟนว่าจะเอายังไง แฟนเราไม่ยอมเลิกค่ะ และเลือกที่ออกมาเช่าห้องอยู่กัน
ข้างนอก ช่วงเวลานั้นมีความสุขมากค่ะ คือเราไม่อึดอัดใจ เรามีสุขภาพจิตดีค่ะ (ตอนเราอยู่บ้านสามี
เราต้องทำงานบ้านทุกวันหยุด และต้องยอมลูกชายเขา และบ้านแฟนค่ะ) เราเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง
ช่วงครรภ์ 6 เดือน เราเริ่มมีอาการเสี่ยงแท้งลูกค่ะ มีเลือดไหลออกมา เราใจไม่ดี กลัวจะเสียลูกไป
เราต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่รพ.เดือนละ 1 สัปดาห์ ก่อนคลอดค่ะ และแน่นอน เราคลอดก่อนระยะเวลา
ที่กำหนด แต่ลูกเราก็แข็งแรง ครบ 32 ประการ และนั่นเป็นวันที่แม่สามีมาเยี่ยมหลานครั้งแรก
เรายอมรับว่า เราไม่สนิทใจ กับแม่สามี เรื่องที่เกิดขึ้นมันยากเกิดทำใจได้ค่ะ แต่เราก็ไม่อะไร
ยอมให้เยี่ยมได้ และสามีเราก็กล่อมให้เรากลับไปอยู่บ้านของเขา เราเห็นแก่ลูกค่ะ เราจึงกลับ
ช่วงแรกๆ เหนื่อยมากค่ะ เลี้ยงเด็กอ่อนไม่ง่ายเลย ซึ่งตอนนั้นแฟนเราก็ไม่ได้ช่วยเลี้ยงอะไร
มืดๆ ก็เริ่มนั่งกินเหล้ากับเพื่อน ทิ้งเราเลี้ยงลูกน้อยจนหลับไป ดึกๆ ถึงเข้าห้องนอนค่ะ
แรกๆ ก็ไม่อะไร พอทนได้ หลังๆ เริ่มถี่ เงินส่งเสียก็ไม่ให้ค่ะ เราใช้เงินเดือนของเรา แยกกระเป๋าเงินกันใช่
มีหนักๆ คือ เริ่มด่าว่าบุพการีของเรา เราคิดจะหนีกลับบ้านหลายครั้ง แต่เราก็สงสารลูก
เขามักขู่เสมอว่าถ้าไป ก็ไปคนเดียว ไม่ให้เอาลูกไปค่ะ พอลูกเริ่มโตขึ้นมานิดนึง เราจึงไปทำเรื่องซื้อบ้านอยู่ค่ะ
ซึ่งเราผ่อนคนละครึ่งกับแฟน เรา 2 คนเริ่มจากศูนย์ นับ 1 ใหม่ เราเริ่มทะเลาะกันมากขึ้น เพราะเขา
ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ทำงานมาเราไม่เคยได้ใช้เงินเขาสักบาทค่ะ นอกจากค่าข้าวตอนเย็น ซึ่งบางครั้ง
เขาออกบ้าง เราออกบ้าง ค่าใช้จ่ายในบ้าน เป็นเราออกเองซะส่วนใหญ่ เราเริ่มทนไม่ไหวค่ะ
เราจึงขอแยกกันอยู่กับแฟนค่ะ และเขาก็พูดว่า เขาจะไม่ส่งค่าบ้านแล้ว เพราะไม่ใช่ชื่อเขา
เขาจะออกแค่ค่าใช้จ่ายของลูก ซึ่งเราก็โอเค แต่เอาจริงๆ เขาก็ไม่ได้ส่งให้ลูกค่ะ ช่วงเวลานั้น เราได้พบ
กับผู้ชายอีกคน ซึ่งเราคุยกันในฐานะพี่น้อง เขาก็ดูแลเราและลูกดีค่ะ แต่เราปิดใจ กลัวการเริ่มต้นใหม่
จึงคงสถานะไว้แค่นั้น มองหน้าลูก แล้วคิดถึงแต่ลูก กลัวไปหมดทุกอย่าง และสุดท้ายก็ต้องกลับมาเลือก
พ่อของลูกค่ะ ถ้าถามว่าเรารักพ่อของลูกไหม เราตอบได้ว่าเราเคยรัก แต่ที่ทนอยู่ทุกวันนี้ เราทำเพื่อลูก
ถึงจะฝืนใจ ก็ดีกว่าปล่อยให้ลูกเป็นเด็กมีปัญหา และกลัวการเริ่มต้นใหม่ และก็ทนเพราะทุกวันนี้
ก็เหมือนเดิม หากินเอง เขาก็เห็นแก่ตัวเหมือนเดิม เราผิดไหมคะ ถ้าเราจะมีรักใหม่ เราผิดไหมคะที่คิดว่า
พ่อของลูกไม่ใช่คนที่ใช่ เราจะผิดไหมที่อยากตามความฝัน เราอยากแต่งงาน ใช้ชีวิตคู่ที่ดีกับใครสักคน
ที่ไม่ใช่พ่อของลูก (เราอยู่กับพ่อของลูกมา ไม่เคยมีงานแต่งงาน และไม่เคยมีสินสอดทองหมั้น พ่อของลูก
ไม่ชอบครอบครัวเรา ดูถูกคนอื่น และเห็นแก่ตัว)