เมื่อต้องการวางแผนการเดินทาง เว็บพันทิปเป็นตำราอ้างอิงพูดได้ที่ช่วยเหลือเราได้มาก โดยเฉพาะตรงจุดเริ่มต้นที่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนได้บ้างแต่ละวัน

กระทู้นี้นำเสนอประสบการณ์การเดินทางในเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลินและเมืองใกล้เคียงย้อนกลับไปเมื่อสองปีกว่าๆ (พ.ค. 2557) เนื่องจากเวลาผ่านไปนาน รีวิววิธีการเดินทางหรือค่าใช้จ่ายต่างๆแบบละเอียดน่าจะต้องข้ามไปเพราะจำได้ไม่หมด ผมตั้งใจว่าจะเขียนกระทู้นี้เพื่อแนะนำความเป็นไปได้ของการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆในแต่ละวัน (suggested itineraries) ซึ่งอาจเป็นแนวทางสำหรับช่วงต้นๆของการวางแผนการเดินทางได้ครับ

นี่คือเมืองต่างๆที่ไปมาในทริปนั้นครับ



สายการบิน: Qatar Airways คุณภาพและความสะดวกสบายดีตามมาตรฐานครับ ต่อเครื่องที่กรุงโดฮา ลงที่สนามบิน Tegel กรุงเบอร์ลิน

ผมลงเครื่องตอนหัวค่ำ นั่งรถบัสจากสนามบินเข้าเมืองประมาณ 30 นาที ซื้อตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวได้จากสนามบิน ตอนนั้นราคา 2.60 ยูโร เช็กอินเข้าที่พักย่าน Kurfürstendamm (Ku'damm)

Day 1: Brandenburger Tor - Unter den Linden - Reichstag - Checkpoint Charlie - Bebelplatz - Humboldt Universität - Museuminsel/Berliner Dom - Nikolaiviertel - Gendarmenmarkt



การคมนาคมขนส่งในเมืองที่นั่นสะดวกมาก ส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ติน (U-Bahn) ถ้าขึ้นบ่อยหน่อยก็ซื้อตั๋ววัน ถ้าไม่บ่อยก็ซื้อเที่ยวเดียว เรื่องการไปไหนมาไหนผมมักใช้วิธีปรึกษากับเคาน์เตอร์โรงแรมครับ ยื่นสถานที่ที่ต้องการไปให้เขาดู เขาก็จะช่วยแนะนำลำดับเวลาก่อน-หลังให้ บอกวิธีเดินทาง และเพิ่ม-ลดสถานที่ให้พอเหมาะ ช่วยให้มั่นใจพร้อมลุยขึ้นเยอะ แต่การพูดคุยตรงนี้ใช้เวลาเยอะหน่อย โดยเฉพาะถ้าเราทำการบ้านมาน้อย หรืองุนงงมาก ดังนั้นควรตื่นแต่เช้า หาจังหวะเหมาะๆที่พนักงานไม่ยุ่งเพื่อให้มีเวลาพูดคุยกับเราและไม่รบกวนแขกท่านอื่น บันทึกจุดที่ต้องขึ้นลงรถให้ละเอียดก่อนออกจากโรงแรม



ปากซอยของที่พักครับ มีสถานี U-Bahn Uhlandstraße อยู่ใกล้ๆ เช้านี้ไปรัฐสภาก่อนเลย [ger: Reichstag] พนักงานโรงแรมเขาแนะนำให้ไปขึ้น S-Bahn (รถไฟด่วนในเมือง) ที่สถานีรถไฟ Zoologischer Garten ต้องเดินประมาณ 5 นาที





ถึงสถานีรถไฟแล้วก็ดูตารางรถ สัญลักษณ์พาหนะที่เราจะขึ้นนะครับ





ซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ตู้นี้



ลงรถแล้วเดินเลาะแม่น้ำ Spree ก็จะเห็นตึกรัฐสภาอยู่ไกลๆนั้นแล้ว





และนี่คือที่ทำการของรัฐบาลเยอรมนีในปัจจุบัน ซึ่งมีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1884 อวดโฉมสำแดงความเกรียงไกรของอาณาจักรเยอรมันในยุคนั้น ก่อนจะถูกเผาทำลายและเสียหายด้วยระเบิดในสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อปี 1933 แสดงว่าที่เห็นตอนนี้คือเวอร์ชั่นบูรณะนะครับ ความเท่มันอยู่ตรงนี้ เห็นโดมรูปไข่ตรงกลางข้างหลังไหมครับ ช่วงซ่อมแซมในทศวรรษ 90s สถาปนิกชาวอังกฤษ Sir Norman Foster เป็นผู้สร้างสรรค์ผสมผสานความทันสมัยให้เข้ากับอาคารประวัติศาสตร์หลังนี้



แต่ช้าก่อน อดเข้าไปชมข้างในครับ โดนไล่ เขาบอกให้ไปลงทะเบียนนำเอกสารมายื่นถึงให้เข้า แต่ไม่ยากครับ เดิมข้ามถนนมาฝั่งนี้จะเจอสำนักงาน ต่อคิวนิดหน่อย ยื่นหนังสือเดินทางแสดงความจำนงเข้าเยี่ยมชม แจ้งรอบที่เราสะดวกเข้าชม แค่นี้ก็เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็จะพิมพ์และออกเอกสารให้เรา



ได้รอบเข้าชมโดมรัฐสภาช่วงบ่าย เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่อีกที

เป้าหมายถัดไปคือประตูบรันเดนบูร์ก [ger: Brandenburger Tor] สัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลิน ไม่ไกลกันครับ เดินไปได้

ระหว่างทางมีอนุสรณ์สถานรำลึกถึงผู้ถูกสังหารในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มีป้ายนิเทศให้อ่าน (ภาษาอังกฤษ/เยอรมัน) เหมือนงานจัดแสดงย่อมๆครับ มีความหดหู่ซ่อนอยู่ลึกๆครับ







เห็นด้านหลังของประตูแล้วครับ



ประตูบรันเดนบูร์กตั้งอยู่บนจัตุรัส Pariser Platz ซึ่งบริเวณนั้นเป็นสถานที่ทำการของสถานทูตต่างๆ ใจกลางของประตูใหญ่ประดับด้วยประติมากรรมสูงเหนือประตูหกเมตรนามว่า Quadriga เป็นเทพีบนรถม้าศึก สัญลักษณ์แห่งสันติสุข

งานใหญ่ๆของเมืองหรือของชาติจัดกันที่นี่ครับ ไม่ว่าจะเป็นงานกีฬา การเมือง หรือบันเทิง







ไฟจราจรรูปหนุ่มน้อยสวมหมวก [ger: Ampelmänchen] มีให้เห็นเฉพาะในเมืองที่ตั้งอยู่ในอดีตเยอรมนีตะวันออก





ถนน Unter den Linden สามารถนำทางเราจากประตูใหญ่ยาวไปตามสถานที่สำคัญต่างๆอีกหลายที่เลย





ตอนนั้นที่ผมไปกำลังมีจัดเลือกตั้งผู้แทนยุโรปครับ ถ่ายรูปป้ายหาเสียงมาฝากด้วย

CDU หรือพรรคคริสเตียนเดโมแครต [ger: Christlich-Demokratische Union] คือพรรคที่นางอังเกล่า แมร์เคิล นายกหญิงแกร่งของเยอรมนีสังกัด







ตอนนี้เดินมาโผล่ที่ Checkpoint-Charlie แล้วครับ แถวนั้นยังเหลือกำแพงเบอร์ลินบางส่วนพาให้นึกถึงประสบการณ์อันขมขื่นที่ชาวเมืองนี้เคยประสบมา





ช่วงสงครามเย็นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กำแพงเบอร์ลินถูกก่อขึ้นแยกเมืองฝั่งตะวันออกออกจากฝั่งตะวันตก เบอร์ลินถูกยึดครองโดยสี่มหาอำนาจผู้ชนะสงคราม (สหรัฐฯ โซเวียต อังกฤษ ฝรั่งเศส) ด่านตรวจลักษณะนี้ตั้งขึ้นเพื่อตรวจตราการสัญจรเข้าออกของผู้คนอย่างเข้มงวดระหว่างพรมแดนตะวันตกของสหรัฐฯและพรมแดนคอมมิวนิสต์ฝั่งตะวันออกของโซเวียต







ปัจจุบันด่านตรวจที่เคยมีบรรยากาศสุดตึงเครียดได้กลายมาเป็นแลนด์มาร์กของเมืองหลวงสุดคูลไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนนายทหารที่เคยยืนคุมเข้มอย่างโหดในสมัยก่อน ตอนนี้ก็กลายร่างเป็นนายแบบใจดีให้นักท่องเที่ยวเซลฟี่ด้วยได้





ออกไปตรงปากซอยมีจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับสงครามเย็นและเบอร์ลินหลังสงครามโลกครั้งที่สอง (ภาษาอังกฤษ/เยอรมัน) บรรยายภาพเหตุการณ์ละเอียดดี ได้ทั้งความรู้สึกและความรู้ ผมชอบโปสการ์ดภาพถ่ายขาวดำที่มีขายข้างหน้างาน แนะนำให้เลือกซื้อครับ













แล้วก็เดินกลับไปที่รัฐสภาใหม่ ใกล้ถึงเวลาขึ้นโดมตามที่นัดไว้แล้ว เดินวนไปจ้า







ถ่ายรูปเจาะลึก เก็บรายละเอียดเพิ่มเติม





รอบนี้ไม่โดนน้ารปภ.ไล่แล้ว เย้ มีใบผ่านทางเรียบร้อย นี่เป็นตัวอาคารข้างในครับ แลดูทันสมัย จากนั้นเดินขึ้นลิฟท์



มีหูฟังบรรยายประกอบด้วย บุคคลปริศนาที่เป็นผู้บรรยายเขาจะสะกดรอยตามเราไป เขารู้ตลอดว่าเราอยู่ตรงไหน และบงการเราให้หันดูซ้ายขวาได้ตามจุดที่เรายืนอยู่



เดินวนไปอีกแล้วครับท่านผู้ชมที่เคารพรัก เพลิดเพลินไม่เบา

















วิวเมืองจากข้างบนด้านนอก ว้าวๆ







ออกมาจากรัฐสภาแล้วครับ ลานกว้างๆด้านหน้ามีชื่อว่า Platz der Republik เหมาะแก่กิจกรรมนันทนาการ นั่งกินหมูปิ้ง





เดี๋ยวจะกลับไปเดินถนน Unter den Linden อีกทีนะครับ ไปเริ่มใหม่ที่ประตูบันเดนบูร์กนะ (รีสตาร์ท.. อีกทีได้ม้ายยย)

เดินแถวนี้จะพบอนุสรณ์รำลึกถึงผู้ถูกเข่นฆ่า ผู้กล้า ผู้เสียสละต่างๆ ในช่วงเวลาที่ชาวเบอร์ลินต้องแบกรับผลพวงจากสงคราม







เศร้า น้ำตาจะไหล.. หิวข้าว

ซื้อนี่กินข้างทางรองท้องไปก่อน ต้องไปอีกหลายที่ อร่อยดีครับ