ขอเริ่มกระทู้ด้วยเพลงของ Keane ที่เป็นซาวน์แทรคของหนังเรื่องนี้แล้วกันค่ะ
ขอรีวิวแบบบ้านๆแล้วกันนะ คิดคำสวยๆไม่เก่ง 555
*รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล ผ่านการวิเคราะห์นิดหน่อยด้วยความรู้สึกเชื่อมโยงส่วนตัวนะคะ
เรื่องราวของเด็กชายวัย 12-13 ที่เจอเรื่องราวหนักหน่วงในชีวิตพร้อมกันหลายเรื่อง
เราเข้าไปดูเรื่องนี้ด้วยความคาดหวังประมาณนึง เพราะว่าซื้อหนังสือมาอ่านก่อนแล้วด้วย แล้วตัวหนังสือก็ทำให้เราไม่ผิดหวัง
อ่านถึงตอนใกล้จบก็ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล แต่อาจจะไม่เก็ทในหนังสือบางจุดแค่นั้น
ตัวหนังเราว่าเดินเรื่องค่อนข้างเร็ว ไม่น่าเบื่อเท่าไหร่ มอนสเตอร์โผล่มาก็เข้าประเด็นเลย ก็คือโผล่มาเพื่อเล่านิทาน 3 เรื่องให้คอเนอร์ฟัง
แล้วก็ให้คอเนอร์เล่าเรื่องที่ 4 ให้มอนสเตอร์ฟัง แต่เรื่องที่เล่า ต้องเป็นความจริงของคอเนอร์เอง
ภาพสวย สวยมาก เราสังเกตหลายซีน เราว่าวางคอมโพสสวย หลายฉากที่ zoom in มากๆก็สวย วิช่วลเอฟเฟคต์มอนสเตอร์ดี
แต่ดีตามมาตรฐานนะ อนิเมชั่นสีน้ำดีมากๆๆๆ แต่ตามท้องเรื่อง ไม่ได้ดีแบบ outstanding ขนาดนั้น(อย่างว่าแหละ มันไม่ใช่จุดขายยย)
ช่วงที่หนังถ่ายตอนที่คอเนอร์วาดรูปก็สวยค่ะ ดูไปสงสัยไปว่าเป็น 3D หรือให้คนมาวาดจริงๆแล้วถ่ายเอา
ส่วนความเหมาะสมของเนื้อเรื่องต่ออายุคนดู เราว่าไม่ได้ดาร์คหรือหดหู่อะไร เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนมาก แต่ต้องตีความประมาณนึง
เราว่าเด็กดูได้ แต่ต้องเป็นเด็กโตหน่อย เราว่าอายุซัก 13-14 ปีขึ้นไปน่าจะพอไหว แต่ดูแล้วเก็ทมั้ยอีกเรื่องนึงนะ 5555
**ไม่ใช่หนังแฟนตาซีสดใสสวยงามนะคะ**
*ต่อไปเป็นการวิเคราะห์แบบที่เราเข้าใจ อาจจะสปอยล์นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แน่นอนว่ามอนสเตอร์ไม่มีจริง เราคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนในจินตนาการของคอเนอร์มากกว่า
เท่าที่เราเข้าใจ เราคิดว่าคอเนอร์สร้างมอนสเตอร์นี้ขึ้นมา น่าจะด้วยความทรงจำในวัยเด็ก เรื่องเล่าก็อาจจะอิงกับความทรงจำวัยเด็ก
อาจจะเป็นเรื่องที่แม่เคยเล่าให้ฟัง(อิงจากสมุดวาดภาพของแม่คอเนอร์ตอนเด็ก)
เราคิดว่าคอเนอร์คงหวังพึ่งมอนสเตอร์ต้นยิวนี้ให้พาตัวเองไปหาทางออกหรือจุดจบ ที่หวังว่าจะจบในแบบที่ตัวเองหวังได้
แต่ที่ผ่านมาคอเนอร์กำลังหลอกตัวเองและไม่ยอมรับความจริง เราว่าเหมือนเด็กคนนึงที่ต้องเจอเรื่อราวหนักๆเกินจะรับไหวอะค่ะ
ทั้งเรื่องแม่ เรื่องที่พ่อไม่ค่อยมาหา เรื่องที่อาจจะต้องย้ายไปอยู่กับยาย(ที่เคร่งครัด ไม่ยืดหยุ่น เห็นๆอยู่ว่าเข้ากับเด็กไม่ได้) แล้วก็เรื่องที่ถูกแกล้งที่โรงเรียน
คอเนอร์เลยสร้างมอนสเตอร์นี้ขึ้นมา เราว่าเหมือนกำลังไขว่คว้าปาฏิหารย์(อาจจะอย่างสุดท้าย)น่ะค่ะ
ส่วนเรื่องที่คอเนอร์ถลาเข้าไปหาเพื่อนที่เคยแกล้งเค้าแล้วบอกว่าอยากให้อยู่ในสายตา แบบว่าอยากให้แกล้งเหมือนเดิม
เราว่าเป็นวิธีที่คอเนอร์ใช้หนีจากเรื่องทางบ้านค่ะ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าได้รับการลงโทษ (เรื่องที่อยากให้เรื่องของแม่จบ)
เพื่อให้ไม่ต้องคิดเรื่องที่บ้าน แล้วก็เพื่อให้มีใครซักคนยอมรับการมีตัวตนอยู่(เพราะสังเกตว่าในโรงเรียนคอเนอร์ไม่ใช่คนที่มีเพื่อนเยอะค่ะ)
*อันนี้คิดเอาเองจากที่ดูในหนังนะคะ
ฉากที่ทำให้เราปล่อยน้ำตาฉากแรกคือฉากที่คอเนอร์พังข้าวของโดยที่ไม่รู้ตัว อันนี้เราคุยกับเพื่อนคนนึงมา เค้าว่าเค้าดูแล้วหงุดหงิด เพราะคอเนอร์งี่เง่า 5555 แต่เราว่าบางทีการกระทำที่ขับเคลื่อนโดยอารมณ์บางทีก็ไม่มีเหตุผลรองรับนะคะ จริงๆอาการนี้เราค่อนข้าง related เลย
เหมือนเสียใจแล้วก็โกรธมาก แต่หาทางระบายความรู้สึกไม่ได้ เราว่าคอเนอร์รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีคนผิดจริงๆ เลยมาลงกับสิ่งของ
อาจจะไม่ชอบยายอยู่แล้ว ยิ่งเก็บอารมณ์จากพ่อ มาเจอบ้านที่มีแต่กฏของยาย เจอเรื่องเล่ามอนสเตอร์ เลยน่าจะอยู่ในอารมณ์ที่ความโมโหบังตาค่ะ
(แต่ฉากนี้อยากให้ขยี้ให้เยอะกว่านี้หน่อย รู้สึกว่าคอเนอร์ยังระบายอารมณ์ไม่สุดเลย 555)
หลังจากนั้นก็ร้องไห้ประปรายค่ะ แต่ที่มาท่อแตกตอนท้ายคือฉากที่คอเนอร์ยอมรับกับมอนสเตอร์เองถึงความจริงที่เค้าอยากให้เรื่องนี้จบ ซีนนี้ขยี้ใจโอเค 555
เราว่าหนังค่อนข้างสอนให้เรายอมรับความเศร้า ความผิดหวังได้เยอะ แบบว่านี่แหละชีวิต ต้องอยู่กับมันแล้วก็ข้ามผ่านมันไปให้ได้
แล้วก็เรื่องของชีวิตที่มีหลายด้าน การที่เด็กที่เคยเรียนรู้แค่ถูก ผิด ขาว ดำ ต้องมารับรู้ว่าจริงๆโลกนี้เป็นสีเทา(ซึ่งหลายๆเรื่องก็ยากจะยอมรับ เพราะขัดกับความเชื่อที่เคยได้รับรู้มา) หลายๆเรื่องไม่น่าเชื่อแต่มีเหตุผลรองรับการกระทำอยู่ อะไรแบบนี้ค่ะ
ใครที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ พกทิชชู่ไปหน่อยก็ดีนะคะ อย่าเดินร้องไห้เลอะเทอะแบบเรา
ส่วนสาวๆ อะไรที่กันน้ำได้ก็ใช้ค่ะ วันนี้เราใช้อายไลเนอร์ของ mee กับมาสคาร่าของ heroine ใช้ดีค่ะ กันน้ำ ไม่ละลายเป็นแพนด้า อิอิ
แถมอีกอย่างที่อันนี้ดูแล้วสงสัยค่ะ สำหรับคนที่ดูแล้วเด้อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซีนสุดท้ายที่คอเนอร์มองดูรูปถ่ายในห้องนอนใหม่ ที่รูปผู้ชายแก่อยู่รูปนึงค่ะ สงสัยว่าอาจจะเป็นคุณตาของคอเนอร์รึเปล่า
แล้วผู้ชายแก่คนนี้คือ เลียม นีสัน รึเปล่าคะ
[CR] [รีวิว] A monster calls ร้องไห้ขี้มูกยืดเดินออกจากโรง (ค่อนข้างอวยและสปอยล์)
ขอเริ่มกระทู้ด้วยเพลงของ Keane ที่เป็นซาวน์แทรคของหนังเรื่องนี้แล้วกันค่ะ
ขอรีวิวแบบบ้านๆแล้วกันนะ คิดคำสวยๆไม่เก่ง 555
*รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล ผ่านการวิเคราะห์นิดหน่อยด้วยความรู้สึกเชื่อมโยงส่วนตัวนะคะ
เรื่องราวของเด็กชายวัย 12-13 ที่เจอเรื่องราวหนักหน่วงในชีวิตพร้อมกันหลายเรื่อง
เราเข้าไปดูเรื่องนี้ด้วยความคาดหวังประมาณนึง เพราะว่าซื้อหนังสือมาอ่านก่อนแล้วด้วย แล้วตัวหนังสือก็ทำให้เราไม่ผิดหวัง
อ่านถึงตอนใกล้จบก็ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล แต่อาจจะไม่เก็ทในหนังสือบางจุดแค่นั้น
ตัวหนังเราว่าเดินเรื่องค่อนข้างเร็ว ไม่น่าเบื่อเท่าไหร่ มอนสเตอร์โผล่มาก็เข้าประเด็นเลย ก็คือโผล่มาเพื่อเล่านิทาน 3 เรื่องให้คอเนอร์ฟัง
แล้วก็ให้คอเนอร์เล่าเรื่องที่ 4 ให้มอนสเตอร์ฟัง แต่เรื่องที่เล่า ต้องเป็นความจริงของคอเนอร์เอง
ภาพสวย สวยมาก เราสังเกตหลายซีน เราว่าวางคอมโพสสวย หลายฉากที่ zoom in มากๆก็สวย วิช่วลเอฟเฟคต์มอนสเตอร์ดี
แต่ดีตามมาตรฐานนะ อนิเมชั่นสีน้ำดีมากๆๆๆ แต่ตามท้องเรื่อง ไม่ได้ดีแบบ outstanding ขนาดนั้น(อย่างว่าแหละ มันไม่ใช่จุดขายยย)
ช่วงที่หนังถ่ายตอนที่คอเนอร์วาดรูปก็สวยค่ะ ดูไปสงสัยไปว่าเป็น 3D หรือให้คนมาวาดจริงๆแล้วถ่ายเอา
ส่วนความเหมาะสมของเนื้อเรื่องต่ออายุคนดู เราว่าไม่ได้ดาร์คหรือหดหู่อะไร เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อนมาก แต่ต้องตีความประมาณนึง
เราว่าเด็กดูได้ แต่ต้องเป็นเด็กโตหน่อย เราว่าอายุซัก 13-14 ปีขึ้นไปน่าจะพอไหว แต่ดูแล้วเก็ทมั้ยอีกเรื่องนึงนะ 5555
**ไม่ใช่หนังแฟนตาซีสดใสสวยงามนะคะ**
*ต่อไปเป็นการวิเคราะห์แบบที่เราเข้าใจ อาจจะสปอยล์นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใครที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ พกทิชชู่ไปหน่อยก็ดีนะคะ อย่าเดินร้องไห้เลอะเทอะแบบเรา
ส่วนสาวๆ อะไรที่กันน้ำได้ก็ใช้ค่ะ วันนี้เราใช้อายไลเนอร์ของ mee กับมาสคาร่าของ heroine ใช้ดีค่ะ กันน้ำ ไม่ละลายเป็นแพนด้า อิอิ
แถมอีกอย่างที่อันนี้ดูแล้วสงสัยค่ะ สำหรับคนที่ดูแล้วเด้อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้