สวัสดีครับ
ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเป็นทหารเกณฑ์ จับได้ใบแดง ระยะเวลา 2 ปี ก่อนเข้ารับการคัดเลือก
สุขภาพร่างกายของผมแข็งแรงปกติมาก ไม่มีอาการใดๆแสดงถึงความบกพร่องทางสุขภาพร่างกาย
จนเมื่อผมได้เข้ามาเป็นทหารเกณฑ์แล้ว สุขภาพก็ทรุดลงอย่างหนัก และได้ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบติดเชื้อ
(PCP) จึงทำให้ทราบว่า ผมเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ และมีโรคแทรกซ้อน (ผมไม่รู้ตัวมาก่อนว่าติดเชื้อก่อนเข้ารับการเกณฑ์ทหาร)
เมื่อแพทย์ทำการตรวจโรคโดยละเอียด ผลการตรวจมีดังนี้
- โรคเอดส์ cd4 = 9 , virus load = 50,000
- ไวรัสตับอักเสบบี
- ซิฟิลิส
- มะเร็งผิวหนัง (kamosi sacoma) ขึ้นเฉพาะบนใบหน้า
เมื่อออกจากนอน รพ. ผมก็ทำการยื่นใบรับรองแพทย์ ให้กับหน่วยพยาบาลของทางค่าย
และแจ้งว่า ผมมีความประสงค์อยากปลดประจำการ และยินดีให้ลงในปลดว่าป่วยเป็นโรคนี้
เพราะผมอยากกลับไปพักผ่อนรักษาตัวที่บ้าน สุขภาพของผมไม่เอื้ออำนวยจริงๆ
พยาบาลทางค่ายไม่ให้คำแนะนำใดๆในการปลดกับผม และให้ผมปิดเรื่องนี้เป็นความลับ
กับเพื่อนๆทหาร ทั้งๆที่ตัวผมยินดีเปิดเผย และให้ผมทำทุกอย่างเหมือนคนปกติ เพื่อนทำอะไรได้
ผมก็ต้องทำได้เช่นกัน (ทำงานหนัก หรือ โดนทำโทษรวม และ เข้ายาม) และบอกผมว่า
รอให้ป่วยหนักกว่านี้ก่อนค่อยกลับ (ตัวผมไม่มีตุ่ม PPE ขึ้นนะครับ) ถือว่าโชคดีมาก มองภายนอกก็
เหมือนทหารที่ถูกฝึกหนักๆและตัวดำเท่านั้น
ผมไม่เครียดกับอาการป่วยที่เป็นเลย ผมรับได้ตั้งแต่รู้ผล และพยายามศึกษาหาข้อมูลทำความเข้าใจ
เกี่ยวกับโรคที่เป็น แต่ผมเครียดกับความเป็นอยู่ในค่าย ที่ต้องอยู่ภายใต้ความกดดันทุกวัน มีโทษทุกวัน
เหนื่อยทั้งงาน เหนื่อยทั้งใจ แถมต้องสู้กับสุขภาพของร่างกาย
จนเมื่อสภาพจิตใจของผมทนไม่ไหว เมื่อเจอเรื่องราวต่างๆทำร้ายจิตใจมากมาย ผมเกิดภาวะเครียด
และอยากทานยาเพื่อฆ่าตัวตาย ผมโทรไปลาพี่สาว พี่สาวบอกว่าถ้าไม่ไหวก็กลับมาบ้าน กับมาบ้านเรา
มาตั้งสติที่บ้านก่อน ผมจึงได้ทำการหนีออกนอกกรมกอง
ผมหนีไปเป็นระยะเวลา 1 เดือน และได้กลับเข้าค่ายเอง รับโทษโดยการเข้าเรือนจำตามกฎระเบียบ
และให้ผู้ปกครอง ทำการเจรจากับหัวหน้าฝ่ายปกครองว่าทำเช่นไรได้บ้างในกรณีป่วยแบบนี้
คำตอบที่ได้มาคือให้แพทย์ทำการวินิจฉัยปลดอย่างเดียว ซึ่งแพทย์ที่ รพ. บอกว่าไม่สามารถทำให้ได้
แพทย์มีหน้าที่แค่รักษา และ ออกใบรับรองว่าป่วยจริง เรื่องการปลดเป็นธุรการของทางค่าย
ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ผมทนอยู่ด้วยความทรมานกายและใจมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว
ด้วยสาเหตุที่ว่า
- ผมหนีกลับบ้านไปก่อน กำลังจะทำเรื่องให้แล้ว
(แต่เมื่อผมกลับมาและรับโทษตามระเบียบแล้ว ทำไมไม่ทำเรื่องให้ผมต่อ) หรือผมมีสิทธิ์แค่ครั้งเดียว
- สุขภาพภายนอกของผมดูปกติดีมาก ไม่ต่างจากคนทั่วไป และโรคนี้ก็รักษาได้
- ผมไม่ได้ยื่นเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะไม่มีผู้ใดในค่ายให้คำแนะนำเลย ว่าต้องทำเช่นไรบ้าง
- งานที่ผมทำหนักมาก เป็นงานก่อสร้าง ซึ่งตัวผมทำไม่ไหว (ทุกคนรับรู้ว่าผมป่วยเป็นอะไร ผมเปิดเผยเอง)
- ผมไม่สามารถเข้าเวรยามได้ เพราะยาต้านที่ทานไม่ออกฤทธิ์กดปลายประสาท ทำให้ผมเมา
แต่ผมก็ต้องฝืนทำเมื่อได้รับคำสั่งมา
-ผมเคยสอบถามเพื่อนทหารหน่วยอื่นที่ป่วยเหมือนกันเวลาเจอที่ รพ. เขาบอกว่า เขายื่นใบรับรองแพทย์
และได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านแต่ไม่ปลด หรือ บางหน่วยก็ปลดประจำการไปเลย
- ผมไม่สามารถร้องเรียนใดๆได้เลย เรื่องของผมถูกปิดอยู่ปกครอง และไม่ส่งเรื่องผมไปพิจารณากับ ผอ.หน่วย
และผมก็ไม่สามารถเข้าพบ ผอ.หน่วยได้เช่นกัน เพราะพลทหารไม่มีสิทธิ์เข้าพบ
ผมมืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วครับ ถามว่าผมอยากกลับบ้านมากใช่มั้ย ผมตอบเลยว่าใช่
ผมอยากรักษาสุขภาพกายและใจไปร่วมกัน ผมไม่ได้นำเรื่องมาพูดให้ภาพรวมของกองทัพเสียหายแต่อย่างใด
แต่ผมก็อยากจะร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวผม ผมก็ห่วงสุขภาพและชีวิตของผมเช่นกัน
ใครที่มีประสบการณ์ หรือ ความรู้ ผมขอคำแนะนำหน่อยครับ ผมไม่รู้จะดำเนินการเช่นไรแล้วจริงๆ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ
พลทหารป่วยเป็นเอดส์อยากปลดประจำการต้องทำเช่นไร?
ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเป็นทหารเกณฑ์ จับได้ใบแดง ระยะเวลา 2 ปี ก่อนเข้ารับการคัดเลือก
สุขภาพร่างกายของผมแข็งแรงปกติมาก ไม่มีอาการใดๆแสดงถึงความบกพร่องทางสุขภาพร่างกาย
จนเมื่อผมได้เข้ามาเป็นทหารเกณฑ์แล้ว สุขภาพก็ทรุดลงอย่างหนัก และได้ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบติดเชื้อ
(PCP) จึงทำให้ทราบว่า ผมเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ และมีโรคแทรกซ้อน (ผมไม่รู้ตัวมาก่อนว่าติดเชื้อก่อนเข้ารับการเกณฑ์ทหาร)
เมื่อแพทย์ทำการตรวจโรคโดยละเอียด ผลการตรวจมีดังนี้
- โรคเอดส์ cd4 = 9 , virus load = 50,000
- ไวรัสตับอักเสบบี
- ซิฟิลิส
- มะเร็งผิวหนัง (kamosi sacoma) ขึ้นเฉพาะบนใบหน้า
เมื่อออกจากนอน รพ. ผมก็ทำการยื่นใบรับรองแพทย์ ให้กับหน่วยพยาบาลของทางค่าย
และแจ้งว่า ผมมีความประสงค์อยากปลดประจำการ และยินดีให้ลงในปลดว่าป่วยเป็นโรคนี้
เพราะผมอยากกลับไปพักผ่อนรักษาตัวที่บ้าน สุขภาพของผมไม่เอื้ออำนวยจริงๆ
พยาบาลทางค่ายไม่ให้คำแนะนำใดๆในการปลดกับผม และให้ผมปิดเรื่องนี้เป็นความลับ
กับเพื่อนๆทหาร ทั้งๆที่ตัวผมยินดีเปิดเผย และให้ผมทำทุกอย่างเหมือนคนปกติ เพื่อนทำอะไรได้
ผมก็ต้องทำได้เช่นกัน (ทำงานหนัก หรือ โดนทำโทษรวม และ เข้ายาม) และบอกผมว่า
รอให้ป่วยหนักกว่านี้ก่อนค่อยกลับ (ตัวผมไม่มีตุ่ม PPE ขึ้นนะครับ) ถือว่าโชคดีมาก มองภายนอกก็
เหมือนทหารที่ถูกฝึกหนักๆและตัวดำเท่านั้น
ผมไม่เครียดกับอาการป่วยที่เป็นเลย ผมรับได้ตั้งแต่รู้ผล และพยายามศึกษาหาข้อมูลทำความเข้าใจ
เกี่ยวกับโรคที่เป็น แต่ผมเครียดกับความเป็นอยู่ในค่าย ที่ต้องอยู่ภายใต้ความกดดันทุกวัน มีโทษทุกวัน
เหนื่อยทั้งงาน เหนื่อยทั้งใจ แถมต้องสู้กับสุขภาพของร่างกาย
จนเมื่อสภาพจิตใจของผมทนไม่ไหว เมื่อเจอเรื่องราวต่างๆทำร้ายจิตใจมากมาย ผมเกิดภาวะเครียด
และอยากทานยาเพื่อฆ่าตัวตาย ผมโทรไปลาพี่สาว พี่สาวบอกว่าถ้าไม่ไหวก็กลับมาบ้าน กับมาบ้านเรา
มาตั้งสติที่บ้านก่อน ผมจึงได้ทำการหนีออกนอกกรมกอง
ผมหนีไปเป็นระยะเวลา 1 เดือน และได้กลับเข้าค่ายเอง รับโทษโดยการเข้าเรือนจำตามกฎระเบียบ
และให้ผู้ปกครอง ทำการเจรจากับหัวหน้าฝ่ายปกครองว่าทำเช่นไรได้บ้างในกรณีป่วยแบบนี้
คำตอบที่ได้มาคือให้แพทย์ทำการวินิจฉัยปลดอย่างเดียว ซึ่งแพทย์ที่ รพ. บอกว่าไม่สามารถทำให้ได้
แพทย์มีหน้าที่แค่รักษา และ ออกใบรับรองว่าป่วยจริง เรื่องการปลดเป็นธุรการของทางค่าย
ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ผมทนอยู่ด้วยความทรมานกายและใจมาเป็นระยะเวลา 1 ปีแล้ว
ด้วยสาเหตุที่ว่า
- ผมหนีกลับบ้านไปก่อน กำลังจะทำเรื่องให้แล้ว
(แต่เมื่อผมกลับมาและรับโทษตามระเบียบแล้ว ทำไมไม่ทำเรื่องให้ผมต่อ) หรือผมมีสิทธิ์แค่ครั้งเดียว
- สุขภาพภายนอกของผมดูปกติดีมาก ไม่ต่างจากคนทั่วไป และโรคนี้ก็รักษาได้
- ผมไม่ได้ยื่นเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะไม่มีผู้ใดในค่ายให้คำแนะนำเลย ว่าต้องทำเช่นไรบ้าง
- งานที่ผมทำหนักมาก เป็นงานก่อสร้าง ซึ่งตัวผมทำไม่ไหว (ทุกคนรับรู้ว่าผมป่วยเป็นอะไร ผมเปิดเผยเอง)
- ผมไม่สามารถเข้าเวรยามได้ เพราะยาต้านที่ทานไม่ออกฤทธิ์กดปลายประสาท ทำให้ผมเมา
แต่ผมก็ต้องฝืนทำเมื่อได้รับคำสั่งมา
-ผมเคยสอบถามเพื่อนทหารหน่วยอื่นที่ป่วยเหมือนกันเวลาเจอที่ รพ. เขาบอกว่า เขายื่นใบรับรองแพทย์
และได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านแต่ไม่ปลด หรือ บางหน่วยก็ปลดประจำการไปเลย
- ผมไม่สามารถร้องเรียนใดๆได้เลย เรื่องของผมถูกปิดอยู่ปกครอง และไม่ส่งเรื่องผมไปพิจารณากับ ผอ.หน่วย
และผมก็ไม่สามารถเข้าพบ ผอ.หน่วยได้เช่นกัน เพราะพลทหารไม่มีสิทธิ์เข้าพบ
ผมมืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วครับ ถามว่าผมอยากกลับบ้านมากใช่มั้ย ผมตอบเลยว่าใช่
ผมอยากรักษาสุขภาพกายและใจไปร่วมกัน ผมไม่ได้นำเรื่องมาพูดให้ภาพรวมของกองทัพเสียหายแต่อย่างใด
แต่ผมก็อยากจะร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวผม ผมก็ห่วงสุขภาพและชีวิตของผมเช่นกัน
ใครที่มีประสบการณ์ หรือ ความรู้ ผมขอคำแนะนำหน่อยครับ ผมไม่รู้จะดำเนินการเช่นไรแล้วจริงๆ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ