กระทู้นี้เขียนสักพักแล้วค่ะ แต่ช่วงที่จะลงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 สวรรคต เลยหมดอารมณ์เขียน ลงรูป อะไรต่อ เรากะจะลงก่อนที่ Berlin Marathon ปี 2017 จะเปิดรับสมัคร ปรากฏว่าไม่ทันแล้วค่ะ
พอดีช่วงนี้เป็นช่วงที่เค้าประกาศผล lottery พอดี พี่นักวิ่งคึกคักกันมากเพราะได้ไปกันเยอะมาก เลยรวบรวมความขยันโพสกระทู้นี้ คนรู้จักกรุณาอย่าทัก เพราะอายค่ะ เลยขอเบลอหน้า ชื่อทั้งหมดนะคะ
ไม่วิ่งมาราธอนแล้วจะมารีวิวอะไร??
เริ่มจากสามีเป็นนักวิ่งค่ะ วิ่งค่อนข้างทนใช้ได้ พอวิ่งพ้น half ปุ๊บเราตัดสินใจทันทีว่าเค้าวิ่ง marathon ได้แน่นอน เรามีประสบการณ์วิ่งมาก่อน แต่เลิกไปก่อน (ไปโยคะแทน) ทีนี้ในกลุ่มพี่ๆที่รู้จัก ก็จะมีคนเคยวิ่งโตเกียวมาราธอน เราว่าดีเหมือนกันเราได้ไปเที่ยวด้วยเว้ย เราก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ ทีนี้ตัวเราไม่ใช่นักวิ่ง จะไปถามโน่นนี่มาก บางทีก็เกรงใจค่ะ อาศัยหาข้อมูลเอาเองทั้งๆที่ไม่ได้วิ่งนี่แหล่ะ ศัพท์บางอย่างเรายังไม่รู้จักเลยค่ะ (เอาเป็นว่า งาน Expo ยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร)
สรุปก็คือเราข้อมูลแน่นมาก และก่อนหน้านี้พยายาม search หาข้อมูล ก็ไม่เจอแบบที่จะเขียนต่อไปนี้ เลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับคนที่จะไปลองวิ่งมาราธอนต่างประเทศ ส่วนพี่ๆน้องๆคนไหนโปรๆแล้ว อยากเพิ่มเติมแก้ไขข้อมูลก็โปรดแนะนำค่ะ
พอลองอ่านมากๆก็รู้ว่าในโลกนี้จะมีงานวิ่งมาราธอนที่เรียกว่า World Major Marathon อยู่ 6 งานค่ะ ตอนอ่านแรกๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละงานมีจุดเด่นอย่างไร แต่ตอนตัดสินใจ Tokyo Marathon ปิดรับสมัครไปแล้ว คิวต่อไปคือ Berlin เราเลยรอสมัครค่ะ การสมัครจะเป็นแบบ lottery คือให้ลงชื่อ ณ ช่วงเวลาหนึ่งแล้วประกาศผู้โชคดีโดยการสุ่ม วันสมัครก็ลองตามๆจาก facebook ของงานค่ะ
สำหรับปีนี้ lottery ประกาศผลไปแล้วเมื่อวานค่ะ (2 ธ.ค. 2559)
***ความผิดพลาดประการแรก*** เมื่อคิดจะวิ่งมาราธอน Major (หรือแม้แต่จอมบึงก็ตาม) สิ่งแรกที่ควรทำคือ จองโรงแรมค่ะ รู้วันให้จองเลย แบบ free cancellation เพราะราคาของโรงแรมจะพุ่งปรี๊ดดดดดดทันทีหลังประกาศผล lottery ส่วน location ของโรงแรมเราแนะนำให้เดินไปจุดปล่อยตัวได้ Berlin Marathon รร.ที่เด็ดที่สุดคือ Kempinski ค่ะ ถ้างบถึงก็เอาเลย ถ้าไม่สู้ก็ห่างไปหน่อยก็ได้ค่ะ เราก็ไม่ได้พักที่นี่ พัก Hilton ซึ่งห่างไปหน่อยแต่เดินได้ แต่อาศัย Kempinski เข้าห้องน้ำและนั่งพักเพราะพี่ในแก๊งค์พักที่นี่ค่ะ (ช่วงวิ่งซี้ซั้วเข้าไม่ได้ค่ะ มีจนท.ข้างหน้า พี่เค้าให้ key card ไว้ จนท.จะขอดูค่ะ)
เวลาสมัครเค้าจะให้ sign up มี log in กับ password นะคะ จำให้ดีๆอย่าลืม ต่อไปจะมีความสำคัญ เราก็เลือกๆตาม check list ซึ่งไม่ได้จดไว้ แต่คร่าวๆก็จะมี ชื่อ เพศ อายุ ชื่อคลับวิ่ง(ถ้ามี) ถ้าเป็นมาราธอนแรก ก็จะมี estimated time ที่คิดว่าว่าจะวิ่งได้ ให้เลือกสั่งเสื้อล่วงหน้า มีเสื้อ event, finisher, jacket มากมาย ตอนเราสมัครอ่านแล้วงง เสื้อไรบ้างวะเยอะจัง แต่ก็สั่งๆไป ราคาประมาณตัวละ 30 ยูโร เลือกยืม chip และต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเลยทันทีเป็นค่าสมัครและค่าของที่สั่งค่ะ กดไปมาก็หลายบาทอยู่
***(อาจจะเป็น)ความผิดพลาดประการที่ 2*** เสื้อมีขายในงาน expo นะคะ และร้าน Adidas ในเมืองก็มีขายค่ะ ในงานวิ่งใกล้จุดเข้าเส้นชัยก็มีเสื้อ event กับเสื้อ finisher ขาย ได้ลองก่อนสำหรับคนกะขนาดไม่ค่อยถูก เราว่าร้าน Adidas ในเมืองคนน้อยสุดค่ะ ซื้อสะดวก ในงานคนเยอะ แต่ก็ลองได้เร็ว คิวจ่ายเงินสั้น สรุปซื้อทีหลังสะดวกกว่าค่ะ
เสร็จแล้วก็นั่งรอ (อย่าลืมจองรร.นะคะ) พอวันประกาศผลก็มี email ซึ่งมันอาจจะอยู่ใน junk สรุปว่าไม่ได้ แป่ววววว แต่ๆๆๆ อย่าเพิ่งเสียใจ ใน email จะบอกมาด้วยว่า ยังเหลือหนทางสำหรับผู้ไม่ได้ lottery ว่ามีอะไรบ้าง เช่นไปกับ travel partners ที่เป็นพันธมิตร หรือวิ่งให้กับ charity และมีข้อหนึ่งที่สนใจมากคือ Donate and run คือเค้าจะเปิดเพิ่มประมาณ 1000 คนและให้ Donate เงินเพิ่ม 158 ยูโร โดย 60ยูโรจะบริจาคเข้าการกุศล สรุปสั้นๆคือ จ่ายเงินเพิ่มหน่อย ยังมีโอกาสแก้ตัว ซึ่งถ้าเทียบกับ charity ของ Tokyo Marathon ซึ่งต้องบริจาค 100000เยนแล้วถือว่าถูกกว่ามาก เราเลยเลือกว่าจะลองวิธีนี้ก่อน แล้วถ้าไม่ได้ค่อยคิดว่าจะเอาไงต่อ
****** ปีนี้ donate and run เปิด 9โมงเช้า วันที่ 7 ธค 2559 เท่ากับบ่าย 3 บ้านเรานะคะ ********
พอถึงวันที่กำหนด เรามีธุระต้องทำค่ะ เลยแบก notebook ไปด้วยซึ่งสำคัญมากกกก เพราะสุดท้ายทำรายการผ่านมือถือไม่ได้ ให้หา link รอไว้เลย เค้าจะเปิดเวลา 9 โมงเช้าบ้านเค้า เท่ากับที่ไทยบ่าย 3 โมงตรงพอถึงเวลา link จะเปิดทันที งานนี้ใครมาก่อนได้ก่อน ไม่ใช่ lottery แล้ว ปรากฏว่าต้อง log in จำได้มั้ยคะว่าบอกให้จำ log in และ password ไว้ดีๆ เราก็ใส่ๆข้อมูลไปในมือถือ แต่มือก็จิ้ม notebook ไปด้วย (คือเป็นคน multitasking จริงๆ) ปรากฏว่าในมือถือไม่สามารถ check box อันนึงได้ เพราะมันกดหน้าจอให้ไหลไปตรงนั้นไม่ได้ค่ะ!!! เราเลยหันไป notebook กดไปจนกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเสร็จ เวปค้าง!!! ค้างไปเลยค่ะ เรา refresh ไปเรื่อยๆ ด้วยปสก.จากการจองบัตร Maroon 5 กดๆๆๆจนคิดว่าไม่เอาแล้วตอนบ่าย 3 ครึ่งไม่สำเร็จ เลยเดินไปเรียนโยคะ ปรากฏว่าจำเวลาผิด คลาสเริ่มบ่าย 3 เลยมาเปิดคอม refresh ใหม่ ปรากฏว่าสำเร็จค่ะ ตอนบ่าย 3 โมง 40 นาที ที่รู้เพราะมี sms ตัดบัตรเครดิต และ email confirm เรียบร้อย
***ความผิดพลาดประการที่ 3 (ของนักวิ่งหลายๆท่าน)*** หา net แรงๆและ refresh หนักๆค่ะ 40 นาทีผ่านไปอย่าได้ท้อค่ะเราอยากไปเที่ยว เอ๊ยยย อยากวิ่งค่ะ
สรุปว่าได้วิ่งค่ะ จ่ายตังเยอะกว่าชาวบ้านนิดหน่อยแต่ถือว่าทำบุญ เราจะรู้ล่วงหน้าเกือบปีเลยค่ะ (สมัครตค. วิ่ง กย. ปีหน้า) นักวิ่งก็ซ้อมไป เราก็หาข้อมูลเรื่อยเที่ยว ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน วีซ่าอะไรไป ซึ่ง....เราไม่ได้ทำค่ะ 5555 เนื่องจากเป็นสายชิลล์ ก็จะมาคิดแพลนใกล้ๆ ซึ่งช่วงนั้นเที่ยวหนักมากค่ะ กค.ไปกรีซ สค.ไปเคนย่า กย.วิ่งเบอร์ลิน สุดท้ายไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย โชคดีที่สามีเป็นนักวิ่งสายชิลล์ คือ ไม่เครียดมาก ไม่ได้ต้องพัก
ออมแรง นอนเยอะ ซ้อมตามตาราง ออกแนวเรื่อยๆค่ะ สรุปกลับจาก เคนย่า 2 สัปดาห์ ก็ขึ้นเครื่องต่อทริปเบอร์ลินเลย ใน 2 สัปดาห์นี้มีซ้อมยาว 35k ด้วยนะเออ
อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว!!!! อันนี้ที่ kenya ค่ะ กลับมา 2 อาทิตย์บินต่อทริปมาราธอนเลย
***ความผิดพลาดประการที่ 4*** อย่าไปล่วงหน้านานมาก
เนื่องจากเราอยากเที่ยวไงคะ นี่เลย ไป Amsterdam ก่อนเลย 5 วัน แล้วค่อยไป Berlin นักวิ่งเค้าไม่แนะนำกันค่ะ ไปก่อนสัก 2 วันพอ ช่วงมีงาน Expo แล้วจะเที่ยวค่อยเที่ยวต่อไรงี้ ตอนนั้นใจเราอยากเที่ยวไงคะ จองๆไปเลย โชคดีที่สามีเป็นสายชิลล์อย่างที่บอก ตอนแรกเรารู้สึกผิด ที่พาเที่ยวก่อน พอวิ่งเสร็จเค้าก็มาบอกว่า ไม่เกี่ยวนะ เค้าวิ่งได้ไม่รู้สึกอะไร แต่นักวิ่งคนอื่นเค้าไม่ทำกันค่ะ
Amsterdam ไปลอง michelin star ชื่อร้าน Ron Gastrobar อีตารอนนี้ติสสสสมากกกก คือเปิดร้านได้ 3 ดาวอยู่ดีๆ พี่แกปิดร้านเฉย มาเปิดเป็น gastrobar อาหารราคาไม่แพง มิชลินยังตามมาให้ดาวแกดวงนึง เลยขอลองหน่อย ขนมอันนี้เค้าเรียก surprised egg ค่ะ เปลือกเป็นช็อคโกแล็ตขาว ไข่แดงทำจาก passion fruit เก๋มาก เป็นยางมะตูมด้วย อ้อ ร้านนี้อาหารที่แพงที่สุดคือต้มข่าไก่ค่ะ แต่เราไม่ได้สั่งอ่ะนะ
ตัดฉับไปเบอร์ลินเลยนะคะ งานแรกที่ทุกคนต้องไปคืองาน Expo ค่ะ ไอ้เราก็เคยแต่ไปรับบิบๆ มารู้จักคำว่า Expo ก็คราวนี้ งานจะจัด พฤ. ศ. ส. ของสัปดาห์ที่วิ่ง (วิ่งวันอา.) email จะแนะนำให้ไปรับวัน พฤ. หรือศ. เพราะคนจะน้อยกว่า เราเลยไปวันที่ถึงคือวันศ.ค่ะ แต่มีพี่ที่ไปวันส.ก็ไม่ได้คนเยอะอะไรนะคะ
ก่อนไปก็โหลด app Berlin Marathon ได้ใช้ต่อเนื่องค่ะ ดูแผนที่ map นั่งรถใต้ดิน จากรร.ที่พักสถานีเดียวถึงค่ะ ถึงแล้วไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ นักวิ่งเพียบบบบ มีรั้วกั้นเป็นทางเดินเข้างานได้เลยค่ะ
พอถึงปุ๊บ จะมีแถวแยกทันที เฉพาะนักวิ่งเท่านั้นที่จะเข้าไปรับบิบได้ โดยต้องแสดง startpass (อันนี้ก็ศัพท์ใหม่ของเราเหมือนกันค่ะ ไม่เคยรู้จักมาก่อน) ซึ่งได้ email ก่อนและ passport ตัวเราก็ไปนั่งรอ นัดกันให้ดีค่ะ
ช่วงไปรับใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ สามีบอกว่าพอเห็นเป็นคนไทยก็สวัสดีค่ะมาเลย ที่เหลือก็พูดเยอรมันหมด แต่ bib จะ print ให้ตรงนั้น ไม่ต้องมานั่งหา แล้วก็จะมีของให้หยิบๆ พวกคู่มือไรงี้ พร้อมถุงพลาสติก ให้ติดชื่อค่ะ ในถุงมี bib chip ให้ร้อยกับเชือกรองเท้า ถุงนี้จะใช้ฝากของในวันวิ่งด้วยค่ะ
จะมี wrist band ติดกับข้อมือให้ด้วย นักวิ่งห้ามถอดจนกว่าจะวิ่งจบ (คือต้องใส่ตั้งแต่งาน expo จนวิ่งจบเลย) ถ้าไม่มีจะเข้า start point ได้ไม่ได้ค่ะ คงเป็นการ confirm ว่าเป็นคนๆเดียวกับเจ้าของ bib ตัวจริง
พอออกมาก็เดินเล่นงาน Expo จะ งานใหญ่มากกกกกกก มีของทุกอย่างเกี่ยวกับการวิ่งให้เลือกซื้อ ถ้าเป็นนักช้อปก็เผื่อเวลาไปเดินหลายชม.หน่อยค่ะ ของน่าซื้อมาก สามีเราไม่ชอบซื้อของ ยังเสร็จไปหลายรายการ อย่าลืมเดินไปเอาเสื้อที่สั่งไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ จะได้คูปองลด 5 ยูโร เอามาซื้อ adidas ในงานด้วย (อันนี้คงเป็นข้อดีของการสั่งเสื้อล่วงหน้า)
รองเท้า adidas limited edition ของงานนี้ค่ะ ประมาณ 140ยูโร ไม่ได้ซื้อค่ะ
รถ BMW ให้จับ ถ่ายรูป นั่ง เปิดปิดตามสบายค่ะ
วันรุ่งขึ้นคือวันก่อนวิ่ง ก็เดิน shopping ค่ะ คนใส่ wristband กันเต็มไปหมด นักวิ่ง load carb ไป เราไม่วิ่งแต่ก็ load ค่ะ
แวะร้าน Nike ถ้าซื้อเสื้อเค้าจะ screen ชื่อให้ฟรีค่ะ เลยได้กันมาคนละตัว เอาไว้ใส่วิ่งเลยพรุ่งนี้ เสื้อที่ถือคือเสื้อ Nike screen ชื่อ เสื้อสี้ส้มที่ใส่คือเสื้อ event ค่ะ
วันรุ่งขึ้นก็ตื่นเช้ามากกกกกก เพื่อเดินไป start point ค่ะ ก็โหลดอาหารบุฟเฟต์รร.ให้เรียบร้อย ตัวเราพัก hilton ก็เดินสัก 10 นาทีไปเจออีกกลุ่มที่ kempinski ค่ะ พี่เค้าให้ได้กุญแจ kempinski ไว้ ซึ่งสะดวกมาก เรามาพัก เข้าห้องน้ำอะไรที่นี่เพราะใกล้มาก ช่วงมีงานเค้าตรวจกุญแจก่อนเข้ารร.ด้วยค่ะ
พอส่งนักวิ่งเราก็นัดกันที่ km 7 เราก็เดินไปรอค่ะ
กลุ่มนี้มาก่อนเลยค่ะ
รถนำคณะ leaders elite runners ทั้งหลายค่ะ คนขับมันส์มากกก ชูมือชวนให้คนดูส่งเสียงกัน
[img]http://f.ptcdn.info/662/047/000/ohmc49txen6DXyX0oZL-o.jpg[/i
Review 43rd Berlin Marathon เบอร์ลินมาราธอน จากคนที่ไม่วิ่งมาราธอน
พอดีช่วงนี้เป็นช่วงที่เค้าประกาศผล lottery พอดี พี่นักวิ่งคึกคักกันมากเพราะได้ไปกันเยอะมาก เลยรวบรวมความขยันโพสกระทู้นี้ คนรู้จักกรุณาอย่าทัก เพราะอายค่ะ เลยขอเบลอหน้า ชื่อทั้งหมดนะคะ
ไม่วิ่งมาราธอนแล้วจะมารีวิวอะไร??
เริ่มจากสามีเป็นนักวิ่งค่ะ วิ่งค่อนข้างทนใช้ได้ พอวิ่งพ้น half ปุ๊บเราตัดสินใจทันทีว่าเค้าวิ่ง marathon ได้แน่นอน เรามีประสบการณ์วิ่งมาก่อน แต่เลิกไปก่อน (ไปโยคะแทน) ทีนี้ในกลุ่มพี่ๆที่รู้จัก ก็จะมีคนเคยวิ่งโตเกียวมาราธอน เราว่าดีเหมือนกันเราได้ไปเที่ยวด้วยเว้ย เราก็เริ่มหาข้อมูลค่ะ ทีนี้ตัวเราไม่ใช่นักวิ่ง จะไปถามโน่นนี่มาก บางทีก็เกรงใจค่ะ อาศัยหาข้อมูลเอาเองทั้งๆที่ไม่ได้วิ่งนี่แหล่ะ ศัพท์บางอย่างเรายังไม่รู้จักเลยค่ะ (เอาเป็นว่า งาน Expo ยังไม่รู้เลยว่าคืออะไร)
สรุปก็คือเราข้อมูลแน่นมาก และก่อนหน้านี้พยายาม search หาข้อมูล ก็ไม่เจอแบบที่จะเขียนต่อไปนี้ เลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับคนที่จะไปลองวิ่งมาราธอนต่างประเทศ ส่วนพี่ๆน้องๆคนไหนโปรๆแล้ว อยากเพิ่มเติมแก้ไขข้อมูลก็โปรดแนะนำค่ะ
พอลองอ่านมากๆก็รู้ว่าในโลกนี้จะมีงานวิ่งมาราธอนที่เรียกว่า World Major Marathon อยู่ 6 งานค่ะ ตอนอ่านแรกๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละงานมีจุดเด่นอย่างไร แต่ตอนตัดสินใจ Tokyo Marathon ปิดรับสมัครไปแล้ว คิวต่อไปคือ Berlin เราเลยรอสมัครค่ะ การสมัครจะเป็นแบบ lottery คือให้ลงชื่อ ณ ช่วงเวลาหนึ่งแล้วประกาศผู้โชคดีโดยการสุ่ม วันสมัครก็ลองตามๆจาก facebook ของงานค่ะ
สำหรับปีนี้ lottery ประกาศผลไปแล้วเมื่อวานค่ะ (2 ธ.ค. 2559)
***ความผิดพลาดประการแรก*** เมื่อคิดจะวิ่งมาราธอน Major (หรือแม้แต่จอมบึงก็ตาม) สิ่งแรกที่ควรทำคือ จองโรงแรมค่ะ รู้วันให้จองเลย แบบ free cancellation เพราะราคาของโรงแรมจะพุ่งปรี๊ดดดดดดทันทีหลังประกาศผล lottery ส่วน location ของโรงแรมเราแนะนำให้เดินไปจุดปล่อยตัวได้ Berlin Marathon รร.ที่เด็ดที่สุดคือ Kempinski ค่ะ ถ้างบถึงก็เอาเลย ถ้าไม่สู้ก็ห่างไปหน่อยก็ได้ค่ะ เราก็ไม่ได้พักที่นี่ พัก Hilton ซึ่งห่างไปหน่อยแต่เดินได้ แต่อาศัย Kempinski เข้าห้องน้ำและนั่งพักเพราะพี่ในแก๊งค์พักที่นี่ค่ะ (ช่วงวิ่งซี้ซั้วเข้าไม่ได้ค่ะ มีจนท.ข้างหน้า พี่เค้าให้ key card ไว้ จนท.จะขอดูค่ะ)
เวลาสมัครเค้าจะให้ sign up มี log in กับ password นะคะ จำให้ดีๆอย่าลืม ต่อไปจะมีความสำคัญ เราก็เลือกๆตาม check list ซึ่งไม่ได้จดไว้ แต่คร่าวๆก็จะมี ชื่อ เพศ อายุ ชื่อคลับวิ่ง(ถ้ามี) ถ้าเป็นมาราธอนแรก ก็จะมี estimated time ที่คิดว่าว่าจะวิ่งได้ ให้เลือกสั่งเสื้อล่วงหน้า มีเสื้อ event, finisher, jacket มากมาย ตอนเราสมัครอ่านแล้วงง เสื้อไรบ้างวะเยอะจัง แต่ก็สั่งๆไป ราคาประมาณตัวละ 30 ยูโร เลือกยืม chip และต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเลยทันทีเป็นค่าสมัครและค่าของที่สั่งค่ะ กดไปมาก็หลายบาทอยู่
***(อาจจะเป็น)ความผิดพลาดประการที่ 2*** เสื้อมีขายในงาน expo นะคะ และร้าน Adidas ในเมืองก็มีขายค่ะ ในงานวิ่งใกล้จุดเข้าเส้นชัยก็มีเสื้อ event กับเสื้อ finisher ขาย ได้ลองก่อนสำหรับคนกะขนาดไม่ค่อยถูก เราว่าร้าน Adidas ในเมืองคนน้อยสุดค่ะ ซื้อสะดวก ในงานคนเยอะ แต่ก็ลองได้เร็ว คิวจ่ายเงินสั้น สรุปซื้อทีหลังสะดวกกว่าค่ะ
เสร็จแล้วก็นั่งรอ (อย่าลืมจองรร.นะคะ) พอวันประกาศผลก็มี email ซึ่งมันอาจจะอยู่ใน junk สรุปว่าไม่ได้ แป่ววววว แต่ๆๆๆ อย่าเพิ่งเสียใจ ใน email จะบอกมาด้วยว่า ยังเหลือหนทางสำหรับผู้ไม่ได้ lottery ว่ามีอะไรบ้าง เช่นไปกับ travel partners ที่เป็นพันธมิตร หรือวิ่งให้กับ charity และมีข้อหนึ่งที่สนใจมากคือ Donate and run คือเค้าจะเปิดเพิ่มประมาณ 1000 คนและให้ Donate เงินเพิ่ม 158 ยูโร โดย 60ยูโรจะบริจาคเข้าการกุศล สรุปสั้นๆคือ จ่ายเงินเพิ่มหน่อย ยังมีโอกาสแก้ตัว ซึ่งถ้าเทียบกับ charity ของ Tokyo Marathon ซึ่งต้องบริจาค 100000เยนแล้วถือว่าถูกกว่ามาก เราเลยเลือกว่าจะลองวิธีนี้ก่อน แล้วถ้าไม่ได้ค่อยคิดว่าจะเอาไงต่อ
****** ปีนี้ donate and run เปิด 9โมงเช้า วันที่ 7 ธค 2559 เท่ากับบ่าย 3 บ้านเรานะคะ ********
พอถึงวันที่กำหนด เรามีธุระต้องทำค่ะ เลยแบก notebook ไปด้วยซึ่งสำคัญมากกกก เพราะสุดท้ายทำรายการผ่านมือถือไม่ได้ ให้หา link รอไว้เลย เค้าจะเปิดเวลา 9 โมงเช้าบ้านเค้า เท่ากับที่ไทยบ่าย 3 โมงตรงพอถึงเวลา link จะเปิดทันที งานนี้ใครมาก่อนได้ก่อน ไม่ใช่ lottery แล้ว ปรากฏว่าต้อง log in จำได้มั้ยคะว่าบอกให้จำ log in และ password ไว้ดีๆ เราก็ใส่ๆข้อมูลไปในมือถือ แต่มือก็จิ้ม notebook ไปด้วย (คือเป็นคน multitasking จริงๆ) ปรากฏว่าในมือถือไม่สามารถ check box อันนึงได้ เพราะมันกดหน้าจอให้ไหลไปตรงนั้นไม่ได้ค่ะ!!! เราเลยหันไป notebook กดไปจนกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเสร็จ เวปค้าง!!! ค้างไปเลยค่ะ เรา refresh ไปเรื่อยๆ ด้วยปสก.จากการจองบัตร Maroon 5 กดๆๆๆจนคิดว่าไม่เอาแล้วตอนบ่าย 3 ครึ่งไม่สำเร็จ เลยเดินไปเรียนโยคะ ปรากฏว่าจำเวลาผิด คลาสเริ่มบ่าย 3 เลยมาเปิดคอม refresh ใหม่ ปรากฏว่าสำเร็จค่ะ ตอนบ่าย 3 โมง 40 นาที ที่รู้เพราะมี sms ตัดบัตรเครดิต และ email confirm เรียบร้อย
***ความผิดพลาดประการที่ 3 (ของนักวิ่งหลายๆท่าน)*** หา net แรงๆและ refresh หนักๆค่ะ 40 นาทีผ่านไปอย่าได้ท้อค่ะเราอยากไปเที่ยว เอ๊ยยย อยากวิ่งค่ะ
สรุปว่าได้วิ่งค่ะ จ่ายตังเยอะกว่าชาวบ้านนิดหน่อยแต่ถือว่าทำบุญ เราจะรู้ล่วงหน้าเกือบปีเลยค่ะ (สมัครตค. วิ่ง กย. ปีหน้า) นักวิ่งก็ซ้อมไป เราก็หาข้อมูลเรื่อยเที่ยว ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน วีซ่าอะไรไป ซึ่ง....เราไม่ได้ทำค่ะ 5555 เนื่องจากเป็นสายชิลล์ ก็จะมาคิดแพลนใกล้ๆ ซึ่งช่วงนั้นเที่ยวหนักมากค่ะ กค.ไปกรีซ สค.ไปเคนย่า กย.วิ่งเบอร์ลิน สุดท้ายไม่ได้หาข้อมูลอะไรเลย โชคดีที่สามีเป็นนักวิ่งสายชิลล์ คือ ไม่เครียดมาก ไม่ได้ต้องพัก
ออมแรง นอนเยอะ ซ้อมตามตาราง ออกแนวเรื่อยๆค่ะ สรุปกลับจาก เคนย่า 2 สัปดาห์ ก็ขึ้นเครื่องต่อทริปเบอร์ลินเลย ใน 2 สัปดาห์นี้มีซ้อมยาว 35k ด้วยนะเออ
อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว!!!! อันนี้ที่ kenya ค่ะ กลับมา 2 อาทิตย์บินต่อทริปมาราธอนเลย
***ความผิดพลาดประการที่ 4*** อย่าไปล่วงหน้านานมาก
เนื่องจากเราอยากเที่ยวไงคะ นี่เลย ไป Amsterdam ก่อนเลย 5 วัน แล้วค่อยไป Berlin นักวิ่งเค้าไม่แนะนำกันค่ะ ไปก่อนสัก 2 วันพอ ช่วงมีงาน Expo แล้วจะเที่ยวค่อยเที่ยวต่อไรงี้ ตอนนั้นใจเราอยากเที่ยวไงคะ จองๆไปเลย โชคดีที่สามีเป็นสายชิลล์อย่างที่บอก ตอนแรกเรารู้สึกผิด ที่พาเที่ยวก่อน พอวิ่งเสร็จเค้าก็มาบอกว่า ไม่เกี่ยวนะ เค้าวิ่งได้ไม่รู้สึกอะไร แต่นักวิ่งคนอื่นเค้าไม่ทำกันค่ะ
Amsterdam ไปลอง michelin star ชื่อร้าน Ron Gastrobar อีตารอนนี้ติสสสสมากกกก คือเปิดร้านได้ 3 ดาวอยู่ดีๆ พี่แกปิดร้านเฉย มาเปิดเป็น gastrobar อาหารราคาไม่แพง มิชลินยังตามมาให้ดาวแกดวงนึง เลยขอลองหน่อย ขนมอันนี้เค้าเรียก surprised egg ค่ะ เปลือกเป็นช็อคโกแล็ตขาว ไข่แดงทำจาก passion fruit เก๋มาก เป็นยางมะตูมด้วย อ้อ ร้านนี้อาหารที่แพงที่สุดคือต้มข่าไก่ค่ะ แต่เราไม่ได้สั่งอ่ะนะ
ตัดฉับไปเบอร์ลินเลยนะคะ งานแรกที่ทุกคนต้องไปคืองาน Expo ค่ะ ไอ้เราก็เคยแต่ไปรับบิบๆ มารู้จักคำว่า Expo ก็คราวนี้ งานจะจัด พฤ. ศ. ส. ของสัปดาห์ที่วิ่ง (วิ่งวันอา.) email จะแนะนำให้ไปรับวัน พฤ. หรือศ. เพราะคนจะน้อยกว่า เราเลยไปวันที่ถึงคือวันศ.ค่ะ แต่มีพี่ที่ไปวันส.ก็ไม่ได้คนเยอะอะไรนะคะ
ก่อนไปก็โหลด app Berlin Marathon ได้ใช้ต่อเนื่องค่ะ ดูแผนที่ map นั่งรถใต้ดิน จากรร.ที่พักสถานีเดียวถึงค่ะ ถึงแล้วไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ นักวิ่งเพียบบบบ มีรั้วกั้นเป็นทางเดินเข้างานได้เลยค่ะ
พอถึงปุ๊บ จะมีแถวแยกทันที เฉพาะนักวิ่งเท่านั้นที่จะเข้าไปรับบิบได้ โดยต้องแสดง startpass (อันนี้ก็ศัพท์ใหม่ของเราเหมือนกันค่ะ ไม่เคยรู้จักมาก่อน) ซึ่งได้ email ก่อนและ passport ตัวเราก็ไปนั่งรอ นัดกันให้ดีค่ะ
ช่วงไปรับใช้เวลาแป๊บเดียวค่ะ สามีบอกว่าพอเห็นเป็นคนไทยก็สวัสดีค่ะมาเลย ที่เหลือก็พูดเยอรมันหมด แต่ bib จะ print ให้ตรงนั้น ไม่ต้องมานั่งหา แล้วก็จะมีของให้หยิบๆ พวกคู่มือไรงี้ พร้อมถุงพลาสติก ให้ติดชื่อค่ะ ในถุงมี bib chip ให้ร้อยกับเชือกรองเท้า ถุงนี้จะใช้ฝากของในวันวิ่งด้วยค่ะ
จะมี wrist band ติดกับข้อมือให้ด้วย นักวิ่งห้ามถอดจนกว่าจะวิ่งจบ (คือต้องใส่ตั้งแต่งาน expo จนวิ่งจบเลย) ถ้าไม่มีจะเข้า start point ได้ไม่ได้ค่ะ คงเป็นการ confirm ว่าเป็นคนๆเดียวกับเจ้าของ bib ตัวจริง
พอออกมาก็เดินเล่นงาน Expo จะ งานใหญ่มากกกกกกก มีของทุกอย่างเกี่ยวกับการวิ่งให้เลือกซื้อ ถ้าเป็นนักช้อปก็เผื่อเวลาไปเดินหลายชม.หน่อยค่ะ ของน่าซื้อมาก สามีเราไม่ชอบซื้อของ ยังเสร็จไปหลายรายการ อย่าลืมเดินไปเอาเสื้อที่สั่งไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ จะได้คูปองลด 5 ยูโร เอามาซื้อ adidas ในงานด้วย (อันนี้คงเป็นข้อดีของการสั่งเสื้อล่วงหน้า)
รองเท้า adidas limited edition ของงานนี้ค่ะ ประมาณ 140ยูโร ไม่ได้ซื้อค่ะ
รถ BMW ให้จับ ถ่ายรูป นั่ง เปิดปิดตามสบายค่ะ
วันรุ่งขึ้นคือวันก่อนวิ่ง ก็เดิน shopping ค่ะ คนใส่ wristband กันเต็มไปหมด นักวิ่ง load carb ไป เราไม่วิ่งแต่ก็ load ค่ะ
แวะร้าน Nike ถ้าซื้อเสื้อเค้าจะ screen ชื่อให้ฟรีค่ะ เลยได้กันมาคนละตัว เอาไว้ใส่วิ่งเลยพรุ่งนี้ เสื้อที่ถือคือเสื้อ Nike screen ชื่อ เสื้อสี้ส้มที่ใส่คือเสื้อ event ค่ะ
วันรุ่งขึ้นก็ตื่นเช้ามากกกกกก เพื่อเดินไป start point ค่ะ ก็โหลดอาหารบุฟเฟต์รร.ให้เรียบร้อย ตัวเราพัก hilton ก็เดินสัก 10 นาทีไปเจออีกกลุ่มที่ kempinski ค่ะ พี่เค้าให้ได้กุญแจ kempinski ไว้ ซึ่งสะดวกมาก เรามาพัก เข้าห้องน้ำอะไรที่นี่เพราะใกล้มาก ช่วงมีงานเค้าตรวจกุญแจก่อนเข้ารร.ด้วยค่ะ
พอส่งนักวิ่งเราก็นัดกันที่ km 7 เราก็เดินไปรอค่ะ
กลุ่มนี้มาก่อนเลยค่ะ
รถนำคณะ leaders elite runners ทั้งหลายค่ะ คนขับมันส์มากกก ชูมือชวนให้คนดูส่งเสียงกัน
[img]http://f.ptcdn.info/662/047/000/ohmc49txen6DXyX0oZL-o.jpg[/i