ญี่ปุ่นคนเดียว KANAZAWA ===> SHIRAKAWA-GO เดือนตุลา อากาศกำลังดี ก่อนที่ใบไม้จะเปลี่ยนสี



LET-SU GO by ON Y VA(อง นี วา)
#บันทึกการเดินทาง #Aloneinjapan : ญี่ปุ่นคนเดียว
เส้นทาง KANAZAWA=>FUKUI=>KYOTO=>OSAKA
ตอน : “KANAZAWA” พ่วงด้วย “SHIRAKAWAGO” สุโค้ยยย จิงๆ
เริ่ม!!!
BANGKOK===>OSAKA
ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะความคัน ไม่ได้คันอะไรนะ อยากไปโซนคันไซ55(แต่เลยเถิดไปโซนจูบุเล๊ย งง!!) พอดีเห็นเพื่อนหลายๆคนใน FB เขาโพสรูปตอนอยู่ญี่ปุ่นกันอย่างหนุกหนาน เราก็นะมีความอยาก 55 แล้วกับญี่ปุ่นก็ห้ามตัวเองไม่ค่อยอยู่ และประจวบกับ ตั๋วโปรที่แต่ละสายการบินออกมาต่อสู้แข่งขันกันอย่างดุเดือด นี่ก็อดใจไม่ไหวไง จองมันสะเลย คราวนี้บินไปแบบธรรมดากับ #AIRASIAX แต่นั่งกลับแบบ Premium flat bed ราคาตกอยู่ราวๆที่ 18,000 กว่าบาท จริงๆมันก็คุ้มนะ เพราะตั๋วโปรอื่นไปกลับ 15,000 นิดๆ แต่ขากลับต้องนั่งแบบธรรมดา นี่ขี้เมื่อยไงไปตั้ง12วัน ขากลับขอนอนยาววววว(หา รร ถูกๆ หรือเกสเฮ้าส์นอนเอา จะได้เซฟ)
วันแรกที่ไปถึงก็ประมาณ สามทุ่มครึ่ง กว่าเราจะแลก Pass เอย จองที่นั่ง เอย และเดินทาง เอย เลยถึง รร ใน OSAKA ประมาณ 5 ทุ่ม ในความที่ตื่นเต้นมากเพราะมาเที่ยวคนเดียว เก็บกระเป๋าเส็จเราก็เลยลงไปเดินเล่นและหาของกินที่ Familymart เพราะหิวมาก ชื้อข้าวไก่ทอดและขนมจุกจิก แต่ที่ไม่เข้าใจตัวเองเลยก็คือ ซื้อไอพวกเครื่องเขียนและโมเดลของเล่นมาด้วย(อะไรๆก็น่ารักน่าใช้ไปสะหมด ว่ามั้ย?) อะพอกินข้าวเส็จ ก็ถึงเวลาเข้านอน ใช่ปะ คืนแรกในการนอนคนเดียว ก็มีความเกร็งๆกลัวๆที่จะนอน เพราะกลัวผีจูออน555 รายการผีบ้านเราปลูกฝังความกลัวในการนอนโรงแรมคนเดียวมานานมาก ตั้งแต่ชมรมขนหัวลุกแล้ว ใครเป็นบ้างงงง ยกมือขึ้น ><

OSAKA===>KANAZAWA

การเดินทาง จาก OSAKA Station ถึง KANAZAWA ใช้เวลาประมาณ 2:45 ชม Directo เลยยยยนาจา ออกจาก รร ประมาณ 10 โมงได้ กว่าจะไปสถานี ถึงที่โน่น ก็ประมาณ บ่ายสองกว่าๆแล้ว



สิ่งที่จำเป็น

JR PASS
“Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass” หาซื้อได้ที่ตัวแทนในไทย หรือ ที่สนามบินคันไซก็ได้ จิวซื้อที่ไทยเพราะกลัวว่าจะซื้อที่นั้นไม่ทัน แต่พอไปถึงก็มีเวลาแลกพาสและจองที่นั่งนะ อีกอย่างพาสนี้สามารถนั่งรถ NOHI bus จาก สถานี KANAZAWA ไป Shirakawako และ Takayama ได้เลย คุ้มมากๆ ราคา เพียง 14,000 เยน ไปไหนก็ได้ไม่จำกัดรอบ
ตารางเวลารถไฟ : เสิชใน HYPERDIA และปริ้นท์ออกมาแล้วอย่าลืมเอาไปหละ มีไว้มันก็อุ่นใจดี
การสื่อสาร : SIM2FLY 4G 399 บาท ใช้ได้ 8 วัน ถ้าไปเกินก็ซื้อ 2 อันไปเลย(ไปคนเดี๋ยวแนะนำให้ซื้อSIM) เราว่าเนทดีใช้ได้เลยอะ



@KANAZAWA
ประวัติเล็กๆน้อยๆ
KANAZAWA เป็นเมืองหลวงของ จังหวัด ISHIKAWA อยู่ในภูมิภาคจูบุ คานาซะวะนั้นถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจอันรุ่งเรืองและอารยธรรมอันลํ้าค่าตั้งแต่สมัยเอโดะช่วงที่ขุนนางศักดินาชั้นสูงทั้งหลายต่างให้การสนับสนุนในเรื่องของการทำงานฝีมือและวัฒนธรรม ถือว่าเป็นโชคดีของคานาซาวะที่สามารถรอดพ้นจาดการทำลายล้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาได้
ในปัจจุบันนี้ส่วนหนึ่งของเมืองเก่านั้นยังคงสภาพดีทั้งๆที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ (อ้างอิงจาก talonjapan.com)



การเดินทางภายใน
ถึงปุ๊บป สิ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเรารีบไปเลยก็ไม่พ้น “Tourist information” ตามสูตรเพราะกลัวหลง ถามเส็จก็ซื้อ Pass รถบัส ราคา 500เยน/วัน
รถมันจะวนลูป ซ้ายกับขวา ผ่านตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พักระแวกไหนก็นั่งวนไปตรงนั้นเล๊ย เก็บกระเป๋าเชคอินให้เรียบร้อย แล้วก็วนลูปเดิมกับมาเที่ยวใหม่ ><



ROUTE ของทั้ง 3 วัน
วันแรก : 21th Century museum of contemporary art และ สวนKENROKU-EN
วันที่ 2 : วาร์ปไป หมู่บ้าน Shirakawago โดย NOHI BUS มันจะมีตึกด้านนอกสถานีไว้สำหรับจองที่นั่ง อีกวันนึงก็มาขึ้นรถที่ชานชลาหมายเลข 2
วันสุดท้าย : NINJA temple, Nishichayamachi district, Kanazawa Castler และ Higashiyama district





คหสต
สิ่งที่จิวชื่นชอบในเมืองนี้ เรารู้สึกว่ามันน่ารักและลงตัวมาก ทั้งความเจริญ แต่ไม่แออัดมาก ความสะดวกสบายในการเดินทาง และ ย่านวัฒนธรรมที่เขา
รักษามาได้อย่างคงสภาพที่ดี สถานที่ท่องเที่ยวมันไม่มากไม่น้อยไม่ไกลกันมาก ใช้เวลาสัก 2-3 วันแบบชิวๆก็น่าจะเก็บได้หลายที่
สำหรับจิวที่ๆที่ชอบที่สุดก็จะมี “สวน KENROKU-EN” และ ย่านน้ำชาอย่าง “HIGASHIYAMA district” ใครผ่านไปก็อย่าลืมไปดู Geisha และแวะจิบน้ำชากันได้นะครับ ทริปนี้เสียดายที่ไม่ได้แวปไปหาของกินที่ตลาด MUSAHIGATSUJI OMI-CHO เขาบอกว่าของดีๆเยอะ อีกอย่างที่คิดว่าคนที่มาเที่ยวที่นี่ต้องชอบก็คือ SOFT CREAM ติดแผ่นทองคำเปลว >< กินด้วยถ่ายรูปอวดได้ด้วย 55 กว่าจะได้รูปถูกใจแทบจะละลายกันเลยทีเดียว ที่สำคัญ อย่าลืมใช้พาสให้คุ้มหละ แวะไปหมู่บ้านมรดกโลกอย่าง “SHIRKAWA-GO” 3 ชม ไม่พอนะครับ(คนที่จองตั๋วแนะนำ เราก็จองไปอยู่นั้นแค่ 3 ชม สรุป ต้องกลับมาเปลี่ยนตั๋วจะ )คือมันดีมากๆ ดีโคดๆ เห็นรูปว่าฟินแล้วของจริงฟินกว่าเยอะ ต้องไปที่จุดชมวิวให้ได้นะเดินขึ้นไปแบบเห็นภาพแล้วหายเหนื่อยเลย จริงๆมันนั่งรถขึ้นไปได้นะ มันไม่ต้องพูดอะไรมากจริงๆสำหรับที่นี่ ทุกอนูคือความดีงาม





กินที่ไหน
ด้วยความที่เราเชื่อ Google map มากไปหน่อย เราก็เลยเดินไปดู สวน KENROKU-EN เพราะคิดว่ามันไม่ไกลจาก รร มากนัก จิงๆไม่ไกลแหละ แต่เสียดายซื้อพาสมาตั้ง 500 เยน แต่ในความเมื่อยก็ยังมีความโชคดีอยู่ ที่ได้เดินผ่านย่านบ้านเรือนเก่าๆ และย่านร้านอาหาร มีหลายร้านให้เลือก พอตกดึก อย่าดึกมากนะเดี๋ยวเขาปิด เราก็ไปกิน ข้าวหน้าปลา NODOGURO ย่าง ราคาเซทนึงก็เกือบ 3000 เยน มันสดมาก ข้าวก็อร่อย แต่แนะนำให้ใส่ซีอิ๊วไปนิดนึงเพื่อเพิ่มรสชาติ เปิดฝาหมอมานึกว่าจะกินไม่หมด แต่เราก็ซัดสะเรียบเลย อิอิอิ
มันเป็นถนนเส้นเล็กๆ อยู่ด้านหลัง 21th museum(ย่อ) ที่สั่งเกตุได้ด้านข้างมันจะเป็นเหมือนคลองเล็กๆมีพุ่มๆไม้มีเสาไฟสวยๆ ด้านซ้ายก็เป็นตึกๆร้านอาหารเลย ลองไปดูไม่เจอเดี๋ยวแชร์โลให้




ปล. ถ้าใครมีแพลนไปเที่ยว KANAZAWA ฝากเที่ยว หมู่บ้าน NAGAMACHI หน่อยสิ ตอนนั้นเวลามันไม่ค่อยพออ่าา

ถ้าเพื่อนถูกใจ ก็แชร์ช่วยแชร์เป็น กลจ ให้ผมได้นะครับ

ขอบคุณฮะ
จิว

ขอฝาก IG : nattapolchiu เวลาไปเที่ยวไปกินไหนจะลงไว้ในนี้ครับ
ละขอฝากเพจ https://www.facebook.com/Let-Su-GO-952926924808033/ ไว้ในอ้อมใจของมิตรรักแฟน ญี่ปุ่นและการท่องเที่ยวด้วยครับ ><
ฝากเยอะไปนิดอย่าว่ากันนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่