[CR] [Review] Reethi Beach Resort, Maldives: บินไกลสู่ Baa Atoll สัมผัสทะเลงาม ตามหา Manta Rays

รีวิวนี้ทำหลังจากการเดินทางไปมัลดีฟส์คนเดียวเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา โดยพักที่ Reethi Beach Resort บนเกาะ Fonimagoodhoo, Baa Atoll ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑลแห่งแรกของโลก (Biosphere Reserve) และเป็นที่ตั้งของ Hanifaru Bay จุดดู Manta Rays (ปลากระเบนราหู) ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง

         ความประทับใจในความสวยงามของรีสอร์ท ทะเล หาดทราย ท้องฟ้า รวมถึงมิตรภาพ การบริการ ความเอาใจใส่ของพนักงาน ตลอดจนการได้ทำตามความฝันในการออกทริปดำน้ำเพื่อดู Manta Rays จนสำเร็จลุล่วง ก่อให้เกิดความตั้งใจที่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ครั้งนี้ให้เพื่อนชาว BP

ข้อมูลเกี่ยวกับรีสอร์ท www.reethibeach.com


การเดินทางสู่ Reethi Beach Resort, Baa Atoll

         ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวมัลดีฟส์ครั้งแรก โดยได้ตั๋วโปรโมชั่นของ Bangkok Airways ราคา 690 บาท + ภาษี รวมเป็น 6,430 บาท แต่ได้มาเพียง 1 ที่นั่ง ซึ่งไม่ใช่ปัญหา เพราะเดินทางคนเดียว (Solo Travel) อยู่บ่อยครั้ง

         เส้นทางบินในครั้งนี้ เริ่มจากกรุงเทพฯ ลง Male (MLE) จากนั้น จึงเปลี่ยนเป็นเครื่องบินในประเทศ ลงสนามบิน  Dharavandhoo (DRV) ใช้เวลาบิน 30 นาที และตามด้วย speed boat อีก 15 นาที หรือจะใช้ Sea plane ก็ได้ ใช้เวลา 35 นาที โดยทางรีสอร์ทจะเป็นผู้จัดการเรื่อง Transfer ให้

แผนที่เกาะมัลดีฟส์ จาก Male ไป Baa Atoll



วันแรกของการเดินทาง

         เริ่มจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยไฟล์ท PG711 เวลา 09:45 น. ถึง Male เวลา 11:45 น. (เช็คอิน Row F ใกล้ประตู 3) ก่อนเครื่องออก ได้แวะเติมพลัง ด้วยอาหารเช้าที่ห้องรับรองผู้โดยสารชั้นธุรกิจ (Blue Ribbon Club) จากการใช้สิทธิ์ AIS Serenade (Platinum ใช้ได้เดือนละ 1 ครั้ง/ Gold ปีละ 2 ครั้ง)


         เมื่อได้เวลาใกล้ถึงสนามบิน Ibrahim Nasir (ตอนนี้ ได้ปรับนาฬิกาให้เป็นเวลาที่มัลดีฟส์ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
         นอกหน้าต่าง เมื่อมองออกไปจะพบภาพน้ำทะเลและเกาะต่างๆ ที่สวยงามเกินบรรยายจนผู้โดยสารต่างหยิบอุปกรณ์ถ่ายรูปของตัวเองขึ้นมาถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก



         หลังจากผ่าน ตม.และรับกระเป๋าแล้ว ก็ต้องเดินต่อไปยัง domestic terminal ที่อยู่ห่างกันประมาณ 5 นาที (จาก International Terminal ให้เลี้ยวขวา เดินไปตามทางเดิน) เนื่องจากวันที่ไปถึง มองหา จนท. ของรีสอร์ทไม่เจอ และได้รับคำแนะนำมาแล้วว่า ให้ไปติดต่อเคาน์เตอร์ของสายการบิน Flyme เพื่อรับ Boarding Pass ได้เลย แค่บอกชื่อผู้เดินทาง ชื่อรีสอร์ท ยื่นหนังสือเดินทางให้ โหลดกระเป๋า แล้วก็รอประกาศขึ้นเครื่อง หลังจากเช็คอินแล้ว เพิ่งรู้ว่า จนท.ของรีสอร์ทยังรอเราอยู่ที่อาคารขาเข้า ทางสายการบินเลยช่วยส่งข่าวแจ้งว่าไม่ต้องรอแล้ว ผู้เดินทางเช็คอินเสร็จแล้ว เลยอดเห็นหน้าจนท.  : )

         **Flyme เป็นสายการบินของเอกชนดำเนินการโดย Villa Air ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ the Villa Group of Companies เครือเดียวกับ Paradise Island, Sun Island, Holiday Island ฯลฯ www.flyme.mv

         ขาไป Baa Atoll ทางรีสอร์ทจอง Flyme รอบ 13.30 น. แต่ขากลับเป็นสายการบิน Maldivian Airline รอบ 9.50 น. ซึ่งจะพอดีกับไฟล์ทของ Bangkok Airways ทั้งไปและกลับ ทำให้ไม่เสียเวลารอนาน ต้องขอบคุณทางรีสอร์ทที่จัดการเรื่อง transfer ให้อย่างดี เรียกว่าทริปนี้ คุ้มมาก นั่งถึง 3 สายการบิน

ข้อดีของการนั่ง Domestic Flight

         ถึงแม้จะไม่ได้นั่ง Sea plane และเห็นวิวจากมุมสุงที่ชัดและใกล้ แต่ตลอดการเดินทางทั้งไปและกลับโดยเครื่องบินในประเทศ ทำให้ได้พบคนท้องถิ่น ชาวมัลดีเวี่ยน ที่มีความเป็นมิตรมาก ชวนคุย เล่าเรื่องมัลดีฟส์ ชี้ให้ดูว่าผ่านเกาะอะไรบ้าง รวมไปถึงทำให้เรามีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าให้รีบมาเที่ยวมัลดีฟส์ เพราะอีกหน่อย น้ำทะเลจะสูงขึ้น จนเกาะจม หายไปจากแผนที่โลก ซึ่งความจริงคือ ไม่มีทางที่ประเทศมัลดีฟส์จะจมลงทั้งหมด เพราะปัจจุบัน มัลดีฟส์มีการพัฒนาพื้นที่และก่อสร้างบนเกาะมากมาย มีการเอาทรายมาถมให้มีพื้นที่มากขึ้น ในปีหน้า 2017 คาดว่าจะมีรีสอร์ทอีกมากมายที่จะเปิดบริการ

         เมื่อเครื่องลงที่สนามบิน Dharavandhoo จนท.จะดูแลเรื่องรับกระเป๋าและพาไปขึ้นรถบัสเพื่อไปยังท่าเรือซึ่งอยุ่ห่างออกไปไม่ไกลเพื่อขึ้น speed boat บนรถบัส ผู้โดยสารนั่งเต็มคัน ทั้งหมดเป็นชาวตะวันตก มีเพียง จขกท.ที่เป็นคนเอเชีย เลยดูเด่นขึ้นมาทันที (คิดไปเอง 555)


         เรือวิ่งมาได้สักพัก ก็ถึงท่าเรือของรีสอร์ท ภาพสีน้ำทะเล หาดทรายขาวละเอียด ท้องฟ้าสดใส ลมโชยเย็นๆ เสียงคลื่น ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและหายเหนื่อยจากการเดินทางขึ้นมาทันที

         จนท.ต้อนรับผู้หญิงชาวยุโรปผมทอง แต่ตัวสไตล์ Maldivian นุ่งผ้าถุง ไม่สวมรองเท้าตามคอนเซ็ป No News, No Shoes ของรีสอร์ทยืนรอที่ท่าเรือและเดินเข้ามาทักทาย พร้อมพาผู้เข้าพัก คือ จขกท. และฝรั่งสามีภรรยาชาวรัสเซียจากมอสโคอีกคู่หนึ่งที่เดินทางมาพร้อมกันไปยัง Reception เพื่อเช็คอิน ทุกคนได้รับ welcome drink เป็นน้ำมะพร้าว ผ้าเย็น พร้อมการอธิบายเกี่ยวกับการเข้าพักในรีสอร์ท โดยเฉพาะการปรับเวลาให้เป็น Reethi Time ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรีสอร์ทนี้ Reethi Time จะเร็วกว่าเวลาที่ Male 1 ชั่วโมง ถ้าใครลืมปรับเวลา อาจพลาดตื่นมาทานอาหารเช้าไม่ทันหรือทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ตรงตามเวลา จนท.จึงต้องเน้นเรื่องนี้



ความประทับใจแรกและ Big Surprise เมื่อมาถึง

         เมื่อเช็คอินเรียบร้อย จนท.ผู้ชายชาว Maldivian ได้พาเดินผ่านจุดต่างๆ และอธิบายว่าเป็นที่ใดบ้าง เช่น ห้องอาหาร บาร์ สระว่ายน้ำ ท่าเรือ Main Jetty/ Service Jetty, Sports Center, Dive Center ฯลฯ จนมาถึงบริเวณห้องพัก Water Villa แต่ช้าก่อน จขกท.จองแค่ห้องสแตนดาร์ด (ที่นี่เรียกว่า Reethi Villa) แต่ทำไมพาเดินมาไกลมาก หรือจะพามาเดินชมห้อง Water Villas ก่อน (สงสัยอยู่??)

        จนมาหยุดอยู่หน้าห้องเลขที่ 202 จนท.ก็ถามว่า รู้มั๊ยว่าทำไมเค้าถึงพามาที่ห้องนี้ บอกตรงๆ ไม่รู้ เค้าเฉลยว่า กุญแจห้องหมายเลข 202 ที่ถืออยู่เป็นห้อง Water Villa ทางรีสอร์ทได้อัพเกรดห้องพักตลอดการเข้าพัก 4 วัน 3 คืนให้ฟรี
         โอ้ แม่เจ้า จริงหรือนี่ ชั้นฟังไม่ผิดแน่นะ พักคนเดียว จ่ายห้องธรรมดา พักแค่ 3 คืน ทำไมใจดีจังเลย คู่สามีภรรยาชาวรัสเซียที่มาพร้อมกันอยู่ตั้ง 10 วัน จองห้อง Deluxe ยังไม่ได้อัพเกรดเป็นห้อง Water Villa เลย ดีใจสุดๆ อยากกรี๊ดดังๆ

        หลังจากเข้าห้องแล้ว ก็มานั่งคิดว่า ทำไมเค้าถึงอัพเกรดห้องแพงขนาดนี้ให้ฟรี เลยนึกออกว่า ตอนจองผ่าน Agoda ได้เคยเขียนถาม Reservation ที่รีสอร์ทว่าจะขอจองห้องสแตนดาร์ด 2 คืน Water Villa 1 คืนได้หรือไม่ แต่รีสอร์ทแจ้งว่า ต้องจองห้องประเภทเดียวกันอย่างน้อย 3 คืน ซึ่งตอนนั้น ก็เลิกคิดที่จะนอน Water Villa ไปเพราะพักคนเดียว ดูจะไม่คุ้มและแพงเกินจำเป็น แต่ไม่น่าเชื่อ เพียงแค่คำถามเล็กๆ จนท.กลับใส่ใจและจัดให้ใหญ่ ทำ surprise จนน้ำตาแทบไหล





ข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับ Reethi Beach Resort หรือเรียกสั้นๆ ว่า RBR

        ปกติ รีสอร์ทรับจองห้องขั้นต่ำ 5-7 คืนขึ้นไป ผ่านทาง agent หลักในประเทศอังกฤษ เช่น Puremalives, KUNIO ครั้งนี้เริ่มเปิดกว้างขายห้องพักผ่าน Agoda และขั้นต่ำเพียง 3 คืน ผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยเฉพาะชาวเยอรมัน ที่กลับมาพักซ้ำอยู่หลายๆ อาทิตย์ ส่วนหนึ่งเป็นนักดำน้ำ Scuba เพราะ RBR มี Dive Center ที่ได้มาตรฐาน มีหลักสูตรสอนและสอบจนได้ใบ certificate อีกทั้งอยู่ใกล้แหล่งดำน้ำสำคัญๆ อีกด้วย

        ห้องพักมี 3 ประเภท เริ่มจาก Reethi Villa, Deluxe Villa และ Watar Villa ห้อง 2 ประเภทแรกอยู่ติดทะเล แค่ไม่กี่ก้าวก็ลงเล่นน้ำดูปะการังได้ทันที ส่วนห้อง Water Villa จะรายล้อมไปด้วยน้ำทะเล มีบันไดจากระเบียงห้องลงสู่ทะเล ดำน้ำได้เลย โดยเฉพาะวิวพระอาทิตย์ตก สวยงามสุดๆ



         หลังจากปลื้มกับห้อง Water Villa ได้ครู่ใหญ่ ก็ถึงเวลาออกไปเดินสำรวจรีสอร์ทซึ่งขนาดไม่ใหญ่มาก เดินประมาณ 20 นาทีก็รอบเกาะแล้ว




     กิจกรรมที่รีสอร์ทมีทุกเย็นบริเวณ Service Jetty คือ การให้อาหารปลา ไม่ใช่ปลาเล็กๆ แต่เป็นปลากระเบนธง (Stingrays) ปลาฉลาม และปลาหลายชนิดที่ว่ายเข้ามากินอาหาร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


        จากการเดินสำรวจพบว่า ห้องพักมีผู้เข้าพักเต็มเกือบทุกหลัง ทั้งหมดเป็นชาวตะวันตกนอนอาบแดด อ่านหนังสือ ดำน้ำ นอกจากหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสี turquoise ที่ใสปิ๊งแล้ว ในตัวเกาะยังเต็มไปด้วยต้นไม้ สวนเขียวขจี ระหว่างทางเดิน จะพบสัตว์นานาชนิด นก ค้างคาวกินผลไม้ (fruit bats) กิ่งก้า ฯลฯ แต่ไม่มียุง แมลง เพราะรีสอร์ทมีการควบคุมและให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

         ที่ Reethi Beach Resort ผู้เข้าพักอาจจะไม่ได้เห็นความหรูหรา โมเดิร์นเหมือนรีสอร์ทอื่น แต่สิ่งที่จะได้สัมผัสคือ ความเป็นธรรมชาติ เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย และการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ชายหาด โต๊ะอาหาร ห้องพัก ทั้งหมดใช้ไม้เป็นหลัก แทบจะไม่เห็นสิ่งของที่ทำจากพลาสติกเลย


        ในส่วนของห้องอาหาร ที่นี่มีถึง 5 ห้องอาหาร และบาร์อีก 3 แห่งให้ผู้เข้าพักได้เปลี่ยนรสชาติตลอดการเข้าพัก Moodhu Bar เป็นห้องอาหารที่ยื่นลงไปในทะเล เปิด 24 ชม. บริการอาหารหลายชนิด ทั้งของกินเล่น จานหลัก ของหวาน เป็นที่นิยมมากของผู้เข้าพัก เพราะบรรยากาศดี โรแมนติก สามารถเห็นฝูงปลา แม้กระทั่งปลาโลมาได้ขณะทานอาหาร นอกจากนี้ ยังมี Saima Garden โต๊ะอาหารภายในสวน Reethi Grill บริการอาหารปิ้งหลากหลาย เรียกว่า ดื่มกินได้ตลอด สำหรับผู้ที่เลือก All Inclusive Select
ชื่อสินค้า:   Reethi Beach Resort, Baa Atoll, Maldives (มัลดีฟส์)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่